PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

ชีวิตเกิดขึ้นรอบตัวคุณ แต่คุณก็อาจจะกำลังพยายามค้นหาคำตอบว่าจะมีชีวิตอยู่อย่างแท้จริงได้อย่างไร คุณจะใช้ชีวิตอย่างไรก็สุดแท้แต่คุณ และการเลือกเส้นทางที่คุณคิดว่าถูกต้องก็เป็นหนทางที่ดีที่สุดในการหาความหมายและความสุขของชีวิต ในการมีชีวิตอยู่นั้น ให้เริ่มจากการรู้จักตัวเองก่อน เช่น รู้จักค่านิยมหลัก จุดแข็ง และความปรารถนาของตัวเอง จากนั้นให้ปรับการกระทำในแต่ละวันให้สอดคล้องกับค่านิยมส่วนตัวของคุณ สุดท้ายให้สร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่นและแสดงให้พวกเขาเห็นว่า คุณห่วงใยพวกเขาแค่ไหน

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

รู้จักตัวเอง

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ค้นหาค่านิยมหลักของคุณ เพื่อเป็นแนวทางในการมีชีวิตอยู่. ลองคิดดูว่าอะไรในชีวิตที่สำคัญกับคุณ และพฤติกรรมแบบไหนที่คุณชื่นชมในตัวคนอื่น จากนั้นพยายามนึกถึงวันที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณและนึกว่าตัวเองทำอะไรในวันนั้น และนำสิ่งนี้ไปสร้างเป็นรายการค่านิยมหลักของคุณ ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณให้ความสำคัญมากที่สุด [1]
    • เช่น คุณอาจจะให้คุณค่ากับการช่วยเหลือผู้อื่น เปิดใจให้กว้าง และแบ่งปันสิ่งที่คุณมี
  2. ค้นหาจุดมุ่งหมายของชีวิต ด้วยการค้นหาว่าสิ่งที่ขับเคลื่อนคุณคืออะไร. ลองคิดถึงสิ่งต่างๆ ในชีวิตที่ทำให้คุณลงมือทำอะไรสักอย่าง เช่น สิ่งที่ทำให้คุณตื่นเต้น จากนั้นจินตนาการภาพตัวเองในอีก 5 10 15 และ 20 ปีข้างหน้า และเขียนลงไปว่าคุณหวังว่าจะทำอะไรสำเร็จไปแล้วบ้าง จากนั้นพิจารณาต่อไปว่าคุณยินดีที่จะเสียสละตัวเองเพื่ออะไร และคุณจะใช้ทักษะที่คุณมีทำประโยชน์แก่โลกให้ดีที่สุดได้อย่างไร วิธีนี้จะช่วยให้คุณค้นหาจุดมุ่งหมายของตัวเองเจอ [2]
    • คุณอาจจะมีจุดมุ่งหมายมากกว่า 1 อย่าง ซึ่งก็โอเค
    • จุดมุ่งหมายของคุณอาจจะเปลี่ยนไปเมื่อคุณอายุมากขึ้นและได้เรียนรู้เกี่ยวกับตัวเองมากขึ้น
    • เช่น จุดมุ่งหมายของคุณอาจจะเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นผ่านเสียงเพลง หรือช่วยเหลือผู้อื่นด้วยการเรียนต่อสาขาพยาบาล
  3. ค้นหาจุดแข็งและพรสวรรค์เพื่อที่คุณจะได้ใช้มัน. พิจารณาว่าคุณทำอะไรได้ดีที่สุด และอะไรที่คุณได้มาง่ายๆ เขียนรายการทักษะและความสามารถเหล่านี้ออกมาเพื่อให้คุณรู้ว่าจุดแข็งของตัวเองคืออะไร จากนั้นเลือกว่าจุดแข็งและพรสวรรค์ไหนที่สำคัญกับคุณมากที่สุด เพื่อที่คุณจะได้พัฒนามันต่อ [3]
    • เช่น คุณอาจจะค้นพบว่าตัวเองเก่งด้านการเขียน การเล่นฟุตบอล และการดูแลน้อง คุณอาจจะเข้าเวิร์กช็อปด้านการเขียนเพื่อให้ตัวเองเขียนเก่งขึ้น หรือคุณอาจจะไปแคมป์ฟุตบอล และเช่นเดียวกันว่าคุณอาจจะหารายได้เสริมจากการเป็นพี่เลี้ยงเด็กได้
  4. ไล่ตามความปรารถนาและ งานอดิเรก เพื่อสร้างความสุขให้ตนเอง. เขียนรายการสิ่งที่คุณสนใจ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมหรือสิ่งของต่างๆ จากนั้นคิดดูว่าคุณจะสามารถนำความสนใจเหล่านี้เข้ามาในชีวิตของคุณได้อย่างไร หาเวลาทำในสิ่งที่คุณปรารถนาหรืองานอดิเรกของคุณให้บ่อยที่สุด ทุกวันได้เลยยิ่งดี [4]
    • เช่น ความสนใจของคุณอาจจะเป็นเพลง เครื่องประดับ และรอยสัก คุณอาจจะเรียนเล่นเครื่องดนตรีหรือเริ่มสะสมคอลเลกชันไวนิล เรียนรู้การทำเครื่องประดับ และไปสัก
    • ไม่ต้องไปสนใจว่าใครจะว่าอะไร มันเป็นชีวิตของคุณ เพราะฉะนั้นถามทำที่ใจคุณปรารถนาเถอะ
  5. พิจารณาว่าคุณทำงานได้ดีในตอนเช้าหรือตอนกลางคืนเพื่อให้คุณทำสิ่งต่างๆ ได้มากขึ้น. พิจารณาว่าคุณรู้สึกตื่นตัวและมีพลังในตอนเช้าหรือตอนกลางคืนมากกว่ากัน จากนั้นพยายามจัดตารางให้กิจกรรมที่สำคัญที่สุดอยู่ในช่วงเวลาที่คุณรู้สึกตื่นตัวมากที่สุด นอกจากนี้จะปรับตารางให้เช้าขึ้นหรือสายหน่อยก็ได้ถ้าทำได้ [5]
    • เช่น คุณอาจจะตัดสินใจทบทวนบทเรียนหรือทำงานที่สำคัญที่สุดในตอนเช้าตรู่ถ้าคุณชอบทำงานตอนเช้า ในทางกลับกันคนที่ชอบทำงานกลางคืนก็อาจจะเปลี่ยนไปทำก่อนเข้านอนแทน
  6. ค้นหาว่าคุณ เป็นคนชอบเข้าสังคม เป็นคนชอบอยู่กับตัวเอง หรือเป็นอย่างละครึ่งเพื่อเป็นแนวทางในการเข้าสังคม. คนชอบเข้าสังคมจะได้รับพลังงานจากการมีคนรายล้อม ในขณะที่คนที่ชอบอยู่กับตัวเองจะได้รับพลังงานจากการอยู่คนเดียว ส่วนคนที่ครึ่งๆ จะอยู่ตรงกลาง พวกเขาจึงมักจะสบายใจที่จะอยู่กับคนอื่นและคนเดียว การรู้ว่าตัวเองเป็นคนกลุ่มไหนจะช่วยให้คุณรู้ว่า สถานการณ์ทางสังคมแบบไหนที่เหมาะกับคุณ ซึ่งวิธีที่ง่ายที่สุดในการที่จะรู้ว่าคุณเป็นคนชอบเข้าสังคม คนชอบอยู่กับตัวเอง หรือคนครึ่งๆ ก็คือการทำแบบทดสอบออนไลน์ [6]
    • โดยทั่วไปคนชอบเข้าสังคมจะสนใจเรื่องภายนอก ในขณะที่คนที่ชอบอยู่กับตัวเองจะสนใจเรื่องภายใน
    • เช่น คนที่ชอบอยู่กับตัวเองอาจจะชอบอยู่บ้านในคืนวันเสาร์ ส่วนคนที่ชอบเข้าสังคมก็อาจจะอยากออกไปข้างนอกมากกว่า ทั้งสองอย่างนี้เป็นวิธีการใช้เวลาที่ดีทั้งคู่ถ้ามันทำให้คุณมีความสุข
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ปรับการกระทำให้สอดคล้องกับค่านิยม

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับความเชื่อทางจิตวิญญาณ (ถ้ามี). คุณอาจจะเดินตามวิถีทางศาสนาหรืออาจจะยึดถือชุดความเชื่อทางจิตวิญญาณส่วนบุคคล คุณจะรู้สึกมีความสุขและเชื่อมโยงกับโลกมากขึ้นถ้าคุณสามารถนำความเชื่อเหล่านี้มาหลอมรวมเข้ากับชีวิตประจำวันของคุณได้ เลือกสิ่งที่สอดคล้องกับความเชื่อของคุณ และใช้เวลาในแต่ละวันเชื่อมโยมกับพลังที่อยู่เหนือขึ้นไป [7]
    • ฝึกสมาธิ หรือสวดมนต์ทุกวัน
    • ถ้าเป็นไปได้ให้เข้าร่วมกลุ่มกับคนที่มีความเชื่อเหมือนกัน วิธีนี้จะทำให้ศรัทธาของคุณลึกซึ้งยิ่งขึ้น
    • ถ้าคุณจับได้ว่าตัวเองเลือกทำในสิ่งที่ไม่สอดคล้องกับความเชื่อของคุณ ให้หยุดและทบทวนว่าทำไมคุณถึงทำแบบนั้น จากนั้นพยายามแก้ไขให้ได้มากที่สุด
  2. ปรับนิสัยประจำวันให้สอดคล้องกับค่านิยมของคุณ. สิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่คุณเลือกทำในทุกๆ วันสร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของคุณ คุณต้องแน่ใจว่าตัวเองทำในสิ่งที่ส่งเสริมค่านิยมและจุดมุ่งหมายในชีวิต การเปลี่ยนแปลงที่คุณสามารถทำได้ก็เช่น: [8]
    • ใช้ผลิตภัณฑ์รีไซเคิลถ้าคุณเชื่อในแนวคิดเชิงสิ่งแวดล้อมนิยม
    • เลือกอาหารออร์แกนิคถ้าคุณคิดว่ายาฆ่าแมลงเป็นสิ่งที่ไม่ดี
    • เลือกผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติถ้าคุณคิดว่าสารเคมีเป็นอันตรายต่อผู้คน
    • รับประทานมังสวิรัติหรือวีแกนเพื่อละเว้นชีวิตสัตว์หรือรักษาสิ่งแวดล้อม
    • เดินหรือขี่จักรยานเพื่อใช้พลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิลให้น้อยลง
    • บริจาคเงินหรืออาหารให้คนที่ขาดแคลนเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น
    • ให้ทางคนอื่นเพื่อส่งต่อความปรารถนาดี
    • มอบการให้ด้วยการจ่ายค่ากาแฟให้คนอื่น
  3. ตั้งเป้าหมายส่วนบุคคล เพื่อให้คุณเข้าใกล้จุดมุ่งหมายของชีวิต. การค้นหาจุดมุ่งหมายนั้นง่ายกว่าการใช้ชีวิตตามจุดมุ่งหมายมาก วิธีที่ดีที่สุดในการใช้ชีวิตให้อยู่ในเส้นทางที่ถูกต้องก็คือ การสร้างเป้าหมายที่จะช่วยให้คุณได้ใช้ชีวิตในแบบที่คุณต้องการ ลองคิดถึงสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของคุณ จากนั้นแบ่งย่อยออกเป็นขั้นตอน กำหนดไทม์ไลน์ในการทำแต่ละขั้นตอนให้สำเร็จเพื่อที่คุณจะได้บรรลุเป้าหมายของคุณ [9]
    • เช่น คุณอาจจะตั้งเป้าหมายว่าจะเป็นพยาบาล ขั้นตอนของคุณก็อาจจะเป็นการทำคะแนนให้ดีในวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ เป็นอาสาสมัครที่บ้านพักคนชราหรือโรงพยาบาล เรียนต่อปริญญาตรีคณะพยาบาลศาสตร์ เรียนต่อปริญญาโทสาขาพยาบาลศาสตร์ และทำงานในโรงพยาบาล
    • อีกตัวอย่างก็คือ เป้าหมายของคุณอาจจะเป็นการแสดงผลงานศิลปะในที่สาธารณะ ขั้นตอนของคุณก็อาจจะเป็นการไปเรียนคลาสศิลปะเพื่อเพิ่มพูนทักษะ สร้างสรรค์ผลงาน ไปที่งานแสดงศิลปะท้องถิ่น และถามร้านกาแฟในท้องถิ่นว่าคุณสามารถแสดงผลงานที่ร้านได้ไหม
  4. เลือกเส้นทางการศึกษาและอาชีพที่ส่งเสริมจุดมุ่งหมายของคุณ. พิจารณาว่าคุณใช้ชีวิตอย่างไร และอาชีพแบบไหนที่เกี่ยวข้องกับจุดมุ่งหมายของคุณ จากจุดนั้นให้เลือกสาขาหรืองานที่ทำให้คุณรู้สึกมีพลัง และเดินตามเส้นทางนี้ไปข้างหน้า [10]
    • เป็นไปได้ว่าคนอื่นอาจจะไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่คุณเลือกมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งครอบครัวของคุณ พยายามอย่าไปใส่ใจสิ่งที่พวกเขาพูดและทำในสิ่งที่คุณคิดว่าดีที่สุดสำหรับคุณ คุณมีชีวิตเดียว เพราะฉะนั้นจงเลือกทำในสิ่งที่คุณรัก

    เคล็ดลับ: ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่า หนทางที่ปลอดภัยในชีวิตจะนำมาซึ่งความสำเร็จ คนอื่นอาจจะบอกคุณว่างานหรือสาขานั้นๆ จะทำให้คุณประสบความสำเร็จ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคำพูดนั้นเป็นความจริง เลือกเส้นทางจากสิ่งที่คุณต้องการในชีวิต ไม่ใช่จากโอกาสที่จะประสบ “ความสำเร็จ”

  5. สนุกกับสิ่งที่คุณชอบพอประมาณเพื่อให้ชีวิตสมดุล. กินอาหารที่ชอบ ทำในสิ่งที่คุณสนใจ และสนุกสนานกับเพื่อนๆ แต่ก็อย่าลืมสร้างสมดุลให้กับความสุขเหล่านี้ด้วยการดูแลตัวเองและตั้งใจทำงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ทางสายกลางจะช่วยให้คุณใช้ชีวิตได้อย่างดีที่สุด เพราะฉะนั้นอย่าไปทุ่มเทให้กับงานหรือความสุขอย่างใดอย่างหนึ่งมากเกินไป [11]
    • เช่น สร้างกิจวัตรขึ้นมาเพื่อที่คุณจะได้มีเวลาทำงานให้เสร็จ ดูแลความสะอาด รักษาสุขอนามัยที่ดี ทำงานอดิเรก และใช้เวลากับคนที่คุณห่วงใย
  6. ให้ตัวเองได้เรียนรู้และเติบโตระหว่างที่ปัญญางอกเงย. ขณะที่คุณดำเนินชีวิตไปเรื่อยๆ คุณก็น่าจะเห็นสิ่งต่างๆ จากมุมมองใหม่ๆ ที่ไม่เหมือนกับตอนที่คุณยังเด็ก รื่นรมย์ไปกับปัญญาและความรู้ที่มาพร้อมกับวัย ดื่มด่ำไปกับข้อมูลใหม่ๆ และเรียนรู้จากคนที่คุณพบปะ เปิดใจรับการเติบโตและการเปลี่ยนแปลงในฐานะมนุษย์ขณะที่คุณค้นพบมุมมองต่างๆ จากชีวิตมากขึ้น [12]
    • ฟังเรื่องราวของผู้คนที่คุณได้พบปะ พยายามหาบทเรียนจากประสบการณ์ของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าชีวิตของเขาแตกต่างจากชีวิตของคุณอย่างสิ้นเชิง
    • อ่านหนังสือและบทความ หรือดูสารคดีเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับโลกให้มากขึ้น
    • ถ้าเป็นไปได้ ให้เดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ เพื่อเรียนรู้ว่าคนที่นั่นเขาใช้ชีวิตกันอย่างไร
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

สร้างความสัมพันธ์และใส่ใจผู้อื่น

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. หาเพื่อนใหม่ ด้วยการไปเข้าคลาส เป็นอาสาสมัคร หรือเข้าร่วมกลุ่ม. วิธีที่ดีที่สุดที่จะได้พบปะผู้คนและสร้างความสัมพันธ์ใหม่ๆ ก็คือการออกไปข้างนอก ถ้าคุณสบายใจกับการได้พบปะผู้คนใหม่ๆ ก็ให้คุยกับคนที่คุณเจอตอนไปชอปปิ้งหรือไปเที่ยวกลางคืน หรือไม่อย่างนั้นก็สมัครเรียนคลาสที่คุณสนใจหรือเข้าร่วมกลุ่มที่เน้นในสิ่งที่คุณชอบ หรืออีกทางเลือกหนึ่งคือไปเป็นอาสาสมัครในโครงการต่างๆ ก็ได้ [13]
    • มองหากลุ่มต่างๆ ใน กลุ่ม Facebook หรือ Meetup.com ถ้าคุณยังเรียนอยู่ ก็ให้ดูชมรมหลังเลิกเรียน
    • ห้องสมุดประชาชนก็อาจจะมีป้ายประกาศเกี่ยวกับกลุ่มต่างๆ เช่นกัน
  2. ติดต่อกับเพื่อนและญาติที่สนิทกันมากๆ ทุกวัน. ส่งข้อความหาคนที่คุณรักทุกวัน เมื่อไหร่ก็ตามที่ทำได้ ให้โทรหรือไปเยี่ยมพวกเขาด้วยตัวเองเลย วิธีนี้จะช่วยให้คุณรักษาความสัมพันธ์ที่ดีและแน่นแฟ้นเอาไว้ได้ [14]
    • เช่น ส่งข้อความสวัสดีตอนเช้าไปหาคนรัก ถามข่าวคราวจากพ่อแม่ และส่งมีมไปให้เพื่อน
    • ชวนเพื่อนไปดื่มกาแฟด้วยกันหรือชวนพวกเขามาดู Netflix ที่บ้าน
    • ไปกินข้าวเย็นกับครอบครัวสัปดาห์ละครั้ง หรือ Skype หาครอบครัวถ้าคุณอยู่ไกลกัน
  3. ให้ความสนใจอีกฝ่ายอย่างเต็มที่เวลาที่อยู่ด้วยกัน. สร้างนิสัยไม่ดูโทรศัพท์หรือส่งข้อความเวลาอยู่กับเพื่อนๆ ญาติ หรือคนรัก ให้ความสำคัญกับช่วงเวลาที่คุณได้อยู่กับพวกเขา และตั้งใจฟังในสิ่งที่เขาพูด การทำเช่นนี้จะทำให้ความสัมพันธ์ของคุณแน่นแฟ้นและจะช่วยให้คุณได้เชื่อมโยงกับคนอื่นด้วย [15]
    • เวลาที่อยู่กับเพื่อนๆ ให้แบ่งเวลาที่จะได้คุยกันสองคนบ้าง เช่น ถ้านัดดูหนังกัน ก็อาจจะคุยกันสัก 15 นาทีก่อนจะเปิดหนังดู
    • ถ้าอีกฝ่ายเล่นโทรศัพท์อยู่ ก็บอกเขาว่าคุณอยากได้ความสนใจจากเขา บอกเขาว่า “ฉันดีใจจังที่คืนนี้เราได้มากินข้าวด้วยกัน ว่าแต่เธอช่วยเก็บโทรศัพท์ตอนที่เรากินข้าวกันได้หรือเปล่า”
  4. แทนที่จะคบเพื่อนที่ดูเท่ ให้มองหาเพื่อนที่สนใจคุณ ให้คำแนะนำแก่คุณ และสนับสนุนคุณ เพื่อนแบบนี้แหละที่จะทำให้ชีวิตของคุณเจ๋งสุดๆ! ใช้เวลากับคนที่คุณอยู่ด้วยแล้วมีความสุขให้มากขึ้น [16]
    • ปฏิบัติกับเพื่อนเหมือนที่คุณอยากให้เขาปฏิบัติต่อคุณ คอยอยู่เคียงข้างเวลาที่เขาต้องการคุณและคอยให้กำลังใจเขาอยู่เสมอ
    • อย่ากังวลว่าจะต้องตัดขาดคนที่เป็นพิษไปเสียทีเดียว แต่ให้พยายามดึงคนที่ดีเข้ามาให้มากๆ แล้วคนพวกนี้จะหายไปจากชีวิตคุณเอง
  5. ความสัมพันธ์ที่ดีต้องมีทั้งการให้และการรับ เพราะฉะนั้นอย่าเป็นแค่ผู้รับฝ่ายเดียว พยายามตอบแทนเวลาที่เพื่อนๆ ครอบครัว หรือคนรักทำสิ่งดีๆ ให้คุณ การรักษาสิ่งเหล่านี้ให้สมดุลจะช่วยรักษาความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้น [17]
    • เช่น ถ้าเพื่อนช่วยเหลือคุณ ก็ให้ตอบแทนเขา อาจจะเป็นการช่วยเหลือหรือท่าทีที่แสดงความปรารถนาดีก็ได้ เช่น เลี้ยงกาแฟ
    • เช่นเดียวกัน ถ้าคนรักเลือกทำในสิ่งที่คุณอยากทำเสมอ ก็เสนอให้เขาเป็นคนเลือกกิจกรรมถัดไปให้คุณบ้าง

    เคล็ดลับ: ถ้าคุณคบกับคนที่เป็นผู้รับอย่างเดียว ก็อย่าเพิ่งมองว่าเขาเป็นคนไม่ดี แต่ให้คิดว่าเขาอาจจะไม่รู้ตัวว่าเขาเป็นแบบนั้น จากนั้นพยายามคุยกับเขาเรื่องนี้ ลองพูดว่า “ช่วงหลังมานี้ฉันคิดว่าฉันทุ่มเทให้กับความสัมพันธ์มากกว่าที่ฉันได้รับ คุณว่าความสัมพันธ์ของเราเป็นยังไงบ้าง”

  6. ถ้าคุณคิดว่าคนอื่นเป็นคนดี มุมมองของคุณที่มีต่อโลกก็จะดีขึ้นมาก และยังทำให้คุณเห็นข้อดีในตัวคุณมากขึ้นด้วย ซึ่งก็จะช่วยให้คุณอารมณ์ดีขึ้น พยายามมองคนอื่นในแง่ดี วิธีการก็เช่น: [18]
    • อย่าเพิ่งคิดว่าเขาไม่ดีถ้าไม่มีหลักฐาน
    • มองว่าทุกการกระทำมีเหตุผลที่ดี
    • มองหาพรสวรรค์ของคนอื่นแทนที่จะหาข้อบกพร่อง
    • สนใจสิ่งที่ดีที่สุดในตัวเขาแทนที่จะไปมองสิ่งที่แย่ที่สุด
    • จำไว้ว่าไม่ใช่ทุกคนที่ผ่านเส้นทางชีวิตมาแบบเดียวกันกับคุณ
  7. เปิดใจ ตกหลุมรักใครสักคน เมื่อพร้อม. ก่อนที่คุณจะตามหา ความรัก คุณต้องแน่ใจก่อนว่าคุณรู้จักตัวเองดี จากนั้นคิดดูว่าคุณต้องการอะไรมากที่สุดในตัวคนรัก เมื่อคุณเจอใครที่เขาสนใจคุณแบบคนรัก ก็ให้ทำความรู้จักกับเขาเพื่อให้รู้ว่าคุณเข้ากันได้หรือเปล่า ปล่อยให้ความสัมพันธ์เติบโตกลายเป็นความรักขณะที่คุณสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับเขา [19]
    • คุณอาจจะต้องตกหลุมรักและผิดหวังกับความรักหลายครั้งในชีวิต ถึงแม้มันจะเป็นกระบวนการที่เจ็บปวด แต่มันก็ช่วยให้คุณได้พบกับคนรักที่ดีสำหรับคุณมากที่สุด
    • อย่าพยายามฝืนความรัก ความสัมพันธ์ที่ดีที่สุดต้องใช้เวลาในการเติบโตและพัฒนาไปสู่ความสัมพันธ์ที่แท้จริง
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • เอาตัวเองออกไปสู่โลกกว้าง กล้าเสี่ยง และให้เกียรติผู้อื่น
  • ถ้าคุณรู้ว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ใช่ ก็ทำเลย
  • ดูแลตัวเองทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ [20]
  • อดทนกับตัวเอง
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 4,388 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา