ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

คนที่มีอาการหลงตัวเอง ซึ่งภาษาทางการแพทย์ฝรั่งเรียกว่า Narcissistic Personality Disorder (NPD) มักมีภาพลักษณ์เปิดเผย มั่นใจ และมีเสน่ห์ อย่างไรก็ดี บุคลิกอันน่าหลงใหลดังกล่าวมักจางหายไป และเปิดเผยให้เห็นข้างในว่าเป็นเพียงพวกที่จมอยู่ในโลกส่วนตัว ซึ่งเราจะรับมือคนประเภทนี้ได้ยากมาก และมันก็เป็นอาการทางจิตที่รักษายากที่สุดประเภทหนึ่งด้วย ทั้งนี้ หากคนใกล้ตัวคุณ เช่น คนในครอบครัว หัวหน้างาน หรือคนที่คุณห่วงใยมีลักษณะอาการแบบนี้ เราเดาว่า คุณคงจะอยากรู้วิธีตีตัวออกห่าง หรือหนีจากพวกเขาให้รอดมากกว่า แต่หากคุณเลือกที่จะปรับตัวเพื่ออยู่ร่วมกับพวกเขา หนทางนี้ก็แสนจะลำบากเลยล่ะ

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

รับมือกับพวกหลงตัวเอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ตัดสินใจให้ดีว่า มันคุ้มไหมที่จะอยู่ร่วมกับพวกเขา. คนประเภทนี้ไม่ค่อยสนใจที่จะรับฟังใครๆ และไม่สนด้วยว่า คุณมีความต้องการอะไร [1] พวกเขาคิดว่าตนเองรู้ดีกว่าผู้อื่น จึงมักเหมาเอาว่าตัวเองรู้คำตอบของปัญหาดีที่สุด คนประเภทนี้จึงคาดหวังให้คุณเชื่อฟังการตัดสินใจของพวกเขาทุกอย่าง และอาจเป็นสาเหตุนำไปสู่ความสัมพันธ์แบบบ้าอำนาจและชอบควบคุมคุณ [2]
    • คนประเภทที่มีอาการหลงตัวเอง จะไม่ประนีประนอมทางอารมณ์กับใครเลยในความสัมพันธ์ใดก็ตาม และจะโกรธมากเมื่อพวกเขารู้สึกว่ามีใครกำลังวิพากษ์วิจารณ์ตนอยู่ จึงมักจะมีประวัติเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่แตกร้าวอันเกิดจากเรื่องเล็กน้อย [3] ดังนั้น หากคุณตัดสินใจว่า จำเป็นต้องอยู่ร่วมกับพวกเขา คุณต้องหาทางว่าจะเอาตัวรอดอย่างไรโดยไม่ประสาทเสียไปเสียก่อน
    • ลองคิดดูว่า คุณจำเป็นต้องทนหรือไม่สามารถที่จะไปจากชีวิตพวกเขาได้จริงหรือเปล่า หากพวกเขาเพิ่งรู้จักกับคุณ ก็น่าจะยังพอถอนตัวทันนะ
  2. คุณไม่มีทางได้เห็นคนประเภทที่มีอาการหลงตัวเองยอมรับว่าตนเองเป็นฝ่ายผิดหรอก จงเปลี่ยนวิธีรับมือเสียใหม่เถอะ อย่าพยายามไปจุดไต้ตำตอหาทางโจมตีข้อบกพร่องของพวกเขาเลย เพราะคนประเภทที่มีอาการหลงตัวเอง แทบไม่มีทางเปลี่ยนแปลงตัวเองได้
    • หากมีการรวมญาติกันวันไหนแล้ว แฟนจอมหลงตัวเองของคุณเอาแต่ทำตัวเป็นศูนย์กลางของการสนทนา แถมยังต่อว่าหรือเล่าเรื่องอับอายของคุณให้คนอื่นๆ ฟัง จงบันทึกเอาไว้ว่า นี่เริ่มเป็นสัญญาณอันตรายแล้ว และพยายามหาทางเตรียมการในครั้งต่อไป โดยอาจจัดวางที่นั่งให้แฟนคุณ นั่งติดกับคนที่เงียบๆ ที่อาจจะชอบฟังเรื่องราวของผู้อื่นมากเป็นพิเศษ
    • หากประเด็นที่เขาเอามาเผาคุณดังกล่าว เป็นเรื่องเกี่ยวกับการตัดสินใจของคุณ เช่น เรื่องที่คุณไม่ยอมนั่งรถมากับเขา ตอนที่เขาขับกลับบ้านหลังจากดื่มฉลองจนเมาในปาร์ตี้คืนก่อน คุณก็อาจจะเพียงโต้แย้งไปตรงๆ สักนิด หลังจากนั้น หากคุณจะเดินลุกหนีจากโต๊ะไป ก็ไม่เป็นไร เพราะการที่เขามีนิสัยเป็นคนประเภทที่มีอาการหลงตัวเองแบบนี้ เขาย่อมเข้าใจดีว่าคนอื่นรู้สึกกับเขายังไง จึงอาจจะยอมรับปฏิกิริยาตอบสนองของคุณได้ เพราะมันยังดีกว่ายอมให้คุณโต้เถียงเขาต่อไป
  3. คนประเภทที่มีอาการหลงตัวเองจะชอบทำทุกอย่างให้สำเร็จและคุยโอ้อวดเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ [4] ดังนั้น คุณควรวางแผนการปฏิสัมพันธ์ในแบบที่ให้ตัวเองสามารถได้สิ่งที่ต้องการ พร้อมๆ กับทำให้เขารู้สึกภาคภูมิใจในเวลาเดียวกันด้วย
    • หากคุณกลัวที่จะบอกให้สามีผู้เป็นคนประเภทที่มีอาการหลงตัวเอง ช่วยไปทำความสะอาดชานบ้านหรือสวนหลังบ้าน คุณก็อาจแกล้งเปรยว่า เขาน่าจะเป็นเจ้าภาพจัดเลี้ยงบาร์บีคิวที่บ้านบ้างนะ เพราะพวกคนหลงตัวเองมักอยากเป็นผู้นำกลุ่มก้อนทางสังคมอยู่แล้ว จากนั้น คุณก็ลองถามเขาดูว่า จะให้เตรียมการอะไรบ้าง โดยคุณอาจเสนอตัวทำหน้าที่ตกแต่งและทำความสะอาดภายในบ้าน และลองขอให้เขาใช้ความเป็นแมนจัดการเตรียมการในส่วนภายนอกของบ้านแทน เรื่องตลกก็คือ การเปรยเรื่องจัดเลี้ยงในสวนเช่นนี้ อาจทำให้คุณได้ผลลัพธ์มากกว่าแค่การทำความสะอาด ซึ่งคุณต้องการในตอนแรกด้วยซ้ำ (เช่น เขาอาจขุดสระน้ำเพิ่ม ยกพื้นสวนหย่อม หรือเขาอาจจ้างช่างมาติดน้ำพุด้วย) เพราะเรื่องพวกนี้ เขาสามารถนำไปคุยโม้ระหว่างงานเลี้ยงได้
  4. จำไว้ว่า คนประเภทที่มีอาการหลงตัวเองมักจะไม่เข้าใจหรือแยแสต่อการแสดง หรือการบ่งบอกโดยการใช้สีหน้าท่าทางด้วยอารมณ์ของคุณ พวกเขายังอาจปฏิเสธมันอย่างดุร้ายเย็นชา และสร้างความเจ็บปวดสำหรับคุณเองอีกต่างหาก
    • ดังนั้นคุณควรศึกษาเป้าหมายให้ดีว่า พวกเขาให้ความสำคัญกับอะไร จากนั้น ก็อาจจะเสนอของขวัญเป็นเวลาอันมีค่าของคุณ หรือสิ่งของบางอย่าง ที่สื่อให้เขารับรู้ว่าคุณจริงใจ
  5. การรักษาคนประเภทที่มีอาการหลงตัวเองที่ดีที่สุด ก็คือการพูดคุยบำบัด นักจิตบำบัดจะสามารถพูดคุยเพื่อเปิดทางให้คนประเภทที่มีอาการหลงตัวเองเข้าใจตนเองมากขึ้น และรู้ตำแหน่งแห่งหนของตนเองในสังคมดีขึ้นด้วย เมื่อนั้น พวกเขาย่อมเข้าใจในทักษะความสามารถของตนเองตามความเป็นจริง ซึ่งในที่สุดแล้ว ก็หวังได้ว่าเขาจะเริ่มยอมรับตัวเองและเริ่มให้ความใส่ใจรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น เพื่อนำมาปรับใช้กับกระบวนการคิดของตัวเองด้วย [5]
    • อย่างไรก็ดี ด้วยเหตุที่ว่าคนประเภทที่มีอาการหลงตัวเองเช่นนี้ มักมองตัวเองว่าไร้ตำหนิ [6] พวกเขาจึงมักไม่เห็นถึงความจำเป็นในการต้องไปพบแพทย์หรือเปลี่ยนแปลงตัวเอง
    • วิธีการทางจิตบำบัดสามารถช่วยคนประเภทที่มีอาการหลงตัวเองให้รู้จักวิธีการอยู่ร่วมกับผู้อื่น เพื่อที่จะได้มีความสัมพันธ์ส่วนตัวและความสัมพันธ์ในหน้าที่การงานที่ดีขึ้นต่อไป
    • การหว่านล้อมคนประเภทที่มีอาการหลงตัวเองให้ไปพบจิตแพทย์ เข้ารับการบำบัด หรือพยายามอดทนระหว่างที่อยู่ในขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงตัวเองนั้น เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากมากที่สุด [7] หากคนประเภทที่มีอาการหลงตัวเองจะไปพบแพทย์เพื่อการบำบัด มันก็มักต้องปล่อยไว้ก่อนจนกระทั่งเลยเถิด ไปถึงขั้นที่ปัญหาของเขาพัฒนาไปเป็นอาการซึมเศร้าหรือคิดฆ่าตัวตายแล้ว [8] คนประเภทที่มีอาการหลงตัวเองมักจะทำการต่อต้านทันทีหากมีใครเปรยเรื่องเข้ารับการบำบัด หรือบอกให้พวกเขาปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
    • ไม่มียาประเภทใดจะใช้รักษาคนประเภทที่มีอาการหลงตัวเองได้ แม้ว่าในการบำบัดรักษา อาจมีการให้ยาบางประเภทที่ช่วยควบคุมอาการที่เป็นผลสืบเนื่องของภาวะดังกล่าว เช่น ยาต้านอาการซึมเศร้า เป็นต้น [9]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

เข้าใจบุคลิกของคนประเภทที่มีอาการหลงตัวเอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คนประเภทที่มีอาการหลงตัวเองมักเป็นผู้ชายเสียส่วนใหญ่ โดยเริ่มมีอาการตั้งแต่ช่วงวัยรุ่นตอนปลายจนถึงช่วงเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ [10] ผู้เชี่ยวชาญไม่ได้ฟันธงว่าอะไรเป็นสาเหตุโดยตรง แต่เชื่อกันว่า เกิดจากการเลี้ยงดูแบบผิดๆ บางประเภท:
    • การเลี้ยงดูแบบช่างตำหนิอย่างสุดโต่ง: การถูกผู้ปกรองเลี้ยงดูมาแบบช่างตำหนิ หรือชอบวิพากษ์วิจารณ์เด็กอย่างรุนแรงตลอดเวลา มักทำให้เด็กคนดังกล่าว โตขึ้นมาโดยพยายามแสวงหาการยอมรับและยกย่องจากผู้อื่น [11]
    • การเลี้ยงดูแบบยกยอเกินเหตุ: ในทางกลับกัน การเลี้ยงดูแบบที่ปกครองชอบยกยอเกินเหตุ ก็มักทำให้เด็กโตขึ้นมา โดยมีทัศนคติแย่ๆ ว่าตนเองมีอภิสิทธิ์เหนือผู้อื่น หรือคาดหวังสิ่งที่ดีที่สุดจากผู้อื่นเท่านั้น [12]
    • ในทางปฏิบัติแล้ว มันก็เป็นผลจากการเลี้ยงดูในลักษณะผสมผสานระหว่างการใช้ความเย็นชา และการยกย่องแบบสุดโต่งด้วยนั่นเอง ที่เป็นสาเหตุให้เด็กกลายเป็นคนประเภทที่มีอาการหลงตัวเอง ได้มากที่สุด [13]
  2. ลองสำรวจดูว่า เขามีนิสัยไม่เคยยอมรับว่าตัวเองผิดหรือเปล่า. หากดูผิวเผิน คนประเภทที่มีอาการหลงตัวเองหลงตัวเอง อาจดูเป็นเพียงคนที่มีความนับถือตนเองสูง มั่นใจ และเปี่ยมไปด้วยความสามารถเท่านั้น [14] แต่เมื่อเวลาผ่านไป มันมักจะเผยให้เห็นว่า เขาเป็นเพียงคนที่จิตใจคับแคบไม่ยอมรับความผิดของตนเอง และเห็นว่าตนเองมีคุณค่ามากกว่าผู้อื่นเสมอ [15]
  3. ลองพิจารณาดูว่า เขาเห็นตนเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาลหรือเปล่า. พวกเขามักมีความเชื่อว่า โลกหมุนรอบตัวเขา และพยายามทำทุกอย่างให้มันเป็นไปเช่นนั้นด้วย [16] , [17] เช่น อาจจะชอบพูดคุยในลักษณะเผด็จการกับผู้อื่น [18]
  4. พิจารณาดูว่า พวกเขาโมโหง่ายและชอบใช้วาจาเชือดเฉือนหรือเปล่า. เมื่อใดก็ตามที่คนประเภทที่มีอาการหลงตัวเองไม่ได้รับการปฏิบัติแบบพิเศษ หรือในแบบที่เขาพึงพอใจ [19] พวกเขามักจะโกรธและใช้คำพูดต่อว่าผู้อื่นอย่างรุนแรง [20]
  5. พิจารณาว่า พวกเขามักโอ้อวดหรือยโสโอหังหรือเปล่า. คนประเภทที่มีอาการหลงตัวเองมักถูกมองจากคนทั่วไปว่า มีความยโสโอหัง ชอบคุยโม้โอ้อวด และคิดถึงแต่ตนเองตลอดเวลา [21] พวกเขามักจะเหยียดหยามคนที่ด้อยกว่า [22] (ซึ่งสำหรับเขาแล้ว ก็คือทุกคนนั่นแหละ) และชอบกดคนอื่นให้ต่ำลง เพื่อให้ตนเองรู้สึกดีขึ้น แถมยังคอยหว่านล้อม (ชักใยผู้อื่น) ให้มอบหรือทำในสิ่งที่ตนเองต้องการด้วย
  6. สำรวจดูว่า พวกเขามีความเห็นอกเห็นใจคนอื่นหรือไม่. บางที สิ่งที่ยากลำบากที่สุดในการรับมือกับคนประเภทที่มีอาการหลงตัวเอง ก็เพราะว่าพวกเขามักไม่มีความเห็นอกเห็นใจใครอย่างแท้จริง [23] และไม่มีความสนใจที่จะเรียนรู้เลย
    • แยกแยะอาการหลงตัวเองออกจากโรคออทิสม์โดยดูว่าเขาเห็นอกเห็นใจผู้อื่นไหม คนที่เป็นออทิสติกอาจประสบความยากลำบากในการทำความเข้าใจว่าคนอื่นเขารู้สึกอย่างไร แต่พวกเขานั้นมีความเห็นใจอยู่ อาจออกปากช่วยเหลือโดยไม่ต้องร้องขอ และจะเสียใจเมื่อเห็นคนอื่นโศกเศร้า (บางทีก็มากเสียจนพวกเขาอยากถอยหนีไป) [24] [25] คนหลงตัวเองนั้นจะแทบไม่สนใจในความรู้สึกผู้อื่น
  7. สังเกตว่าพวกเขาเนื้อเต้นเวลาที่ถูกวิจารณ์หรือไม่. คนประเภทที่มีอาการหลงตัวเอง จะไม่สนใจความต้องการของคนอื่น ที่จริงแล้ว พวกเขายังจะอาจโกรธขึ้นมาทันที เพราะมองว่าการขอสิ่งใดๆ จากพวกเขา เป็นเหมือนการตำหนิพวกเขากลายๆ [26]
    • นักจิตวิทยาเคยเชื่ออาการเห็นคุณค่าในตัวเองเกินเหตุนั้น อาจเกิดจากการพยายามชดเชยความรู้สึกขาดความนับถือตนเอง อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ผู้เชี่ยวชาญสันนิษฐานว่า คนประเภทที่มีอาการหลงตัวเอง มีอาการหลอกตัวเองขั้นรุนแรง ถึงขนาดเชื่อจริงๆ ว่า ตนเองมีความสำคัญหรือยิ่งใหญ่กว่าคนอื่น [27] พวกเขารู้สึกว่าเป็นสิทธิอันชอบธรรมที่จะได้รับการยกย่องเชิดชูจากผู้อื่น โดยไม่ต้องคำนึงหลักฐานของความสำเร็จใดๆ [28]
    • ดังนั้น คนประเภทที่มีอาการหลงตัวเอง จึงมักออกอาการก้าวร้าวและเนื้อเต้นเป็นเจ้าเข้า เมื่อรู้สึกว่าถูกโจมตีด้วยคำวิจารณ์แม้เพียงเล็กน้อย [29]
  8. พืจารณาว่า พวกเขาชอบคาดหวังสิ่งใดไปไกลเกินจริงหรือเปล่า. คนประเภทที่มีอาการหลงตัวเองจะมีความเชื่อว่าพวกเขามีความสำคัญ ความยิ่งใหญ่ ความสำเร็จ และความสามารถมากเกินความเป็นจริง และยังมีพฤติกรรมชอบชักใย คาดหวังการคล้อยตาม ยกย่อง และต้องการอภิสิทธิ์จากผู้อื่น แถมยังมักถูกครอบงำด้วย “จินตนาการเพ้อฝันเกี่ยวกับความสำเร็จ อำนาจ ความฉลาด ความสง่างาม และการมีคู่ครองที่สมบูรณ์แบบ” [30]
  9. คนประเภทที่มีอาการหลงตัวเองมักจะชอบเอาเปรียบหรือฉกฉวยประโยชน์จากสถานการณ์และผู้คนในชีวิตเพื่อให้ชนะหรือทำตัวลอยนวล [32] หากพวกเขาสามารถหาหนทางที่จะได้สิ่งที่ตนเองต้องการแล้ว พวกเขามักทำทุกวิถีทางจนกว่าจะได้มันมาสมใจ
    • เช่น สมมติว่าคุณเป็นคนโลเลและมักขาดความมั่นใจในตัวเอง หากคุณกับคนประเภทที่มีอาการหลงตัวเองเกิดถกเถียงในบางเรื่องที่เขาทำไม่ดีกับคุณ แล้วคุณโทรหาเขาในอีกสองสามวันให้หลัง พวกเขาอาจปฏิเสธไม่ยอมรับโดยการพูดทำนองว่า "อย่าโง่ไปหน่อยเลย เรื่องไม่ได้เป็นแบบนั้นสักหน่อย" โดยรู้ว่ามันจะทำให้คุณเกิดลังเลในมุมมองของตนเอง
  10. การอยู่ร่วมกับคนประเภทที่มีอาการหลงตัวเองนั้นเป็นเรื่องยาก ดังนั้น พวกเขาจึงมักจะมีปัญหาในความสัมพันธ์ส่วนตัว รวมถึงความสัมพันธ์ในที่ทำงานหรือสถานศึกษาด้วย [33]
    • คนประเภทที่มีอาการหลงตัวเองบางคน อาจตระหนักในจุดบกพร่องของตนเอง ทั้งที่อาจเป็นความจริงหรือคิดไปเองก็ตาม จนนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าหรืออารมณ์แปรปรวน [34] ซึ่งสถานการณ์จะซับซ้อนมากขึ้น เมื่อพวกเขาเกิดความคิดฆ่าตัวตายด้วย
  11. สำหรับคนประเภทที่มีอาการหลงตัวเองแล้ว พวกเขามักจะหันไปพึ่งยาเสพติดและแอลกอฮอล์ เมื่อชีวิตเกิดปัญหาหรือไม่เป็นไปดังคาดหวัง [35] ลองสำรวจดูว่า พวกเขาดื่มหนัก หรือมีอาการติดยาเสพติดใดๆ หรือเปล่า
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ดูแลตัวเองและผู้อื่นให้ดี

ดาวน์โหลดบทความ
  1. จงยอมรับเสียว่า คุณจะไม่มีทางได้รับการปลอบประโลมทางอารมณ์จากคนประเภทที่มีอาการหลงตัวเองแน่ [36] ดังนั้น มองหาเพื่อนหรือใครสักคน (ญาติพี่น้อง นักบำบัด พระ บาทหลวง เป็นต้น) ที่ไว้ใจได้ ซึ่งพร้อมที่จะรับฟังและเข้าใจคุณ ในกรณีที่คุณต้องการระบายความคับข้องใจ พยายามสร้างเครือข่ายผู้หวังดีที่สามารถให้กำลังใจคุณได้ มาเป็นส่วนเติมเต็มรอยโหว่ทางอารมณ์ที่ขาดหายไปในชีวิตคุณ
    • หากแฟนคุณเป็นคนประเภทที่มีอาการหลงตัวเอง เขาหรือเธอจะแสดงอาการเฉยชาต่อเรื่องที่คุณอยากให้ร่วมตื่นเต้นด้วย เช่น การได้รับคำชมในที่ทำงาน เป็นต้น เพราะพวกเขาไม่เคยคิดถึงใครนอกจากเรื่องของตัวเอง แถมยังอาจมองว่าคุณจงใจทำร้ายจิตใจพวกเขา กรณีที่พวกเขาไม่เคยได้รับคำชมเหมือนที่คุณได้รับเลย ดังนั้น คุณอาจได้รับการตอบสนองแบบเออๆ ออๆ ในเรื่องดังกล่าวจากเขาเท่านั้น
    • คุณควรไปโพสต์ประกาศเรื่องที่คุณต้องการความยินดีให้เพื่อนๆในเฟสบุ๊ครู้ หรือโทรหาเพื่อนสักสองสามคนก็ได้ เพื่อให้มาร่วมยินดีกับคุณแทน
  2. ใส่เกราะความรู้ให้ตัวเองเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต. คนเรานั้นแตกต่างกันไป ดังนั้น นอกจากคุณควรเรียนรู้เกี่ยวกับลักษณะของคนประเภทที่มีอาการหลงตัวเองแล้ว คุณยังควรศึกษาเพื่อเข้าถึงวิธีการมองโลกของพวกเขาด้วย ยิ่งคุณเข้าใจพวกเขามากเทาไร คุณก็จะยิ่งหาวิธีการเข้าหาพวกเขา เพื่อให้ได้มาในสิ่งที่คุณต้องการได้ดีขึ้นเท่านั้น
    • ฝึกคาดการณ์ปฏิกิริยาตอบสนองของพวกเขาต่อเหตุการณ์หนึ่งๆ จากนั้นก็จัดฉากดังกล่าวขึ้นมาเพื่อให้ผลลัพธ์เป็นไปตามที่คุณต้องการ พยายามศึกษาก่อนว่า เขามองคุณเป็นยังไงกันแน่ จากนั้น จึงค่อยประยุกต์หรือวางตัวให้เหมาะสมกับข้อมูลนั้นตามที่คุณเห็นสมควร [37]
    • อย่าฝืนใจพวกเขามากเกินไปจนอาจพลาดได้ แต่ควรจัดวางสถานการณ์ให้เป็นไปอย่างพอดีๆ ลองเอาคำสอนของคุณย่าคุณยายสมัยก่อนมาใช้ เวลาที่พวกท่านสอนหลานสาวในวันแต่งงาน นั่นคือ “เขาจะยอมทำทุกอย่างที่เธอต้องการ หากเธอทำให้เขาเชื่อว่ามันเป็นความคิดของเขาเอง”
    • ยิ่งคุณเข้าใจและรู้จักคนประเภทที่มีอาการหลงตัวเองมากขึ้นเท่าไร คุณก็ยิ่งมีโอกาสทลายกำแพงที่ขวางกั้นระหว่างความสัมพันธ์ของพวกคุณอยู่ และให้เขาเห็นว่าคุณห่วงใยเขาจริงๆ ซึ่งจะเป็นผลดีกับทั้งสองผ่าย [38]
  3. คุณอาจพบว่าคนประเภทที่มีอาการหลงตัวเองนั้น จะตอบสนองในทางบวกเวลาที่คุณมีปฏิสัมพันธ์กับเขาโดยไม่ใช้อารมณ์เท่านั้น อย่างไรก็ดี นั่นไม่ได้หมายความว่า คุณควรจะทำใจให้ด้านชา หรือเลิกล้มการแสดงอารมณ์ห่วงหาอาทรจากใจจริงไปตลอดชีวิต
    • ที่จริง เขาอาจจะดีใจด้วยซ้ำที่สามารถเอาเรื่องที่คุณเขียนโน้ตบอกรักซ่อนไว้ในกล่อง ไปเล่นให้เพื่อนๆ เขาฟังได้ อย่างไรก็ตาม อย่าคาดหวังว่าคุณจะได้รับการสนองตอบด้วยความซาบซึ้งเมื่อเขากลับมาถึงบ้าน
    • การแสดงความห่วงใยของคุณ มันคือรางวัลในตัวเองอยู่แล้วที่คุณมีโอกาสได้แสดงความรักโดยไม่ต้องรู้สึกเจ็บปวด ตราบใดที่คุณไม่คาดหวงให้เขาหรือเธอต้องตอบสนองทางอารมณ์ หรือตอบแทนในลักษณะเดียวกัน [39]
  4. ตอนนี้คุณมาถูกทางแล้ว ที่เข้ามาอ่านบทความเกี่ยวกับอาการของคนประเภทที่มีอาการหลงตัวเองด้วยตนเอง แต่ยังมีช่องทางต่างๆ เช่น กลุ่มให้คำปรึกษา หนังสือ หรือแหล่งข้อมูลใดก็ตาม ที่จะช่วยให้คุณฝ่าฟันความสัมพันธ์อันท้าทายนี้ได้
  5. อย่าลืมว่า คุณไม่ใช่คนเดียวที่ต้องเผชิญการรับมือกับคนประเภทที่มีอาการหลงตัวเอง แต่ยังมีเพื่อนๆ เขา หรือเพื่อนร่วมงานอีกหลายคนที่กำลังพยายามรักษาความสัมพันธ์กับเขาอยู่ด้วย
  6. หากมีเด็กๆ อาศัยอยู่ร่วมกับคนประเภทที่มีอาการหลงตัวเอง พยายามสอดส่องดูว่า เด็กๆ เหล่านั้นมีความเป็นอยู่ที่ปลอดภัยหรือไม่ เพราะคนประเภทที่มีอาการหลงตัวเองสามารถกระทำทารุณได้ทั้งกาย วาจา และใจ ลองสังเกตด้วยว่า เด็กๆ ขาดทักษะทางสังคมซึ่งอาจเกิดจากการถูกเลี้ยงดูโดยพ่อแม่ที่หลงตัวเองพวกนี้หรือเปล่า [40] พยายามหาทางชดเชยหรือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเด็กเหล่านั้น เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่โตมาโดยมีนิสัยเหมือนพ่อแม่ ที่เป็นคนประเภทที่มีอาการหลงตัวเอง
    โฆษณา

เคล็ดลับ

โฆษณา

คำเตือน

  • หากคนประเภทที่มีอาการหลงตัวเอง มีความคิดฆ่าตัวตาย คุณอาจติดต่อหน่วยงานให้คำปรึกษาหรือโทรแจ้ง 191 ไว้ก่อน
โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

เริ่มความสัมพันธ์แบบ Friends with Benefits
รู้ว่าเมื่อไหร่ที่อีกฝ่ายไม่อยากคุยกับคุณแล้ว
ทำให้แฟนเก่ากลับมารักคุณอีกครั้ง
รู้ว่าแฟนสาวของคุณแอบไปนอนกับคนอื่นหรือเปล่า
พิชิตหัวใจแฟนเก่ากลับมา หลังจากการเลิกรา
ทำให้ใครบางคนรู้สึกผิด
เลิกชอบเพื่อนรัก
ทำให้แฟนเก่าคิดถึงคุณ
ฟื้นฟูความสัมพันธ์ให้กลับมาดีเหมือนเดิม
ปลอบโยนแฟนสาวของคุณเมื่อเธอรู้สึกแย่
ดูว่าเพื่อนอิจฉาคุณหรือไม่
จบความสัมพันธ์
จิตวิทยาการรับมือเพื่อเอาชนะคนหลงตัวเอง
เรียกความเชื่อใจจากเขาหรือเธอกลับมา
โฆษณา
  1. https://www.psychologytoday.com/articles/201106/how-spot-narcissist
  2. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/narcissistic-personality-disorder/basics/symptoms/CON-20025568
  3. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/narcissistic-personality-disorder/basics/symptoms/CON-20025568
  4. https://www.psychologytoday.com/articles/201106/how-spot-narcissist
  5. https://www.psychologytoday.com/articles/201106/how-spot-narcissist
  6. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/narcissistic-personality-disorder/basics/symptoms/CON-20025568
  7. https://www.psychologytoday.com/conditions/narcissistic-personality-disorder
  8. Disarming the Narcissist: Surviving & Thriving With the Self-Absorbed (2nd ed) by Wendy T. Nehary (2013)
  9. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/narcissistic-personality-disorder/basics/symptoms/CON-20025568
  10. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/narcissistic-personality-disorder/basics/symptoms/CON-20025568
  11. Disarming the Narcissist: Surviving & Thriving With the Self-Absorbed (2nd ed) by Wendy T. Nehary (2013)
  12. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/narcissistic-personality-disorder/basics/symptoms/CON-20025568
  13. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/narcissistic-personality-disorder/basics/symptoms/CON-20025568
  14. https://www.psychologytoday.com/conditions/narcissistic-personality-disorder
  15. http://www.myaspergers.net/adults-with-aspergers/startling-facts-aspergers-empathy/
  16. https://musingsofanaspie.com/2013/01/17/the-empathy-conundrum/
  17. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/narcissistic-personality-disorder/basics/symptoms/CON-20025568
  18. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/narcissistic-personality-disorder/basics/symptoms/CON-20025568
  19. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/narcissistic-personality-disorder/basics/symptoms/CON-20025568
  20. https://www.psychologytoday.com/conditions/narcissistic-personality-disorder
  21. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/narcissistic-personality-disorder/basics/symptoms/CON-20025568
  22. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/narcissistic-personality-disorder/basics/symptoms/CON-20025568
  23. https://www.psychologytoday.com/blog/evolution-the-self/201311/6-signs-narcissism-you-may-not-know-about
  24. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/narcissistic-personality-disorder/basics/symptoms/CON-20025568
  25. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/narcissistic-personality-disorder/basics/symptoms/CON-20025568
  26. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/narcissistic-personality-disorder/basics/symptoms/CON-20025568
  27. http:// http://psychcentral.com/disorders/narcissistic-personality-disorder-symptoms/
  28. http://www.drjudithorloff.com/Free-Articles/How-To-Deal-With-A-Narcissist.htm
  29. https://www.psychologytoday.com/articles/201106/how-spot-narcissist
  30. http://www.drjudithorloff.com/Free-Articles/How-To-Deal-With-A-Narcissist.htm
  31. http://farzadlaw.com/divorcing-a-narcissist/how-protect-child-narcissistic-father-mother/
  32. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/narcissistic-personality-disorder/basics/symptoms/CON-20025568

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 31,836 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา