ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
การผสมครีมเปลี่ยนสีผมและดีเวลลอปเปอร์เป็นขั้นตอนสำคัญในการเปลี่ยนสีผมใหม่ของคุณ ควรแน่ใจว่าคุณเตรียมชาม อุปกรณ์สำหรับผสม และถุงมือที่เหมาะสมเพื่อให้ขั้นตอนการย้อมผมของคุณไม่เลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปทั่ว รวมถึงผสมครีมเปลี่ยนสีผมและดีเวลลอปเปอร์ในสัดส่วนที่ถูกต้องและคนให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว นอกจากนี้คุณยังสามารถเลือกใช้ครีมเปลี่ยนสีผม 2 สีที่แตกต่างผสมเข้าด้วยกันเพื่อสร้างเฉดสีผมใหม่ตามความต้องการของคุณได้อีกด้วย
ขั้นตอน
-
ซื้อน้ำยาย้อมผม 2 กล่องหากคุณมีผมที่ยาวหรือหนา. หากเส้นผมของคุณยาวเลยช่วงไหล่ลงมาหรือหนามากเป็นพิเศษ การใช้น้ำยาย้อมผมเพียงกล่องเดียวอาจไม่เพียงพอต่อเส้นผมของคุณ ผสมครีมเปลี่ยนสีผมและดีเวลลอปเปอร์ทั้งสองกล่องเข้าด้วยกันให้เรียบร้อยเลยในครั้งเดียว [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- จำไว้ว่าการเหลือน้ำยามากเกินไปยังดีกว่าการมีน้ำยาไม่พอใช้สำหรับป้ายให้ทั่วเส้นผม
- คุณสามารถหาซื้อครีมเปลี่ยนและดีเวลลอปเปอร์แยกกันได้เช่นกันจากร้านขายอุปกรณ์ทำผมทั่วไป
-
เตรียมชามแก้วหรือพลาสติกสำหรับผสมครีมเปลี่ยนสีผมและดีเวลลอปเปอร์. เนื่องจากชามเป็นอุปกรณ์ที่คุณใช้สำหรับผสมครีมเปลี่ยนสีผมและดีเวลลอปเปอร์เข้าด้วยกันและบรรจุเตรียมไว้สำหรับขั้นตอนการเปลี่ยนสีผมของคุณ ดังนั้นจึงห้ามใช้ชามที่เป็นโลหะโดยเด็ดขาด เพราะการโลหะสัมผัสกับครีมเปลี่ยนสีผมจะทำให้เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่นจนส่งผลให้สีผมของคุณผิดเพี้ยนไปจากที่ต้องการได้ [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ชามที่เป็นโลหะยังสามารถก่อให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีอย่างรุนแรงได้อีกด้วย
- หากคุณย้อมสีผมด้วยตัวเองเป็นประจำ คุณอาจหาซื้อชามสำหรับผสมน้ำยาย้อมผมโดยเฉพาะไว้สักใบหนึ่ง
-
ปูรองบริเวณสำหรับผสมน้ำยาย้อมผมด้วยผ้าขนหนูเก่าหรือกระดาษหนังสือพิมพ์. ปูรองพื้นให้เรียบร้อยเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำยาหกเลอะพื้นผิวรวมถึงเก็บสิ่งของทั้งหมดออกไปเพื่อไม่ให้เกะกะในบริเวณนั้น หากคุณปูรองพื้นด้วยผ้าขนหนู ควรเลือกผ้าขนหนูที่คุณไม่กังวลหากมีรอยเปื้อน [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- คุณอาจใช้ผ้าขนหนูสีเข้มได้เช่นกันหากไม่สามารถหาผ้าขนหนูเก่าหรือกระดาษหนังสือพิมพ์ได้ โดยผ้าขนหนูสีเข้มสามารถพรางไม่ให้มองเห็นรอยเปื้อนจากน้ำยาย้อมผมได้
-
สวมถุงมือยางหรือพลาสติก. น้ำยาย้อมผมแบบครบชุดโดยส่วนใหญ่จะมีถุงมือรวมมาด้วยภายในกล่อง สวมถุงมือทั้งสองข้างให้เรียบร้อยก่อนเริ่มผสมครีมเปลี่ยนสีผมและดีเวลลอปเปอร์เข้าด้วยกันเพื่อป้องกันผิวของคุณจากการสัมผัสสารเคมี [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- การสวมถุงมือยังช่วยป้องกันไม่ให้น้ำยาย้อมผมเปรอะเปื้อนผิวของคุณอีกด้วย
- จากนั้นใช้ผ้าขนหนูเก่าคลุมไหล่ไว้เพื่อป้องกันไม่ให้เสื้อของคุณเลอะน้ำยาย้อมผมเมื่อคุณป้ายลงไปบนเส้นผม หรือจะสวมเสื้อยืดตัวเก่าก็ได้เช่นกัน
-
ผสมครีมเปลี่ยนสีผมและดีเวลลอปเปอร์เข้าด้วยกันในอัตราส่วน 1:1 หรือ 1:2. อัตราส่วนที่ใช้ในการผสมครีมเปลี่ยนสีผมและดีเวลลอปเปอร์จะระบุไว้ในคู่มือที่มาคู่กันในกล่อง พยายามผสมในอัตราส่วนที่ถูกต้องเพื่อให้ได้สีผมออกมาตามต้องการ [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- หากคุณซื้อน้ำยาย้อมผมแบบครบชุด โดยส่วนใหญ่แล้วครีมเปลี่ยนสีผมและดีเวลลอปเปอร์มักจัดเตรียมมาในอัตราส่วนที่ถูกต้องไว้แล้ว อย่างไรก็ตาม หากคุณซื้อครีมเปลี่ยนสีผมและดีเวลลอปเปอร์แยกกัน คุณอาจต้องตวงวัดปริมาณที่เหมาะสมด้วยตัวเอง โดยอาจใช้ตาชั่งเล็กๆ เพื่อให้คุณสามารถกะปริมาณได้ง่ายขึ้น
-
ใช้ส้อมพลาสติกคนให้ครีมเปลี่ยนสีผมและดีเวลลอปเปอร์เข้ากัน. คนไปเรื่อยๆ จนกระทั่งครีมเปลี่ยนสีผมและดีเวลลอปเปอร์เข้ากันเป็นเนื้อเดียว คุณยังสามารถใช้ตะกร้อตีไข่ซิลิโคนในการคนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์เดียวกันนี้ได้เช่นกัน [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ห้ามใช้อุปกรณ์ที่เป็นโลหะในการคนครีมเปลี่ยนสีผมและดีเวลลอปเปอร์โดยเด็ดขาด
- ครีมเปลี่ยนสีผมและดีเวลลอปเปอร์สามารถจับตัวกันเป็นก้อนได้ง่ายหากคนด้วยแปรง ซึ่งอาจทำให้น้ำยาที่ผสมออกมานั้นไม่เข้ากันเป็นเนื้อเดียว
โฆษณา
-
เลือกใช้เฉดสีข้างเคียง 2 สีที่เป็นยี่ห้อเดียวกัน. การจับคู่เฉดสีข้างเคียงสามารถให้ผลลัพธ์ของสีผมที่น่าพึงพอใจ ตัวอย่างเช่น การจับคู่เฉดสีแดงและเฉดสีน้ำตาลเข้าด้วยกัน หลีกเลี่ยงการใช้เฉดสีที่แตกต่างหรือตรงข้ามกันอย่างสีบลอนด์และสีดำ
- คุณอาจผสมสีด้วยตัวเองเมื่อต้องการเฉดสีเฉพาะที่ไม่มีจำหน่ายหรือเพียงรู้สึกสนุกไปกับการสร้างสรรค์สีผมใหม่ๆ หากต้องการตัวเลือกที่ง่ายกว่า คุณสามารถหาซื้อน้ำยาย้อมผมที่มีการจับคู่เฉดสีเรียบร้อยแล้ว เช่น สีแดงอมน้ำตาล สีน้ำตาลอมแดง หรือสีน้ำเงินอมดำ
- เฉดสีที่ตรงข้ามกันต่างมีความโดดเด่นจนยากที่จะผสมกลมกลืนเข้ากันได้ดี ในขณะที่เฉดสีที่ใกล้เคียงกันจะสามารถผสมเข้ากันได้อย่างลงตัว
- น้ำยาย้อมผมที่เลือกมาทั้ง 2 สีจะต้องเป็นยี่ห้อเดียวกัน เนื่องจากผลิตภัณฑ์ยี่ห้อเดียวกันจะมีการกำหนดสูตรที่ใกล้เคียงกัน จึงทำให้คุณแน่ใจว่าน้ำยาจะสามารถผสมให้เข้ากันได้ง่าย รวมทั้งยังสามารถใช้อัตราส่วนเดียวกันในการผสมครีมเปลี่ยนสีผมและดีเวลลอปเปอร์อีกด้วย
- สีผมที่คุณผสมเข้าด้วยกันจะต้องมีระยะเวลาการทำปฏิกิริยาที่เท่ากันเพื่อให้น้ำยาสามารถทำงานร่วมกันอย่างประสิทธิภาพ ลองอ่านคำแนะนำด้านหลังกล่องเพื่อให้แน่ใจว่าน้ำยาย้อมผมทั้ง 2 ตัวใช้เวลาเท่ากันในการโกรก
-
ตรวจสอบระดับความสว่างของสีผมทั้ง 2 สี. เมื่อคุณเลือกสีผมที่ต้องการผสมเข้าด้วยกันได้แล้ว ลองตรวจสอบเบอร์ของระดับความสว่างที่ระบุไว้คู่กับค่าสี ตัวเลขที่ยิ่งสูงขึ้นเป็นการบอกให้ทราบว่าครีมเปลี่ยนสีผมนั้นสามารถปรับสีผมของคุณให้อ่อนลงได้มากขึ้น
- พยายามเลือกสีผมที่มีระดับความสว่างแตกต่างกันเพียง 2-3 เฉด ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจเลือกเฉดสีหนึ่งที่เข้มกว่าสีผมธรรมชาติเล็กน้อยและอีกเฉดสีหนึ่งที่อ่อนกว่าสีผมธรรมชาติเล็กน้อย [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ผสมครีมเปลี่ยนสีผมทั้ง 2 สีเข้าด้วยกันในอัตราส่วน 1:1. ใช้ครีมเปลี่ยนสีผมแต่ละสีในปริมาณที่เท่ากันเพื่อให้แน่ใจว่าสีผมที่ย้อมออกมาสม่ำเสมอเท่ากันทั่วเส้นผม
- การผสมสีผมทั้ง 2 สีในอัตราส่วน 1:1 ยังช่วยให้คุณสามารถย้อมสีผมเดิมอีกครั้งในภายหลังได้ง่ายยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น เมื่อคุณต้องการย้อมโคนผมในภายหลัง
- หากคุณต้องการผสมครีมเปลี่ยนสีผมในอัตราส่วนที่ต่างกัน อย่าลืมจดอัตราส่วนของแต่ละสีที่คุณใช้เพื่อให้ง่ายต่อการย้อมสีผมเดิมอีกครั้งในภายหลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณต้องการย้อมโคนผมที่งอกขึ้นมาใหม่
- ใช้ตาชั่งเล็กๆ ตวงวัดอัตราส่วนที่ใช้ของครีมเปลี่ยนสีผมหากคุณไม่ได้ใช้ทั้งหมด
-
ผสมครีมเปลี่ยนสีผมและดีเวลลอปเปอร์ตามอัตราส่วนที่ระบุไว้. ผสมครีมเปลี่ยนสีผมทั้ง 2 สีให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียวแล้วจึงเติมดีเวลลอปเปอร์ลงไป การผสมสีผมทั้ง 2 สีเข้ากันจะทำให้ปริมาณของครีมเปลี่ยนสีผมที่ใช้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า คุณจึงจำเป็นต้องคำนวณปริมาณของดีเวลลอปเปอร์ที่ถูกต้องสำหรับผสมกับครีมเปลี่ยนสีผม [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ยกตัวอย่างเช่น หากใช้ครีมเปลี่ยนสีผมในอัตราส่วน 1:1 คุณจะต้องใช้ดีเวลลอปเปอร์เพิ่มขึ้น 2-3 เท่าของปริมาณที่ใช้ตามปกติ
- หากคุณซื้อน้ำยาย้อมผมแบบครบชุด ภายในกล่องจะมีดีเวลลอปเปอร์รวมมาให้แล้วและคุณไม่จำเป็นต้องหาซื้อดีเวลลอปเปอร์แยก ลองเช็คดูรายละเอียดข้างกล่องผลิตภัณฑ์ว่ามีดีเวลลอปเปอร์ประกอบมาด้วยในกล่องหรือไม่
-
จดคู่สีที่เลือกนำมาผสมหลังจากที่ย้อมสีผมเสร็จเรียบร้อยแล้ว. จดรายละเอียดต่างๆ ทั้งยี่ห้อและชื่อของสีและหมายเลขที่ระบุไว้ข้างกล่องผลิตภัณฑ์ วิธีนี้จะช่วยให้คุณผสมสีผมดังกล่าวอีกครั้งได้อย่างง่ายดายเมื่อคุณต้องการย้อมสีผมเดิมอีกครั้งในอนาคตหรือต้องการย้อมโคนผมที่งอกขึ้นมาใหม่
- แม้คุณจะรู้สึกไม่ชอบใจกับผลลัพธ์ของสีผมที่คุณเลือกผสมด้วยตัวเอง แต่อย่าลืมจดลงไปเช่นกันเพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะไม่เผลอเลือกใช้สีเดิมมาผสมกันอีกครั้ง
โฆษณา
คำเตือน
- เช็ดคราบน้ำยาย้อมผมที่หกเลอะเทอะออกทันทีด้วยฟองน้ำเก่าหรือผ้าเปียกเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดรอยเปื้อนบนพื้นผิวหรือเฟอร์นิเจอร์
- สวมถุงมือป้องกันไว้ตลอดเวลาเมื่อต้องสัมผัสครีมเปลี่ยนสีผมและดีเวลลอปเปอร์
โฆษณา
สิ่งของที่ใช้
ผสมครีมเปลี่ยนสีผมและดีเวลลอปเปอร์
- ครีมเปลี่ยนสีผม
- ดีเวลลอปเปอร์
- ชามแก้วหรือพลาสติก
- ผ้าขนหนูเก่า
- ถุงมือยางหรือพลาสติก
- ตาชั่ง
- ส้อมพลาสติกหรือตะกร้อตีไข่ซิลิโคน
เลือกผสมสีที่แตกต่างเข้าด้วยกัน
- ครีมเปลี่ยนสีผม
- ดีเวลลอปเปอร์
- ตาชั่ง
- ปากกา
- กระดาษ
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://www.allure.com/story/hair-color-hacks
- ↑ https://www.allure.com/story/hair-color-hacks
- ↑ https://www.racked.com/2016/9/30/13018046/home-hair-coloring-rules-cleaning
- ↑ https://crunchybetty.com/henna-hair-dying/
- ↑ http://stylecaster.com/beauty/hair-dye-tricks/
- ↑ https://www.stuff.co.nz/life-style/beauty/78226111/20-hair-dye-hacks-you-need-to-know-about
- ↑ https://www.refinery29.com/hair-color-how-to
- ↑ http://stylecaster.com/beauty/hair-dye-tricks/
โฆษณา