ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
ไวน์แดงนั้นถือเป็นเครื่องดื่มหลักประจำงานปาร์ตี้กับบนโต๊ะดินเนอร์ แต่บางครั้ง การทำไวน์หกก็บังเกิดขึ้นได้ ยิ่งคุณรีบหลังจากเลอะแค่ไหน ก็ยิ่งขจัดคราบได้ง่ายขึ้น บทความของวิกิฮาวบทนี้นำเสนอกลเม็ดและวิธีการมากมายในการขจัดคราบไวน์แดงที่หกเลอะเสื้อผ้า
ขั้นตอน
-
รีบที่สุดเท่าที่จะทำได้! ให้รีบวิ่งเร็วจี๋ดูว่าวิธีแก้แบบไหนที่คุณพอทำได้ในขณะนั้น ค้นหาตามเครื่องหมายดอกจันทร์ด้านล่างว่ามีอุปกรณ์ชิ้นไหนที่คุณพอหาได้ คำแนะนำเพิ่มเติมของการใช้อุปกรณ์แต่ละชนิดจะบอกไว้ในขั้นตอนถัดไป
- เกลือใส่อาหาร (ทางเลือกที่สะดวกและดีที่สุด!)
- โซดา
- นม
- สบู่และไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์
- ทรายแมว
- น้ำร้อน
-
ถ้ามีเกลือใกล้มือ เหยาะเกลือลงไปเป็นชั้นหนาๆ บนบริเวณที่เลอะ. ให้แน่ใจว่ามันทับคราบเลอะจนสนิทและทิ้งไว้สักหนึ่งชั่วโมง เกลือจะดูดซับไวน์และขัดออกหลังจากนั้นได้ง่าย
- เกลือเป็นวิธีขจัดคราบที่ขอแนะนำ แต่จะได้ผลดีที่สุดเมื่อได้ทำภายในสองนาทีหลังทำเลอะ ถ้าไวน์ยังไม่ได้ซึมเข้าสู่เนื้อผ้าแล้ว ผลึกเกลือจะสามารถดูดซับไวน์แดงได้โดยง่าย [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เนื่องจากเนื้อผ้าธรรมชาติ เช่น ผ้าฝ้าย เดนิม และลินิน นั้นดูดซึมได้เร็วกว่าผ้าใยสังเคราะห์ จึงควรรีบเร่งขจัดรอยคราบบนเนื้อผ้าธรรมชาติให้ไวกว่าผ้าใยสังเคราะห์ [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
สำหรับการใช้โซดา ให้เทโซดาราดบนรอยคราบเลอะ. ปล่อยให้มันพรายฟองซ่าไป เทโซดาไปเรื่อยๆ จนกระทั่งสีนั้นเลือนหายไป หลังจากคราบถูกขจัดไปแล้ว ทิ้งไว้ให้ผ้าแห้ง ใช้กระดาษทิชชู่ทำความสะอาดคราบโซดาที่เหลือ
- มีคนค้านเรื่องวิธีใช้โซดาเหมือนกัน โดยอ้างว่าน้ำก๊อกก็ใช้ได้ไม่ต่างกัน อย่างไรก็ตาม มติส่วนใหญ่ลงความเห็นเชื่อว่าคุณสมบัติการอัดลมของโซดามีสารที่ช่วยยกคราบขึ้นมาจากเนื้อผ้าได้ [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- โซดามีค่าความเป็นกรดและด่างต่ำกว่าน้ำธรรมดา ดังที่รู้กันว่ากรดอ่อนๆ (พวกที่มีค่าความเป็นกรดและด่างต่ำ) นั้นช่วยขจัดคราบได้ ตรงนี้น่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เป็นเช่นนั้น
- ขอแนะนำว่าห้ามใช้โซดาที่ผสมรสชาติต่างๆ เมื่อจะใช้ขจัดคราบ ถึงแม้มันจะไม่มีสีก็ตาม สีที่ใช้ผสมหรือน้ำตาลและส่วนผสมเพิ่มเติมล้วนแล้วแต่อาจมีผลต่อคราบที่เกิดขึ้นมาแล้ว [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ใช้ทั้งโซดาควบคู่กับเกลือถ้ามีทั้งสองอย่าง. รีบเอาเกลือมาโรยกลบคราบแล้วเทโซดาลงไป ทิ้งไว้สักหนึ่งชั่วโมงก่อนขัดเกลือทิ้งลงถัง ซับน้ำที่หลงเหลืออยู่
- สารทั้งคู่ต่างใช้งานได้ในตัวมันเอง แต่ถ้าใช้คู่กันเลยน่าจะเพิ่มโอกาสในการขจัดคราบได้หมดจดเป็นสองเท่า เกลือจะดูดซับไวน์เท่าที่มันจะทำได้ ในขณะที่โซดาจะยกคราบขึ้นมาจากเนื้อผ้าในระหว่างที่คุณซับคราบ
-
ถ้านมเป็นวิธีที่คุณเลือก ให้เทน้ำนมลงไปบนคราบแบบไม่ยั้ง. ปล่อยให้มันซึมเข้าเนื้อผ้า แล้วใช้ผ้าเช็ดจานหรือกระดาษทิชชู่ซับให้แห้ง อย่าถูเพราะมันจะทำให้คราบฝังในเนื้อผ้า คราบนั้นจะหายไปภายในไม่เกินหนึ่งชั่วโมง จากนั้นนำไปซักปกติเพื่อกำจัดกลิ่นและน้ำนมที่เหลือ
- อีกทางเลือกคือนำผ้านั้นมาแช่ในถ้วยหรือถังน้ำนมสักชั่วโมงหรือกว่านั้น ขึ้นอยู่กับขนาดของคราบ ถ้าผ้านั้นถอดออกมาได้ง่ายและคราบนั้นกินบริเวณมากอยู่ วิธีนี้จะสะดวกและได้ผลมากกว่า
- น้ำนมทำหน้าที่ไม่ต่างจากโซดา กระนั้น ความขาวข้นของน้ำนมจะช่วยกลบสีแดงของคราบไวน์ได้ดีกว่า
- น้ำนมนี้เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมน้อยเมื่อเทียบกับการใช้เกลือกับโซดา แต่ก็ยังมีคนที่เลือกใช้วิธีนี้ในการขจัดคราบไวน์
-
ถ้าคุณมีสบู่กับไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ให้ผสมลงในถังด้วยอัตราส่วนเท่าๆ กัน. นำมาเท ถู หรือฉีดบนคราบให้ถ้วนทั่ว ใช้กระดาษทิชชู่ซับให้แห้ง
- ความเห็นทั่วไปบอกว่าสบู่ยี่ห้อ Dawn ทำปฏิกิริยากับไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ได้ดีที่สุดและใช้ได้ผล [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าหาได้ ขอแนะนำให้ใช้ขวดสเปรย์ เพราะฟองที่ถูกฉีดออกมาจะยกคราบขึ้นมาจากเนื้อผ้าเหมือนแก๊สที่อัดลมในโซดา
- หากคราบนั้นเปื้อนเฉพาะผ้าด้านเดียวในเสื้อผ้าที่เย็บไว้สองชั้น ให้แน่ใจว่าได้วางผ้าขนหนูระหว่างผ้าทั้งสองชั้นนั้น มันจะช่วยป้องกันการซึมเปื้อนและซับให้แห้งได้ง่ายขึ้น
-
ใช้ทรายแมวโดยเหยาะเป็นชั้นหนา 1/2 นิ้ว (1.25 ซม. ) ให้ทั่วรอยคราบ. ใช้มือกดทรายแมวเบาๆ ให้มันดูดซับไวน์ หลังจากคราบถูกขจัดไปแล้ว ใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดทรายแมวออกจากเนื้อผ้าให้หมด
- ทรายแมวนั้นมีสารที่มีคุณสมบัติดูดซับได้สูงซึ่งจะดูดซับของเหลวได้ไม่ต่างจากเกลือ และเผลอๆ อาจมีคุณสมบัติที่ทรงพลังกว่า
- จังหวะเวลานั้นสำคัญต่อการจะใช้ทรายแมว เหมือนกับเกลือคือต้องรีบให้อยู่ภายในสองนาทีหลังจากทำเลอะ
- การใช้เครื่องดูดฝุ่นเป็นวิธีกำจัดทรายแมว เพราะทรายแมวสามารถทำให้ท่ออุดตันหรือเพิ่มกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ถ้าทิ้งลงถังขยะ
-
ถ้าไม่เหลือทางเลือกอื่นเลย ให้ใช้น้ำร้อน. พอต้มน้ำเดือดแล้ว ให้ขึงผ้าตรงที่เลอะคราบเหนือกระทะในอ่างล้างจาน ยืนบนเก้าอี้แล้วเทน้ำเดือดลงไปที่ผ้าจากความสูง 3-4 ฟุต (.9-1.2 เมตร) เทน้ำลงไปที่คราบจนมันจางหายไป ใช้กระดาษทิชชู่มาซับน้ำที่เหลือค้างบนผ้าให้แห้ง [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถึงแม้น้ำร้อนจะขจัดคราบบางอย่างไม่ได้ผล แต่ก็ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าได้ผลกับคราบไวน์แดงเพราะไวน์ก็ทำจากผลไม้
- หลีกเลี่ยงการใช้น้ำบนผ้าวูลหรือผ้าไหมเพราะน้ำทำให้ผ้าเหล่านี้บางลง [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
-
ค้นดูในบ้านว่ามีอุปกรณ์ต่อไปนี้หรือไม่ถ้าคราบนั้นแห้งแล้ว. คำแนะนำละเอียดจะอยู่ตามลำดับของอุปกรณ์เหล่านั้น
- ครีมโกนหนวด
- วอดก้า
- ไวน์ขาวกับผงฟู
-
สำหรับวิธีใช้ครีมโกนหนวด ให้ฉีดโฟมลงไปให้ทั่วคราบ. บี้ครีมโกนหนวดให้เข้าไปในเนื้อผ้าโดยใช้หลังช้อน ก่อนนำผ้าไปซักตามปกติ [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เนื้อโฟมที่ข้นหนาของครีมโกนหนวดเมื่อรวมกับคุณสมบัติการทำความสะอาดของมันจึงทำให้ขจัดคราบหนักได้ผล โดยการซึมซาบและยกคราบออกมาจากเนื้อผ้า [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ถ้าคุณมีวอดก้า เทวอดก้าราดตรงคราบ. ใช้ผ้าซับคราบและราดลงไปอีก ให้วอดก้าได้แช่ในผ้าแล้วรอดูคราบค่อยๆ จางหายไป นำไปซักตามปกติ
- ไวน์แดงนั้นมีแอนโทไซยานินส์ (anthocyanins) หรือเม็ดสีซึ่งจะละลายด้วยแอลกอฮอล์ ฉะนั้น วอดก้า ยิน หรือแอลกอฮอล์ใสที่มีดีกรีความแรงกว่าไวน์แดงล้วนใช้ขจัดคราบได้ [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ใช้ไวน์ขาวกับผงฟูด้วยกันถ้าหาได้. ก่อนอื่นแช่คราบในไวน์ขาว บางคนเชื่อว่าไวน์ขาวจะเจือจางสีในขณะที่จะป้องกันไม่ให้คราบฝังตัว (คำเตือนจะอยู่ในย่อหน้าล่าง)
- ทำแป้งผงฟูเปียกโดยการผสมผงฟูกับน้ำในอัตราส่วน 3-1 ผสมเข้าด้วยกันจนมันจับตัวเป็นแป้งเปียก [11] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- นำแป้งผงฟูเปียกมาป้ายลงบนคราบให้ทั่วและทิ้งไว้หนึ่งชั่วโมง คอยฉีดน้ำเพื่อให้มันยังเปียกชื้นไม่แห้ง เพื่อป้องกันไม่ให้คราบฝังตัวในเนื้อผ้า หลังคราบถูกขจัดแล้วก็นำไปซักตามปกติ
- ไวน์ขาวนั้นนับเป็นวิธีที่มีความเห็นแตกต่างกันมากที่สุดในการขจัดคราบไวน์แดง ถึงหลายคนจะสาบานว่ามันจะทำให้คราบนั้นมีสีจางลง บางคนก็แย้งว่าการสุมไฟทบเชื้อไฟก็มีแต่ยิ่งเพิ่มคราบให้เข้มข้นขึ้น ถ้าคุณเป็นกังวลก็ลองใช้น้ำก๊อกแทน
โฆษณา
-
ดูว่าผ้านั้นสามารถทนต่อประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหรือไม่. ตรวจดูป้ายส่วนประกอบของเนื้อผ้า วิธีการทำความสะอาดและคำเตือนต่างๆ
- ผ้าไหมกับผ้าวูลนั้นเป็นผ้าที่บอบบางเป็นพิเศษ น้ำก็ทำให้มันบางลงและไม่สามารถทนต่อฤทธิ์ฟอกขาวได้ ขณะที่ผ้าลินินกับผ้าใยสังเคราะห์จะมีความทนทานมากกว่า และผ้าฝ้ายจะอยู่ตรงกลาง
- ถ้าหากป้ายเสื้อผ้าไม่มีคำเตือน ให้ค้นดูในอินเทอร์เน็ตเพื่อให้แน่ใจว่าเนื้อผ้าสามารถทนต่อผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดอย่างที่คุณเลือกใช้ได้
- ผ้าที่ต้องส่งซักแห้งอย่างเดียวนั้นควรจะนำไปให้ร้านซักรีดในทันที ทางที่ดีควรจะเป็นวันสองวันแรกหลังจากเลอะคราบ อย่าพยายามจะลงมือซักเอง
-
เลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ปลอดภัยต่อเนื้อผ้า.
- ผลิตภัณฑ์อย่าง OxiClean, Resolve และ Wine Away ได้รับการพิสูจน์ว่าขจัดคราบอย่างได้ผลที่สุดโดยไม่ทำอันตรายต่อเนื้อผ้า [12] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดทำงานเกือบจะเหมือนกับการใช้ข้าวของภายในบ้านตามที่ได้กล่าวถึงก่อนหน้านั้น โดยใช้การซึมซับและสารเคมีช่วยยกคราบออกจากเนื้อผ้า อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดอาจจะน่าไว้วางใจมากกว่าเพราะพวกมันมักผ่านการทดสอบการขจัดคราบในแง่ของประสิทธิภาพและความต่อเนื่องมาโดยเฉพาะ
- ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมีส่วนผสมของสารฟอกขาว. หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ฟอกขาวกับผ้าวูล ผ้าไหม ผ้าโมแฮร์ หนังสัตว์ และสแปนเด็กซ์ [13] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ใช้ฟองน้ำชุบน้ำร้อนมาเช็ดผ้า. ซับคราบและดูดซับน้ำที่เหลืออยู่ออกให้มากที่สุดก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดลงบนคราบ
- การซับให้แห้งทำให้ชีวิตคุณง่ายขึ้นเยอะ มันจะดูดซับคราบให้ได้มากที่สุด สารตัวทำความสะอาดจะได้สงวนพลังเก็บไว้ขจัดคราบเข้มข้นที่เริ่มจะฝังแน่น
-
ทาผลิตภัณฑ์ลงไปตรงๆ. OxiClean กับ Resolve มีหลายรูปแบบ ทั้งผงซักฟอก สเปรย์ และสูตรน้ำ เพื่อผลที่ดีที่สุดให้ทำตามคำแนะนำของผลิตภัณฑ์
- Wine Away นั้นมาในรูปแบบของขวดสเปรย์และควรฉีดลงบนคราบตรงๆ ทิ้งไว้สักสิบห้านาทีก่อนนำไปซักตามปกติ
โฆษณา
เคล็ดลับ
- ลงมือให้ไวที่สุด ยิ่งทิ้งให้คราบฝังตัวก็จะยิ่งขจัดได้ลำบาก
- ใช้วิธีซับเสมอ ห้ามถู การถูจะได้ผลก็ต่อเมื่อไวน์ฝังตัวลึกลงในเนื้อผ้า ทำให้คราบเริ่มติดแน่น
โฆษณา
คำเตือน
- ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เป็นสารฟอกขาว คุณจึงอาจใช้มันกับผ้าสีไม่ได้
- อย่าใช้ความร้อน (ที่เป่าผม เตารีด) ลงบนบริเวณที่เป็นคราบจนกว่าคราบจะถูกขจัดไปก่อน
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.bellaonline.com/ArticlesP/art8469.asp
- ↑ http://www.shopwellwithyou.org/fabric-guide.cfm
- ↑ http://www.scientificamerican.com/article/how-does-club-soda-remove/
- ↑ http://www.stain-removal-101.com/club-soda.html
- ↑ http://www.redwinestainremovers.com/
- ↑ http://www.care2.com/greenliving/how-to-remove-red-wine-stains.html
- ↑ http://www.mowinecellar.com/how-to-remove-a-red-wine-stain
- ↑ http://www.care2.com/greenliving/how-to-remove-red-wine-stains.html
- ↑ http://www.countryliving.com/home-maintenance/cleaning/tips/g2224/laundry-solutions/
- ↑ http://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-3038230/Forget-white-wine-remove-red-wine-stains-GIN-Chemist-reveals-alcohol-vinegar-SPIT-replace-expensive-cleaning-products.html
- ↑ http://housekeeping.about.com/od/stainremoval/ht/Remove-Red-Wine-Stains-On-Carpet.htm
- ↑ http://www.redwinestainremovers.com/
- ↑ https://www.clorox.com/dr-laundry/bleaching-colored-items/
โฆษณา