ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
เกือบทุกคนต้องเคยกังวลบ้างเป็นบางครั้ง แต่การกังวลมากเกินไปมีผลต่อวิถีชีวิตที่มีความสุข ทำให้คุณนอนหลับยากขึ้นและทำให้คุณลืมนึกถึงสิ่งดีๆ ในชีวิต นอกจากนี้ความกังวลยังทำให้คุณรับมือกับปัญหาเกี่ยวกับสิ่งที่คุณกังวลได้ยากขึ้นอีกด้วย ที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ งานวิจัยบางชิ้นพบว่า การกังวลมากเกินไปอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพทางกายได้ด้วย [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง การกังวลเป็นประจำเป็นนิสัยที่แก้ได้ยาก แต่ข่าวดีก็คือ มีหลายสิ่งที่คุณสามารถทำได้เพื่อหยุดรูปแบบความกังวลที่มากเกินไป และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข
ขั้นตอน
-
เลื่อนความกังวลออกไป. ถ้าความกังวลรบกวนชีวิตวันต่อวันของคุณและคุณไม่สามารถเลิกกังวลได้ ลองเลื่อนความกังวลออกไปก่อน อนุญาตให้ตัวเองกังวลได้ แต่แค่ช่วงใดช่วงหนึ่งของวันเท่านั้น [2] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ HelpGuide ไปที่แหล่งข้อมูล
- เช่น คุณอาจจะแบ่งเวลาครึ่งชั่วโมงหลังอาหารในแต่ละวันเพื่อกังวลโดยเฉพาะ ในเวลาอื่นถ้าความกังวลผุดขึ้นมาในหัวคุณเมื่อไหร่ คุณก็รับรู้ถึงมันได้ แต่ให้บอกตัวเองว่า "ฉันจะคิดเรื่องนี้ทีหลัง" [3] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ HelpGuide ไปที่แหล่งข้อมูล
- เทคนิคนี้ทำให้คุณได้เลื่อนเวลากังวลออกไปได้ชั่วครู่ เพื่อที่คุณจะได้ผ่านแต่ละวันไปได้
-
เขียนความกังวลของคุณลงไป. จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยชิคาโกพบว่า การเขียนความกังวลของคุณลงไปช่วยให้คุณปล่อยวางมันได้ [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง นอกจากนี้การเขียนความกังวลลงไปยังช่วยทำให้ปัญหาดูแก้ไขได้มากขึ้นด้วย
- กลยุทธ์นี้ใช้ได้ผลดีกับการเลื่อนความกังวลออกไป การเขียนรายการความกังวลช่วยให้คุณรู้สึกเหมือนว่า คุณจะได้ปล่อยวางความกังวลจนกว่าจะถึง "เวลากังวล" จากนั้นเมื่อเวลากังวลมาถึง คุณก็แค่กลับไปดูรายการนั้นใหม่ [5] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ HelpGuide ไปที่แหล่งข้อมูล
-
บอกเล่าความกังวล. การพูดถึงสิ่งที่คุณกังวลช่วยคุณได้ วิธีนี้ช่วยปรับมุมมองของสิ่งต่างๆ และช่วยให้คุณได้รู้ถึงต้นตอของปัญหา [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- แต่ระวังว่าการเล่าเรื่องความกังวลมากเกินไปอาจทำให้เพื่อนๆ ของคุณทนฟังต่อไปแทบไม่ไหว ถ้าปัญหานี้ยังคงดำเนินต่อไป ให้ลองไปพบที่ปรึกษาหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตอื่นๆ
-
ใช้เวลากับคอมพิวเตอร์ให้น้อยลง. งานวิจัยไม่นานมานี้พบว่า คนที่พึ่งพาคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่นๆ ในการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมวิตกกังวลมากกว่า [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ลองลดเวลาอยู่หน้าจอลงเพื่อช่วยให้คุณเลิกกังวลมากจนเกินไป [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้โซเชียลมีเดียที่อาจนำไปสู่ความขัดแย้ง และการเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น นอกจากนี้ยังทำให้คุณผ่อนคลายได้ยากอีกด้วย ทุกสิ่งที่กล่าวมานี้ล้วนเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความกังวลทั้งสิ้น [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- การปิดเครื่องมือสื่อสารหลายๆ ครั้งในแต่ละวันทำให้คุณควบคุมความสัมพันธ์กับเทคโนโลยีได้มากขึ้น [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
อย่าปล่อยให้มือว่าง. การให้มือทำอะไรสักอย่าง เช่น ถักไหมพรมหรือนับ "ลูกประคำแก้กังวล" อาจช่วยลดความเครียดและความกังวลได้ [11] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง งานวิจัยจากสภาวิจัยทางการแพทย์ไม่นานมานี้พบว่า การทำให้มือไม่ว่างระหว่างที่มีเหตุการณ์ไม่ดีเกิดขึ้นอาจทำให้เหตุการณ์นั้นรบกวนจิตใจคุณในภายหลังน้อยลง [12] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ American Psychological Association ไปที่แหล่งข้อมูล
- งานวิจัยไม่ได้ค้นพบผลกระทบต่อความกังวลของสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว แต่ถ้าคุณอยู่ในสถานการณ์ที่มีปัญหาเกิดขึ้น ให้ใช้มือทำอะไรเป็นรูปแบบและซ้ำไปซ้ำมา เพราะอาจลดความวิตกกังวลได้ในภายหลัง [13] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ออกกำลังกายเยอะๆ. การออกกำลังกายไม่เพียงแต่ดีกับร่างกายของคุณเท่านั้น แต่ยังเป็นวิธีที่ช่วยลดความกระวนกระวายที่นำไปสู่ความวิตกกังวลได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย [14] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง การออกกำลังกายเป็นประจำอาจได้ผลดีกว่าการใช้ยาลดระดับความกังวลตามที่แพทย์สั่ง
- งานวิจัยในสัตว์พบว่า การออกกำลังกายเพิ่มระดับเซอโรโทนิน ซึ่งเป็นสารเคมีในสมองที่บรรเทาความกังวลและทำให้คุณรู้สึกมีความสุขมากขึ้น [15] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
หายใจลึกๆ. การหายใจช้าๆ ลึกๆ กระตุ้นเส้นประสาทเวกัสที่ช่วยลดความเครียดและความกังวล [16] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- บางคนแนะนำสูตรการหายใจ "4-7-8" เมื่อกังวล วิธีนี้ก็คือ ให้คุณหายใจออกทางปากให้สุด จากนั้นหายใจเข้าทางจมูก นับถึง 4 ขณะที่คุณหายใจเข้า ค้างลมหายใจไว้ 7 วินาที สุดท้ายให้หายใจออกทางปาก นับถึง 8 ขณะหายใจออก [17] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ลองทำสมาธิ. งานวิจัยทางการแพทย์พบว่า การฝึกสมาธิมีผลต่อสมองในด้านการลดความวิตกกังวล ถ้าคุณเป็นคนขี้กังวลไม่หาย การเรียนรู้ที่จะ ฝึกสมาธิ อาจมีประโยชน์กับคุณมาก
- การทำสมาธิเพิ่มกิจกรรมในสมองส่วน Ventromedial Prefrontal Cortex ซึ่งเป็นส่วนที่ควบคุมความกังวล [18] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง นอกจากนี้มันยังบังคับให้คุณอยู่กับปัจจุบันด้วย การทำสมาธิถ้าทำอย่างถูกต้องจะทำให้คุณไม่นึกถึงปัญหาในอนาคตเลย อย่างน้อยก็ขณะที่คุณกำลังฝึกสมาธิอยู่
-
ลองใช้อโรมาเธอราปี. งานวิจัยทางการแพทย์เมื่อไม่นานมานี้สนับสนุนความคิดที่ว่า กลิ่นน้ำมันหอมระเหยบางกลิ่นสามารถลดความเครียดและความกังวลได้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลิ่นเกรปฟรุตที่มีประสิทธิภาพในด้านนี้โดยเฉพาะ [19] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- น้ำมันหอมระเหยและผลิตภัณฑ์อโรมาเธอราปีอื่นๆ มีขายตามร้านสุขภาพและร้านอาหารธรรมชาติทั่วไป คุณจะแค่ลองดมกลิ่นเกรปฟรุตดูก็ได้นะ!
โฆษณา
-
รับรู้ถึงความกังวลและเดินหน้าต่อ. บางครั้งการพยายามกดความกังวลไว้ยิ่งทำให้มันดูแย่ลง เพราะฉะนั้นอย่าพยายามเมินเฉยต่อความกังวลของคุณ เมื่อไหร่ที่มันผุดขึ้นมาในหัว ยอมรับมัน แต่ก็ให้พยายามเดินหน้าต่อไปด้วย [20] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- การเลี่ยงไม่ให้นึกถึงสิ่งที่คุณพยายามไม่นึกถึงเป็นเรื่องยาก [21] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Science Direct ไปที่แหล่งข้อมูล
- การเขียนความกังวลลงไปหรือการกำหนด "เวลากังวล" ช่วยปล่อยผ่านความกังวลได้ [22] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ HelpGuide ไปที่แหล่งข้อมูล
-
จัดประเภทและท้าทายความกังวลของคุณ. เมื่อคุณนึกถึงสิ่งที่ทำให้คุณกังวล วิธีที่จะประมวลผลสิ่งที่คุณกังวลได้ดีก็คือการจัดประเภทให้มัน จัดระเบียบสิ่งที่ทำให้คุณกังวลแต่ละอย่างอย่างเจาะจง ดังนี้ :
- ปัญหานี้คุณแก้ได้หรือไม่ได้ ถ้าสิ่งที่คุณกังวลเป็นปัญหาที่คุณมีอำนาจที่จะแก้ไขได้ วิธีการแก้ไขที่ดีที่สุดอาจจะเป็นการเริ่มแก้ไขมัน เมื่อคุณมีแผนที่จะแก้ไขปัญหาแล้ว คุณก็จะกังวลน้อยลง ถ้าคุณไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ยอมรับมัน พยายามผ่านไปให้ได้ แล้วเดินหน้าต่อไป [23] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ HelpGuide ไปที่แหล่งข้อมูล
- นี่เป็นความกังวลถึงสิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นหรือไม่น่าจะเกิดขึ้น ความกังวลถึงสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นอาจรบกวนจิตใจคุณได้จริงๆ แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้าคุณตัดสินใจแล้วว่าสิ่งนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้น ก็จะเป็นขั้นแรกที่คุณจะได้ปล่อยความกังวลไป [24] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- นี่เป็นความกังวลถึงสิ่งที่แย่มากๆ หรือไม่ ลองนึกว่าคุณกังวลว่าอะไรจะเกิดขึ้น ถ้ามันเกิดขึ้น มันจะแย่แค่ไหน เรื่องที่เรากังวลส่วนใหญ่ถึงเวลาจริงแล้วมันมักจะไม่แย่ขนาดนั้น ถ้าคุณตัดสินใจแล้วว่ามันไม่ใช่หายนะ สิ่งนี้อาจช่วยให้คุณปล่อยวางมันได้ และจะยิ่งจริงมากขึ้นเป็นสองเท่าถ้ามันไม่น่าจะเกิดขึ้นได้จริง! [25] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ระหว่างที่กำลังประมวลผลอยู่นี้ ให้พยายามคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผล ถามตัวเองว่าคุณมีหลักฐานอะไรที่บอกว่าความกังวลของคุณตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ลองนึกว่าคุณจะบอกเพื่อนคนที่มีปัญหาเดียวกันนี้ว่าอะไร พยายามจินตนาการผลลัพธ์ที่ตามมาที่น่าจะเกิดขึ้นมากที่สุด ไม่ใช่นึกถึงกรณีเลวร้ายสุดที่อาจเกิดขึ้นได้ [26] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ HelpGuide ไปที่แหล่งข้อมูล
-
ทำให้ความกังวลของคุณเป็นเรื่องน่าเบื่อ. ถ้าเรื่องที่คุณกังวลเรื่องใดเรื่องหนึ่งรบกวนจิตใจคุณบ่อยครั้ง คุณอาจจะพยายามทำให้มันน่าเบื่อ เพื่อที่สมองของคุณจะได้กลับไปคิดถึงสิ่งนั้นน้อยลง วิธีนี้ทำได้ด้วยการคิดถึงสิ่งนั้นซ้ำไปซ้ำมาหลายๆ นาที [27] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เช่น ถ้าคุณกังวลว่าคุณจะประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ให้ท่องไว้ในหัวว่า "ฉันอาจจะประสบอุบัติทางรถยนต์ ฉันอาจจะประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์" ในระยะสั้น วิธีนี้อาจทำให้คุณยิ่งกังวล แต่หลังจากนั้นอีกสักหน่อย คำในหัวจะเริ่มเสื่อมอำนาจและกลายเป็นเรื่องน่าเบื่อสำหรับคุณ และมีโอกาสว่าหลังจากนั้นมันจะไม่ผุดขึ้นมาในหัวของคุณบ่อยเหมือนเดิมอีกแล้ว
-
ยอมรับความไม่แน่นอนและความไม่สมบูรณ์แบบ. การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในด้านการคิดของคุณคือ การยอมรับว่าชีวิตเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้และไม่สมบูรณ์แบบ นี่เป็นกุญแจหลักของการหยุดความกังวลได้ในระยะยาว จุดเริ่มต้นที่ดีของการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ก็คือการทำแบบฝึกหัดเขียน จดคำตอบของคำถามเหล่านี้ลงไป: [28] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ HelpGuide ไปที่แหล่งข้อมูล
- เป็นไปได้ไหมที่คุณจะแน่ใจเกี่ยวกับทุกสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น
- ความต้องการความแน่นอนมีประโยชน์ต่อคุณในแง่ไหน
- คุณมักจะคาดการณ์ว่าสิ่งแย่ๆ จะเกิดขึ้นแค่เพราะคุณไม่แน่ใจหรือเปล่า แล้วมันสมเหตุสมผลไหม
- คุณอยู่กับโอกาสที่เรื่องแย่ๆ จะเกิดขึ้นได้หรือเปล่า ถ้าผลลัพธ์ไม่น่าจะออกมาเป็นแบบนั้น
- เมื่อเกิดความกังวลขึ้นในจิตใจ พยายามเตือนตัวเองถึงคำตอบของคำถามเหล่านี้
-
นึกถึงอิทธิพลทางสังคม. อารมณ์เป็นสิ่งที่ติดต่อกันได้ ถ้าคุณใช้เวลากับคนขี้กังวลหรือคนที่ทำให้คุณกังวลมากๆ คุณอาจจะต้องพิจารณาใหม่ว่าคุณจะใช้เวลากับคนพวกนี้มากแค่ไหน [29] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ HelpGuide ไปที่แหล่งข้อมูล
- ใช้เวลานึกถึงคนที่คุณใช้เวลาด้วย และคิดว่าพวกเขามีผลกระทบกับคุณอย่างไร การเขียน "ไดอารี่กังวล" ที่ติดตามว่าเมื่อไหร่ที่คุณกังวลมากที่สุดก็อาจช่วยคุณได้ ถ้าคุณพบว่าตัวเองกังวลทันทีหลังจากที่ไปเจอใครสักคน คุณอาจจะตัดสินใจว่าคุณต้องใช้เวลากับเขาหรือเธอให้น้อยลง หรือคุณอาจจะตัดสินใจว่ามีบางหัวข้อที่คุณไม่อยากจะเสวนากับคนๆ นี้อีกเลย
- การเปลี่ยนวงสังคมสามารถเปลี่ยนวิธีคิดของคุณได้
-
อยู่กับปัจจุบัน. ความกังวลส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากความกลัวเรื่องในอนาคตมากกว่าจะเป็นสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน การจดจ่ออยู่กับสภาพแวดล้อมและช่วงเวลาที่คุณกำลังประสบเป็นวิธีที่ช่วยปิดกั้นความกังวลได้เป็นอย่างดี [30] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ HelpGuide ไปที่แหล่งข้อมูล
- บางคนแนะนำเทคนิค "หยุด ดู ฟัง" วิธีนี้ก็คือ เวลาที่คุณกังวล ให้หยุดและรับรู้ถึงความกังวลนั้น หายใจลึกๆ จากนั้นมองสิ่งรอบข้าง ใช้เวลา 5 นาทีจดจ่ออยู่กับรายละเอียดของโลกรอบตัวคุณ ขณะที่คุณทำอย่างนั้น ให้พูดปลอบใจตัวเองและสร้างความเชื่อมั่นให้ตัวเองว่า ทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย [31] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
เคล็ดลับ
- กินช็อกโกแลต! น้ำตาลที่มากเกินไปหรืออาหารขยะอื่นๆ ไม่ใช่ความคิดที่ดี แต่งานวิจัยล่าสุดพบว่า การรับประทานดาร์กช็อกโกแลตในปริมาณน้อยๆ เป็นประจำช่วยลดความเครียดและความกังวลได้ [32] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง การรับประทานดาร์กช็อกโกแลต 40 กรัมทุกวัน 2 สัปดาห์ช่วยลดความเครียดและมีประโยชน์ต่อร่างกายในด้านอื่นๆ [33] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เรามักจะกังวลถึงสถานการณ์ที่ท้าทายเราหรือทำให้เราไม่สบายใจ บางครั้งการเปิดโอกาสให้ตัวเองได้อยู่ในสถานการณ์ที่คุณกังวลก็เป็นความคิดที่ดีเหมือนกัน วิธีนี้ช่วยให้คุณเห็นว่า คุณสามารถรับมือกับสถานการณ์ได้ ทำให้มันกลายเป็นแหล่งที่มาของความวิตกกังวลน้อยลง [34] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
คำเตือน
- ถ้าความกังวลของคุณยังคงอยู่ต่อเนื่องและรุนแรง คุณอาจจะต้องพบนักบำบัด เพราะเป็นไปได้ว่าคุณอาจจะเป็นโรคกังวลทั่วไป [35] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ National Institute of Mental Health ไปที่แหล่งข้อมูล ถ้าวิธีที่แนะนำในข้างต้นไม่ได้ผลกับคุณเลย และความกังวลก็ยังคงมีผลต่อความสามารถในการทำหน้าที่ของคุณอยู่ ให้ขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.webmd.com/balance/features/9-steps-to-end-chronic-worrying?page=2
- ↑ http://www.helpguide.org/articles/anxiety/how-to-stop-worrying.htm
- ↑ http://www.helpguide.org/articles/anxiety/how-to-stop-worrying.htm
- ↑ http://news.uchicago.edu/article/2011/01/13/writing-about-worries-eases-anxiety-and-improves-test-performance
- ↑ http://www.helpguide.org/articles/anxiety/how-to-stop-worrying.htm
- ↑ http://www.webmd.com/balance/features/9-steps-to-end-chronic-worrying?page=4
- ↑ http://www.anxietyuk.org.uk/2012/07/for-some-with-anxiety-technology-can-increase-anxiety/
- ↑ http://www.huffingtonpost.com/2013/10/01/stop-worrying-anxiety-cycle_n_4002914.html
- ↑ http://www.anxietyuk.org.uk/2012/07/for-some-with-anxiety-technology-can-increase-anxiety/
- ↑ http://www.anxietyuk.org.uk/2012/07/for-some-with-anxiety-technology-can-increase-anxiety/
- ↑ http://www.fastcompany.com/3040809/how-to-be-a-success-at-everything/7-surprising-things-that-can-help-you-stop-worrying
- ↑ http://www.apa.org/news/press/releases/2004/03/trauma-memory.aspx
- ↑ http://www.huffingtonpost.com/2013/10/01/stop-worrying-anxiety-cycle_n_4002914.html
- ↑ http://wellandgood.com/2012/04/04/exercise-is-better-than-xanax-how-workouts-banish-worries/?utm_source=huffingtonpost.com&utm_medium=referral&utm_campaign=pubexchange_article
- ↑ http://well.blogs.nytimes.com/2009/11/18/phys-ed-why-exercise-makes-you-less-anxious/
- ↑ http://psychcentral.com/blog/archives/2012/09/19/3-quick-ways-to-stop-worrying-on-the-spot/
- ↑ http://www.fastcompany.com/3040809/how-to-be-a-success-at-everything/7-surprising-things-that-can-help-you-stop-worrying
- ↑ http://scan.oxfordjournals.org/content/early/2013/06/03/scan.nst041
- ↑ http://www.fastcompany.com/3040809/how-to-be-a-success-at-everything/7-surprising-things-that-can-help-you-stop-worrying
- ↑ http://www.huffingtonpost.com/2013/10/01/stop-worrying-anxiety-cycle_n_4002914.html
- ↑ http://www.sciencedirect.com/science/article/pii/S0005796704000853
- ↑ http://www.helpguide.org/articles/anxiety/how-to-stop-worrying.htm
- ↑ http://www.helpguide.org/articles/anxiety/how-to-stop-worrying.htm
- ↑ https://www.psychologytoday.com/blog/insight-therapy/201501/how-stop-worrying-and-get-your-life
- ↑ https://www.psychologytoday.com/blog/insight-therapy/201501/how-stop-worrying-and-get-your-life
- ↑ http://www.helpguide.org/articles/anxiety/how-to-stop-worrying.htm
- ↑ http://www.webmd.com/balance/features/9-steps-to-end-chronic-worrying?page=3
- ↑ http://www.helpguide.org/articles/anxiety/how-to-stop-worrying.htm
- ↑ http://www.helpguide.org/articles/anxiety/how-to-stop-worrying.htm
- ↑ http://www.helpguide.org/articles/anxiety/how-to-stop-worrying.htm
- ↑ http://psychcentral.com/blog/archives/2012/09/19/3-quick-ways-to-stop-worrying-on-the-spot/
- ↑ http://pubs.acs.org/doi/abs/10.1021/pr900607v?tokenDomain=presspac&tokenAccess=presspac&forwardService=showFullText&journalCode=jprobs&
- ↑ http://pubs.acs.org/doi/abs/10.1021/pr900607v?tokenDomain=presspac&tokenAccess=presspac&forwardService=showFullText&journalCode=jprobs&
- ↑ http://www.webmd.com/balance/features/9-steps-to-end-chronic-worrying?page=3
- ↑ http://www.nimh.nih.gov/health/publications/generalized-anxiety-disorder-gad/index.shtml
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 5,975 ครั้ง
โฆษณา