PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

ถ้าพูดกันในแง่การรักษาความปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์แล้ว แฮกเกอร์ก็คือคนที่จ้องเจาะกลไกการรักษาความปลอดภัยของคอมพิวเตอร์และระบบเครือข่ายต่างๆ นั่นเอง สมัยก่อนมีกลุ่มวัฒนธรรมร่วมของชุมชนเซียนคอมเซียนระบบทั้งหลายที่ย้อนรอยกลับไปได้เป็นหลายสิบปี ตั้งแต่สมัยยังเป็น minicomputer แบบ time-share และการทดลองเครือข่าย ARPAnet นู่น สมาชิกกลุ่มวัฒนธรรมนี้นี่แหละที่เรียกได้ว่าเป็น "แฮกเกอร์" รุ่นบุกเบิก เวลาดูหนังเรามักเห็นแฮกเกอร์เจาะเข้าไปในคอมหรือระบบโทรศัพท์จนกลายเป็นภาพชินตาไป แต่จริงๆ แล้วมันมีตื้นลึกหนาบางและถูกทำนองคลองธรรมมากกว่านั้น มาเรียนรู้เทคนิคขั้นพื้นฐานของการเป็นแฮกเกอร์ รวมถึงวิธีคิดแบบแฮกเกอร์ และการเป็นที่ยอมรับ มีตัวตนในโลกที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อนของแฮกเกอร์กันดีกว่า

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

มือใหม่หัดแฮก

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. Unix ก็คือระบบปฏิบัติการของอินเทอร์เน็ต ถึงคุณจะใช้เน็ตได้โดยไม่ต้องรู้ด้วยซ้ำว่า Unix มีตัวตนอยู่ แต่ถ้าไม่รู้จักแล้วคิดจะแฮกอินเทอร์เน็ตนี่ถือเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย เพราะเหตุนี้เลยเรียกได้ว่าวัฒนธรรมการแฮกในปัจจุบันนั้นมี Unix เป็นจุดศูนย์กลาง Linux ที่แทบจะถอดแบบมาจาก Unix นั้นสามารถใช้งานควบคู่ไปกับ Microsoft Windows ได้ในเครื่องเดียว คุณดาวน์โหลด Linux ได้จากในเน็ต หรือจะขอความช่วยเหลือจากกลุ่มผู้ใช้ Linux ด้วยกันว่าต้องติดตั้งยังไง [1]
    • วิธีชิมลางง่ายๆ คือ boot เครื่องจากสิ่งที่ชาว Linux ทั้งหลายเรียกกันว่า live CD หรือก็คือ distribution ที่ใช้งานได้เต็มที่จากแผ่น CD โดยไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับ hard disk ของคุณแต่อย่างใด จะได้พอรู้ว่ามันใช่อย่างที่คุณคิดไหม โดยไม่เสี่ยงคอมเจ๊งแต่อย่างใด
    • นอกจาก Unix แล้วก็ยังมีระบบปฏิบัติการอื่นอีก แต่อยู่ในรูปแบบของ binary พูดง่ายๆ ว่าถ้าอ่านเขียนโค้ดไม่เป็นก็ปิ๋วไป เอาให้เห็นภาพกว่านั้นก็คือถ้าดันทุรังจะหัดแฮกด้วยคอมแบบ Microsoft Windows หรือระบบปิดอื่นๆ ก็เหมือนคุณอุตริจะเรียนเต้นรำทั้งที่ใส่เฝือกซะแข็งโป๊กทั้งตัวนั่นแหละ
    • ใน Mac OS X ก็ใช้ Linux ได้เหมือนกัน แต่เพราะระบบเป็น open source แค่บางส่วน เพราะงั้นก็เตรียมเจอทางตันเป็นพักๆ ได้เลย แถมยังต้องคอยระวังไม่ให้เผลอชินกับโค้ดเฉพาะของ Apple จนเสียนิสัยอีกต่างหาก
  2. ถ้าเขียนโปรแกรมไม่เป็น ให้เริ่มจากการเรียน HyperText Mark-Up Language หรือ HTML ขั้นพื้นฐานก่อน และสำคัญสุดๆ ที่จะต้องฝึกฝนจนวิชาแก่กล้า เวลาเข้าเว็บไหนก็ตาม ทุกสิ่งทุกอย่างในสายตาคุณไม่ว่าจะเป็นรูปถ่าย ภาพประกอบ และองค์ประกอบที่รวมกันขึ้นเป็นเว็บนั้นต่างก็ถือกำเนิดเกิดมาจาก HTML ด้วยกันทั้งนั้น ขั้นแรกคือต้องสร้างหน้า home page แบบพื้นๆ ให้ได้ซะก่อน แล้วค่อยไต่เต้าจากตรงนั้น
    • พอเปิดเบราว์เซอร์แล้วให้มองหา source information ของหน้านั้นเพื่อเจาะ HTML มาดูเป็นตัวอย่าง โดยไปที่ Web Developer > Page Source ใน Firefox แล้วใช้เวลาขลุกอยู่กับโค้ดให้มากๆ
    • คุณเขียน HTML ในโปรแกรม word processor ทั่วไปอย่าง Notepad หรือ Simple text ก็ได้ แล้วเซฟไฟล์เป็น "text only" จะได้เอาไปอัพโหลดขึ้นเบราว์เซอร์ให้ได้เห็นหน้าค่าตากันว่าออกมาเป็นยังไง [2]
    • นอกจากนี้คุณต้องรู้จักฟอร์แมต tag ต่างๆ แล้วหัดแทนที่ tag พวกนั้นออกมาเป็นภาพสำเร็จจากในหัว [3] "<" นั้นใช้เปิด tag ส่วน "/> นั้นใช้ปิดท้าย ส่วน "

      " นั้นใช้เปิดบรรทัดของโค้ดย่อหน้า เว็บของคุณจะออกมาหน้าตายังไงล้วนขึ้นอยู่กับ tag ที่คุณเลือกใช้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะทำตัวเอียงตัวหนา ฟอร์แมตต่างๆ กระทั่งสีสันและอื่นๆ อีกมากมาย ถ้าใช้ HTML จนเชี่ยวชาญแล้ว คุณจะเข้าใจถ่องแท้ว่าอินเทอร์เน็ตนั้นทำงานยังไง

  3. ก่อนจะแต่งกลอนเป็นก็ต้องเรียนเขียนอ่าน ก่อนจะคิดแหกกฎก็ต้องเข้าใจทุกกฎระเบียบอย่างถ่องแท้เช่นกัน และถ้าฝันจะเป็นแฮกเกอร์กับใครเขาแต่รู้แค่ภาษาอังกฤษและไทยขั้นพื้นฐานละก็ คงจะต้องนอนฝันกันต่อไป [4]
    • Python นี่แหละ "ภาษา" ที่คุณควรเริ่มเรียนรู้เป็นตัวแรก เพราะไม่ซับซ้อนจนเกินไป เป็นระบบระเบียบเข้าใจง่าย เหมาะสุดๆ สำหรับมือใหม่หัดเรียน แต่ถึงจะพูดแบบนั้น ภาษานี้ก็ไม่ใช่เล่นๆ นะ ถือว่าทั้งทรงพลังและยืดหยุ่น รองรับโปรเจ็คต์ใหญ่ๆ ได้สบาย ส่วน Java นั้นเป็นภาษาทางเลือก แต่ก็ไม่ค่อยดึงดูดใจให้ใช้เป็นภาษาแรกสำหรับมือใหม่หัดเขียนโค้ดสักเท่าไหร่ [5]
    • ถ้าคิดดีแล้วว่าอยากจะเขียนโค้ดแบบจริงจัง ก็ต้องเรียนภาษา C ซึ่งเป็น core language หรือภาษาหลักของ Unix โดยด่วน ส่วนภาษา C++ นั้นเป็นญาติใกล้ชิดสนิทกันกับภาษา C ถ้ารู้ตัวใดตัวหนึ่งแล้ว จะเรียนอีกภาษาก็ไม่มีปัญหาอะไรเลย ภาษา C นั้นใช้จัดการทรัพยากรต่างๆ ภายในเครื่องได้เป็นอย่างดี แต่คุณจะมาเสียเวลามหาศาลเอาตอน debug นี่แหละ เพราะแบบนี้คนเขาถึงไม่ค่อยนิยมกัน เว้นแต่เรื่องการทำงานอย่างเปี่ยมประสิทธิภาพของคอมจะเป็นเรื่องใหญ่สำหรับคุณจริงๆ
    • เราแนะนำให้ใช้แพลตฟอร์มเริ่มต้นอย่าง Backtrack 5 R3, Kali หรือ Ubuntu 12.04LTS
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

รู้ใจแฮกเกอร์

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ตอนนี้พอมีทักษะเบื้องต้นที่จำเป็นแล้ว ก็ถึงเวลาใช้สมองซีกขวากันแล้ว แฮกเกอร์เหมือนเป็นทั้งศิลปิน นักปรัชญา และวิศวกรในคนเดียว เพราะเชื่อในอิสรภาพและความรับผิดชอบร่วมกัน มองว่าโลกนี้เต็มไปด้วยปัญหาน่าแก้เต็มไปหมด แฮกเกอร์จะสุขสุดๆ ก็ต่อเมื่อได้แก้ปัญหา ลับคมทักษะ และประลองปัญญา
    • นอกจากการแฮกแล้วแฮกเกอร์นั้นมีความสนใจที่หลากหลาย ทั้งด้านวัฒนธรรมและวิชาการ เป็นประเภทที่ได้แฮกแล้วสนุกสุดเหวี่ยงเหมือนเล่นเกม แต่นอกเวลาก็จริงจังกับการเล่นซะยังกับเป็นงานประจำ พูดง่ายๆ คือสำหรับแฮกเกอร์แล้ว ไม่มีเส้นแบ่งระหว่างคำว่า "เล่น" "ทำงาน" "วิทย์" และ "ศิลป์" เรียกได้ว่าผสมผสานกลายเป็นการละเล่นเชิงสร้างสรรค์ขั้นสุดดีๆ นี่เอง
    • แฮกเกอร์น่ะส่วนใหญ่แฟน Sci-Fi ตัวยงกันทั้งนั้น ลองแวะเวียนไปตามงาน Sci-Fi convention ดูบ้าง เป็นแหล่งรวมแฮกเกอร์ทั้งมือใหม่ มือกลาง มือเก๋าเลยล่ะ จะลองฝึกพวกศิลปะป้องกันตัวด้วยก็ดี เพราะได้ฝึกสมาธิไปในตัว เวลาแฮกจะได้ไม่วอกแวกง่ายๆ ไงล่ะ ให้เลือกศิลปะป้องกันตัวแบบที่เอื้อต่อการเป็นแฮกเกอร์ อย่างพวกเน้นฝึกสมาธิ สติ ขันติ อะไรพวกนี้ ไม่ใช่เน้นพวกใช้แรง ฝึกความคล่องตัว หรือมาแนวอึดถึกทนอะไรแบบนั้น Tai Chi หรือ "ไทเก็ก" นี่แหละเหมาะสุดๆ ไปเลย
  2. ปัญหาไหนๆ ก็ควรจะแก้แบบม้วนเดียวจบ คิดซะว่าเป็นเหมือนชุมชนที่มีแฮกเกอร์เป็นสมาชิกคนสำคัญ แฮกเกอร์เชื่อว่าการแชร์ข้อมูลกันเป็นเรื่องของความรับผิดชอบด้านศีลธรรม ถ้าแก้ปัญหาอะไรได้ก็ควรจะแชร์วิธีให้รู้ทั่วกัน คนอื่นเขาจะได้ไม่ประสบปัญหาแบบเดียวกันอีก
    • เราไม่ได้บังคับให้คุณต้องแชร์ทุกผลงานที่คุณสู้อุตส่าห์สร้างสรรค์ แต่รู้ไว้ใช่ว่า แฮกเกอร์ที่ทำแบบนั้นนั่นแหละ ที่จะเป็นที่ยอมรับในหมู่แฮกเกอร์ด้วยกัน ถ้าขายข้อมูลจนพอเลี้ยงตัว มีบ้านช่อง และคอมพิวเตอร์เจ๋งๆ อย่างที่ฝันแล้ว จะต้องการอะไรไปมากกว่านี้อีกล่ะ
    • ขยันอ่านงานเก่าๆ แต่เก๋าอย่าง "Jargon File" หรือ "Hacker Manifesto" โดย The Mentor ถ้าพูดกันด้านเทคโนโลยีแล้วอาจมีล้าหลังไปบ้าง แต่แง่คิดและจิตวิญญาณความเป็นแฮกเกอร์นี่ยังเต็มร้อย [6]
  3. รู้เท่าทันและยืนหยัดต้านอำนาจอันไม่ชอบธรรม. ศัตรูที่แท้จริงของแฮกเกอร์คือความเบื่อหน่าย ซ้ำซากจำเจ และผู้มีอำนาจที่ปกปิดและบิดเบือนข้อมูลที่แท้จริง ส่วนงานไหนที่ซ้ำจำเจก็ทำเอาแฮกเกอร์ไปไม่เป็นได้เหมือนกัน
    • คิดจะแฮกเป็นชีวิตจิตใจ ต้องลืมไปซะ ไอ้การทำงานและการเป็นเจ้าข้าวเจ้าของแบบ "คนทั่วไป" เพราะเส้นทางนี้มีแต่ต้องต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมและเพื่อแบ่งปันความรู้ให้ทั่วถึงกัน
  4. ใครๆ ก็สิงอยู่ใน Reddit ใช้ user name แบบพยายามจะ cyberpunk แล้วทำตัวเป็นแฮกเกอร์ได้ แต่โชคดีที่โลกอินเทอร์เน็ตยังมีตา สุดท้ายคนมีความสามารถก็เหนือกว่าพวกอีโก้ท่าดีทีเหลวเสมอ ขอให้อย่าท้อ หมั่นฝึกมือไว้ไม่ใช่ฝึกสร้างภาพ คนเขาจะได้ยกย่องความสามารถ ไม่ใช่ดีแต่ทำตัวเป็นแฮกเกอร์แบบผิวเผินเพราะจำมาจาก "ในหนัง" มากไป
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

แฮกดีแฮกเด่นไม่เป็นภัย

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. เขียนโปรแกรมที่พวกแฮกเกอร์ด้วยกันชอบ ใช้แล้วสนุก มีประโยชน์ แล้วอย่าลืมเผยแพร่โค้ดของโปรแกรมด้วยจะได้ช่วยกันสร้างเสริมสังคมนักแฮก พวกเทพๆ ในวงการแฮกน่ะคือพวกที่สามารถเขียนโปรแกรมใหญ่ๆ เจ๋งๆ ตอบโจทย์คนหมู่มากได้ แล้วยังใจกว้างแชร์ให้กันฟรีๆ อีกต่างหาก ทุกคนจะได้ช่วยกันใช้ช่วยกันพัฒนาต่อๆ ไป
  2. ช่วยคนอื่นทดสอบและ debug โปรแกรมแบบ open-source ของเขาบ้าง. นักเขียนโปรแกรมแบบ open-source ที่เชี่ยวๆ เขาจะรู้กันเลยว่าคนที่จะมาช่วยทดสอบขั้น beta (คนที่อธิบายขยายความจุดบกพร่องได้กระจ่าง สรุปปัญหาชัดเจน ไม่รำคาญเวลาเจอ bug และเต็มใจหยุดวิเคราะห์วิจารณ์เป็นพักๆ) เนี่ยมีค่ายังกับทองเลยทีเดียว
    • พยายามเลือกโปรแกรมขั้นพัฒนาที่คุณสนใจ แล้วอาสาเป็น beta-tester อย่างจริงใจและจริงจัง ตอนแรกอาจแค่ช่วย test เฉยๆ แล้วเดี๋ยวก็จะขยับไปช่วย debug กระทั่งช่วยปรับแก้โปรแกรมเอง ถ้าทำแบบนี้บ่อยๆ ล่ะความรู้มาตรึมแถมยังดูดีมีน้ำใจ รับรองเลยว่าในภายภาคหน้าขาดเหลืออะไรมีคนคอยช่วยแน่นอน
  3. เรื่องดีๆ ที่ควรทำสำหรับนักแฮกก็คือคอยรวบรวมและกรองข้อมูลต่างๆ ที่น่าสนใจมาใส่ไว้ในหน้าเว็บของตัวเอง หรือเผยแพร่เป็นเอกสารอย่าง Frequently Asked Questions (FAQ) หรือคำถามที่พบบ่อย และแชร์ให้รู้กันถ้วนทั่ว บอกเลยว่าคนที่คอยเขียน FAQ ของปัญหาทางเทคนิคสำคัญๆ เนี่ย คนเขาซูฮกพอๆ กับพวกเขียนโปรแกรมแบบ open-source เลยนะ
  4. วัฒนธรรมการแฮก (และการเติบโตของโครงสร้างโลกอินเทอร์เน็ต) นั้นอยู่ได้ด้วยจิตอาสา บางอย่างที่ดูไม่เท่ไม่เก๋แต่ก็สำคัญ เป็นหน้าที่ที่ต้องมีใครสักคนโดดมารับผิดชอบ อย่างการจัดทำ mailing list ดูแลกลุ่มข่าวสารหรือเว็บใหญ่ๆ ที่รวมสารพัดโปรแกรมไว้ด้วยกัน รวมถึงการพัฒนา RFC และมาตรฐานต่างๆ ทางเทคนิค ใครสู้อุตส่าห์ทำหน้าที่เหล่านี้ก็รู้ไว้เลยว่าคนเขาชื่นชมกันไม่ขาดสาย เพราะเขารู้กันดีว่างานพวกนี้มันต้องใช้เวลามหาศาล แถมไม่สนุกมือเหมือนเวลาเขียนโค้ด จะมองว่าเป็นการอุทิศตัวเพื่อโลกอินเทอร์เน็ตก็ได้เหมือนกัน
  5. เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจและไอดอลของเหล่าแฮกเกอร์. ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ ก็จะเป็นกันได้ คุณต้องอยู่มานานจนเก๋า คนเขารู้จักกันทั้งบางเพราะทำมาหมดแล้ว 4 ข้อข้างบนน่ะ ในทางทฤษฎีแล้วเหล่าแฮกเกอร์นั้นไม่มีใครตั้งตัวเป็นใหญ่ แต่ก็มีหลายคนที่ถูกยกย่องให้อยู่แถวหน้าของวงการ เป็นเหมือนผู้อาวุโสประจำเผ่า เป็นผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์การแฮก และโฆษกตัวแทนกลุ่มในเวลาเดียวกัน ถ้าคุณแฮกมานานพอ วันนึงคุณอาจมีคนนิยมชมชอบถึงขั้นบูชาไม่รู้ตัว
    • ภูมิใจได้แต่อย่าเหลิง เพราะแฮกเกอร์ทั้งหลายเกลียดนักพวกเก๋าแต่โม้เนี่ย ใครเผลอสั่งสอนรุ่นน้องมากๆ เข้าระวังจะตกกระป๋องไม่รู้ตัว แทนที่จะอวดอ้างวิชา น่าจะเป็นคนเก่งแต่ดีมีน้ำใจจนคนเขายกขึ้นหิ้งให้เองจะดีกว่า ที่สำคัญคือใครๆ เขาก็ชอบคนอ่อนน้อมถ่อมตนมารยาทงามด้วยกันทั้งนั้น
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ทำอะไรอย่าให้ใครจับได้
  • ใช้ภาษาให้ถูกต้อง ปกติคนเขาก็มองว่าพวกโปรแกรมเมอร์เขียนภาษาสวยๆ ไม่ค่อยจะเป็นอยู่แล้ว แต่ก็มีบ้าง (และคุณควรเป็นหนึ่งในนั้น) ที่ใช้ภาษาเขียนได้น่าอ่านพอตัวเลยล่ะ
  • LISP นั้นมีเหตุผลอยู่ว่าทำไมถึงควรรู้ไว้ ถ้าคุณเข้าใจถ่องแท้เมื่อไหร่จะเหมือนได้ขึ้นสวรรค์เลย บอกเลยว่าพลิกสกิลการเขียนโปรแกรมของคุณได้จากหน้ามือเป็นหลังมือ ถึงปกติจะไม่ค่อยมีโอกาสให้ได้ใช้ LISP จริงๆ ก็เถอะ คุณลองชิมลาง LISP ได้ง่ายๆ แค่เขียนและ modify ใน editing mode ของโปรแกรมจัดการ text อย่าง Emacs หรือปลั๊กอิน Script-Fu ของโปรแกรมตัดต่อรูปขั้นสูงอย่าง GIMP
  • ส่วน Perl นั้นรู้ไว้จะได้ประโยชน์เห็นๆ เพราะใช้กันแพร่หลายในการดูแลหน้าเว็บและระบบ ถึงไม่ขนาดเขียน Perl ได้อย่างน้อยอ่านออกก็ยังดี หลายคนนิยมใช้ Perl เพื่อเลี่ยงการเขียนภาษา C ในงานที่ไม่ต้องพึ่งพาความสามารถเพื่อการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพของเครื่อง
โฆษณา

คำเตือน

  • การเจาะเข้าไปในที่ต่างๆ ของโลกอินเทอร์เน็ตโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้นถือเป็นเรื่องผิดกฎหมายและต้องได้รับโทษตามสมควร ถือเป็นเรื่องร้ายแรงที่ถูกดำเนินคดีได้ทันที
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 226,893 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา