ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
เมล็ดฟักทองมีอีกชื่อว่า pepitas ซึ่งหมายถึงเมล็ดของฟักทองและของพืชตระกูลน้ำเต้าและบวบ เมล็ดฟักทองส่วนใหญ่จะมีเปลือกสีขาวหรือเหลือง เรียกว่า hull เมล็ดข้างในแบนๆ สีเขียว เมล็ดฟักทองกินแล้วมีประโยชน์ เพราะอุดมไปด้วยแมกนีเซียม แมงกานีส ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก ทองแดง โปรตีน และซิงก์ (สังกะสี) จริงๆ แล้วเปลือกเมล็ดฟักทองก็กินได้ แต่บางคนไม่ชอบเพราะแข็งไป คุณแกะเปลือกเมล็ดฟักทองได้โดยบีบให้แตกแล้วต้มเมล็ด หรือจะแกะเปลือกทีละเมล็ดเลยก็ได้
ขั้นตอน
-
คว้านเมล็ดจากในฟักทอง. ถ้าอยากได้เมล็ดฟักทองสดๆ จะคว้านเอาเมล็ดฟักทองจากฟักทองที่ซื้อมาจากซูเปอร์หรือตลาดก็ได้ เริ่มจากค่อยๆ ใช้มีดเฉพาะเป็นวงกลมที่ด้านบน แถวขั้วของฟักทอง จากนั้นดึงส่วนนั้นเปิดออก
- ใช้มือหรือช้อนก็ได้ตามสะดวก ตักเมล็ดออกมาจากฟักทอง
- ตอนตักหรือหยิบเมล็ดออกมา จะมีเนื้อฟักทองส้มๆ ติดมาด้วย เดี๋ยวต้องล้างเมล็ดให้สะอาด ไม่เหลือเนื้อติด ได้เมล็ดแล้วให้เอาใส่ชามไว้
-
ล้างเมล็ดที่เอาออกมาจากฟักทอง. พอล้างฟักทองข้างในจนสะอาดแล้ว ให้ล้างเมล็ดด้วย จนไม่เหลือทั้งเนื้อและน้ำฟักทองติด เวลาล้างให้เอาเมล็ดติดเนื้อนั้นใส่ในกระชอน แล้วเอากระชอนรองน้ำก๊อกเย็นๆ ที่อ่างล้างจานจนเมล็ดสะอาด ไม่เหลือเนื้อฟักทองติด
- ถึงมีเนื้อติดเมล็ดบ้างก็ไม่เป็นไร เพราะบางทีก็ดึงออกยากจริงๆ แต่ถ้าทำได้ แนะนำให้แกะเนื้อออกให้ได้มากที่สุด เพราะเนื้อมักจะเป็นส่วนที่ไหม้เวลาอบเมล็ดฟักทองในเตาอบ [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ใช้ไม้นวดแป้งบี้เมล็ด. ตอนนี้ถึงเวลาเริ่มขั้นตอนกำจัดเปลือกเมล็ดฟักทองแข็งๆ แล้ว จริงๆ เปลือกเมล็ดฟักทองไม่เป็นอันตราย จะไม่แกะออกก็ได้ แต่หลายคนชอบกินแต่เมล็ดข้างใน บอกว่าเปลือกแข็งไป วิธีแกะเปลือกเริ่มจากโรยเมล็ดบนอะไรเรียบๆ แข็งๆ อย่างเขียงหรือหน้าเคาน์เตอร์ [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- พยายามเกลี่ยเมล็ดฟักทองให้เรียบเสมอกัน อย่าให้มีเมล็ดไหนซ้อนกัน
- หยิบไม้นวดแป้งมากลิ้งบนเมล็ด ออกแรงกดให้ได้ยินเสียงเปลือกแตกเบาๆ
- ระวังอย่ากดแรงไปตอนกลิ้งไม้ เพราะเดี๋ยวเมล็ดนิ่มๆ ข้างในจะบี้เละไปด้วย แค่ออกแรงพอให้เปลือกแตกก็พอ
-
ต้มเมล็ดในน้ำเดือดประมาณ 5 นาที. ต้มน้ำในหม้อให้เยอะพอจะใส่เมล็ดฟักทองได้ทั้งหมด เตรียมน้ำแล้วเทเมล็ดฟักทองใส่น้ำได้เลย การต้มแบบนี้จะช่วยให้เปลือกค่อยๆ หลุดไปจากเมล็ด [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ระหว่างต้มต้องเฝ้าเมล็ดให้ดี พอเปลือกหลุดไปแล้วก็ตักเมล็ดขึ้นจากน้ำร้อนได้เลย จะสังเกตว่าเปลือกหลุดจากเมล็ด ลอยอยู่ในน้ำ หรือจมลงไปที่ก้นหม้อแทน
- ปกติขั้นตอนนี้ใช้เวลาประมาณ 5 นาที แต่ต้องต้มนานหรือเร็วขึ้น ก็ขึ้นอยู่กับว่ามีเมล็ดฟักทองเยอะแค่ไหนด้วย ยิ่งเมล็ดน้อยก็ต้มเร็ว แค่ไม่กี่นาที แต่ถ้าเมล็ดฟักทองเยอะ ก็อาจจะต้องต้มนานเป็น 10 นาที กว่าเปลือกจะหลุด
-
เอาเมล็ดขึ้นมาพักให้เย็น. พอเปลือกหลุดไปแล้ว ก็เอาเมล็ดออกจากน้ำร้อนได้เลย โดยกรองน้ำออกที่อ่างล้างจานด้วยกระชอนหรือที่ร่อนแป้ง แล้วผึ่งไว้จนแห้ง
- จะโรยเมล็ดไว้ในถาดหรือหน้าเคาน์เตอร์ที่ปูทิชชู่ไว้ซับน้ำก็ได้
- ถ้ามีเศษเปลือกติดเมล็ดอยู่ ให้ใช้มือแกะออกหลังจับดูแล้วเมล็ดแห้งสนิท ที่สำคัญอย่าลืมล้างมือให้สะอาดซะก่อน
โฆษณา
-
เอาเมล็ดออกมาล้าง. ถ้าอยากได้เมล็ดฟักทองสดๆ ก็ต้องคว้านหรือหยิบเมล็ดออกมาซะก่อน ให้คว้านรอบๆ แล้วเอาขั้วฟักทองออก ดึงขั้วฟักทองให้เห็นเนื้อฟักทองข้างใน จากนั้นตักเอาทั้งเนื้อและเมล็ดออกไป จะใช้มือก็ได้ เสร็จแล้วล้างเมล็ดโดยเอาใส่กระชอน แล้วเปิดน้ำก๊อกเย็นๆ ราดใส่ ที่อ่างล้างจานได้เลย
- พยายามแกะเนื้อฟักทองออกจากเมล็ดให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะถ้าจะนำเมล็ดไปอบในเตาอบ ไม่งั้นเนื้อฟักทองจะไหม้ได้
- โรยเมล็ดแผ่ไว้แล้วซับให้แห้งด้วยทิชชู่ ถ้ายังชื้นๆ อยู่ อาจจะต้องรอสักพักค่อยเริ่มแกะเปลือก
- คุณอบเมล็ดก่อนแกะเปลือกได้ ถ้าอยากได้เมล็ดที่สุกแล้ว
-
หยิบเมล็ดมาพับเบาๆ จนแตก. ถ้าต้องทำเมนูที่ใช้เมล็ดฟักทองจำนวนมาก คงไม่สะดวกจะมานั่งแกะเปลือกทีละเมล็ด แต่ถ้าแค่จะกินเอง ก็แกะทีละเมล็ดได้เลย เริ่มจากหยิบเมล็ดฟักทองขึ้นมาอันนึง แล้วพยายามงอหรือพับลง [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ทำได้โดยใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้คีบเมล็ดฟักทองครึ่งเมล็ด จากนั้นใช้นิ้วชี้และนิ้วโป้งอีกมือจับอีกครึ่งที่เหลือ
- พับครึ่งเมล็ดฟักทอง ให้งอเมล็ดไปเรื่อยๆ จนเปลือกแตกเล็กน้อย ปกติจะไม่ต้องออกแรงมาก เพราะเทียบกับมือเราแล้ว เมล็ดฟักทองไม่ได้แข็งขนาดนั้น
-
แกะเปลือกออก. พอเปลือกแตกแล้ว ก็ใช้มือดึงเปลือกออกได้เลย โดยใช้นิ้วโป้งแงะรอยแตกของเปลือกให้อ้าออกมา พอเปลือกเปิดออก ก็ดึงเปลือกหลุดออกจากกันได้เลย [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้ายังเหลือเศษเปลือกติดเมล็ด ให้เอาไปล้างน้ำใหม่จนสะอาด
โฆษณา
-
กินเมล็ดฟักทองดิบเป็นของว่าง. หลายคนชอบกินเมล็ดฟักทองดิบเปล่าๆ ซึ่งก็มีประโยชน์ทางอาหารน่าดู เพราะไฟเบอร์สูง แถมอุดมแมกนีเซียม ทองแดง ซิลิเนียม และซิงก์ (สังกะสี) ถ้าคุณเป็นวีแกนหรือกินมังสวิรัติ ก็กินเมล็ดฟักทองเป็นของว่างบำรุงร่างกายได้เลย เพราะโปรตีนก็สูง [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ใครๆ ก็กินเมล็ดฟักทองได้ไม่มีปัญหา โดยเฉพาะถ้าแกะเปลือกออกแล้ว แต่ถ้ายังเหลือเศษเปลือกติดเมล็ด ระวังกินแล้วจะปวดท้องนิดหน่อย
- ถ้าให้เด็กๆ กินเมล็ดฟักทอง ต้องดูแลดีๆ เพราะถ้าไม่แกะเปลือก จะติดคอได้
-
ทอดเมล็ดฟักทอง. คุณเอาเมล็ดฟักทองไปปรุงอาหารได้หลายแบบ หนึ่งในนั้นคือผัดหรือทอดในน้ำมันมะกอก ให้เทน้ำมันมะกอกใส่กระทะ ส่วนจะมากหรือน้อยก็แล้วแต่จำนวนของเมล็ดฟักทองที่จะทอด ส่วนใหญ่แค่ให้น้ำมันเคลือบผิวกระทะก็พอแล้ว [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- รอ 2 - 3 นาทีให้น้ำมันร้อน ค่อยใส่เมล็ดฟักทองลงไป จากนั้นทอดเมล็ดในน้ำมันจนได้ยินเสียงเมล็ดแตก
- ตามด้วยใส่น้ำตาลประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ แล้วทอดต่อจนเมล็ดแตกซ้ำ สุดท้ายยกลงจากเตา พักไว้ให้เย็น แล้วกินให้อร่อยได้เลย
-
อบเมล็ดฟักทอง. จะอบเมล็ดฟักทองในเตาอบก็ได้ โดยวอร์มเตาที่อุณหภูมิ 375 องศาฟาเรนไฮต์ (190 องศาเซลเซียส) จากนั้นแผ่เมล็ดฟักทองให้ทั่วถาดอบ [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าชอบกินเมล็ดฟักทองรสธรรมชาติ ก็เอาเข้าไปอบทั้งแบบนั้นเลย แต่บางคนก็ปรุงรสด้วยผงกะหรี่ เกล็ดพริก chipotle หรือผงพริก cayenne ก่อน กานพลู ซินนามอน หรือลูกจันทน์ก็ใช้ปรุงรสให้เมล็ดฟักทองหวานขึ้นได้เหมือนกัน
- อบเมล็ดฟักทองประมาณ 20 นาที หรือจนกว่าจะเป็นสีน้ำตาลทอง
-
เท่านี้ก็กินให้อร่อยได้เลย.โฆษณา
เคล็ดลับ
- วิธีการต่างๆ ในบทความวิกิฮาวนี้ นำไปใช้กับเมล็ดผักชนิดอื่นๆ ในตระกูลน้ำเต้าและฟักได้ด้วย
โฆษณา
คำเตือน
- ตอนกรองน้ำหลังจากต้มเมล็ดฟักทอง ต้องค่อยๆ ทำ ระวังน้ำร้อนกระเด็นลวกมือและแขน
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.food.com/how-to/roast-pumpkin-seeds-13
- ↑ http://edibletapestry.com/pepita-how-to-roast-shell-pumpkin-seeds/
- ↑ http://edibletapestry.com/pepita-how-to-roast-shell-pumpkin-seeds/
- ↑ https://www.youtube.com/watch?v=6B34CX_zWn0
- ↑ https://www.youtube.com/watch?v=6B34CX_zWn0
- ↑ http://www.medicalnewstoday.com/articles/303864.php
- ↑ http://www.newhealthadvisor.com/How-to-Eat-Pumpkin-Seeds.html
- ↑ http://www.newhealthadvisor.com/How-to-Eat-Pumpkin-Seeds.html
- ↑ http://www.newhealthadvisor.com/How-to-Eat-Pumpkin-Seeds.html
โฆษณา