PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

ความสัมพันธ์คืองานระหว่างการผลิต ซึ่งต้องมีการปรับปรุงแก้ไขระหว่างการผลิตบ้าง เพื่อให้บรรลุศักยภาพอย่างเต็มที่ หากคุณกับคู่ครองกำลังรู้สึกถึงผลกระทบของปัญหาจากความโกรธ จากการติดต่อสื่อสารที่ไม่ดี หรือการไร้ความสามารถที่จะประนีประนอมกัน คุณสามารถแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้นได้ โดยพัฒนาเครื่องมือติดต่อสื่อสารที่เปิดเผยและซื่อตรง การเรียนรู้ที่จะเจรจาต่อรองเพื่อประนีประนอม และความมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลง จะนำคุณกลับไปสู่ถนนแห่งความสุข

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

ปรับปรุงการติดต่อสื่อสาร

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. จดบันทึกข้อวิตกต่างๆ เพื่อที่คุณจะสามารถสื่อสารพวกมันไปยังคู่ครอง การทำเช่นนี้จะช่วยจำแนกแยกแยะพฤติกรรม ความรู้สึก และวิธีแก้ปัญหาอย่างเฉพาะเจาะจงต่างๆ หากคุณเชื่อว่ามีปัญหาอย่างหนึ่งอย่างใด จงรวมเอาวิธีแก้ปัญหาที่สามารถเป็นไปได้เอาไว้ด้วย
    • จดบันทึกความคิดต่างๆของคุณ จะเป็นประโยชน์หากคุณจะเขียนทั้งหมดลงบนกระดาษ การจดบันทึกความคิดต่างๆ ของคุณคือการบำบัดโรค และจะช่วยจัดระเบียบอารมณ์ต่างๆ ของคุณในรูปแบบที่ส่งเสริมให้ความเครียดลดน้อยลง [1]
    • ฝึกพูดสิ่งที่คุณวิตกออกมาดังๆ อย่ามัวแต่ห่วงเรื่องความสมบูรณ์แบบ หากมันออกมาจากใจของคุณ นั่นคือสิ่งที่สำคัญ [2]
    • เวลาที่คุณพูดคุยกับใครบางคนผู้อาจจะครอบงำคุณด้วยความคิดในแง่ลบ การเตรียมตัวให้พร้อมเป็นวิธีที่ดีเช่นกัน เพื่อต่อสู้กับแรงกระตุ้นที่จะทำให้คุณมีความคิดในแง่ลบ [3]
  2. หลีกเลี่ยงการสนทนาในช่วงเช้าตรู่ซึ่งเป็นตอนที่คุณหรือคู่ครองอาจจะอารมณ์ไม่ดี และพยายามไม่พูดคุยในทันทีที่คุณกลับจากที่ทำงานถึงบ้าน จงผ่อนคลายและนั่งนอนอย่างสบายใจก่อนที่คุณจะพูดคุยเรื่องนั้น หากคุณได้เคยรู้สึกถึงผลกระทบรุนแรงจากการมองโลกในแง่ลบของเขา คุณอาจจะรู้ว่าเวลาใดเหมาะสมมากที่สุดที่จะได้ผลลัพธ์ในแง่บวก
    • การพูดในที่สาธารณะอาจเป็นประโยชน์. เพราะผู้ที่คุณพูดด้วยน่าจะอารมณ์เสียน้อยลง เนื่องจากกลัวว่าจะอับอาย
    • รวบรวมสิ่งต่างๆ ในแง่บวกให้มากสุดเท่าที่คุณจะทำได้ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการสื่อสารในแง่บวก คุณอาจไปที่ไหนสักแห่งเพื่อให้พวกคุณทั้งคู่มีความสุข หรืออาจอยู่ที่บ้านและจัดอาหารค่ำมื้อที่ยอดเยี่ยม
  3. จงแสดงการมองโลกในแง่ดีของคุณว่าจะทำงานร่วมกันเพื่อหาวิธีแก้ปัญหา นี่คือโอกาสที่คุณจะสร้างความแตกต่างในความสัมพันธ์ เป็นเวลาที่คุณจะพูดและมีผู้รับฟัง อย่าปล่อยให้คู่ครองขัดขวางคุณจากเป้าหมายที่จะมีการสนทนาที่ดีเพื่อแก้ไขปัญหา คุณกำลังปฏิบัติภารกิจที่จะทำให้เขารับฟัง ดังนั้น จงพูดสิ่งที่สำคัญ : จงสร้างความเปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งที่ดีกว่า [4]
    • เข้าหาเป้าหมายด้วยการพูดบางสิ่งในแง่บวก เช่น “ฉันซาบซึ้งจริงๆ ค่ะ ต่อทุกสิ่งที่คุณทำเพื่อฉัน และฉันปรารถนาอย่างแท้จริงให้คุณมีความสุข ฉันรู้สึกว่าคุณไม่มีความสุขกับฉันโดยพิจารณาจากบางสิ่งที่คุณพูด” นี่คือการเริ่มเปิดประเด็น
    • หากการตอบรับในครั้งแรกของเขาเป็นไปในแง่ลบ จงพยายามหยุดเขาโดยพูดว่า “ฉันต้องการคุยเรื่องนี้อย่างสงบเพราะฉันเป็นห่วงค่ะ และหากจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงบางสิ่ง เราก็จำเป็นต้องฟังคำพูดของกันและกัน” แก้ไขความรู้สึกเลวร้ายจากท่าทีตอบสนองของเขาด้วยการหารือที่สงบและมีเป้าหมาย
    • หากเขาไม่สามารถจะตอบรับโดยไม่แสดงอาการก้าวร้าวหรือวิตกกังวล จงพูดเพียงว่า “บางทีเราค่อยคุยกันเรื่องนี้กันทีหลังดีกว่าค่ะ” หากเขามีพฤติกรรมแบบนั้นจริงๆ คุณกำลังมีปัญหาร้ายแรงกว่าเดิมอยู่ในมือ จงอย่าปล่อยให้ตัวคุณเสี่ยงอันตราย ทำสิ่งที่คุณทำได้เพื่อไปอยู่ในสถานที่ปลอดภัย
    • เขาอาจตอบรับโดยเปิดกว้างที่จะรับฟังความคิดเห็น และแสดงให้คุณเห็นว่าเขาเป็นห่วงอย่างจริงใจ นี่เป็นโอกาสที่จะให้เขารู้ว่าคุณรู้สึกอย่างไรที่ถูกเขาตำหนิติเตียน อย่ากลัวที่จะบอกกับเขาว่ามันทำร้ายความรู้สึกของคุณ และทำให้คุณวิตกเรื่องความสัมพันธ์ของพวกคุณกับอนาคตของมัน
    • คอยบอกกับเขาบ่อยๆ ว่าคุณรักเขา และแสดงการสนับสนุนสิ่งที่เขาจะต้องพูด
  4. หากคุณรู้ว่าไม่ได้กำลังทำอะไรที่จะทำให้คู่ครองตอบรับในแง่ลบ ก็ถึงเวลาแล้วที่คุณจะถลกแขนเสื้อขึ้นและเริ่มลงมือทำงาน นี่เป็นโอกาสอย่างสมบูรณ์แบบที่จะฝึกฝนทักษะด้านการแก้ไขปัญหาของคุณ [5]
    • หากใครสักคนหนึ่งมักจะบ่นหรือวิพากษ์วิจารณ์แทบจะทุกสิ่งในชีวิตอยู่เสมอๆ อาจมีสาเหตุจากบางสิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตของเขาก่อนหน้านี้ อาจมีเหตุการณ์หนึ่ง หรือโศกนาฏกรรมสักเรื่องหนึ่งในชีวิตที่ทำให้เขามีพฤติกรรมเช่นนั้น [6]
    • คุณอาจพบว่าเขาไม่มีความสุขเป็นอย่างมากกับงานของเขา หรือกับประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้อง และไม่มีอะไรเชื่อมโยงมาถึงคุณเลย หากเขาคิดว่าชีวิตของเขาเลวร้ายเพราะสิ่งเหล่านี้ เขาอาจจะเอามันมาระบายกับคุณ
    • เขาอาจกำลังรังเกียจที่คุณไม่ สมบูรณ์แบบ คุณจำเป็นต้องเตือนใจเขาว่าคุณไม่ได้สมบูรณ์แบบ และคุณไม่เคยสมบูรณ์แบบมาตั้งแต่ตอนที่พบเจอกันแล้ว รวมทั้งอาจจะไม่มีวันที่จะสมบูรณ์แบบด้วย ซึ่งตัวเขาเองก็เช่นกัน
    • ความรู้สึกไม่มั่นคงเรื่องการทำงาน ความเป็นอิสระทางการเงิน และสมรรถภาพทางกาย ล้วนอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้คนๆ หนึ่งเอาแต่บ่นและมองโลกในแง่ลบ [7] ความหดหู่อาจเป็นรากเหง้าของปัญหา และจำเป็นต้องรับมืออย่างผสมกลมกลืนกัน
    • เขาอาจรู้สึกว่าโลกต่อต้านเขา และคุณเป็นส่วนหนึ่งของมัน คุณจำเป็นต้องแยกตัวเองจากโลก และทำให้เขาอุ่นใจว่าคุณอยู่ข้างเดียวกันกับเขา
  5. จงนำด้วยการปฏิบัติเป็นตัวอย่าง (Lead by example) โดยพูดความจริงที่เกี่ยวกับคุณ ที่ว่านี้ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องซื่อตรงจนโหดร้ายและทำร้ายความรู้สึกของเขา จงใช้ถ้อยคำอย่างระมัดระวัง และจงจำใส่ใจว่าคุณกำลังพยายามแก้ปัญหา เพื่อปรับปรุงการติดต่อสื่อสารของคุณกับเขาให้ดีขึ้น
  6. จงเป็นคนที่น่านับถือ และร้องขอให้เขาทำแบบเดียวกัน. ความนับถือเป็นสิ่งที่ต้องคู่ควรกับการได้มา หากคุณแสดงพฤติกรรมที่น่านับถือ จะปูทางให้คุณได้รับความนับถือเป็นการตอบแทน หากคุณรู้สึกว่าไม่ได้รับความนับถือ จงบอกกับเขาว่า “ฉันต้องการให้เรานับถือกันและกัน ฉันเต็มใจที่จะทำเช่นนั้น แล้วคุณละคะ?”
  7. ต้องใช้ความกล้าที่จะอ่อนแอ การเปิดใจยอมรับความเป็นไปได้ที่จะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงมีความสำคัญ คุณอาจกลัวว่าจะต้องปวดใจ แต่นั่นก็เป็นความเสี่ยงที่คุ้มค่า ในทันทีที่คุณได้รับรางวัลจากการเป็นคนเปิดใจ มันจะเริ่มทำได้ง่ายมากขึ้น
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

การรับมือกับความไม่สามารถที่จะประนีประนอม

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. จงนำด้วยการปฏิบัติเป็นตัวอย่าง และทำหน้าที่เป็นสื่อกลางให้กับตัวคุณเอง [8] คุณต้องการมองโลกในแง่ดีในสถานการณ์นี้ จงใส่ใจและเพ่งความสนใจในเรื่องนี้ เพื่อที่คู่ครองจะได้รู้ว่าคุณเอาจริงเอาจัง และเชื่อว่าคุณสามารถแก้ไขปัญหาที่ใกล้จะมาถึงได้
    • จงฉลาดอย่างมีชั้นเชิง การมีไหวพริบอย่างฉลาดเรื่องความถูกต้องจะช่วยให้คุณทำงานลุล่วงไปได้
    • จงรับฟังและทำให้อีกฝ่ายรับฟังคุณ เป็นความรู้ทั่วไปที่ว่าคุณไม่อาจฟังและพูดในเวลาเดียวกัน คุณจำเป็นต้องสามารถรับฟังสิ่งที่คู่ครองต้องพูด และคุณจำเป็นต้องรู้สึกว่าคู่ครองรับฟังสิ่งที่คุณพูดเช่นกัน หากคุณไม่รู้สึกเช่นนั้น จงบอกกับเธอ
    • อย่าพูดขัดจังหวะ จงแสดงความเคารพต่อกระบวนการนี้โดยไม่ขัดจังหวะ หากคู่ครองขัดจังหวะคุณ จงบอกคล้ายๆ กันว่า “ผมจะไม่ขัดจังหวะในตอนที่คุณกำลังพูด เพราะผมต้องการฟังสิ่งที่คุณจำเป็นต้องพูด ช่วยกรุณาปล่อยให้ผมพูดโดยไม่ถูกขัดจังหวะด้วยครับ เพื่อที่คุณจะได้รู้แน่ชัดถึงสิ่งที่ ผมกำลัง พยายามสื่อสารกับคุณ”
  2. จงรู้ว่าคุณต้องการอะไรและสามารถสื่อสารออกมา เธอจำเป็นต้องรู้ว่าคุณรู้สึกอย่างไรเมื่อเธอวิพากษ์วิจารณ์สิ่งต่างๆ ที่คุณทำ จงคิดถึงสิ่งเหล่านี้ล่วงหน้า เพื่อที่คุณจะสามารถสื่อสารเรื่องความจำเป็นและความต้องการของคุณได้อย่างชัดเจน การเตรียมตัวยังจะช่วยให้คุณตั้งสมาธิอยู่ได้ หากว่าเธอตัดสินใจเพิ่มข้อมูลแง่ลบ
    • อย่ายอมประนีประนอมเรื่องค่านิยมของคุณ จงแสดงอย่างชัดเจนว่าคุณไม่เต็มใจจะทำสิ่งที่ขัดกับค่านิยมของคุณ จงระบุโดยเฉพาะเจาะจงให้ชัดเจนว่าอะไรคือสิ่งที่คุณถือว่าเป็น สิ่งที่ทำลายข้อตกลง เช่น บอกว่าหากเธอยังคงด่าว่าคุณยายของคุณลับหลังท่านอย่างต่อเนื่อง นั่นคือการบ่อนทำลายค่านิยมที่คุณตั้งไว้สำหรับครอบครัวของคุณ
    • จงผูกความจำเป็นและความต้องการของคุณ กับการช่วยเรื่องความสัมพันธ์ของพวกคุณเสมอ จงยืนยันว่าทั้งหมดที่คุณต้องการคือมีความสุขและทำให้เธอมีความสุข
  3. การทำเช่นนี้จะเปิดโอกาสให้เธอสร้างความชัดเจนให้กับคำร้องขอต่างๆ ของเธอ ความคาดหวัง รวมทั้งความปรารถนา มีความสำคัญที่คุณจะฟังสิ่งซึ่งเธอจะต้องพูด ซึ่งจะช่วยให้เธอรู้สึกว่าคุณเข้าอกเข้าใจ
    • จดบันทึกไว้ และหากเธอถามคุณว่าทำไมถึงทำเช่นนั้น จงบอกกับเธอว่าคุณต้องการจะทำให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้พลาดคำพูดใดๆ ของเธอเลย
    • จงอ่านทวนสิ่งที่คุณจดบันทึกไว้ให้เธอฟัง และสอบถามว่าคุณเข้าใจทุกสิ่งถูกต้องหรือไม่ จงเพิ่มเติมสิ่งใดๆ ที่คุณจดบันทึกขาดไป หรือสิ่งใดๆ ที่เธออยากจะให้เพิ่มเติม
    • หากเธอได้บอกเรื่องบางสิ่งที่ต้องการ และคุณรู้ว่าไม่อาจจะเห็นพ้องด้วย จงพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “ผมไม่อาจเห็นพ้องในเรื่องนั้น มันไม่สมเหตุสมผลสำหรับผม บางทีเราอาจจะหาเวลามาคิดทางเลือกอื่นๆ ด้วยกันและหาข้อประนีประนอมกัน”
  4. ผู้คนที่มีปัญหาเรื้อรังเรื่องมองโลกในแง่ลบจะเสริมการบิดเบือนในแง่ลบให้กับทุกสถานการณ์ จงอย่าปล่อยให้ตัวคุณเองได้รับอิทธิพลจากคู่ครองของคุณ เรื่องการมองโลกในแง่ลบและความคิดจ้องจับผิด
    • หากเธอยังคงมีท่าทีในแง่ลบ จงบอกกับเธอว่า “ผมกำลังพยายามเพ่งความสนใจในแง่บวก เพื่อที่เราจะสามารถแก้ปัญหานี้ ทำได้ง่ายที่จะมองในแง่ลบ การมองในแง่บวกทำได้ยาก แต่นั่นคือสิ่งที่ผมกำลังจะทำ”
  5. คุณทั้งคู่จำเป็นต้องอ้าแขนต้อนรับความคิดเรื่องการประนีประนอมอย่างเต็มที่ มีความสำคัญมากที่อย่างน้อยที่สุด คุณได้ตกลงที่จะ พยายาม เพื่อทำการเปลี่ยนแปลง นั่นอาจเป็นจุดเริ่มต้นของคุณ และคุณสามารถเริ่มสร้างจากที่นั่น เป้าหมายคือเพื่อให้คุณเปิดรับกระบวนการอย่างเต็มที่ แต่คุณอาจจำเป็นต้องเริ่มด้วยก้าวเล็กๆ ก่อน [9]
    • ทบทวนรายการต่างๆ ในบัญชีรายการของพวกคุณทั้งคู่ จงให้เธอรู้ว่าคุณตกลงจะทำการเปลี่ยนแปลงต่างๆ หากว่าเธอเห็นพ้องที่จะทำการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้น
    • เป็นที่ยอมรับได้หากคุณจะพูดบางสิ่ง เช่น “ผมเต็มใจที่จะให้คำมั่นสัญญากับคุณและกับข้อตกลงนี้ บอกผมสิว่าคุณสุขใจและเต็มใจมากเพียงใด ที่จะให้คำมั่นสัญญาว่าจะทำทุกสิ่งให้ดีกว่าเดิมเพื่อเราทั้งคู่”
    • ยืนยันกับเธอซ้ำอีกครั้งว่าคุณกำลังทำสิ่งนี้เพื่อคุณทั้งคู่ และอนาคตร่วมกันของพวกคุณ
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

ปรับตัวรับความไม่สมบูรณ์แบบ

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. การเปลี่ยนแปลงไม่ได้เกิดขึ้นอย่างง่ายดายสำหรับคนบางคน [10] คู่ครองของคุณมีความท้าทายที่ยากลำบากรออยู่ข้างหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเขาไม่ได้เคยตระหนักถึงพฤติกรรมของเขา หรือสิ่งที่กระตุ้นให้เขาแสดงพฤติกรรมเหล่านั้น ความอดทนคือกุญแจไปสู่ความสัมพันธ์ที่ประสบความสำเร็จ จงมั่นใจว่าแม้เวลานี้จะเป็นช่วงเวลาที่ท้าทายอย่างถึงขีดสุด แต่ก็เป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น
    • สิ่งต่างๆจะดีขึ้นหากคุณยังคงมุ่งมั่นกับเป้าหมายของคุณ
    • หากสิ่งต่างๆ ไม่ได้กำลังไปได้ด้วยดี อย่ายอมแพ้ จงปรึกษาหารือกันในเรื่องนั้นและตกลงจะเดินหน้าแก้ไขหากจำเป็น
  2. จงบอกกับคู่ครองเวลาที่คุณพอใจกับวิธีที่สิ่งต่างๆ ดำเนินอยู่ หากคุณเห็นว่าเขาจับได้ว่าตัวเขาเองมองโลกในแง่ลบมากเกินไป และเขาได้ปรับปรุงแก้ไขตัวเอง จงถือว่าเป็นความสำเร็จ ทุกคนต้องการรู้ว่าตนกำลังทำได้ดี และจะช่วยให้คุณทั้งคู่ยังคงมีแรงผลักดันต่อไป
  3. หากว่าคุณทั้งคู่สามารถพบวิธีที่จะหัวเราะเกี่ยวกับสถานการณ์นั้นได้ อาจเป็นสิ่งที่ช่วยเยียวยาคุณทั้งคู่ [11] การหัวเราะคือระยะทางสั้นที่สุดระหว่างคนสองคน [12] เพราะแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่คุณจะยังคงอารมณ์เสียในตอนที่กำลังหัวเราะ จงลองพยายามทำดู
  4. ทุกคนจำเป็นต้องได้รับการฝึกสอนบ้างเล็กน้อย จงอย่าวิจารณ์คู่ครองหรือตัวคุณเองเวลาทำผิดพลาด แทนที่จะทำเช่นนั้น จงให้ความสนใจกับการที่คุณทั้งคู่กำลังพยายามทำเพื่อเป็นคนที่ดีกว่าเดิม ถึงเป็นเพียงแค่ก้าวน้อยๆ ก็ยังคงเป็นก้าวหนึ่งไปในทิศทางที่ถูกต้อง
  5. ไม่ว่าสถานการณ์ของคุณจะรุนแรงมากกว่า หรือว่าคุณแค่กำลังรับมือกับคู่ครองผู้เมินเฉยเมื่อคุณขอให้เอาขยะไปทิ้ง มีความสำคัญที่จะรักษาทุกสิ่งให้ตรงกับความเป็นจริง ไม่มีใครอยากรู้สึกไร้ความสำคัญ หรือรู้สึกว่าตัวหดเล็กลง หรือถูกเมินเฉยโดยคู่ครองหรือโดยใครก็ตาม สำหรับเรื่องนั้นๆ คุณอาจพบว่าเมื่อคุณรู้สึกว่าคำพูดของคุณมีผู้ได้ยินและให้ความเคารพแล้ว คุณจะสามารถปลดปล่อยความรู้สึกไม่พอใจออกไปและรู้สึกโล่งอก คุณสามารถปล่อยให้มันผ่านไปได้
    • หากคุณพยายามจะปล่อยผ่านบางสิ่ง แต่มันยังคงรบกวนคุณ หากเป็นเช่นนั้น คุณน่าจะจำเป็นต้องจัดการให้มากขึ้นเรื่องความรู้สึกเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าว ซึ่งอาจรวมถึงการพูดคุยกับคู่ครองให้มากขึ้น หรือออกไปเดินทางไกลเพื่อค่อยๆ ปลดปล่อยอารมณ์ของคุณ
    • คุณอาจอารมณ์เสียหากมีใครสักคนบอกกับคุณว่า “ก็แค่ปล่อยให้มันผ่านไป” หากคุณยังไม่สามารถแก้ปัญหานั้นได้ จงหายใจลึกๆ และตอบว่า “ฉันกำลังพยายามจะปล่อยให้มันผ่านไป แต่ยังทำไม่สำเร็จ”
    • เมื่อคุณเริ่มปรับตัวได้กับความรู้สึกเรื่องมุมมองที่สมดุล คุณจะมองเห็นได้ว่ามีบางสิ่งซึ่งคุ้มค่าที่คุณจะอารมณ์เสีย และบางสิ่งซึ่งไม่คุ้มค่า
  6. ให้คำมั่นสัญญาใหม่อีกครั้งหนึ่งสำหรับความสัมพันธ์ของพวกคุณ. มีผู้คนมากมายที่ตัดสินใจจัดพิธีแต่งงานใหม่อีกครั้งหนึ่ง หรือสาบานคำมั่นสัญญาครั้งใหม่ด้วยหลากหลายเหตุผล สิ่งนี้อาจจะเป็นโอกาสอันยอดเยี่ยมที่จะแสดงออกด้วยพิธีกรรม เพื่อให้ต่างฝ่ายต่างมองเห็นว่าคุณไม่ได้หมดความสนใจในความสัมพันธ์ระหว่างกัน และคุณยังคงตกหลุมรักอยู่
    • การฝ่าฟันช่วงเวลายากลำบากมาด้วยกันอาจส่งผลให้มีความปรารถนาอย่างล้ำลึกมากขึ้นที่จะ ให้คำมั่นสัญญาแก่กันและกัน
    • คู่ครองของคุณอาจตระหนักถึงความเจ็บปวดที่เขาได้ทำให้เกิดขึ้นและอาจรู้สึกผิด เขาอาจจะต้องการแสดงให้คุณเห็นว่าเขาเสียใจ สำหรับสิ่งที่ได้ทำให้คุณต้องพบเจอ จงปล่อยให้เขาทำเช่นนั้น
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

การขอความช่วยเหลือ

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ความสุขเป็นงานที่เกิดขึ้นในใจและเป็นความรับผิดชอบของคุณที่จะสร้างมันขึ้นมา คุณรู้ว่าอะไรทำให้ตัวเองมีความสุข ดังนั้น จงมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ นอกเหนือจากความสัมพันธ์ของคุณซึ่งจะสร้างสมความรู้สึกแง่บวก หากคุณเต็มไปด้วยความรู้สึกดีๆ ก็ง่ายมากขึ้นที่จะเผชิญหน้ากับบุคคลผู้รับมือได้ยากและมองโลกในแง่ลบ คุณ ผู้มีความสุขมากขึ้นจะทำให้ความสัมพันธ์ใดๆ ดีขึ้นเสมอ
  2. การรับมือกับคนที่มองโลกในแง่ลบเสมออาจน่าเหนื่อยหน่ายและเครียด การสร้างความเปลี่ยนแปลงต้องใช้เวลา ดังนั้น คุณจำเป็นต้องได้การสนับสนุนและการให้กำลังใจ เพื่อเผชิญหน้ากับการต่อสู้ดิ้นรนต่างๆ จงหาเพื่อนสักคนหนึ่งหรือบุคคลที่คุณไว้ใจ และเป็นผู้ซึ่งสามารถเป็นแหล่งที่มาของการให้กำลังใจ
    • จงจำไว้ว่า ผู้มองโลกในแง่ลบจะสูบเอาพลังงานจากเราจนหมดตัว ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องเติมพลังเสียใหม่ให้เต็ม กิจกรรมต่างๆ เช่น การออกกำลังกาย การเต้นรำ การเล่นโยคะ และกอล์ฟ เป็นเพียงสี่ถึงห้าวิธีที่จะชาร์จแบตเตอรี่ให้กับคุณได้ [13]
  3. จงอยู่ห่างจากเพื่อนฝูง และสมาชิกคนอื่นในครอบครัวผู้มองโลกในด้านลบและไม่สนับสนุน ที่ดีที่สุดคือปล่อยพวกเขาไว้กับตัวพวกเขาเอง อย่าปล่อยให้พวกเขามีอิทธิพลต่อความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับคู่ครอง
    • หากการเป็นคนมองโลกในแง่บวกทำได้ง่าย ทุกคนก็คงจะกำลังทำมันอยู่ มีความขุ่นเคืองใจมากมายในโลกใบนี้และคนจำนวนมากชอบแสดงพวกมันออกมาโดยไม่ขออนุญาต คุณไม่จำเป็นต้องรับฟังมัน
  4. หากคุณรู้สึกว่าไม่อาจจัดการกับสถานการณ์ ก็มีมืออาชีพอย่างเช่น ที่ปรึกษา นักบำบัด และผู้ไกล่เกลี่ย ซึ่งสามารถช่วยเหลือคุณได้ คุณเป็นมนุษย์ปุถุชน และมีบางเวลาที่คุณถึงขีดจำกัดของตัวเองแล้ว และต้องการความช่วยเหลือ แม้ว่าอาจจะยุ่งยาก แต่การแยกกันอยู่หรือหย่าร้างอาจเป็นคำตอบเดียวของปัญหาของคุณ
    • การแยกจากกันชั่วครั้งชั่วคราวอาจช่วยรักษามิตรภาพของคุณเอาไว้ได้จริงๆ การทำเช่นนี้อาจช่วยให้มีระยะห่าง ซึ่งเปิดโอกาสให้คุณทั้งสองฝ่ายมีเวลาที่จะตัดสินใจว่าความสัมพันธ์กันนั้นคุ้มค่าที่จะเก็บรักษาไว้หรือไม่ [14]
    • คุณสามารถหานักจิตวิทยาและจิตแพทย์ได้ในท้องถิ่นของคุณ [15] และหากว่าคุณอยู่ในอเมริกา ยังสามารถค้นหาได้ผ่านทางสมาคมนักจิตวิทยาแห่งอเมริกาอีกด้วย [16] .
    • ผู้ไกล่เกลี่ยสักคนหนึ่งจะรับหน้าที่เป็นคนกลาง และพยายามช่วยให้ง่ายขึ้นที่จะได้การแก้ปัญหาซึ่งดีสำหรับคุณทั้งคู่ [17]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • หาเวลาผ่อนคลาย หากคุณถูกบีบบังคับให้ต้องอยู่ร่วมกับผู้ที่มองโลกในแง่ลบ
  • จงยังมุ่งมั่นและมองโลกในแง่บวก แต่จงตระหนักว่าทุกคนมีข้อจำกัดในสิ่งที่พวกเขาทนได้
  • การแต่งงานและความสัมพันธ์มักเป็นเรื่องของการเจรจาต่อรองและการประนีประนอม
  • จงหาข้อแก้ตัวที่จะหยุดพักการสนทนาในแง่ลบ ก่อนจะเตือนใจตัวเองว่าทำไมคุณถึงได้รักคู่ครอง/คู่ชีวิตมากเสียเหลือเกิน
  • จงเปิดกว้างที่จะติดต่อสื่อสาร และอย่ายอมแพ้เรื่องความสัมพันธ์ นอกเสียจากคุณจะแน่ใจว่ามันสมควรจะยุติลงแล้ว
  • จงเต็มใจที่จะให้อภัยตราบใดที่คุณไม่ได้ถูกร้องขอเรื่องให้อภัยเป็นประจำ
โฆษณา

คำเตือน

  • พฤติกรรมแง่ลบชนิดเรื้อรังอาจเป็นสัญญาณของปัญหาทางจิตที่ร้ายแรงมากกว่า เช่น ความเครียด โรควิตกกังวล หรือมีบุคลิกภาพผิดปกติ
  • หากคุณรู้สึกว่าจำเป็นต้องได้ความช่วยเหลือจากมืออาชีพ ต้องแสวงหาความช่วยเหลือนั้น
  • ไม่มีวิธีการหรือกลยุทธ์ใดที่จะได้ผลดี 100% เมื่อเป็นการตั้งคำถามเรื่องพฤติกรรมของมนุษย์
  • ใครก็ตามที่พยายามบีบบังคับให้คุณยอมประนีประนอมเรื่องค่านิยมของคุณ ไม่ได้ใส่ใจเพื่อผลประโยชน์ที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 3,098 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา