PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

Google Drive จะต่างจากโปรแกรม Word Processor ทั่วไป ตรงที่จะเซฟการเปลี่ยนแปลงในเอกสารโดยอัตโนมัติ ทุก 2 - 3 วินาที บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการเซฟไฟล์เอกสารทั้งแบบ online และ offline โดยละเอียด รวมถึงวิธีการเซฟไฟล์ copy ของเอกสารที่ใช้งานร่วมกัน (shared document) ให้คุณมีสิทธิ์เป็นเจ้าของและแก้ไขไฟล์ได้ อ่านต่อไปแล้วจะรู้ว่าทำไมไม่ต้องคลิกปุ่ม "Save" เลย

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

เซฟไฟล์งาน

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. พอคุณพิมพ์อะไรเพิ่มไปใน Google Doc ทุกการเปลี่ยนแปลงจะถูกเซฟลง drive อัตโนมัติ ให้สังเกตดู ข้าง tab “Help” ที่ด้านบนของหน้าจอ จะมีข้อความสีเทาจางๆ ตอนคุณพิมพ์งาน ข้อความนี้จะขึ้นว่า “Saving…” และพอหยุดพิมพ์ จะกลายเป็น “All changes saved to Drive” แทน
    • ไม่จำเป็นต้องคลิกปุ่ม save หรือกดคีย์ลัดแต่อย่างใด [1]
  2. ถ้าพิมพ์งานใน Google Doc ต้อง export (นำออก) ไฟล์ไปใช้ในโปรแกรมอื่น โดยคลิก tab “File” ทางด้านบนของหน้าจอ จากนั้นเลื่อนเคอร์เซอร์ไปที่ “Download as” แล้วเลือกชนิดไฟล์ (file type) จากในรายชื่อ ในหน้าต่าง dialog box ที่โผล่มา จะเปลี่ยนชื่อไฟล์ ใส่แท็กให้เอกสาร หรือเลือกตำแหน่งเซฟไฟล์ได้
    • ชนิดไฟล์ที่เลือกได้ก็เช่น Microsoft Word, Open Document Format, Rich Text Format, PDF, Plain Text, Web Page และ EPUB Publication [2]
  3. บางทีคุณอาจจะอยากเซฟแล้ว export ไฟล์ใน Google เป็นฟอร์แมตอื่น ก็ให้เลือก File > Download As จากนั้นเลือก extension หรือนามสกุลไฟล์ที่ต้องการจากในเมนูที่โผล่มา พอ export และดาวน์โหลดเอกสารแล้ว Google Drive จะไม่ sync อัตโนมัติเวลาแก้ไขเอกสารอีก ตัวอย่างนามสกุลไฟล์ที่เลือกได้ก็เช่น
    • .docx
    • .odf
    • .rtf
    • .pdf
    • .txt
    • .html [3]
  4. คุณเผยแพร่ (publish) เอกสารขึ้นเว็บตัวเองจาก Google Drive ได้โดยตรง โดยเป็นเอกสารแบบ live คือเปลี่ยนแปลงตามที่คุณแก้ไข ถ้าคุณปรับแต่งอะไรในเอกสาร ก็จะ sync กันแล้วไปขึ้นในเว็บ คุณ export ไฟล์เข้าเว็บได้โดยเลือก File > Publish to the Web > Allow Live Changes to be Made to the Document > Start Publishing
    • ถ้าอยากให้เอกสารเป็นแบบ static (ไม่ sync กับ Google Drive) ก็ไม่ต้องเลือก "Allow Live Changes to be Made to the Document" [4]
  5. ถ้าเซฟไฟล์ใน Google Drive ไม่ได้ จะมีขึ้นเตือนว่า "Failed to save on google drive" สาเหตุที่ Google Drive เซฟไฟล์ไม่ได้ มักเป็นเพราะสัญญาณเน็ตไม่เสถียร แบบนี้ให้ copy เนื้อหาในเอกสารไว้ใน clipboard แล้วรีเฟรชหน้าเว็บ ถ้ามีเนื้อหาหายไป ให้คลิก Select All แล้ว Paste เนื้อหาที่ copy ไว้กลับไปในเอกสาร
    • คุณ Select All ได้โดยกดคีย์ลัด Ctrl A (Windows) หรือ Command A (Mac)
    • ถ้าจะ Copy เนื้อหาจากเอกสาร ให้กดคีย์ลัด Ctrl C (Windows) หรือ Command C (Mac)
    • ถ้าจะ Paste เนื้อหาลงเอกสาร ให้กดคีย์ลัด Ctrl P (Windows) หรือ Command P (Mac)
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

เซฟ Shared Document ลง Drive

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. เวลาใครแชร์เอกสารมาให้คุณ บางทีก็ดูได้อย่างเดียว แก้ไขหรือเซฟไม่ได้ ถ้าอยากแก้ไขอะไรในเอกสารนั้น ก็ต้องสร้างไฟล์ copy ขึ้นมา เท่ากับเป็นเจ้าของไฟล์ คุณเปิดไฟล์ที่แชร์ได้จากอีเมลหรือใน Google Drive
    • โหมดนี้เรียกว่า "View Only" [5]
  2. เลือก File > Make a copy > OK ไฟล์ใหม่ที่ copy มาจะเปิดและเซฟอัตโนมัติ
    • ถ้าแก้ไขอะไรในเอกสาร ทุกการเปลี่ยนแปลงจะถูกเซฟอัตโนมัติ
    • ถ้าคุณเป็นเจ้าของไฟล์ต้นฉบับ จะมีตัวเลือกให้แชร์ไฟล์กับ original group หรือกลุ่มตั้งต้น [6]
  3. พอเซฟไฟล์ copy ของเอกสารที่แชร์มาแล้ว ก็เท่ากับคุณกลายเป็นเจ้าของไฟล์ใหม่ ในคอลัมน์ "Ownership" ของ Google Drive จะเห็นคำว่า "Me" พอเป็นเจ้าของไฟล์แล้ว คุณก็เปลี่ยนชื่อเอกสารได้ตามใจชอบเลย [7]
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

เซฟไฟล์ Google Doc แบบ Offline

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ติดตั้ง Google Drive แล้วใช้แก้ไขและเซฟไฟล์ Google Doc แบบ offline ได้ ทุกการเปลี่ยนแปลงในเอกสารจะ sync กับ Google Drive ออนไลน์อัตโนมัติ
    • เข้าหน้า Get Drive Everywhere ของ Google
    • เลื่อนเคอร์เซอร์ไปที่ “Download Drive” แล้วเลือก “Mac” จากในเมนูที่ขยายลงมา [8]
    • อ่านแล้วยอมรับ Terms of Service (ข้อตกลงการใช้งาน) จากนั้นเปิดไฟล์ installgoogledrive.dmg แล้วลากไอคอน Google Drive ไปที่โฟลเดอร์ Applications สุดท้ายเปิด Google Drive
    • ล็อกอินเข้า Google Drive จากนั้นติดตั้งจนเสร็จ
  2. พอติดตั้ง Google Drive ใน Windows แล้ว คุณก็เปิด แก้ไข และเซฟไฟล์ Google Docs ได้เลยทั้งๆ ที่ offline โดยเวอร์ชั่นใหม่จะ sync กับ drive ออนไลน์
    • เข้าหน้า Get Drive Everywhere ของ Google จากนั้นเลื่อนเคอร์เซอร์ไปที่ “Download Drive” แล้วเลือก “Windows” จากในเมนูที่ขยายลงมา [9]
    • อ่านแล้วยอมรับ Terms of Service (ข้อตกลงการใช้งาน) จากนั้นเปิดไฟล์ googledrivesync.exe
    • ล็อกอินเข้า Google Drive จากนั้นติดตั้งจนเสร็จ [10]
  3. เปิดเบราว์เซอร์แล้วล็อกอินเข้าบัญชี Google จากนั้นเปิด Google Drive แล้วคลิกไอคอน “Settings” (วงล้อ) เลือก “Settings” หาหัวข้อ “Offline” แล้วติ๊กช่องข้าง “Sync Google Docs, Sheets, Slides & Drawings files to this computer so that you can edit offline.” [11]
  4. ย้ายไฟล์กับโฟลเดอร์จากหน้า desktop ไปที่โฟลเดอร์ Google Drive. พอติดตั้ง Google Drive แล้ว โฟลเดอร์ "Google Drive" จะถูกสร้างอัตโนมัติในโฟลเดอร์ "Document" ที่มี คุณเพิ่มเอกสารและไฟล์ต่างๆ ลงโฟลเดอร์นี้ได้ 2 วิธี
    • พอเปิด online access แล้ว ไฟล์ในเว็บ Google Drive จะ sync หรือไปโผล่ในโฟลเดอร์ "Google Drive" ที่หน้า desktop โดยอัตโนมัติ
    • คุณย้ายเอกสารกับไฟล์ต่างๆ จากหน้า desktop ไปที่โฟลเดอร์ "Google Drive" เองได้ แล้วโฟลเดอร์จะ sync กับ cloud อัตโนมัติ
  5. โปรแกรม Google Drive ให้คุณแชร์ไฟล์กับคนอื่นได้ โดยเปิดโฟลเดอร์ "Google Drive" แล้วคลิกขวาไฟล์ที่จะแชร์ จากนั้นเลือก Google Drive > Share จากในเมนูที่โผล่มา คุณแชร์ไฟล์ได้ทั้งกับคนเดียวและหลายคน [12]
  6. อนุญาตให้ Google Docs เซฟและ sync ทุกการเปลี่ยนแปลงโดยอัตโนมัติ. ในโปรแกรม offline Google Drive จะเซฟการเปลี่ยนแปลงของเอกสารอัตโนมัติทุก 2 - 3 วินาที พอคอมต่อเน็ตเมื่อไหร่ โปรแกรม Google Drive ถึงจะทำงานได้เต็มรูปแบบเหมือนเวอร์ชั่นเว็บ อะไรที่คุณแก้ไขเปลี่ยนแปลงไป ก็จะถูกเซฟและ sync กับ drive ออนไลน์โดยอัตโนมัติ [13]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • คุณเซฟไฟล์ copy ของเอกสารได้ตลอดเวลา แค่คลิก tab “File” ที่แถบเมนู ตามด้วยคลิก “Make a copy…” ในเมนูที่โผล่มา
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 38,112 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา