ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ความเป็นปกตินั้นเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ขึ้นอยู่กับสถานที่ที่คุณอยู่ ณ ตรงนั้น เพราะไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัวว่าอะไรทำให้คุณเป็นคนปกติ อย่างไรก็ตาม ยังมีวิธีที่ทำให้คุณปรับตัวเข้ากับสิ่งรอบๆ ตัวได้เมื่อมีปัญหา ให้มุ่งเน้นไปที่การทำตัวให้มั่นใจ จากนั้นก็ให้ทำตามวิธีดังต่อไปนี้

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 4:

มั่นใจในตัวเอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าคุณสามารถลดความกังวลใจว่าคนอื่นจะคิดอย่างไรกับคุณได้ คุณจะรู้สึกมีความสุขมากขึ้นและรู้สึกเครียดน้อยลง เมื่อคุณรู้สึกมั่นใจในตัวเองมากยิ่งขึ้น คุณก็จะมีพฤติกรรมอย่างคนปกติได้ ยิ่งคุณกังวลกับการเป็นคนปกติน้อยเท่าใด คุณก็ยิ่งมั่นใจในตัวเองมากเท่านั้น
  2. ภาษากายจะทำให้คุณแสดงพฤติกรรมออกมาอย่างมั่นใจและเป็นการยืนยันตัวเองเมื่อคุณรู้สึกเขินอายและไม่มีสมาธิ มีหลักฐานใหม่ๆ ที่แสดงว่าการ “แสดงออกอย่างมีพลัง” สามารถเปลี่ยนสารเคมีในสมองได้ เพราะจะเกิดการหลั่งฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone) ซึ่งทำให้คุณรู้สึกเข้มแข็ง และยังลดปริมาณฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความเครียด [1]
    • ภาษากายที่สื่อถึงความมั่นใจนั้นคือการที่คุณเปิดใจตัวเอง ให้ยืนแขนขาตรง อกผายไหล่ผึ่ง อย่ายืนตัวงอหรือปิดส่วนต่างๆ ของร่างกาย เพราะการแสดงออกอย่างเป็นกังวลจะทำให้เกิดการหลั่งฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความเครียดมากขึ้น [2]
    • ก่อนที่คุณจะเข้าสู่สถานการณ์ที่ทำให้คุณประหม่า (เช่น พื้นที่สังคมใหม่ๆ ห้องเรียนใหม่ และการที่ต้องมีปฏิสัมพันธ์กับคนที่ล้อเลียนคุณ เป็นต้น) ให้ปลีกตัวออกไปอยู่คนเดียวและลองแสดงท่าทางถึงความมีพลังอย่างน้อย 2 นาที [3]
    • ลองใช้ “ท่าทางของวันเดอร์วูเมน” โดยการยืดไหล่ไปด้านหลัง วางมือบนสะโพก ยืนโดยวางเท้าให้เท่ากับความกว้างของหัวไหล่ และเชิดหน้าขึ้น
    • แม้แต่การนึกภาพตัวเองแสดงออกอย่างมั่นใจและเข้มแข็งก็สร้างความเปลี่ยนแปลงได้ ลองนึกภาพว่าตัวเองกำลังนั่งเอาเท้าวางบนโต๊ะ เอนหลังลงบนเก้าอี้และเอามือประสานกับศีรษะดู
    • พยายามยืนแบบยืดไหล่และเอามือวางไว้บนสะโพกเสมอ [4]
  3. ถ้าคุณพบว่าตัวเองกำลังลังเลใจ เช่น ถ้าซองใส่โทรศัพท์ของคุณนั้นผิดปกติ ให้ลองดูแล้วประเมินสถานการณ์ ดังนี้ ถ้าสิ่งนี้จำเป็นต่อการงานและวิถีชีวิตของคุณ แสดงว่ามันเป็นสิ่งที่คุณควรจะพกติดตัวเสมอ แต่ถ้าคุณสามารถเก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าแทนได้ ก็ไม่จำเป็นต้องนำติดตัวมาด้วยให้คนอื่นดูถูก การให้เหตุผลแบบนี้จะทำให้คุณมีความรอบคอบมากขึ้น ทั้งนิสัยและการกระทำ นอกจากนี้ยังทำให้มีความมั่นใจมากขึ้นอีกด้วย
  4. คุณควรจะตระหนักถึงวิธีที่คุณจะมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น และควรจะรู้ว่าคนอื่นๆ นั้นไม่ได้ตระหนักถึงบุคลิกที่แปลกจากสังคมทั่วไป (Idiosyncratic tendency) ของคุณ เมื่อคุณต้องรับมือกับสิ่งนี้ ให้ลองถามและให้พวกเขาได้อธิบาย พยายามสร้างบทสนทนาในหัวข้อที่คุณสบายใจที่จะพูด แล้วคุณจะรู้สึกว่าตัวเองโดดเด่นน้อยลง
  5. แน่นอนว่าคุณไม่จำเป็นต้องเป็นคนสูงและผอมเพื่อให้เข้ากับสังคมได้ อย่างไรก็ตาม การทานอาหารและออกกำลังกายก็สามารถพัฒนาการทำงานของร่างกายและจิตใจได้ในระยะยาว ความมั่นใจจากการรู้สึกดีในตัวเองจะช่วยให้คุณยอมรับตัวเองและแสดงออกกับคนรอบตัวคุณได้อย่างมั่นใจ
    • ทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ลองทานอาหารที่มีทั้งโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ผลไม้ ผัก และไขมันในทุกๆ วัน อย่างไรก็ตาม คุณไม่จำเป็นต้องหมกมุ่นอยู่กับสุขภาพของตัวเองเพื่อมีสุขภาพที่ดี การทานไอศกรีมสักโคนหรือทานมันฝรั่งทอดสักถุงนั้นก็ไม่เสียหายอะไร แต่พยายามอย่าทานสิ่งเหล่านี้มากเกินไป ถ้าคุณเลือกทานแต่พอดี การทานอาหารเหล่านี้เป็นครั้งคราวก็มีความสำคัญต่อสุขภาพของคุณ
    • ออกกำลังกายให้มาก ถ้าคุณใช้เวลาไปกับการดูโทรทัศน์ ให้ลุกออกจากโซฟาแล้วไปสูดอากาศนอกบ้าน ออกไปปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ หรือเดินเล่นก็ได้ การทำกิจกรรมเคลื่อนไหวออกแรง (Physical activity) จะทำให้คุณมีสุขภาพที่ดีและมีหุ่นที่สวย
  6. คนส่วนใหญ่ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม การลองทำสิ่งใหม่ๆ ก็เป็นสิ่งสำคัญในการขยายขอบเขตของตัวเรา แม้ว่าคุณจะชอบทำหรือไม่ก็ตาม คุณจะได้เรียนรู้ตัวเองและกิจกรรมที่คุณได้ทำลงไป ลองหางานอดิเรกที่ทำกับเพื่อนๆ ได้ เพราะจะช่วยให้คุณมั่นใจในตัวเองมากยิ่งขึ้น
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 4:

ปรับตัวเข้ากับสิ่งรอบด้าน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. โดยเฉพาะถ้าคุณมาจากต่างวัฒนธรรม คุณอาจจะมีปัญหากับการตั้งตัวสร้างสังคมเมื่อคุณอยู่ที่นั่นใหม่ๆ ให้ลองหาคนที่มีพื้นฐานใกล้เคียงกับคุณ จำไว้ว่าในขณะที่คุณพยายามปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่อยู่นั้น คุณจะได้ประโยชน์จากการอยู่รอบๆ คนที่คุณรู้ว่าคุณมาจากที่ไหน ซึ่งจะช่วยให้คุณรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนปกติ ได้รับการช่วยเหลือและความเข้าใจ [5]
    • ลองค้นหากลุ่มพบปะกันบนอินเทอร์เน็ต มองหากลุ่มที่ศูนย์ชุมชนใกล้บ้านของคุณ กลุ่มคนบ้านเดียวกันในมหาวิทยาลัย หรือลองไปสถานที่ทางศาสนาของคุณดูก็ได้
  2. การพยายามไม่ทำตัวโดดเด่นในทางที่ไม่ดีนั้นเป็นสิ่งที่ยุ่งยาก โดยเฉพาะการแต่งกาย นอกเหนือจากชุดประจำวัฒนธรรมที่คุณอาศัยอยู่แล้วนั้น พยายามอย่าแต่งตัวที่ดูพื้นๆ มากกว่าคนรอบๆ ตัวคุณ โดยเฉพาะในที่ทำงานถือเป็นเรื่องที่สำคัญ แต่การแต่งตัวก็เป็นสิ่งที่แนะนำกันได้ในแวดวงสังคมเช่นกัน [6]
    • การเลียนแบบจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นในตัวเอง เมื่อคุณเห็นตัวเองแต่งกายหรือมีพฤติกรรมที่เหมือนกับคนที่คุณชื่นชม ความมั่นใจของคุณก็จะเพิ่มขึ้น และความไม่แน่วแน่ในตัวเองก็จะลดลง [7]
    • จนกว่าคุณจะเริ่มรู้สึกมั่นใจและผ่อนคลายจากความเสี่ยงด้านการแต่งกาย การยืนยันตัวเองด้วยการเลียนแบบจะทำให้คุณรู้สึกเข้มแข็งขึ้นและได้ติดต่อกับผู้คนมากยิ่งขึ้น [8]
  3. การปรับตัวกับสิ่งรอบข้างนั้นไม่ใช่แค่นำวัฒนธรรมใหม่มาใช้ แต่ต้องปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ในทุกๆ วันด้วยเช่นกัน เมื่อคุณถึงห้อง ให้สังเกตคนที่อยู่ในห้องนั้น ถ้าทุกคนดูเหมือนจะมีอารมณ์รุนแรง อย่าทำอะไรที่ดูเหมือนจะตรงกันข้ามกับอารมณ์ของสถานการณ์นั้น คุณอาจไปทำให้คนที่กำลังโศกเศร้ากันเต็มห้องให้เสียใจและแปลกแยกจากคุณได้โดยการเล่าเรื่องตลกลามก
    • สังเกตภาษากายและการแสดงออกของคนในห้อง พวกเขายิ้มหรือไม่ หรือพวกเขาหน้านิ่งและไร้อารมณ์ พวกเขาแสดงออกอย่างง่ายๆ สบายๆ หรือเคร่งเครียด พยายามสังเกตให้เห็นและปรับตัวเข้ากับพวกเขาให้ได้
    • พวกเขาพูดกันด้วยเสียงเบา เสียงปกติ เสียงดัง หรือหัวเราะสุดเสียง
  4. พยายามมีพฤติกรรมและทำกิจกรรมที่เหมือนกับคนรอบตัวคุณ. ส่วนหนึ่งของการทำให้คนอื่นรู้สึกว่าคุณเป็น “พวกเดียวกับพวกเขา” ก็คือการแสดงพฤติกรรมที่เหมือนกับพวกเขา อย่างไรก็ตาม การเลือกทำก็ต้องระมัดระวังให้ดี เพราะกิจกรรมนั้นเป็นเหมือนบรรทัดฐานสังคมอย่างหนึ่ง ไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนทำแล้วจะไม่ผิด ดังนั้น พยายามอยู่ห่างๆ จากพฤติกรรมที่ไม่ปลอดภัยและไม่ดีต่อตัวเองแม้ว่ามันจะทำให้คุณไม่เข้ากับสังคมก็ตาม เช่น ดื่มสุราจนเมา เสพติดยาที่ผิดกฎหมาย [9]
    • ถ้าทุกคนในกลุ่มของคุณคลั่งไคล้กีฬาฟุตบอล ให้พยายามทำเป็นสนใจด้วยเช่นกัน เข้าร่วมการแข่งขันและเรียนรู้พื้นฐานการเล่นเอาไว้ ถ้าคุณรู้สึกเบื่อ คุณก็ไม่ต้องไปยึดติดอยู่กับมัน แต่ก็พยายามฝืนใจทำไป
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 4:

มีทักษะการมีปฏิสัมพันธ์ที่ดี

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ในทางกลับกัน คุณสามารถโดดเด่นออกมาได้ด้วยการหลีกเลี่ยงกิจกรรมทางสังคม พยายามอย่าเสียเพื่อนหรือกีดกันเพื่อนร่วมงานออกไปโดยการปฏิเสธคำเชิญของพวกเขาครั้งแล้วครั้งเล่า การออกสังคมนั้นอาจจะเป็นสิ่งที่น่ากลัว โดยเฉพาะถ้าพวกเขาอยู่กับคนที่ไม่ทันได้รู้จักดี คุณคงไม่ได้มีช่วงเวลาตามที่คุณต้องการตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการมีส่วนร่วมกับกิจกรรมทางสังคมที่กว้างขวางจะทำให้คุณรู้สึกเป็นคนปกติและเข้าถึงได้มากขึ้น
  2. วิธีที่ง่ายที่สุดในการทำก็คือการเปิดใจที่จะสร้างเพื่อนในทุกๆ ที่ที่คุณไป พยายามอย่ากังวลกับการเข้าร่วมกลุ่ม หรือแม้แต่คนที่คุณชอบ ถ้าคุณสามารถเข้าไปพวกเขาได้ดี ความเป็นเพื่อนก็จะเป็นธรรมชาติและเป็นปกติอย่างสมบูรณ์ การมีเพื่อนจะทำให้คุณแสดงออกว่าคุณเป็นคนที่เข้าถึงได้
  3. สังคมมักคิดถึงคนที่ชอบอยู่ท่ามกลางผู้คนในแง่ดี การเป็นคนงี่เง่ากับเพื่อนสนิทที่คุณสบายใจที่จะอยู่ด้วยนั้นก็เป็นนิสัยตามธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณตั้งเป้าหมายที่จะสร้างความประทับใจที่ดี ก็พยายามทำตัวให้สุภาพเข้าไว้
  4. การพบปะคนใหม่ๆ นั้นเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น แต่อย่าลืมว่ายังมีช่วงเวลาที่จะพูดคุยกับเพื่อ “ละลายพฤติกรรม” (Ice breaker) ก่อนที่คุณจะรู้สึกสบายใจต่อกันและกัน อย่าพยายามทำตัวใกล้ชิดมากเกินไป หรือพูดเรื่องส่วนตัวในบทสนทนา (เช่น ปัญหาสุขภาพ รสนิยมทางเพศ เหตุการณ์เฉียดตาย เป็นต้น) จนกว่าคุณจะรู้จักกันดีพอ ในขณะที่คุณกำลังทำความคุ้นเคยกับเพื่อนใหม่ ให้พยายามเลือกการใช้ภาษาของตัวเองให้ดีโดยไม่ทำให้พวกเขารู้สึกแปลกแยก
  5. การมีอารมณ์ที่รุนแรงนั้นเป็นเรื่องปกติ บางทีก็เป็นสิ่งที่คนต้องการแสดงออกมา อย่างไรก็ตาม การแสดงออกมากเกินไป (โดยเฉพาะอารมณ์โกรธและเศร้า) จะทำให้คนอื่นรู้สึกอึดอัดได้ พยายามควบคุมการตอบสนองทางอารมณ์กับเรื่องเล็กๆ ของตัวเองและแสดงอารมณ์ในทางที่สร้างสรรค์ อย่าตะโกน ขว้างปาสิ่งของ ด่าทอ และทำร้ายร่างกาย เมื่อใดก็ตามที่เป็นไปได้ ให้ปลดปล่อยความไม่พอใจออกมาอย่างสงบ เงียบ และสุภาพ
    • ถ้าคุณโมโหง่ายหรือมีเหตุผลที่คิดว่าคุณนั้นมีความเครียด อย่ากลัวที่จะติดต่อกับนักบำบัดหรือที่ปรึกษา การพูดคุยกับนักบำบัดไม่ได้หมายความว่าคุณเป็นคน “บ้า” การทำแบบนี้เป็นเหมือนเสียงแห่งสวรรค์ที่ช่วยให้คุณก้าวพ้นความยากลำบากมาได้ หรืออาจจะเป็นอย่างอื่นที่สำคัญกว่านั้น
  6. การมีความคิดที่เครียดเกี่ยวกับสิ่งๆ หนึ่งเป็นเรื่องปกติ เช่น ปัญหาการเมือง เป็นต้น การประสบกับการโต้เถียงด้วยเหตุผลที่อ่อนไหวกับคนอื่นๆ นั้นไม่ได้เป็นเรื่องที่เสียหาย อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณล้อเลียนหรือโจมตีคนอื่นบ่อยเกินไปเนื่องจากความคิดของพวกเขาไม่ตรงกับคุณ คุณอาจจะพบว่าตัวเองนั้นเป็นคนนอกคอก ดังนั้น ให้เปิดใจรับฟังความเห็นของผู้อื่นและเป็นคนใจกว้างเอาไว้
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 4:

เป็นคนสะอาดและเป็นระเบียบ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ดูแลรักษาบ้านหรือห้องเช่าให้สะอาดและเรียบร้อยอยู่เสมอ. บ้านที่เต็มไปด้วยสิ่งสกปรกและเปลือกลูกอมจะสร้างความประทับใจที่แย่ให้กับแขกที่มาบ้านคุณ คนส่วนใหญ่มักจะภูมิใจกับการอวดบ้านที่สะอาด มีสภาพนอกบ้านที่สวยงาม ดังนั้น แสดงให้แขกเห็นว่าคุณนั้นสามารถทำงานบ้านพื้นฐานได้
  2. การเป็นคนสกปรกซกมกสามารถเห็นได้ชัดเจนแม้จะไม่ได้อยู่บ้านก็ตาม ดังนั้น การรักษาความสะอาดเป็นการกระทำที่ควรแต่ทำพอดี เพราะว่าจะทำให้คนอื่นตกใจได้ง่าย พยายามอยู่ตรงกลางระหว่างการเป็นคนเจ้าระเบียบเกินไปและซกมกเกินไปจนไม่สนใจทำความสะอาด [10]
  3. หาเวลาในการดูแลรูปร่างและความสะอาดของตัวเอง. ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมมนุษย์ถึงพัฒนาการทำความสะอาดตัวเองเป็นกิจวัตรประจำวัน การรักษาความสะอาดและการดูแลตัวเองเป็นประจำนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญต่อรูปลักษณ์ภายนอกเช่นเดียวกับสุขภาพทางกายและสุขภาพทางจิต การทำความสะอาดเป็นกิจวัตรประจำวันเป็นวิธีที่ทำให้คุณดูสะอาดได้โดยไม่ต้องพยายามอะไรมากมาย และคนรอบๆ ตัวก็จะชื่นชมในความสะอาดของคุณ
    • แปรงฟันและใช้ไหมขัดฟัน การใช้ไหมขัดฟันทุกวันจะช่วยให้ฟันของคุณนั้นสวยงามและสะอาดอยู่เสมอ
    • ใช้สารดับกลิ่นตัวทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน กลิ่นตัวที่เหม็นจะทำให้คนรอบข้างเกิดความประทับใจในทางที่แย่ได้เร็วที่สุด ถ้าคุณมีกลิ่นตัวที่แรงมาก ให้พบแพทย์เพื่อให้แพทย์แนะนำสารดับกลิ่นตัวให้กับคุณ [11]
    • แม้ว่าคุณจะไว้ผมยาว ก็ขอให้คอยตัดผมเป็นประจำ แต่คุณก็ไม่จำเป็นต้องตัดผมบ่อยๆ เส้นผมที่ได้รับการดูแลอย่างดีก็สร้างความประทับใจได้
    โฆษณา

คำเตือน

  • อย่าปล่อยให้คนอื่นมาเปลี่ยนตัวตนของคุณ หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของตัวเอง นอกเสียจากคุณได้พิจารณาและตัดสินใจแล้วว่าสิ่งเหล่านั้นเข้ากับตัวคุณ
  • การเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมไม่ได้หมายความว่าคุณต้องรับอิทธิพลจากคนรอบข้าง (Peer pressure) หลีกเลี่ยงการเข้ากลุ่มหรือออกไปเที่ยวในที่ที่พยายามบังคับให้คุณทำพฤติกรรมที่ไม่ปลอดภัยต่อตัวเอง เพื่อนแท้จะไม่บังคับคุณให้ทำอะไรก็ตามที่ทำให้คุณรู้สึกอึดอัด
  • พูดคุยกับนักบำบัดหรือเพื่อนที่คุณไว้ใจเพื่อปรึกษาเรื่องความเป็นคนปกติ พวกเขาสามารถแนะนำคุณในการปฏิบัติตัวในสถานการณ์บางอย่างได้
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 34,024 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา