PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

คุณรู้อยู่แล้วว่าการคบกับรูมเมท เพื่อนร่วมงานหรือเพื่อนร่วมห้องนั้นไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก แต่หกเดือนที่แล้วคุณไม่อยากฟังตรรกะใดๆ เรื่องของหัวใจนั้นช่างกระชุ่มกระชวย แต่หากคุณต้องเจอคนๆ นั้นทุกวันหลังจากที่เลิกรากัน คุณต้องใช้วิธีเพื่อจัดการสถานการณ์ที่อึดอัด วิธีที่ดีคือการพุ่งความสนใจไปที่การตีตัวออกห่างจากสถานการณ์ การสร้างวิถีชีวิตที่เป็นบวกและการเดินหน้าต่อไปในชีวิต

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

การตีตัวออกห่างจากสถานการณ์

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ความสัมพันธ์นั้นสำคัญและทำให้เราสัมผัสถึงช่วงที่ดีและร้ายทางอารมณ์ เรียนรู้เกี่ยวกับตัวเองและเรียนรู้การรักและถูกรัก [1] เหล่านี้คือองค์ประกอบที่สำคัญต่อการใช้ชีวิตที่เติมเต็ม ไม่ว่าคุณจะเป็นคนบอกเลิกหรือไม่คุณจะมีช่วงที่โศกเศร้าแน่นอน
    • บอกคนๆ นั้นว่า “ฉันอยากรับรู้ว่าการจบความสัมพันธ์นี้ไม่ได้รู้สึกดี ฉันรู้ว่ามันจะลำบากและอึดอัดที่ต้องเจอกันสักพัก ฉันจะพยายามเคารพขอบเขตของเธอให้มากที่สุดและหวังว่าเธอจะทำแบบเดียวกัน” สิ่งนี้อาจจะนำไปสู่การพูดคุยต่อไปเกี่ยวกับระยะเวลาที่คุณสามารถเสริมความคาดหวัง
    • มันจำเป็นที่ต้องรู้ว่าความสัมพันธ์นั้นสำคัญต่อการพัฒนาตัวคุณเอง ไม่ว่าความสัมพันธ์นั้นจะสั้นหรือยาวแค่ไหน
    • หากคุณปฏิเสธความรู้สึกที่เกี่ยวกับการเลิกราและแกล้งทำเป็นว่ามันไม่สำคัญ คุณจะไม่เรียนรู้จากประสบการณ์นี้ [2]
  2. คนส่วนใหญ่ถูกสอนวิธีการได้มาซึ่งสิ่งต่างๆ แต่น้อยคนมากที่จะถูกสอนวิธีการสูญเสียบางสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นความสูญเสียในความสัมพันธ์ คนรัก งาน ความสามารถทางร่างกายหรือความไว้ใจในบางคน คุณต้องเข้าใจและจัดการความเสียหายที่เกิดขึ้น ความโศกเศร้าเสียใจคืออารมณ์ที่ซับซ้อนซึ่งแสดงออกมาในหลายวิธี
    • มันมีขั้นต่างๆ ของความโศกเศร้าเสียใจที่สามารถใช้เป็นแนวทางเพื่อให้คุณเข้าใจประสบการณ์ความเศร้าที่ไม่เหมือนใครของคุณ: การปฏิเสธ การรู้สึกชาและตกใจ การต่อรอง ความซึมเศร้า ความโกรธ การยอมรับ [3]
    • บันทึกความโศกเศร้าและเขียนความรู้สึกที่คุณกำลังเผชิญในแต่ละขั้น
    • ความโศกเศร้าคือการเดินทางที่ไม่ซ้ำใคร ทุกคนสัมผัสแตกต่างกัน [4]
    • คุณอาจจะใช้เวลามากในแต่ละขั้นแตกต่างกันไป
    • อย่าเร่งตัวเองและอย่าปล่อยให้คนอื่นเร่งคุณในช่วงที่โศกเศร้า เวลาสำหรับการเสียใจมีมากมายและมันสำคัญต่อการเยียวยาแผลใจ
  3. การเลิกรานั้นรู้สึกเหมือนการล้มทางอารมณ์ มันจะดึงความสนใจและความพยายามทั้งหมดเพื่อพาคุณข้ามผ่านการเดินทาง หาวิธีเพื่อก้าวข้ามความท้าทายข้างหน้า มันคือการตอบโต้ธรรมดาต่อความล้มเหลว ณ จุดๆ หนึ่งและทุกครั้งที่คุณดึงสติกลับมาคุณจะสร้างความมั่นใจในตัวเอง [5]
    • บอกตัวเองว่า “ฉันทำสิ่งนี้ได้ ฉันสามารถทำงานร่วมกับคนๆ นี้ได้เพราะฉันแข็งแกร่งและฉันจะไม่เป็นอะไร”
  4. ออกไปสังสรรค์ในสังคมให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ด้วยการตัดสินใจของตัวเองหรือการพูดคุยกับเพื่อนที่ไว้ใจ เลือกคนที่คุณไว้ใจที่จะไม่นินทาคุณลับหลัง คุณคงไม่อยากเพิ่มเชื้อให้กับไฟ การฝึกการโต้ตอบด้วยคำพูดและท่าทางล่วงหน้าจะช่วยลดความเครียดและให้คุณเข้าถึงทักษะที่ฝึกมาแล้วเมื่อคุณต้องการ [6]
    • ถามตัวเองว่า “ฉันจะทำอย่างไรเมื่อต้องเผชิญหน้ากับเขาในลิฟต์?” คำตอบที่มีเหตุผลคือการพูดกับเขาว่า “สวัสดี อึดอัดที่ต้องขึ้นลิฟต์นี้ใช่ไหม?”
    • คุณสามารถรอลิฟต์ตัวอื่นได้ ไม่มีใครบังคับคุณให้ทำสิ่งที่คุณไม่ต้องการ
  5. อารมณ์ตอบสนองไม่ดีนักหากถูกเร่งหรือละเลย การเยียวยาแผลการสูญเสียจากความสัมพันธ์ต้องใช้เวลาและคุณอาจจะเหนื่อยหรือใจร้อน ใช้พลังงานในกิจกรรมที่ช่วยให้คุณหลบหนีความคิดนั้น
    • การเข้าร่วมกิจกรรมที่คุณชอบจะช่วยให้คุณผ่านช่วงเวลานั้นและช่วยให้คุณรักษาสมดุลอารมณ์ที่ตึงเครียดที่คุณอาจจะกำลังมี [7]
    • หนีความกังวลใจโดยการดูหนังหรือรายการทีวี อยู่ห่างจากละครแนวโรแมนติกคอมเมดี้และแนวรักที่อาจจะทำให้คุณลำบากใจ
    • เล่นเกมส์กระดานหรือเข้าร่วมชมรมหนอนหนังสือเพื่อดึงเวลาและความสนใจของคุณ
  6. การโต้ตอบที่ชัดเจนและตรงจุดที่สุดต่อการรับมือกับปัญหานี้คือการเปลี่ยนงาน อพาร์ทเม้นต์หรือตารางเรียน มันอาจจะเป็นสิ่งที่มีเหตุผลที่ควรทำมากที่สุด อย่างไรก็ตาม มีบางคนที่ต้องเก็บงาน ที่อยู่หรือตารางเรียนนั้นไว้ สร้างประสบการณ์ “การย้ายหนี” ที่ปลอมๆ เพื่อตีตัวออกห่าง
    • ใช้เส้นทางใหม่ในการมาทำงาน
    • เลี่ยงกิจวัตรประจำวันของคนๆ นั้นเพื่อจะได้ไม่เจอกัน
    • ย้ายที่นั่งในที่ทำงานหรือห้องเรียนให้ห่างจากคนๆ นั้น
    • ทำสิ่งที่จำเป็นเพื่อสร้างพื้นที่กั้นระหว่างคุณกับเขา วิธีนี้จะช่วยให้คุณก้าวไปสู่การปรับเปลี่ยนสถานการณ์ได้
    • อย่ารอให้เขาย้ายหนีจากคุณ คุณต้องหนีจากเขา ฉะนั้นทำให้เร็วที่สุด
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

การสร้างวิถีชีวิตที่เป็นบวก

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. การเปลี่ยนแปลงอาจจะดีก็ได้ [8] บางทีความสัมพันธ์อาจจะบั่นทอนอารมณ์และให้ความเครียดมากกว่าความสุขกับคุณ นึกถึงอิสรภาพที่คุณมีในตอนนี้ซึ่งนำโอกาสใหม่ๆ มาให้คุณ
    • รู้สึกโล่งใจที่ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับอีกฝ่ายหรือความลำบากใจที่อีกฝ่ายนำมาสู่ชีวิตคุณ
    • ใช้เวลานอกเหนือจากที่ทำงานในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนๆ และคนอื่นที่อาจจะชอบคุณ
  2. ทำสิ่งต่างๆ ให้ “เบาสบาย” ซึ่งหมายถึงการอยู่ห่างจากความคิดที่ลึกซึ้ง การพูดคุย ปัญหาหรือการบ่น แสดงความสงบและการมองโลกในแง่ดีซึ่งไม่สามารถถูกทำลายโดยความเป็นลบหรือความอึดอัดของสถานการณ์
    • การพุ่งความสนใจไปยังสิ่งที่เป็นบวกจะปกป้องคุณจากการพูดคุยแบบลบๆ [9]
    • ไม่มีใครที่จะสามารถดึงอำนาจไปจากคุณหากคุณคิดบวก การตอบโต้ความคิดเห็นที่ปั่นป่วนจะยกอำนาจของคุณให้กับอีกฝ่าย คุณคือคนควบคุมและรับผิดชอบความรู้สึกของคุณ นั่นคืองานที่สำคัญ
  3. [10] ยอมรับตัวเอง หากคุณรู้สึกผิดหรือเสียใจเกี่ยวกับการมีความสัมพันธ์กับคนที่ทำงาน โรงเรียนหรือรูมเมท คุณจะต้องอภัยให้ตัวเอง มันไม่ได้หมายความว่าคุณอภัยและ “ลืม” สิ่งที่คุณเคยทำและทำอีกครั้ง อภัยด้วยความตั้งใจที่จะเรียนรู้จากความผิดพลาดและหยุดความพยายามในการทำร้ายตัวเองในอนาคต
  4. [11] นักแสดงถูกจ้างให้แสดง คุณอาจจะไม่ใช่นักแสดงแต่อาจจะมีช่วงที่คุณต้องแกล้งทำเป็นสบายดีแต่จริงๆ แล้วไม่ใช่แบบนั้น มันคือวิธีการปกป้องตัวเองไม่ให้เจ็บปวดไปมากกว่านี้ คุณต้องพาตัวเองให้ข้ามผ่านการปฏิสัมพันธ์ที่อึดอัดให้ได้
    • พูดคุยกับเพื่อที่ไว้ใจได้หรือสมาชิกในครอบครัวซึ่งจะทำให้คุณพัฒนาความรู้สึกที่เคยเสียไป
    • การระบายความรู้สึกเป็นวิธีที่ถูกต้องตามหลักการในการพัฒนาความรู้สึกและจะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น
  5. หลายคนไม่ค่อยชินกับความเงียบ [12] พวกเขารู้สึกจำใจต้องพูดประหนึ่งว่าคำพูดเหล่านั้นจะบรรเทาความตึงเครียดของสถานการณ์ พัฒนาระดับของความคุ้นชินกับความเงียบ เมื่อคุณไม่รู้ว่าจะพูดอะไรในสถานการณ์นั้นก็ไม่ต้องพูด เลือกที่จะอยู่เฉยๆ กับความเงียบและคุณจะไม่รู้สึกอึดอัดมากในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
    • ความเงียบไม่ใช่ความหยาบคาย
    • จำไว้ว่าหลายคนไม่ค่อยชินกับความเงียบ พวกเขาจึงอาจจะพูดหรือถามคุณต่างๆ นานา ตอบพวกเขาด้วยมารยาทที่เหมาะสม
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

การเดินหน้าต่อในชีวิต

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. หากคุณคิดว่าคุณได้ทำพลาดอย่างมหันต์โดยการมีความสัมพันธ์นี้ ปล่อยให้ความเจ็บปวดหยุดยั้งคุณจากการทำพลาดอีกครั้งในอนาคต มันมีเหตุผลต่อกฎเกณฑ์ต่างๆ ในชีวิต การทำตามเหตุผลเหล่านั้นจะทำให้คุณหันหาความสุขและหันหนีความเจ็บปวด [13] ทำตามหลักการที่ง่ายแต่ลึกซึ้งนี้เพื่ออนาคตที่สดใส
  2. การไว้วางใจตัวเองจะช่วยให้คุณรับมือกับการแตกหักของความสัมพันธ์ [14] คุณรู้ว่าอะไรที่ทำให้คุณมีความสุข ฉะนั้นตั้งใจทำกิจกรรมเหล่านั้นเพื่อจะเพิ่มความรู้สึกที่เป็นบวก
  3. ขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อระบุพฤติกรรมที่คุณอยากจะเปลี่ยนหากคุณไม่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง. มีนักจิตวิทยาและนักบำบัดทางจิตอยู่ในบริเวณที่คุณอยู่และคุณสามารถค้นหาได้
  4. คุณต้องมีชีวิตอยู่และสนุกไปกับมัน การยืนหยัดเพื่อตัวเองจะเตือนคุณว่าคุณสมควรมีความสุขและโลกจะรับรู้สิ่งนั้น เมื่อคุณถึงจุดๆ หนึ่งของการเยียวยาหลังจากประสบการณ์ที่ไม่ดีในชีวิต คนอื่นจะเห็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น คุณได้ส่งสัญญาณว่าคุณพร้อมรับสิ่งที่ดีให้เกิดขึ้นแล้ว
    • คนอาจจะพูดว่า “เธอทำอะไรมาหรือเปล่า? เธอดูดีจัง” คำตอบของคุณน่าจะเป็น “ใช่ ขอบคุณนะ ฉันตัดสินใจที่จะมีความสุขและมันก็ได้ผลนะ”
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • พฤติกรรมของมนุษย์นั้นยากที่จะเข้าใจในบางครั้ง คุณทำความผิดพลาดแต่ไม่จำเป็นต้องทำพลาดซ้ำๆ
  • หากคุณเห็นเขากับคนอื่น อย่าทำหึงแม้คุณจะหึงจริงๆ
  • แสดงให้แฟนเก่าเห็นว่าคุณมีความสุขและสบายดีโดยไม่มีเขา
  • อย่ารีบมีแฟนใหม่
  • อย่าพยายามทำให้เขาหึงโดยการคบกับคนที่คุณไม่ได้ชอบจริงๆ ระวังความรู้สึกของคนอื่นด้วย
  • เขาอาจจะยั่วคุณให้กลับมาคบกัน คิดทบทวนให้ดีก่อนตัดสินใจ
  • หาอะไรทำ งานอดิเรกหรือกิจกรรมใหม่ๆ จะทำให้คุณไม่นึกถึงเขา
  • ขอให้เพื่อนที่สนับสนุนคุณให้เรียกคุณว่าเป็นเพื่อนของเขา ไม่ใช่แฟนเก่าของเขา
  • ใช้ชีวิตในวิถีที่แข็งแกร่งและมั่นใจที่จะทำให้คุณดึงดูดความสัมพันธ์ที่ดี
  • พิจารณาความสัมพันธ์กับแฟนเก่า
โฆษณา

คำเตือน

  • หากคุณพยายามเป็นมิตรกับคนๆ นั้นและเขาคอยหลบหน้าคุณก็ปล่อยให้เป็นแบบนั้น ไม่ใช่ทุกคนที่ต้องเป็นเพื่อนของคุณและคุณต้องไม่ยอมรับพฤติกรรมแบบนั้นจากเพื่อน
  • อย่าดีเกินไปและอย่าอ่อยเพื่อความสนุกเพราะเขาอาจจะคิดว่าคุณอยากกลับไปคบกับเขา อย่าทำคนให้เข้าใจผิด
  • ระวังแอลกอฮอล์จะทำให้คุณลดความยับยั้งชั่งใจและเพิ่มโอกาสในการตัดสินใจแบบไม่รอบคอบที่คุณจะเสียใจในภายหลัง
  • คุณอาจมีความล้มเหลวและความผิดพลาด ผู้คนจะค่อยๆ รับพฤติกรรมของคุณไม่ได้
  • หากคุณยังคงปลุกเร้าความสัมพันธ์ในที่ทำงาน คุณจะสร้างชื่อเสียงที่อาจจะทำให้คุณโดนไล่ออกหรือถูกจับข้อหาละเมิดทางเพศได้
โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 26,856 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา