บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Supatra Tovar, PsyD, RD
. ดร. สุพัตรา โทวาร์เป็นนักจิตวิทยาคลินิกที่มีใบอนุญาต (PSY #31949) นักกำหนดอาหารที่ได้รับการขึ้นทะเบียน ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกกำลังกายและเจ้าของ Dr. Supatra Tovar and Associates ดร. โทวาร์ทำงานด้านสุขศึกษา การกำหนดอาหาร และจิตวิทยาคลินิก เธอใช้การบำบัดจิตแบบสุขภาพองค์รวม โดยมีประสบการณ์การบำบัดตามหลักสุขภาพที่ดีแบบองค์รวมมากกว่า 25 ปี เธอนำจิตวิทยา การกำหนดอาหาร และความรู้ด้านการออกกำลังกายมาผสมผสานกันเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ประสบปัญหามีภาวะซึมเศร้า ภาวะน้ำหนักตัวเพิ่ม การกินผิดปกติ เผชิญกับการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินชีวิต และความสัมพันธ์มีปัญหา ดร.โทวาร์ได้รับปริญญาศิลปศาสตร์บัณฑิต สาขาชีววิทยาสภาวะแวดล้อม จากมหาวิทยาลัยโคโลราโด โบลเดอร์ ได้รับปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาโภชนศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยรัฐแคลิฟอร์เนีย วิทยาเขตลอสแอนเจลิส และจบปริญญาเอกด้านจิตวิทยาสุขภาพทางคลินิกจากมหาวิทยาลัยนานาชาติอไลอันต์ วิทยาเขตลอสแอนเจลิส
มีการอ้างอิง 11 ข้อ
ที่อ้างอิงอยู่ในบทความ ซึ่งสามารถพบได้ทางด้านล่างของบทความ
การนั่งฟังใครสักคนพล่ามไม่หยุดเป็นประสบการณ์ที่น่าเหนื่อยหน่ายไม่น้อย จะให้พูดออกไปตรงๆ ก็มีแต่จะอึดอัดใจทั้งสองฝ่ายมากกว่า แต่ไม่ว่าอย่างไรคนๆ นั้นอาจจะไม่รู้ตัวก็ได้ว่าเขาพูดมากและอาจจะรู้สึกขอบคุณที่มีคนมาสะกิดเขาด้วยซ้ำ ถ้าคุณอยากบอกใบ้ให้ใครสักคนรู้ตัวว่าเขาพูดมากไปหน่อย ลองมาอ่านเคล็ดลับดีๆ ในบทความนี้กันเลย!
ขั้นตอน
-
วิธีนี้เป็นวิธีตัดไฟตั้งแต่ต้นล้มอย่างมีชั้นเชิง. คุณอาจจะไม่สามารถใช้วิธีนี้ได้ทุกครั้ง แต่หากคุณกำลังจะเริ่มประชุมหรือพูดคุยกับคนที่พูดมาก ให้ตั้งกฎพื้นฐานตั้งแต่แรก เช่น หากเป็นการพูดคุยกันเป็นกลุ่ม คุณอาจจะเริ่มต้นบทสนทนาด้วยการขอให้ทุกคนยกมือก่อนพูดและพูดสั้นๆ เท่านั้น [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- คุณอาจจะพูดประมาณว่า "ในการประชุมครั้งนี้ผมมีประเด็นที่ต้องชี้แจงหลายเรื่อง เพราะฉะนั้นผมจึงขอให้ทุกคนฟังให้จบก่อนแล้วค่อยถามนะครับ" [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
-
หวังว่าเขาจะเข้าใจสิ่งที่คุณต้องการสื่อและเป็นฝ่ายจบบทสนทนาเอง. ถ้าการต้องเผชิญหน้ากับคนๆ นี้ทำให้คุณรู้สึกจึ๊กกะดึ๋ย ลองหามาตรการป้องกันล่วงหน้า เช่น ถ้าเพื่อนร่วมงานหรือเพื่อนร่วมชั้นเรียนเดินมาหาคุณที่โต๊ะและเริ่มจ้อไม่หยุด ให้ก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไป จากนั้นก็กระแอมสัก 2-3 ครั้ง ไม่ค่อยสนใจฟัง และดูนาฬิกาข้อมือบ่อยๆ [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าคุณคิดว่าเขากำลังจะเดินเข้ามาหาคุณแล้ว ให้ลองใส่หูฟัง
- ถ้าคุณทำงานในออฟฟิศของตัวเอง ลองแขวนป้ายไว้ที่ประตูว่า “ห้ามรบกวน” “กำลังคุยโทรศัพท์” หรือ “กำลังประชุม”
-
ถ้ากำลังคุยกันเป็นกลุ่ม อย่าลากเขามาตบกลางสี่แยกต่อหน้าทุกคน. การพูดคุยเรื่องนี้อาจทำให้รู้สึกกระอักกระอ่วน เพราะฉะนั้นคุณควรแยกเขาออกจากคนอื่นและพูดคุยกันแค่สองคน พูดคุยกันเป็นการส่วนตัวสักครู่หรือนัดคุยกันต่อหน้าสั้นๆ โดยที่ปิดประตูไม่ให้ใครเห็น ชวนเขาคุยกันหลังไมค์แบบสบายๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพื่อไม่ให้คนอื่นๆ ในกลุ่มสงสัย [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- คุณอาจจะบอกเขาว่า “ประเด็นนี้น่าสนใจค่ะคุณสุภาวดี แต่เดี๋ยวเราพักเรื่องนี้กันไว้ก่อนนะคะ ประชุมเสร็จแล้วเราค่อยคุยเรื่องนี้กันต่อ” [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าคุณกำลังพักกินข้าวกลางวันกันเป็นกลุ่มและเพื่อนคนนึงเอาแต่พูดอยู่ฝ่ายเดียว คุณอาจจะพูดว่า "ส้ม เดี๋ยวกินข้าวเสร็จเราค่อยคุยเรื่องนี้กันดีกว่าเพราะว่ามันเป็นแค่เรื่องของเราสองคน แถมเธอเองก็อยากฟังอะตอมเล่าเรื่องที่ไปเที่ยวมาให้ฟังเหมือนกันไม่ใช่เหรอ!"
โฆษณา
-
พยายามขัดจังหวะตอนท้ายประโยคแทนที่จะพูดตัดบท. แม้ว่าอีกฝ่ายจะน่ารำคาญขนาดไหน แต่การพูดขัดจังหวะกลางประโยคมันก็รุนแรงเกินไป พยายามรอให้เขาพูดจบประโยคหรือพูดสิ่งที่คิดให้เสร็จก่อนค่อยพูดขัดจังหวะ คุณอาจจะขอโทษที่คุณต้องขัดจังหวะก็ได้ แต่ต้องพูดสิ่งที่คุณต้องการอย่างหนักแน่น [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง เช่น คุณอาจจะพูดว่า :
- "ฉันขอขัดคุณนิดนึงนะคะ ฉันมีเรื่องที่ต้องพูดน่ะค่ะ"
- "ฉันขอโทษนะคะที่ต้องขัดจังหวะ แต่ฉันอยากเล่าสิ่งที่ฉันเพิ่งสังเกตเมื่อไม่นานมานี้ให้คุณฟัง"
-
วิธีนี้ช่วยได้หากคุณต้องรีบไปที่อื่น. ถ้าคุณกำลังรีบหรือแค่ไม่เหลือพลังงานที่จะพูดคุยกับใครอย่างเปิดอกในตอนนี้ ให้บอกว่าคุณกำลังจะไปประชุมหรือมีนัดแล้วรีบเดินออกมา วิธีนี้เป็นวิธีแก้ปัญหาชั่วคราวและเดี๋ยวคุณก็ต้องกลับไปคุยเรื่องนี้กับเขาอีก แต่มันก็ช่วยได้นะ! [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง คุณอาจจะพูดว่า :
- "ผมขอโทษนะที่ต้องขัดจังหวะ แต่ผมเพิ่งเดินออกมาจากประตูเองครับ ผมกำลังรีบ ไว้เราค่อยคุยกันได้ไหมครับ"
- "ผมมีนัดในอีก 5 นาทีนี้ รีบพูดหน่อยนะครับ เดี๋ยวผมสาย"
- "ผมมีเวลาคุยแค่แป๊บเดียวนะครับ ผมต้องไปที่อื่นต่อ"
โฆษณา
-
พูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ และเจาะจงเพื่อให้เขาเข้าใจ. เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่คุณอยากจะพูดมากกว่า 1 ครั้ง เพราะฉะนั้นอย่าอ้อมค้อม! แต่ถึงอย่างนั้นคุณก็ยังต้องรักษามารยาท พยายามแสดงสีหน้าเรียบเฉย และอย่าวิจารณ์โดยใช้อารมณ์ [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง เช่น คุณอาจจะพูดว่า :
- "เอย วันนี้คุณไม่เปิดโอกาสให้ผมได้แสดงความคิดเห็นในชมรมหนังสือบ้างเลย พอผมพยายามจะพูด คุณก็พูดแทรกผม"
- "ประเด็นที่คุณพูดในการประชุมวันนี้ดีมากเลยนะรอน แต่กว่าคุณจะเข้าเรื่องได้มันใช้เวลามากไปหน่อย ผมกังวลว่าเพื่อนร่วมงานของคุณจะเบื่อฟังเสียก่อนและไม่ทันได้ฟังข้อมูลเชิงลึกที่มีประโยชน์จากคุณ"
- "เต้ย ฉันดีใจนะที่นายโทรมาหา แต่ตั้งแต่เราคุยโทรศัพท์กันเนี่ยฉันไม่ได้เป็นฝ่ายพูดบ้างเลยนะ! ฉันอยากเล่าเรื่องที่ฉันเพิ่งไปเที่ยวมาให้นายฟังจะแย่อยู่แล้ว ฉันว่านายต้องชอบเกาะบอร์เนียวแน่ๆ"
-
ยิ้มและพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเพื่อให้เขารู้ว่าคุณพูดเล่น. บางครั้งเพื่อนที่พูดเป็นต่อยหอยก็ตื่นเต้นมากไปหน่อยและเริ่มพล่ามไม่หยุด เราทุกคนต่างมีเพื่อนแบบนี้และเราเองก็ชอบเขา! การใช้อารมณ์ขันเป็นวิธีง่ายๆ ที่จะทำให้เพื่อนรู้ว่าเขาเอาแต่พูดอยู่ฝ่ายเดียว [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง คุณอาจจะพูดว่า :
- "ฮัลโหล จำฉันได้ไหม ฉันยังอยู่ตรงนี้นะ"
- "หายใจก่อนเพื่อน! ฉันขอเป็นฝ่ายพูดบ้างได้ไหม"
- จ้องนาฬิกาเขม็งแล้วพูดว่า "อ๋อม เวลาเป็นสิ่งมีค่า เธอพูดจนลืมเวลาเลยใช่ไหม สาว ให้ฉันพูดบ้าง! เธอต้องตกใจแน่ถ้าฉันเล่าให้ฟังว่าเสาร์อาทิตย์นี้ตะวันทำอะไร"
โฆษณา
-
ส่วนใหญ่แล้วอีกฝ่ายจะไม่รู้ตัวว่าตัวเองพูดไปเรื่อย. ถ้าคุณไม่เคยพูดเรื่องนี้กับเขาตรงๆ มาก่อน อย่าเพิ่งถือสา เขาอาจจะไม่รู้ตัวจริงๆ ว่าเขาพูดมาก และถึงเขาจะรู้ตัว เขาก็คงไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดี บทสนทนาอาจจะดำเนินไปได้ด้วยดีมากขึ้นหากคุณพูดว่าคุณเข้าใจในจุดนี้ [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง เช่น คุณอาจจะพูดว่า :
- "บิณฑ์ ผมรู้ว่าคุณไม่ได้ตั้งใจจะพูดแทรกทุกคน ผมเข้าใจว่าคุณแค่ไม่ทันระวัง"
- "ตรัย ผมรู้ว่าคุณไม่ได้ตั้งใจจะปิดโอกาสไม่ให้ผมพูด"
- พยายามอย่าตำหนิและอย่าพูดเหมารวม เช่น "ไม่มีใครเขาชอบหรอกที่คุณพูดมาก" หรือ "คุณไม่เคยเปิดโอกาสให้คนอื่นเขาได้พูดบ้างเลย"
-
วิธีนี้ช่วยถนอมน้ำใจคนที่รับคำวิจารณ์. การพูดออกไปตรงๆ ไม่ใช่เรื่องง่าย! การใช้ประโยคที่ขึ้นต้นด้วย “คุณ” ฟังดูเหมือนเป็นการกล่าวโทษ เพราะฉะนั้นลองใช้ประโยคที่ขึ้นต้นด้วย “ฉัน” ในการพูดถึงปัญหา ความคิดเห็นของคุณจะไม่ฟังดูเป็นการด่วนสรุปคนอื่นมากจนเกินไปและอีกฝ่ายก็ไม่น่าจะเคืองด้วย [11] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ American Psychological Association ไปที่แหล่งข้อมูล เช่น :
- "ผมรู้สึกว่าคุณไม่ค่อยสนใจฟังผมเท่าไหร่"
- "บางครั้งฉันก็กังวลนะว่านายอาจจะไม่อยากเป็นเพื่อนกับฉันแล้ว เพราะเวลาคุยกันนายไม่เปิดโอกาสให้ฉันแสดงความคิดเห็นบ้างเลย"
- "ผมกังวลเรื่องการมีส่วนร่วมในที่ประชุม เพราะผมมีหน้าที่ที่จะต้องให้พนักงานทุกคนได้แสดงความคิดเห็น แต่ช่วงหลังมานี้คนส่วนใหญ่ไม่มีโอกาสได้พูดเลย"
โฆษณา
-
วิธีนี้จะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าคุณอยากช่วยเขาจากใจจริง. พยายามพูดเรื่องนี้ด้วยเจตนาที่ตั้งใจจะช่วยเหลือ ถ้าคุณรู้วิธีที่อาจช่วยแก้ไขปัญหาได้ บอกเขาเลย! แต่ถ้าไม่รู้ แค่ถามเขาว่ามีอะไรที่คุณพอจะช่วยเขาได้บ้างไหม [12] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ American Psychological Association ไปที่แหล่งข้อมูล เช่น :
- "คุณอยากลองใช้วิธีการใหม่ๆ ในที่ประชุมบ้างไหมละ เราอาจจะตั้งกฎว่าทุกคนต้องพูด 1-2 นาที"
- "มีวิธีอื่นอีกไหมที่ฉันจะสามารถรับฟังคุณได้มากขึ้นหรือช่วยเหลือคุณได้ในฐานะเพื่อน"
- "ฉันช่วยคุณฝึกพรีเซนต์งานให้กระชับมากขึ้นได้นะถ้าคุณต้องการ เรามาฝึกกันเงียบๆ ในออฟฟิศของฉันก็ได้ ไม่ต้องบอกใครหรอก" [13] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
เขาจะรู้สึกว่าคุณรับฟังและอาจมีเหตุผลที่ทำให้เขาเป็นแบบนั้น. มีหลายเหตุผลที่ทำให้เขาอาจจะพูดมากเกินไปหน่อย เขาอาจจะกำลังรับมือกับความวิตกกังวลหรือปกปิดความรู้สึกไม่มั่นใจของตัวเอง เปิดโอกาสให้เขาได้อธิบายและรับฟังเขาสักครู่ แค่อย่าปล่อยให้เขาพูดเยอะเท่านั้นแหละ! [14] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เช่น ถ้าเขาบอกว่าเขาประหม่า ลองพูดประมาณว่า"ผมเข้าใจคุณนะ เรายังคงต้องปรับพฤติกรรมนี้กันอยู่ แต่ผมก็ดีใจที่ได้เข้าใจมากขึ้นว่ามันเกิดจากอะไร ผมจะพยายามกำหนดแบบแผนในการประชุมครั้งหน้าให้มากขึ้นเพื่อช่วยคุณนะ"
- ถ้าเพื่อนบอกว่าเธอไม่รู้ตัวเลยว่าเธอพูดมากและกล่าวขอโทษ ให้พูดประมาณว่า "อย่าคิดมากแก้ว! ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรหรอก ไว้คุยกันสัปดาห์หน้าไหม นัดกินกาแฟกัน"
- รู้ไว้ว่าพฤติกรรมพูดมากอาจเกิดจากโรคหรือความผิดปกติที่ซ่อนอยู่ (เช่น โรคสมาธิสั้น) [15] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ American Psychological Association ไปที่แหล่งข้อมูล
โฆษณา
บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://www.canr.msu.edu/news/how-to-effectively-manage-the-talkative-and-silent-members-of-a-group
- ↑ https://www.cbsnews.com/news/5-ways-to-shut-up-a-chronic-interrupter/
- ↑ https://www.entrepreneur.com/article/284492
- ↑ https://www.cbsnews.com/news/5-ways-to-shut-up-a-chronic-interrupter/
- ↑ https://www.canr.msu.edu/news/how-to-effectively-manage-the-talkative-and-silent-members-of-a-group
- ↑ https://www.prdaily.com/how-to-shut-down-a-never-ending-phone-call/
- ↑ https://www.learning-mind.com/people-who-talk-too-much-introvert/
- ↑ https://www.psychologytoday.com/us/blog/some-assembly-required/201703/how-have-difficult-conversations
- ↑ https://socialpronow.com/blog/talking-too-much/
- ↑ https://www.cbsnews.com/news/5-ways-to-shut-up-a-chronic-interrupter/
- ↑ https://www.apa.org/science/about/psa/2013/02/uncomfortable-conversations
- ↑ https://www.apa.org/science/about/psa/2013/02/uncomfortable-conversations
- ↑ https://www.irishtimes.com/business/work/three-ways-to-deal-with-a-boss-who-talks-too-much-1.2084191
- ↑ https://www.cbsnews.com/news/5-ways-to-shut-up-a-chronic-interrupter/
- ↑ https://www.apa.org/topics/adhd