ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
หูอื้อเป็นได้ด้วยหลายสาเหตุ บางทีก็แน่นจนเจ็บ สุดท้ายอาจถึงขั้นต้องหาหมอ บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการแก้หูอื้อหรือปวดแน่นหูเบื้องต้นด้วยตัวเอง
ขั้นตอน
-
แก้หูอื้อเพราะเป็นหวัด. เป็นหวัดแล้วอาจทำให้โพรงไซนัสอุดตันได้ จนลามไปถึงท่อยูสเตเชียน (eustachian tubes) ที่เชื่อมหูส่วนกลางกับด้านในลึกๆ ของจมูก พอโพรงและท่อนี้อุดตัน จะทำให้ปวดแน่นน่าดู
-
ใช้เทคนิค Valsalva Maneuver. หรือการดันลมเบาๆ เอาทางหูระหว่างปิดปากปิดจมูก ใช้แก้หูอื้อตอนเป็นหวัดได้ดี เหมาะสำหรับนักบิน/แอร์ ผู้โดยสาร กระทั่งนักดำน้ำ [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ให้บีบจมูกทั้ง 2 ข้าง หายใจออกเหมือนสั่งน้ำมูกเบาๆ ห้ามสั่งแรงเด็ดขาด เพราะอาจเป็นอันตรายต่อแก้วหู
- พอลมออกหู ลดแรงดัน จะได้ยินเสียงลั่นเบาๆ แต่ต้องไม่ปวดหู
-
กินยาแก้คัดจมูก. เพื่อให้ไซนัสโล่ง หูกลับมาได้ยินชัดดังเดิม
-
ใช้สเปรย์แก้แพ้พ่นจมูก. ถ้าไซนัสตันเพราะภูมิแพ้ ลองกินยาแก้แพ้ (antihistamine) ก็น่าจะช่วยได้
-
หาหมอ. ถ้าแน่นหูปวดหูรุนแรง ควรไปหาคุณหมอหูคอจมูก (โสต ศอ นาสิก) คุณหมอจะจ่ายยาให้ เช่น ยาสเตียรอยด์พ่นจมูก (topical nasal steroids) และสอดท่อระบายของเหลวเพื่อลดแรงดันโฆษณา
-
ทำให้หูลั่น. ถ้าขึ้นที่สูงกะทันหัน เช่น นั่งเครื่องบิน บางทีก็ทำให้ความดันอากาศต่างกันระหว่างหูชั้นนอกกับหูชั้นใน ถึงจะไม่ได้มีขี้หูมาอุดตัน ก็แน่นหูเพราะ "อากาศอัด" จนรำคาญ หรือถึงขั้นปวดหู ใครโชคร้ายหน่อยก็เป็น 2 อย่างพร้อมกัน!
-
ป้องกันแต่เนิ่นๆ. ถ้ามีเหตุให้ต้องนั่งเครื่องหรืออะไรก็ตามที่อาจทำแน่นหูปวดหู เลยมาอ่านบทความนี้เพื่อหาวิธีป้องกัน ก็น่าจะช่วยได้ไม่มากก็น้อย เช่น ก่อนขึ้นเครื่องหรือขับรถขึ้นภูเขา ให้เคี้ยวหมากฝรั่งหรือดูดลูกอมแรงๆ
- การเคี้ยว กลืนน้ำลาย กระทั่งหาว ช่วยเปิดท่อยูสเตเชียน ปรับแรงดันอากาศนอกและในให้เท่ากัน
- ปวดหูแล้วก็ยังทำวิธีนี้ได้ ให้พยายามเคี้ยว กลืน หาวต่อไปจนหูลั่น หายหูอื้อ
โฆษณา
-
กำจัดขี้หูอุดตัน. อาจต้องทำวิธีที่แนะนำซ้ำหลายๆ วันติดกันจนหูโล่ง แต่บางกรณีแค่ทำครั้งเดียวก็สบายขึ้นเยอะ
-
ผสมน้ำส้มสายชูกับแอลกอฮอล์ในสัดส่วนที่เท่ากัน. สูตรนี้จะทำให้ขี้หู (cerumen) นิ่มขึ้น เลยล้างหรือขจัดออกได้ง่ายขึ้น
-
หยดส่วนผสมในหู. เอียงคอแล้วหยดส่วนผสม 2 - 3 หยดลงในหู ให้ใช้หลอดหยดยาจะง่ายขึ้น จากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที
- ถ้ากลัวเลอะเทอะ เวลาจะกลับมาหน้าตรง ให้เอาสำลีก้อนอุดหูไว้ก่อน แต่ถ้าต้องหยดทั้ง 2 ข้าง ก็ทำซ้ำกับอีกข้างหนึ่งด้วย
-
หยดน้ำมัน. หยดน้ำมันอุ่นๆ (อย่าถึงขั้นร้อน) ลงในหู 2 - 3 หยด เช่น น้ำมันมะกอก, น้ำมันแร่ (mineral oil) หรือเบบี้ออยล์ แล้วเอียงคอไว้แบบนั้นประมาณ 5 นาที
- กลับมาหน้าตรงแล้วเช็ดน้ำมันกับขี้หูที่ไหลออกมาด้วยผ้าสะอาด
-
ล้างหูด้วยน้ำอุ่น. เติมกระบอกฉีดหูด้วยน้ำอุ่น (เท่าอุณหภูมิร่างกาย ประมาณ 98.6°F / 37°C กำลังดี) ง่ายที่สุดคือเทน้ำอุ่นใส่แก้ว แล้วสูบเข้ากระบอกไป
- โน้มตัวเหนืออ่างล่างมือ ดึงติ่งหูลง ค่อนไปทางหลังหัว เพื่อเปิดช่องหู
- สอดปลายกระบอกฉีดเข้าไปในรูหู ไม่ต้องลึกมาก ทำมุมเฉียงขึ้นด้านบน จะได้ไม่ฉีดน้ำเข้าไปในแก้วหูโดยตรง
- ฉีดน้ำไม่ต้องแรงมาก แค่พอชะขี้หูออกมา ห้ามฉีดแรงหรือฉีดเข้าไปเยอะเกิน ตอนฉีดจะได้ยินเสียงเหมือนพายุหรือลมตีแรงๆ แถมจั๊กจี้นิดหน่อย
- อย่าให้ปลายกระบอกฉีดไปอุดจนน้ำกับขี้หูไหลออกมาไม่สะดวก แล้วก็อย่าตกใจถ้าบางทีก้อนขี้หูผลุบออกมาใหญ่เกิน
- ทำซ้ำจนหูสะอาด แล้วซับให้แห้งด้วยผ้าสะอาดนุ่มๆ
- เสร็จแล้วจะได้ยินเสียงชัดขึ้นเยอะเลย
โฆษณา
เคล็ดลับ
- จับติ่งหู ดึงลง ยกขึ้น แล้วดึงลงอีกรอบ
- ให้ใช้เทคนิค Valsalva Maneuver (สั่งน้ำมูกเบาๆ ให้หูลั่น) ตอนเครื่องบินขึ้น-ลง หรือตอนดำน้ำ จะช่วยป้องกันหรือลดความต่างของแรงดันภายนอกและภายใน ที่ทำให้หูอื้อจนเจ็บ (บางทีก็เจ็บสุดๆ)
- ถ้าหมั่นทำความสะอาดหู จะช่วยป้องกันไม่ให้ขี้หูสะสมจนก่อปัญหาการได้ยิน
โฆษณา
คำเตือน
- อย่าใช้คอตตอนบัดแหย่แล้วแคะขี้หู เพราะมักดันให้ขี้หูเข้าไปในรูหูลึกกว่าเดิม
- ถ้ามีไข้หรือปวดหูมากเป็นพิเศษ ให้รีบหาหมอ
โฆษณา
สิ่งของที่ใช้
- น้ำส้มสายชู
- แอลกอฮอล์
- น้ำมันมะกอก
- สำลี
- ผ้าสะอาด
- หลอดหยดยา
ข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา