PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

การใช้น้ำมันหอมระเหยเป็นวิธีแสนยอดเยี่ยมที่จะช่วยเพิ่มกลิ่นหอมสดชื่นภายในห้อง อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการบำบัดรักษาอาการต่างๆ ให้ดีขึ้นอีกด้วย ในปัจจุบันมีอุปกรณ์กระจายกลิ่นจากน้ำมันหอมระเหยให้เลือกใช้มากมายหลายรูปแบบ ซึ่งอุปกรณ์แต่ละประเภทต่างมีวิธีการใช้งานที่ง่ายดายและไม่ยุ่งยากไม่แพ้กัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เพียงเติมน้ำเปล่าลงไปให้พอดีกับระดับที่กำหนด ใช้น้ำมันหอมระเหยในปริมาณที่พอเหมาะ และหมั่นสังเกตดูอยู่เรื่อยๆ ในระหว่างการใช้งานอุปกรณ์

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

ใช้เครื่องพ่นไอน้ำอโรม่า

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ตั้งเครื่องพ่นไอน้ำอโรม่าไว้ตรงบริเวณกึ่งกลางของห้อง. เครื่องพ่นไอน้ำอโรม่าจะปล่อยละอองน้ำเพื่อกระจายน้ำมันหอมระเหยไปรอบๆ ห้องของคุณ ให้คุณตั้งเครื่องพ่นไอน้ำอโรม่าไว้ตรงจุดกึ่งกลางของห้องเพื่อให้กลิ่นหอมกระจายไปทั่วทุกบริเวณในห้อง โดยวางไว้บนพื้นผิวที่เรียบเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำหกออกมาหรือเครื่องหล่นลงมาในระหว่างการใช้งาน [1]
    • ใช้ผ้าขนหนูวางรองไว้ใต้เครื่องพ่นไอน้ำอโรม่าเพื่อดูดซับน้ำที่ล้นออกมาในระหว่างที่เครื่องกำลังทำงาน แต่หากผ้าขนหนูยังคงแห้งสนิทหลังจากที่คุณใช้งานเครื่องไปแล้ว 2-3 ครั้ง คุณอาจไม่จำเป็นต้องรองด้วยผ้าขนหนูต่อหลังจากนี้
    • เตรียมเต้าเสียบไฟฟ้าไว้ให้พร้อมหากคุณต้องเสียบปลั๊กไฟเพื่อใช้งานเครื่องพ่นไอน้ำอโรม่า
  2. ขั้นตอนนี้อาจมีข้อแตกต่างกันไปเล็กน้อยตามรูปแบบของเครื่องพ่นไอน้ำอโรม่าที่คุณเลือกใช้ แต่โดยส่วนใหญ่แล้วเครื่องพ่นไอน้ำอโรม่าจะมีลักษณะเป็นฝาปิดครอบอ่างใส่น้ำไว้ ซึ่งคุณอาจเปิดฝาออกได้ด้วยวิธีการหมุน กด หรือเพียงยกขึ้นมาเพื่อใช้งานอ่างใส่น้ำที่อยู่ด้านในตัวเครื่อง [2]
    • หากคุณไม่แน่ใจเกี่ยวกับวิธีการเปิดฝาครอบที่ถูกต้อง ลองเช็คดูจากคู่มือแนะนำวิธีการใช้ที่มาพร้อมกับเครื่องพ่นไอน้ำอโรม่าของคุณ
    • เครื่องพ่นไอน้ำอโรม่าบางรุ่นอาจมีฝาปิดครอบอ่างใส่น้ำไว้ถึงสองอัน โดยฝาหนึ่งไว้สำหรับตกแต่งให้ตัวเครื่องดูสวยงามและอีกฝาหนึ่งไว้สำหรับดักจับความชื้นส่วนเกิน ดังนั้นหากคุณเปิดฝาครอบขึ้นมาและพบว่ายังมีฝาครอบอยู่ข้างในอีกอันหนึ่ง ให้คุณเปิดฝาครอบดังกล่าวนี้ออกเช่นกันเพื่อเริ่มใช้งานอ่างใส่น้ำ
  3. เทน้ำเปล่าที่มีอุณหภูมิห้องหรือที่ต่ำกว่าอุณหภูมิร่างกายของคุณจากถ้วยตวงลงไปในอ่างใส่น้ำที่อยู่ด้านในตัวเครื่อง โดยภายในของอ่างใส่นำ้จะมีเส้นหรือสัญลักษณ์ที่บอกให้คุณทราบถึงปริมาณน้ำที่ควรเติมลงไป [3]
    • เครื่องพ่นไอน้ำอโรม่าบางรุ่นอาจไม่มีเส้นหรือสัญลักษณ์บอกระดับระบุไว้แต่จะมาพร้อมกับเหยือกตวงที่มีความจุพอดีกับปริมาณน้ำที่ควรเติมลงไปในอ่างเก็บน้ำแทน เมื่อคุณต้องการใช้งานตัวเครื่อง เพียงเติมน้ำลงไปในเหยือกตวงให้เต็มแล้วเทลงไปในอ่างใส่น้ำ
    • น้ำเปล่าที่มีอุณหภูมิห้องจะมีอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 21 องศาเซลเซียส ให้คุณลองใช้นิ้วมือจุ่มลงไปเพื่อเช็คดูอุณหภูมิของน้ำ โดยอุณหภูมิที่เหมาะสมจะต้องค่อนข้างเย็นแต่ไม่เย็นจัดจนเกินไป
  4. เปิดฝาขวดน้ำมันหอมระเหยออกและเอียงขวดที่เหนืออ่างใส่น้ำ โดยคุณอาจต้องเขย่าขวดเล็กน้อยเพื่อให้น้ำมันหยดออกมา หยดน้ำมันลงไปในน้ำ 6-7 หยดก่อนปิดฝากลับดังเดิม [4]
    • คุณอาจลองผสมน้ำมันหอมระเหยชนิดต่างๆ เข้าด้วยกัน แต่ควรใช้น้ำมันแต่ละชนิดรวมกันทั้งหมดในปริมาณสูงสุดไม่เกิน 10 หยดเพื่อป้องกันไม่ให้กลิ่นฉุนเกินไปในระหว่างการเปิดใช้งานเครื่อง
    • จดจำจำนวนหยดของน้ำมันหอมระเหยที่ใช้ในแต่ละครั้งเพื่อให้คุณทราบปริมาณน้ำมันที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งคุณอาจใช้น้ำมันหอมระเหยเพียง 3-4 หยดเท่านั้นสำหรับห้องขนาดเล็ก เริ่มจากใช้น้ำมันหอมระเหยเพียงเล็กน้อยและค่อยๆ เพิ่มปริมาณมากขึ้นจนกระทั่งมีกลิ่นหอมในระดับที่คุณพอใจ
  5. ปิดฝาครอบกลับดังเดิมโดยตรวจสอบให้แน่ใจว่าฝาถูกกดแน่นเข้ากับตำแหน่งพอดี เสียบปลั๊กและกดปุ่มเพื่อเปิดใช้งานเครื่องพ่นไอน้ำอโรม่า [5]
    • เครื่องพ่นไอน้ำอโรม่าบางตัวจะมีฟังก์ชั่นการใช้งานหรือการตั้งค่าแสงไฟที่หลายหลายให้คุณสามารถเลือกปรับเปลี่ยนตามความต้องการของคุณ ลองเช็คดูจากคู่มือการใช้งานหากคุณไม่แน่ใจเกี่ยวกับวิธีการใช้เครื่องพ่นน้ำมันหอมระเหยหรือต้องการทราบฟังก์ชั่นการใช้งานเพิ่มเติมอื่นๆ
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

ใช้เตาน้ำมันหอมระเหย

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ตั้งเตาน้ำมันหอมระเหยไว้ตรงบริเวณที่มีคนเดินผ่านไปมา. เมื่อน้ำที่เติมไว้ระเหยเป็นไอจากความร้อนของเทียน น้ำมันหอมระเหยก็จะเริ่มส่งกลิ่นหอมออกมา ให้คุณตั้งเตาน้ำมันหอมระเหยไว้ตรงบริเวณที่มีคนเดินผ่านไปมาหรือมีลมพัดเบาๆ เพื่อช่วยให้กลิ่นหอมกระจายไปทั่วทั้งห้องมากยิ่งขึ้น โดยวางไว้บนพื้นผิวที่เรียบรวมถึงเลือกตั้งไว้ตรงจุดกึ่งกลางของห้องเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด [6]
    • แม้ว่าการมีคนเดินผ่านไปมาจะช่วยให้กลิ่นหอมของน้ำมันฟุ้งกระจายเป็นวงกว้างมากขึ้น แต่ก็อาจมีความเสี่ยงมากขึ้นที่เตาจะถูกชนจนร่วงหล่นลงมาได้ ดังนั้นคุณจึงให้ความสำคัญกับการเลือกวางเตาน้ำมันหอมระเหยไว้ในบริเวณที่ปลอดภัยที่สุดเป็นอันดับแรก
  2. เทน้ำเปล่าจากถ้วยตวงลงไปในถ้วยใส่น้ำที่อยู่ด้านบนของตัวเตา โดยเตาน้ำมันหอมระเหยบางตัวอาจมีเส้นหรือสัญลักษณ์ที่บอกให้คุณทราบถึงปริมาณน้ำที่ควรเติมลงไป แต่หากเตาที่คุณเลือกใช้ไม่มีเส้นหรือสัญลักษณ์ดังกล่าว ให้คุณเติมน้ำลงไปประมาณครึ่งหนึ่งของถ้วยเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำหกล้นออกมา [7]
    • ปฏิบัติตามคู่มือแนะนำวิธีการใช้ที่แนบมาพร้อมกับเตาน้ำมันหอมระเหยของคุณ
    • เติมน้ำลงไปให้เรียบร้อยก่อนหยดน้ำมันหอมระเหยลงไป
  3. เปิดฝาขวดน้ำมันหอมระเหยออกและเอียงขวดที่เหนือถ้วยใส่น้ำเพื่อให้น้ำมันค่อยๆ หยดออกมา หยดน้ำมันลงไปในน้ำ 2-3 หยดก่อนปิดฝากลับดังเดิม [8]
    • ลองผสมน้ำมันหอมระเหยหลากหลายชนิดเข้าด้วยกันเพื่อให้กลิ่นหอมมีความซับซ้อนยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันทุกชนิดรวมกันเกิน 4 หยด
    • ปริมาณน้ำมันที่เหมาะสมนั้นขึ้นอยู่กับขนาดห้องของคุณ เริ่มจากใช้น้ำมันหอมระเหยเพียงไม่กี่หยดและค่อยๆ เพิ่มปริมาณมากขึ้นจนกระทั่งมีกลิ่นหอมในระดับที่คุณพอใจ
    • จดจำจำนวนหยดของน้ำมันหอมระเหยที่ใช้ในแต่ละครั้งเพื่อให้คุณทราบปริมาณน้ำมันที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งคุณอาจใช้น้ำมันหอมระเหยเพียง 3-4 หยดเท่านั้นสำหรับห้องขนาดเล็ก เริ่มจากใช้น้ำมันหอมระเหยเพียงเล็กน้อยและค่อยๆ เพิ่มปริมาณมากขึ้นจนกระทั่งมีกลิ่นหอมในระดับที่คุณพอใจ
  4. วางเทียนไว้ใต้ถ้วยใส่น้ำและจุดเทียนให้เรียบร้อย. นำเทียนขนาดเล็ก เช่น เทียนทีไลท์หรือเทียนแบบอื่นๆ ที่มีลักษณะคล้ายกัน วางไว้ในช่องว่างใต้ถ้วยใส่น้ำ จากนั้นใช้ไม้ขีดไฟหรือไฟแช็คหัวยาวจุดเทียนให้เรียบร้อยและทิ้งไว้นาน 3-4 ชั่วโมงเพื่อกระจายกลิ่นหอมไปทั่วทั้งห้อง [9]
    • คอยสังเกตดูเทียนและเตาน้ำมันหอมระเหยในระหว่างการใช้งานเพื่อระวังไม่ให้เทียนดับไป
    • เมื่อน้ำที่เติมลงไปในถ้วยระเหยหายไปจนเกือบหมดหรือไม่มีน้ำมันหอมระเหยหลงเหลืออยู่ในน้ำแล้ว จึงเป่าเทียนให้ดับลงเพื่อเลิกใช้งาน
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

ใช้ก้านไม้หอมปรับอากาศ

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ตั้งก้านไม้หอมปรับอากาศไว้ตรงบริเวณกึ่งกลางของห้อง. ก้านไม้หอมปรับอากาศเป็นอุปกรณ์ที่แทบไม่มีตัวกระตุ้นใดๆ ในการกระจายกลิ่นไปรอบๆ ห้อง จึงจำเป็นต้องอาศัยการถ่ายเทอากาศเพื่อให้กลิ่นหอมสามารถกระจายออกได้อย่างทั่วถึงยิ่งขึ้น ดังนั้นเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด คุณจึงควรตั้งก้านไม้หอมปรับอากาศไว้ตรงบริเวณกึ่งกลางของห้องที่มีคนเดินผ่านไปมา [10]
    • คุณอาจวางก้านไม้หอมปรับอากาศไว้ตรงบริเวณทางเข้าของห้องเพื่อให้คุณได้กลิ่นหอมสดชื่นจากน้ำมันกลิ่นโปรดของคุณทุกครั้งที่เดินเข้าห้อง
  2. ก้านไม้หอมปรับอากาศโดยส่วนใหญ่จะมาคู่กับขวดที่ออกแบบให้จุน้ำมันได้ในปริมาณที่เพียงพอสำหรับส่งกลิ่นหอมออกมา เทน้ำมันหอมระเหยลงไปในขวดโดยระมัดระวังไม่ให้น้ำมันไหลล้นออกมา [11]
    • ก้านไม้หอมปรับอากาศจะแตกต่างจากอุปกรณ์กระจายกลิ่นจากน้ำมันหอมระเหยประเภทอื่นๆ ตรงที่คุณไม่สามารถเปลี่ยนกลิ่นใหม่ได้ง่ายๆ ดังนั้นคุณจึงควรเลือกน้ำมันหอมระเหยที่คุณสามารถใช้ได้ในระยะยาวโดยไม่เบื่อไปเสียก่อน
    • ไม่มีการกำหนดปริมาณที่แน่นอนสำหรับน้ำมันหอมระเหยที่ควรเติมลงไปในขวด โดยบางคนอาจเลือกเติมน้ำมันลงไปจนเต็มขวดเลยในครั้งเดียว ในขณะที่บางคนต้องการค่อยๆ เติมเพิ่มทีละน้อยเพื่อให้น้ำมันหอมระเหยสดใหม่อยู่เสมอ
  3. จับก้านไม้รวมเข้าด้วยกันและค่อยๆ เสียบลงไปในขวด จากนั้นแผ่ก้านไม้ให้กระจายออกจากกันและชี้ไปในทิศทางที่ต่างกันเพื่อให้กลิ่นหอมฟุ้งกระจายไปทั่วทั้งห้องได้อย่างทั่วถึงยิ่งขึ้น ก้านไม้จะเริ่มดูดซึมน้ำมันหอมระเหยขึ้นมาและค่อยๆ ส่งกลิ่นหอมจากน้ำมันไปทั่วทั้งห้องของคุณ [12]
    • ยิ่งคุณใช้ก้านไม้เป็นจำนวนมาก กลิ่นจากน้ำมันหอมระเหยก็จะยิ่งฉุนและแรงขึ้น ดังนั้นสำหรับห้องที่มีขนาดเล็กจึงอาจใช้ก้านไม้เพียง 2-3 ก้านเท่านั้น
    • การเสียบก้านไม้ลงไปในขวดอาจทำให้น้ำมันหอมระเหยไหลล้นออกมาได้หากคุณเติมน้ำมันลงไปจนเกือบเต็มขวด คุณจึงควรเสียบก้านไม้ลงไปในขวดอย่างระมัดระวังหรือถือขวดไว้เหนือซิงค์ล้างมือในขณะเสียบก้านไม้ลงไปเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำมันหกเลอะเทอะ
  4. กลับด้านก้านไม้ขึ้นลงเพื่อให้ส่งกลิ่นหอมอย่างสม่ำเสมอ. เมื่อเวลาผ่านไปประมาณสัปดาห์กว่าๆ คุณอาจสังเกตได้ว่ากลิ่นหอมจากน้ำมันหอมระเหยจะเริ่มจางลง ดังนั้นให้คุณกลับด้านก้านไม้ให้ด้านที่จุ่มในน้ำมันชี้ขึ้นข้างบนแทนก่อนเสียบกลับลงไปดังเดิม วิธีนี้จะช่วยให้กลิ่นจากน้ำมันหอมระเหยกลับมาหอมสดชื่นได้อีกกว่าสัปดาห์ก่อนที่คุณจะกลับด้านก้านไม้ซ้ำอีกครั้ง [13]
    • คุณอาจถือขวดไว้เหนือกระดาษเช็ดอเนกประสงค์ที่ปูรองไว้หรือซิงค์ล้างมือในระหว่างที่กลับด้านก้านไม้เพื่อรองน้ำมันที่อาจหกกระเด็นออกมา
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

เลือกน้ำมันหอมระเหย

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ใช้น้ำมันเลมอนที่ให้กลิ่นหอมสดชื่นและอมเปรี้ยวบางเบา. น้ำมันเลมอนเป็นที่นิยมใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ต่างๆ รวมถึงใช้เป็นน้ำมันหอมระเหยร่วมกับอุปกรณ์กระจายกลิ่นประเภทต่างๆ คุณสามารถใช้น้ำมันเลมอนเพื่อเติมเต็มกลิ่นหอมอมเปรี้ยวของเลมอนให้บ้านของคุณ นอกจากนี้ผลการศึกษาบางส่วนยังระบุว่าน้ำมันเลมอนมีคุณประโยชน์ในการลดความเครียดและช่วยให้อารมณ์ดียิ่งขึ้น [14]
    • ลองผสมน้ำมันเลมอน เปปเปอร์มินต์ และโรสแมรี่เข้าด้วยกันเพื่อสร้างกลิ่นหอมที่มีชีวิตชีวา [15]
  2. ใช้น้ำมันอบเชยที่ให้กลิ่นหอมหวานเหมือนขนมซินนามอนโรลอบใหม่ๆ. น้ำมันอบเชยจะให้กลิ่นที่หอมหวานและอบอุ่นมากกว่าน้ำมันเลมอน จึงเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับใช้ในช่วงฤดูหนาวที่มีบรรยากาศหม่นๆ คุณสามารถใช้น้ำมันอบเชยเพื่อให้บ้านของคุณอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมเหมือนขนมซินนามอนโรลที่เพิ่งออกจากเตาอบตลอดทั้งวัน [16]
    • ลองผสมน้ำมันส้ม ขิง และอบเชยเข้าด้วยกันเพื่อสร้างกลิ่นหอมในแบบฤดูใบไม้ร่วงที่เหมาะสำหรับเทศกาลขอบคุณพระเจ้า [17]
  3. ใช้น้ำมันลาเวนเดอร์ที่ให้กลิ่นหอมละมุนจากดอกไม้. เนื่องจากคุณประโยชน์ที่หลากหลาย น้ำมันลาเวนเดอร์จึงนับเป็นน้ำมันหอมระเหยที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุด คุณสามารถใช้น้ำมันลาเวนเดอร์เพื่อเติมเต็มกลิ่นหอมสดชื่นจากดอกไม้ให้บ้านของคุณรวมถึงช่วยให้คุณหลับสบายยิ่งขึ้นในยามค่ำคืน [18]
    • ลองผสมน้ำมันลาเวนเดอร์ เกรปฟรุต เลมอน และสเปียร์มินต์เข้าด้วยกันเพื่อสร้างกลิ่นหอมสดใสชวนให้นึกถึงฤดูร้อน [19]
  4. ใช้น้ำมันเปปเปอร์มินต์ที่ให้กลิ่นหอมเย็นชวนให้รู้สึกตื่นตัว. กลิ่นที่หอมฉุนแต่ยังคงความหวานอ่อนๆ ของน้ำมันเปปเปอร์มินต์จะช่วยเพิ่มความสดชื่นภายในบ้านอีกทั้งยังมีคุณสมบัติในการกระตุ้นให้คุณรู้สึกตื่นตัวและมีสมาธิยิ่งขึ้น คุณสามารถใช้น้ำมันเปปเปอร์มินต์เพื่อให้บ้านของคุณอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมเย็นจากมินต์ที่ทุกคนต่างคุ้นเคย [20]
    • ผสมน้ำมันเปปเปอร์มินต์และยูคาลิปตัสเข้าด้วยกันในปริมาณที่เท่าๆ กันสำหรับสูดดมเพื่อช่วยลดอาการคัดจมูกและทำให้คุณหายใจได้คล่องยิ่งขึ้น [21]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • เติมน้ำเปล่าลงไปให้เรียบร้อยทุกครั้งก่อนหยดน้ำมันหอมระเหยลงไป
  • เนื่องจากน้ำมันหอมระเหยเป็นสิ่งที่คุณจะต้องสูดดมเข้าไป คุณจึงควรแน่ใจว่าน้ำมันหอมระเหยที่คุณเลือกซื้อนั้นมาจากผู้ผลิตที่เชื่อถือได้
โฆษณา

คำเตือน

  • ปฏิบัติตามคำแนะนำในการใช้งานจากผู้ผลิตรวมถึงเช็คดูรายละเอียดการรับประกันทุกครั้ง
  • ระมัดระวังไม่ให้น้ำหกออกมาในระหว่างที่เครื่องกำลังทำงานเพื่อป้องกันการเกิดไฟช็อตหรือไฟดับ
  • การใช้น้ำมันหอมระเหยภายในบ้านอาจเป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงของคุณได้ ดังนั้นคุณจึงควรปรึกษาสัตวแพทย์หรือหาคำแนะนำจากอินเทอร์เน็ตก่อนเริ่มต้นใช้น้ำมันหอมระเหย
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 5,690 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา