PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

ภาวะกระเพาะอาหารบีบตัวช้า (Gastroparesis) นั้นเป็นความผิดปกติของระบบย่อยที่กล้ามเนื้อกระเพาะของคุณซึ่งมันจะอ่อนแรงและทำให้อัตราการย่อยต่ำลง แม้ว่าจะไม่มีการรักษาภาวะนี้ ยังมีวิธีธรรมชาติที่คุณสามารถรักษาอาการที่เกิดจากภาวะนี้ได้ วิธีที่สำคัญอย่างหนึ่งก็คือการเปลี่ยนแปลงการทานอาหารของคุณเอง

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

เปลี่ยนแปลงการทานอาหาร

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. แพทย์หรือนักโภชนาการจะช่วยวางแผนการทานอาหารที่ได้ผลสำหรับคุณ เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องมีทางเลือกหลายๆ ทางที่ดีต่อคุณ อย่าเพียงแค่เลิกทานอาหาร ให้หาอาหารใหม่ๆ ที่จะช่วยให้คุณจัดการกับโรคนี้ ระลึกไว้ว่าการเปลี่ยนแปลงการทานอาหารนั้นเป็นโครงการที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องและคุณจำเป็นที่จะต้องไปพบกับแพทย์หรือนักโภชนาการหลายครั้งเพื่อวางแผนอย่างเหมาะสม
  2. นี่เป็นเพราะว่าไขมันจะลดอัตราของการย่อยอาหาร อาหารที่มีไขมันสูงนั้นได้แก่เนื้อสัตว์หลายชนิด ชีส มันฝรั่งทอดและแครกเกอร์ พาย ซอสครีม ให้เน้นการทานอาหารที่มีไขมันต่ำแบบนี้แทน [1]
    • คอทเทจชีส
    • โยเกิร์ตที่ไม่มีไขมัน
    • ไข่ขาว
    • เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน (สัตว์ปีก เนื้อที่มีไขมันแทรกอยู่น้อย (lean cut) อย่างตรงส่วนโคนขาและสะโพก)
    • ผักผลไม้สดที่สามารถนำมาเป็นพูเร (puree) ได้
  3. ปกติแล้วไฟเบอร์จะมีโอลิโกแซกคาไรด์ (oligosaccharides) ซึ่งเป็นสารที่ย่อยยาก นี่เป็นเพราะว่ากระเพาะของคุณอาจจะไม่มีเอนไซม์ที่ย่อยสารประกอบเหล่านี้ ดังนั้น อาหารที่ทานเข้าไปจึงจะไม่ย่อยและอยู่ในลำไส้ใหญ่และทวาร อาหารที่มีไฟเบอร์ต่ำนั้นได้แก่ [2]
    • เนื้อบด
    • เต้าหู้
    • ปลา
    • ไข่
    • นม
    • ขนมปังขาว
    • ข้าวขาว
    • ผักในกระป๋อง
  4. อาหารพูเรนั้นย่อยง่ายกว่าอาหารทั้งส่วนที่เป็นชิ้นๆ ให้ลองดูในอาหารพูเรว่ามีอาหารก้อนใหญ่ๆ ที่จะย่อยยากหรือไม่ หรือจะลองทำสมูทตี้ที่มีผักและผลไม้สดก็ได้ [3]
  5. กระเพาะอาหารของคุณนั้นย่อยอาหารได้ยาก แต่คุณอาจจะรู้สึกว่ามันย่อยอาหารง่ายขึ้นถ้าคุณลองถ้าดื่มเครื่องดื่มที่มีแคลอรี่ เครื่องดื่มเช่นนั้นได้แก่นมข้นและโปรตีนเชค ทั้งสองอย่างจะเติมเต็มในเรื่องโปรตีน คุณอาจจะลองดื่มซุปใสๆ หรือน้ำแกง ซึ่งจะช่วยเติมเต็มแร่อิเล็กทรอไลต์ในร่างกายและมอบสารอาหาร หรืออาจจะดื่มเครื่องดื่มที่อุดมด้วยอิเล็กทรอไลต์ก็ได้ (เช่น เครื่องดื่มเกลือแร่สำหรับออกกำลังกาย หรือพีเดียไลท์ (Pedialyte))
  6. ขิงนั้นมีคุณสมบัติที่ช่วยในการย่อยอาหาร มันมีจินเจอรอล (gingerol) และโชกาออล (shogaol) เชื่อว่าสารทั้งสองเชื่อว่าจะเพิ่มน้ำย่อยในกระเพาะและการขับของเสียที่จำเป็นต่อการย่อย ลองดื่มชาขิง 1 ถ้วยต่อวัน ในการทำชาขิงนั้นมีวิธีดังนี้
    • หั่นขิงเป็นชิ้นประมาณ 30 กรัม
    • ต้มน้ำ 3 ถ้วย
    • ใส่ขิง 30 กรัมไปในน้ำต้มเดือดและแช่ไว้เป็นเวลา 10-15 นาที
    • ปล่อยให้เย็นลงนิดหน่อยและดื่ม
  7. สะระแหน่นั้นมีส่วนผสมออกฤทธิ์อยู่ 2 อย่างนั่นคือเมนทอล (menthol) และ เมนโทน (menthone) ซึ่งจะช่วยให้กล้ามเนื้อกระเพาะผ่อนคลาย มันยังช่วยให้กระเพาะอาหารเพิ่มน้ำดีมากขึ้นซึ่งจะช่วยในการย่อยไขมัน ในการทำชาสะระแหน่มีวิธีการดังนี้
    • เด็ดใบสะระแหน่และฉีกเป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อที่เมนทอลและสารอื่นๆ ที่สำคัญจะได้ถูกผลิตขึ้นมา
    • ต้มใบสะระแหน่ 2 ช้อนโต๊ะในน้ำ 3 ถ้วย
    • แช่ไว้เป็นเวลา 10-15 นาที
    • ปล่อยให้เย็นลงและดื่ม
  8. แม้ว่ามันจะเป็นของเหลว แต่มันไม่มีสารอาหารอะไรเลย มันไม่ได้ทำให้ร่างกายของคุณชุ่มชื้นแต่ทำให้อิ่มท้องแค่นั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ดีต่อภาวะกระเพาะบีบตัวช้า [4]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทาน

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. เพื่อที่จะช่วยให้กระเพาะในการย่อยอาหารที่คุณทาน ให้ลองเคี้ยวอาหารให้ละเอียดๆ เท่าที่เป็นไปได้ก่อนกลืน อาหารที่เละๆ แล้วจะย่อยได้ง่ายกว่า ให้ลองทานและเคี้ยวในจังหวะช้าๆ เพื่อช่วยให้กระเพาะของคุณแข็งแรงขณะที่คุณทาน แม้ว่าจะบอกไม่ได้ว่าคุณควรเคี้ยวคำละกี่ครั้ง แต่คุณควรลองเคี้ยวอาหารจนกระทั่งมันเกือบจะละเอียดทั้งหมดก่อนที่จะกลืน [5]
  2. การทานอาหารมื้อเล็กประมาณ 6 มื้อนั้นจะย่อยได้ง่ายกว่าอาหารมื้อใหญ่ 3 มื้อต่อวัน เมื่อคุณทานอาหารในปริมาณน้อยกว่า กระเพาะของคุณจะผลิตกรดไฮดโดรคลอริกในปริมาณน้อยกว่าเดิมซึ่งก็จะใช้พลังงานน้อยกว่าด้วย [6]
  3. เพราะว่าโรคกระเพาะอาหารบีบตัวช้านั้นคือการทำงานของระบบย่อยอาหารที่ผิดปกติ เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องเลือกอาหารที่ย่อยง่าย อาหารบางอย่างนั้นย่อยง่ายกว่าแบบอื่น ดังนั้น มันจึงถูกย่อยอย่างรวดเร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น อาหารที่ย่อยง่ายนั้นได้แก่
    • ขนมปังขาว
    • ซุป
    • แตงโม
    • ลูกพีช
    • ลูกแพร์
    • น้ำผลไม้
    • มันฝรั่ง
    • แอปเปิ้ลไม่มีเปลือก
    • เห็ด
    • ผักกาด
    • โยเกิร์ต
  4. การดื่มน้ำขณะที่คุณทานอาหารอยู่จะละลายกรดไฮโดรคลอริกที่อยู่ในกระเพาะซึ่งก็จะทำให้การบีบตัวของกระเพาะอาหารเพื่อดันอาหารลงสู่ลำไส้เล็กช้ากว่าเดิม ให้ลองดื่มน้ำเยอะๆ หลังมื้ออาหารแทนเพื่อหลีกเลี่ยงการเจือจางกรดขณะที่คุณทาน [7]
  5. เมื่อคุณนอนราบหลังจากที่ทานอาหาร กระเพาะของคุณจะย่อยอาหารที่คุณเพิ่งทานได้ยากมากขึ้น หากเป็นไปได้ ให้ลองทานอาหารอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมงก่อนเข้านอนในตอนกลางคืนหรืองีบหลับ
  6. หลังจากที่คุณทานอาหารแล้ว ให้ลองออกไปเดินเล่น การออกกำลังกายจะช่วยกระตุ้นการเผาผลาญซึ่งก็จะช่วยกระเพาะของคุณในการย่อยอาหาร การเดินเล่นเบาๆ ก็จะช่วยกระเพาะของคุณย่อยอาหารได้เร็วขึ้นกว่าแค่นั่งเฉยๆ หลังจากทานอาหารเสร็จ [8]
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

เข้าใจภาวะกระเพาะอาหารบีบตัวช้า

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณอาจจะไม่แน่ใจว่าคุณมีภาวะกระเพาะอาหารบีบตัวช้าหรือไม่ อาการของภาวะนี้ได้แก่ [9]
    • อาการอิ่มแน่น: คุณอาจจะรู้สึกอิ่มแน่นหลังจากที่ทานอาหารปริมาณน้อยๆ นี่เป็นเพราะว่ากระเพาะของคุณใช้เวลานานขึ้นในการย่อยอาหาร ซึ่งก็จะทำให้คุณรู้สึกอิ่มแน่น
    • มีแก๊สที่กระเพาะ: ตามที่ได้กล่าวไป ภาวะกระเพาะอาหารบีบตัวช้าทำให้อาหารคงเหลืออยู่ในท้องแทนที่จะไปที่ลำไส้เล็ก ความล่าช้านี้ก็จะทำให้มีแก๊สก่อตัวขึ้น
    • คลื่นเหียนและอาเจียน: คุณอาจจะรู้สึกคลื่นไส้หรืออาจจะอาเจียนหลังจากที่ทานอาหาร อาการคลื่นไส้นั้นเกิดจากการก่อตัวของอาหารและของเสียในอยู่ในกระเพาะ
    • ไม่อยากอาหาร: เมื่อคุณรู้สึกอิ่มทันทีหลังจากที่ทานอาหารได้เพียงเล็กน้อย คุณก็จะรู้สึกหิวน้อยลงในระหว่างมื้ออาหารปกติ
    • น้ำหนักลด: เมื่อคุณรู้สึกอิ่มอยู่ตลอดเวลา คุณก็จะทานอาหารบ่อยๆ ได้น้อยลง ซึ่งนี่ก็จะทำให้น้ำหนักลด
    • จุกเสียด: เมื่อในการะเพาะอาหารของคุณมีอาหารอยู่เต็มแน่น กระเพาะก็จะส่งสัญญาณไปที่หลอดอาหาร ซึ่งนี่เรียกว่าการขยอกอาหารจากกระเพาะกลับไปที่ปาก (regurgitation) ปกติแล้วอาหารจะผสมกับน้ำย่อยในกระเพาะซึ่งก็จะทำให้รู้สึกแสบร้อนหรือที่เรียกว่าจุกเสียด
  2. ทำความเข้าใจปัจจัยเสี่ยงที่จะเป็นภาวะกระเพาะอาหารบีบตัวช้า. มีหลายคนที่มีแนวโน้มที่จะมีอาการนี้มากกว่าคนอื่นๆ ซึ่งมักจะเป็นกลุ่มคนต่อไปนี้ [10] :
    • เป็นโรคเบาหวาน
    • ผู้ที่ผ่าตัดที่เกี่ยวกับท้อง
    • ผู้ที่ใช้ยาบางอย่างที่จะทำให้กระบวนการย่อยอาหารช้าลง
    • ผู้ที่ติดเชื้อที่เกี่ยวข้องกับระบบย่อยอาหาร
  3. ระวังไว้ว่าการสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์นั้นจะทำให้อาการแย่ลง. แม้ว่าการสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์นั้นแย่กับสุขภาพทั่วไปของคุณอยู่แล้ว แต่มันจะยิ่งทำให้แย่หากคุณมีภาวะกระเพาะอาหารบีบตัวช้า สารทั้งสองนั้นจะเพิ่มอาหารจุดเสียดและทำให้สุขภาพโดยรวมของคุณแย่ลง
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • แนะนำว่าควรหลีกเลี่ยงอาหารปรุงสุกที่มีกลิ่นแรง นี่เป็นเพราะมันอาจจะทำให้คุณคลื่นไส้และทำให้อาการแย่ลง
  • แนะนำว่าควรหลีกเลี่ยงการทานอาหารที่มีเครื่องเทศเพราะมันจะทำให้จุกเสียดกว่าเดิมและทำให้อาการแย่ลง
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 6,859 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา