ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
การส่งข้อความทาง SMS ผ่านมือถือนั้นเป็นวิธีติดต่อสื่อสารที่ง่ายดายและรวดเร็ว ใครๆ ก็หัดส่ง SMS ด้วยมือถือได้ ขอแค่อย่าใจร้อน หัดส่งตามขั้นตอนไป เดี๋ยวก็จะรู้สึกว่าส่งข้อความลื่นไหลเหมือนส่งอีเมลหรือคุยโทรศัพท์ บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการให้คุณเอง
ขั้นตอน
-
เลือก "Messages" ในเมนูหลัก. ถ้าใช้อุปกรณ์ของ Apple ไอคอนนี้จะหน้าตาเหมือนลูกโป่งคำพูดในการ์ตูน ถ้าใช้ Samsung Galaxy และโทรศัพท์อื่นๆ บางรุ่น ไอคอนจะเป็นซองจดหมายที่เปิดอยู่
-
เขียนข้อความใหม่. ถ้าใช้ iPhone ไอคอนจะโผล่มาที่มุมขวาบนของเมนู Messages หน้าตาเหมือนดินสอบนกระดาษ แตะแล้วจะมีหน้าต่าง new message หรือข้อความใหม่โผล่มา ถ้าเป็นมือถืออื่นๆ อาจจะต้องเลือก "Create New Message" จากในเมนู
-
เพิ่ม Contact ในข้อความ. คุณจะส่งข้อความถึงคนใน Contacts List หรือส่งไปที่เบอร์โทรใหม่ที่ยังไม่เคยเซฟใน contacts list ก็ได้ นอกจากนี้ยังเลือกส่งข้อความถึงผู้รับได้มากกว่า 1 คนด้วย
- พอเริ่มพิมพ์ชื่อผู้รับแล้ว มือถือจะแนะนำตัวเลือกขึ้นมาให้ ถ้ามีที่ต้องการก็แตะได้เลย แตะชื่อแล้วเบอร์ของเขาจะไปโผล่ในช่อง "To" โดยอัตโนมัติ
- หรือเลือกชื่อผู้รับจากใน Contacts List เพื่อเริ่มส่งข้อความเลย พอแตะชื่อในรายชื่อแล้ว ให้เลือก "Send Message" จากในตัวเลือกที่มี หน้าต่างใหม่ที่ถูกต้องจะโผล่มาในมือถือ
- ถ้าเคยส่งข้อความหาใครมาก่อนหน้านี้ ข้อความเก่าหรือข้อความที่ยังคุยค้างกันอยู่จะโผล่มาทันทีที่คุณเลือก "Messages" ในเมนูหลัก เลื่อนไปมาจนเจอบทสนทนาเก่าที่จะส่งข้อความต่อ
-
เขียนข้อความ. พอเลือกเคอร์เซอร์ที่กะพริบอยู่ในช่องพิมพ์ข้อความ คีย์บอร์ดจะโผล่ขึ้นมา ก็พิมพ์ข้อความที่จะส่งได้เลย
- หรือเลือกไอคอนรูปไมโครโฟนใกล้กับคีย์บอร์ดของ iPhone เพื่อส่งข้อความเสียงก็ได้ พอเลือกไอคอนนี้แล้ว ให้พูดอะไรที่อยากบอกผู้รับแบบเสียงดังฟังชัด ข้อเสียคือข้อความที่ปรากฏจะไม่มีเว้นวรรค แต่อย่างน้อยก็สะดวกดี สำหรับคนที่ยังไม่สะดวกหรือขี้เกียจใช้มือพิมพ์
- ระวัง auto-correct บางทีเวลาคุณพิมพ์อะไรผิดไป มือถือรุ่นที่ใช้จะเดาเอาเองว่าคุณจะพิมพ์คำว่าอะไร แล้วแก้ไขไปตามการคาดเดา ถ้าอยากใช้คำใหม่ที่เครื่องแนะนำ ให้เว้นวรรค คำที่ว่าจะโผล่มาในข้อความโดยอัตโนมัติ แต่ถ้าไม่อยากใช้คำที่แนะนำ ให้กด X เลย
-
ส่งข้อความ. พอพิมพ์ข้อความเสร็จแล้ว ก็แตะ send ได้เลย สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่จะแสดงข้อความของคุณกับผู้รับ สลับกันไปมาเหมือน "ลูกโป่งคำพูด" ในการ์ตูน เวลาย้อนดูหรือจะใช้อ้างอิงจะได้สะดวก
- iPhone และสมาร์ทโฟนอื่นๆ จะมีจุด 3 จุดขึ้นในลูกโป่งคำพูดตอนอีกฝ่ายกำลังพิมพ์ หลังจากนั้น 2 - 3 วินาที ข้อความถึงจะมาถึงคุณ เพราะงั้นถ้าเห็นไอคอนนี้โผล่มา จะได้รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังพิมพ์อยู่ รอเขาก่อน แล้วค่อยตอบไป จะได้ไม่พิมพ์แทรกกันไปมา
-
ส่งรูปหรือคลิปที่ต้องการ. ถ้าใช้อุปกรณ์ของ Apple ให้เลือกไอคอนกล้องถ่ายรูป ทางซ้ายของช่องพิมพ์ข้อความ แต่ถ้าเป็นสมาร์ทโฟนอื่นๆ ให้เลือก "Send Picture" ในตัวเลือกของข้อความเพื่อส่งรูป จะเลือกรูปที่ถ่ายไว้ในเครื่อง หรือถ่ายรูปใหม่เลยก็ได้ พอเลือกรูปแล้ว ให้แตะ "Use" และ "Send"
- หรือเลือกรูปจากใน Photo Album ก็ได้ ให้เลือก "Messages" ในตัวเลือก แล้วเลือก contact หรือผู้รับที่จะส่งรูปไปให้
-
ปรับแต่งตัวเลือกการส่งข้อความ. ให้ศึกษาตัวเลือกต่างๆ ของข้อความใน tab Settings ของมือถือ จะได้ปรับแต่งข้อความให้อ่านง่ายและมีสีสันยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังปรับค่าการแจ้งเตือนได้ ว่าให้โทรศัพท์สั่นเฉยๆ หรือมีเสียงตามที่เลือกด้วยเวลารับ-ส่งข้อความ
- ใน text settings (ไปที่ Settings แล้วเลือก Texting) คุณเปิดหรือปิด (On/Off) "Send Read Receipts" ได้ เป็นการแจ้งเตือนผู้รับเวลาคุณเปิดอ่านข้อความของเขา เหมาะสำหรับการรับ-ส่งข้อความในเวลาที่จำกัด เช่น บอกทาง หรือตอนส่งข้อความหาใครแบบลับๆ แบบนี้เขาเองก็ไม่ต้องลำบากตอบกลับว่า "โอเค" เพราะคุณรู้ว่าเขาอ่านแล้ว
โฆษณา
-
เลือกไอคอน Messages, Text หรือ SMS ในเมนูหลัก. SMS ย่อมาจาก Short Messaging Service มือถือแต่ละเครื่องก็ใช้คำแตกต่างกันไป ให้เลื่อนจนเจอไอคอนนี้ แล้วกดปุ่ม Select หรือ Enter
-
เลือก "Create New Message". แล้วช่องพิมพ์ข้อความจะโผล่มาในหน้าจอ
-
ใส่ชื่อผู้รับในแถบ address. จะพิมพ์เบอร์โทรในช่อง หรือคลิกอักษรแรกของคนที่ต้องการใน contact list แล้วเลื่อนลงไปเลือกชื่อเขาก็ได้
-
พิมพ์ข้อความด้วยแป้นพิมพ์. แต่ละตัวเลขในแป้นพิมพ์ก็แทนชุดตัวอักษร ปกติที่ปุ่มจะมีบอกอยู่แล้วว่ากดออกมาเป็นตัวอะไรได้บ้าง พอกดปุ่มตัวเลข ตัวอักษรตัวแรกในลำดับของปุ่มนั้นก็จะโผล่มา เช่น "2" ใช้พิมพ์ A, B และ C ถ้ากด 1 ทีก็จะออกมาเป็น A แต่ถ้าจะพิมพ์ B หรือ C ก็ต้องกด 2 เร็วๆ 2 และ 3 ทีตามลำดับ
- อย่างถ้าจะพิมพ์ "Hi" ก็ต้องกด 4 ต่อกันเร็วๆ 2 รอบ หยุด จากนั้นกด 4 ต่อกัน 3 รอบรัวๆ อาจจะต้องลองดูเองจนจับทางได้ว่าต้องรอนานแค่ไหนก่อนกดอีกที แต่ใช้ๆ ไปเดี๋ยวก็ชินเอง ถ้าพิมพ์ตัวไหนผิดไปก็ลบเฉพาะตัวนั้นแล้วพิมพ์ใหม่
-
ลองใช้โปรแกรมเดาข้อความ. T9 เป็นโปรแกรมสำหรับเดาคำที่ใช้บ่อย จะแนะนำขึ้นมาตอนคุณพิมพ์ตัวอักษรแรก เท่ากับต้องกดปุ่มตัวเลขแต่ละปุ่มแค่ทีเดียวต่ออักษร 1 ตัว ถ้าเป็นมือถือฝาพับรุ่นเก่าๆ ตามค่า default จะบังคับใช้โปรแกรมนี้ มือใหม่หัดส่ง SMS เลยมึนน่าดู แต่ถ้าชินเมื่อไหร่บอกเลยว่าจะพิมพ์ข้อความได้เร็วและง่ายขึ้นเยอะเลย
- อย่างถ้าจะพิมพ์ "Hi" ให้กด 4 ติดกัน 2 ครั้ง แล้ว T9 จะหาตัวอักษรที่น่าจะเป็น (GHI) แล้วแนะนำคำว่า "Hi" มาให้คุณ
- ถ้าจะใช้ T9 อย่าลืมตั้งมือถือเป็น "T9 mode" เวลาเปิดให้กดสี่เหลี่ยมหรือดอกจันที่แป้นพิมพ์
- ดูดีๆ ว่า T9 เดาถูกคำแล้ว เพราะคำว่า "good", "home" และ "gone" ก็สะกดโดยกด 4663 เหมือนกันหมด เพราะงั้นต้องเช็คว่าคำที่โผล่มาคือคำที่คุณต้องการ มือถือส่วนใหญ่จะให้กดดอกจันหรือสี่เหลี่ยมเวลาจะเปลี่ยนคำที่แนะนำ
-
เว้นวรรคเมื่อเลือกคำได้แล้ว. ปกติก็คือกด 0 แล้วพิมพ์คำใหม่ต่อได้เลย
- เว้นวรรคเมื่อไหร่ก็เท่ากับรีเซ็ต T9 ทีนี้ก็กดเลขหาคำใหม่ได้เลย
-
ใส่เครื่องหมายวรรคตอนโดยกด 1. ถ้าสังเกตจะเห็นว่าปุ่มหมายเลข 1 ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวอักษรไหนเลย เพราะเอาไว้ใช้พิมพ์เครื่องหมายวรรคตอนและอื่นๆ นั่นเอง
- กด 1 แค่ครั้งเดียวจะเห็น "." ถ้ากด 2 ครั้งเร็วๆ จะได้ "," ก็ให้กด 1 ไปเรื่อยๆ จนเจอเครื่องหมายวรรคตอนที่ต้องการ
-
เวลาจะส่งข้อความให้ไปที่ "Options" แล้วเลือก "Send".
- เวลาจะพิมพ์เบอร์โทรของผู้รับ ให้กดแป้นโดยตรง หรือเข้า "Phonebook" หาเบอร์เขาที่เซฟไว้
โฆษณา
-
ใช้ศัพท์วัยรุ่นกับตัวย่อแต่พองาม. จริงอยู่ว่าหลายคำ เช่น "LOL" กับ "LUV" เป็นอะไรที่คนแชทกันบ่อยจนใครก็รู้ความหมาย แต่พยายามอย่าละคำหรือใช้ตัวย่อเยอะจนอ่านไม่รู้เรื่อง โดยเฉพาะถ้าคุณไม่ได้จะส่งข้อความให้เพื่อนๆ โดยรวมแล้วถ้าพิมพ์คำเต็ม มีเครื่องหมายวรรคตอน แต่รวมกันแล้วเป็นข้อความสั้นกระชับได้ใจความจะดีกว่า
-
ระวังน้ำเสียง. พอพิมพ์และส่งข้อความจนคล่องแล้ว บางทีก็เผลอใช้คำห้วน สั้น กระด้างกว่าที่ตั้งใจไปบ้าง แบบนี้ต้องอ่านทวนเพราะคนอ่านไม่รู้น้ำเสียงของคุณ พยายามพ่วงคำว่า "thanks na ja" หรือ "ขอบคุณมากจ้า" เข้าไปบ้าง ก็จะน่าฟังขึ้น
- อย่าง "มารับหน่อย" ก็อ่านแล้วห้วนกว่า "เสร็จแล้ว มารับหน่อยน้า แต๊งจ้า!"
- อย่าแจ้งข่าวร้ายหรือเรื่องระคายหูทาง SMS แบบนั้นเก็บไว้บอกกันซึ่งหน้าหรือโทรคุยกันดีกว่า
-
แจ้งด้วยว่าได้รับข้อความแล้ว. เดี๋ยวนี้หลายคนเลือกใช้ SMS หรือแชทเป็นช่องทางแรกและช่องทางหลักในการติดต่อ พอใช้ไปนานๆ จนชิน บางทีก็หลงลืมไปว่าควรจะตอบกลับตอนไหน ยังไง กระทั่งควรตอบกลับไหม แนะนำว่าอย่างน้อยให้ตอบไปว่า "Ok", "Thanks" หรือจะภาษาไทยก็ได้ ขอแค่ให้เขารู้ว่าคุณได้รับและอ่านข้อความของเขาแล้ว ยิ่งโทรหาสั้นๆ ได้ยิ่งดี แสดงถึงความมีมารยาทไปในตัว
-
คุยแบบเห็นหน้าดีกว่าทางโทรศัพท์. สถานการณ์ไหนที่ไม่เหมาะจะคุยทางโทรศัพท์ ก็ยิ่งไม่เหมาะจะคุยทาง SMS ที่สำคัญคือไม่มีใครอยากนั่งกินข้าวกับคนที่เอาแต่เช็คข้อความในมือถือหรอกนะ
- ถ้าส่งข้อความในที่เงียบสงบอย่างห้องสมุดหรือโรงหนัง ต้องปิดการแจ้งเตือนซะ เพราะที่น่ารำคาญกว่าเสียงคุยในโรงหนัง ก็เสียงมือถือดังตื๊อดึ่งๆ ตลอดนี่แหละ
-
สั้นกระชับตรงประเด็น. SMS เหมาะสำหรับส่งข้อความหรือข้อมูลสั้นๆ แบบกระชับตรงประเด็น เพราะงั้นให้คิดก่อนพิมพ์ อย่าเว้นเยอะ รายละเอียดยิบย่อยเก็บไว้คุยกันตัวเป็นๆ สรุปไปเลยว่าคุณจะสื่ออะไร ไม่งั้นก็อย่าหงุดหงิดเวลาทักใครไปแค่ "hi" หรือ "ไง" แล้วเขาขี้เกียจส่ง SMS ตอบไปมาเหมือนแชทกัน [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- อยากถามหรือบอกอะไรใครก็พิมพ์ไปให้ครบถ้วนแต่สั้นกระชับ อย่ากั๊ก ทำเป็นทักนำร่องว่า "เป็นไงบ้าง" อย่างถ้าอยากนัดเพื่อนก็ส่งข้อความไปเลยว่า "เลิกงานแล้วไปกินซูชิกันไหม?" ถ้าอยากลงลึกกว่านี้ก็โทรหาเลย
โฆษณา
เคล็ดลับ
- มือถือมีด้วยกันหลายแบบ แต่ 2 แบบหลักๆ คือใช้คีย์แพดกับคีย์บอร์ด ถ้าเป็นคีย์แพดจะมีทั้งตัวเลขและตัวอักษร ส่วนคีย์บอร์ดจะเป็นแบบ QWERTY ที่ใช้กับคอม
- จะสะดวกกว่าถ้าตั้งให้มือถือใช้ “T9 mode” ได้ เป็นระบบเติมคำอัตโนมัติ แค่คุณเริ่มพิมพ์ โปรแกรมก็จะแนะนำคำที่น่าจะเป็นให้ โดยคาดเดาคำจากลำดับของการกดปุ่ม แต่ต้องตรวจทานอีกทีว่าใช่คำที่คุณต้องการหรือเปล่า
- มือถือส่วนใหญ่กดปุ่ม OK หรือ ปุ่มกลาง เพื่อส่งข้อความได้ ไม่ต้องกดตัวเลือกที่มีตลอด
- เช็คให้ดีว่าส่งข้อความถูกคน ไม่มีอะไรน่าสยองไปกว่า "จดหมายผิดซอง" อีกแล้ว
- ถ้าใช้ T9 ต้องเช็คก่อนส่งว่าคำที่โปรแกรมเติมมาให้อัตโนมัติถูกต้องแล้ว
- ฝึกใช้ปุ่ม “Select” (เลือก) ให้คล่อง รวมถึงวิธีใช้ “Phonebook” (สมุดรายชื่อ) ถ้ายังงงๆ ให้อ่านคู่มือที่ติดมากับมือถือ จะได้รู้ว่าฟีเจอร์ต่างๆ อยู่ที่ไหน ใช้ทำอะไรได้บ้าง
- หรืออีกทีคือเข้าเว็บส่ง SMS จากคอมไปยังมือถือซะเลย
โฆษณา
คำเตือน
- มือถือแต่ละเครื่องก็มีแป้นพิมพ์ (keypad) และตัวเลือกแตกต่างกันไป สงสัยตรงไหนให้อ่านคู่มือของมือถือรุ่นที่ใช้ จะได้รู้ว่าฟีเจอร์ต่างๆ ของเครื่องคุณเป็นยังไง
โฆษณา
สิ่งของที่ใช้
- มือถือที่ส่ง SMS ได้
ข้อมูลอ้างอิง
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 64,687 ครั้ง
โฆษณา
