PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

มะเฟืองมีรสหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย บางคนเปรียบเทียบว่าเหมือนกับรสชาติของมะละกอปนๆ กับส้มและเกรปฟรุต ในขณะที่อีกหลายคนบอกว่าเหมือนกับสับปะรดผสมเลมอน ผลไม้ชนิดนี้สามารถนำมาหั่นเป็นชิ้นๆ แล้วกินเปล่าๆ ได้เลย แต่ก็สามารถนำไปใส่ในอาหารและเครื่องดื่มอื่นๆ ได้อีกด้วย นี่เป็นคำแนะนำสองสามอย่างเกี่ยวกับวิธีการเตรียมและกินมะเฟือง

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

การกินมะเฟืองแบบพื้นฐาน

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. มะเฟืองสุกจะมีเนื้อแน่นและมีผิวสีเหลืองสดใส
    • ยิ่งผิวสีเหลืองมากเท่าไรก็จะยิ่งมีรสหวานมากเท่านั้น มะเฟืองสีเหลืองที่มีสีน้ำตาลนิดหน่อยตามขอบนั้นจะดีที่สุด
    • มะเฟืองมีประมาณ 30 แคลอรี่ และยังเป็นแหล่งที่มีคุณค่าของไฟเบอร์ วิตามินซี คาร์โบไฮเดรต และน้ำ
  2. ใช้มีดคมๆ หั่นผลไม้ตามขวาง โดยจะแบ่งเป็นชิ้นรูปดาวซึ่งกว้างประมาณ ¼ - ½ นิ้ว (6.35 มม. - 1.25 ซม.)
    • ล้างผลไม้ให้สะอาดก่อนหั่น ล้างใต้น้ำไหล ใช้นิ้วถูให้สิ่งสกปรกตามร่องผลไม้หลุดออกมา
    • คุณสามารถกินมะเฟืองได้ทั้งผล ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องปอกเปลือกหรือเอาเมล็ดออกก่อนกิน
    • คุณสามารถกินมะเฟืองได้เปล่าๆ โดยไม่ต้องเติมใส่อะไร
  3. อีกทางเลือกหนึ่งคือให้เอาขอบและเมล็ดออกก่อนกิน. [1] แม้ว่าทุกส่วนของมะเฟืองจะกินได้ แต่เพื่อวัตถุประสงค์การนำเสนอ คุณอาจจะต้องเอาขอบสีน้ำตาลหรือเมล็ดออกก่อน
    • ล้างผลไม้โดยใช้นิ้วมือถูเอาสิ่งสกปรกออกขณะล้างผ่านน้ำไหล
    • ใช้มือข้างหนึ่งถือผลมะเฟืองไว้อย่างมั่นคง คุณสามารถถือไว้ในมือหรือไม่ก็วางตั้งไว้บนเขียงหรือเคาน์เตอร์
    • ใช้มีดทำครัวคมๆ ฝานไปตามขอบของมะเฟือง ตัดขอบตรงส่วนที่เริ่มเป็นสีเขียวหรือสีน้ำตาลและฝานบางๆ เพื่อเอาส่วนตรงขอบที่เปลี่ยนสีออกเท่านั้น
    • ตัดปลายทั้งสองด้าน ตัดหัวท้ายของมะเฟืองออก ½ นิ้ว (1.25 ซม.) โดยเป็นการเอาปลายแหลมสีเขียวหรือสีน้ำตาลออก
    • ใช้มีดคมๆ หั่นมะเฟืองเป็นชิ้นหนา ¼ - ½ นิ้ว (6.35 มม. - 1.25 ซม.) หั่นตามขวางของผลไม้เพื่อทำให้เป็นรูปดาว
    • ใช้ปลายมีดแคะตรงกลางของมะเฟืองเพื่อเอาเมล็ดที่มองเห็นออก
  4. ผลไม้ชนิดนี้มี นิวโรท็อกซิน (Neurotoxin) ซึ่งไตที่แข็งแรงจะสามารถกรองออกได้ แต่ไตที่เสียหายไม่สามารถทำอย่างนั้นได้ [2]
    • ไปโรงพยาบาลถ้าคุณเกิดอาการ "มะเฟืองเป็นพิษ" หลังจากกินผลไม้ อาการ ได้แก่ นอนไม่หลับ สะอึก อาเจียน ชา กล้ามเนื้อหดเกร็งหรือหมดแรง และอาการสับสน อาการเหล่านี้มักจะปรากฏใน 30 นาที ถึง 14 ชั่วโมงหลังจากที่บุคคลนั้นได้กินผลไม้เข้าไป โดยอาการมะเฟืองเป็นพิษนั้นอาจจะทำให้เสียชีวิตได้ แต่พบได้ไม่บ่อยนัก
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

วิธีอื่นๆ ในการกินมะเฟือง

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ผสมมะเฟืองกับผลไม้เขตร้อนอื่นๆ เพื่อผสมผสานรสชาติหวานและเปรี้ยวอย่างมีสีสัน
    • ผลไม้ที่เข้าคู่กับมะเฟืองได้ดี ได้แก่ กล้วย สตรอเบอร์รี่ กีวี มะม่วง สับปะรด มะละกอ องุ่น และผลไม้ตระกูลส้ม
    • คุณสามารถผสมสลัดผลไม้กับน้ำสลัดเลมอน เคลือบส้ม น้ำผึ้ง หรือน้ำเชื่อมค็อกเทลผลไม้เพื่อเพิ่มมิติให้รสชาติ
    • เพื่อพลิกแพลงให้ดูเป็นสลัดแบบเมืองร้อนมากขึ้น ให้ตกแต่งสลัดผลไม้ด้วยการโรยมะพร้าวขูดลงไป
  2. มะเฟืองจะทำให้สลัดผักสีเขียวธรรมดาๆ น่าสนใจยิ่งขึ้น
    • ทำสลัดง่ายๆ โดยใช้ส่วนประกอบอย่างเช่น ผักกาดหวาน กุยช่าย พริกหยวก และอะโวคาโด หลีกเลี่ยงส่วนประกอบสลัดสวนแบบดั้งเดิม เช่น แครอท แตงกวา และชีสเชดดาร์ขูด
    • เลือกใช้น้ำสลัดเบาๆ แบบวินนะเกรท (Vinaigrette) เช่น น้ำสลัดเลมอน น้ำสลัดบัลซามิก น้ำสลัดราสเบอร์รี่ หรือน้ำสลัดอิตาลี น้ำสลัดฝรั่งเศสแบบเปรี้ยวก็สามารถเติมเต็มรสชาติของมะเฟืองได้ดีเช่นกัน
  3. ตกแต่งจานด้วยชิ้นมะเฟืองหั่น โดยจะเป็นของตกแต่งที่กินได้
    • ใส่มะเฟืองหั่นเป็นชิ้นลงบนหน้าเค้กหรือไอศกรีมที่มีรสชาติผลไม้เมืองร้อน
    • ตกแต่งจานของอาหารจานหลักในประเทศเขตร้อน เช่น ไก่ซอสเทอริยากิ โดยใช้ชิ้นมะเฟืองหั่นวางตกแต่งจานอย่างมีศิลปะ
    • ตัดมะเฟืองให้เป็นชิ้นเล็กๆ และเสียบไว้ด้านข้างของแก้วค็อกเทล
  4. ใช้มะเฟืองบดในขนมปังผลไม้หรือชิ้นมะเฟืองหั่นในเค้กคว่ำ (Upside-Down Cake) [3]
    • ผสมแป้ง 2 ถ้วย (500 มล.) ผงฟู 1 ½ ช้อนชา (7.5 มล.) และเกลือ ½ ช้อนชา (2.5 มล.) เติมส่วนผสมนี้ลงในส่วนผสมครีมที่ทำจากเนย ½ ถ้วย (125 มล.) น้ำตาล 1 ถ้วย (250 มล.) ไข่ 3 ฟอง ไวน์ขาว 1 ช้อนชา (5 มล.) และมะเฟืองบด 2 ถ้วย (500 มล.) ผสมมะพร้าวสับ 1 ถ้วย (250 มล.) ลงไปแล้วคนให้เข้ากัน และอบในพิมพ์ขนมปังมาตรฐานเป็นเวลา 50 นาทีที่อุณหภูมิ 177 องศาเซลเซียส
    • เรียงมะเฟือง 3-4 ชิ้นที่ก้นของพิมพ์เค้กขนาด 9 นิ้ว (23 ซม.) ที่ทาน้ำมันไว้แล้ว เทส่วนผสมแป้งเค้กสีเหลืองมาตรฐานหรือแป้งเค้กเครื่องเทศที่ตีเสร็จแล้วลงบนชิ้นมะเฟืองที่หั่นเป็นรูปดาวและอบตามคำแนะนำในสูตร พลิกเค้กลงบนจานเสิร์ฟก่อนเสิร์ฟ
  5. ใช้มะเฟืองเป็นสิ่งประกอบในอาหารประเภทสัตว์ปีกหรืออาหารทะเล. รสชาติของมะเฟืองเข้าคู่ได้ดีกับไก่ เป็ด และปลากับอาหารทะเลหลายประเภท
    • หลังจากปรุงข้าวผัดไก่ ไก่ผัดแบบเมืองร้อน หรือไก่ผัดแบบเอเชียแล้ว ให้เติมชิ้นมะเฟืองสดลงในอาหารจานนั้น
    • ตัดมะเฟืองเป็นชิ้นเล็กๆ และใส่ลงในสลัดไก่ สลัดทูน่า หรือสลัดกุ้งมังกร
    • ย่างไก่ เนื้อปลาทูน่า กุ้ง หรือเป็ด และเสิร์ฟพร้อมมะเฟืองแบบย่างหรือสดๆ ก็ได้
  6. นำมะเฟืองสับไปตั้งเตาและปรุงด้วยน้ำตาลและน้ำผลไม้เมืองร้อน ใช้มะเฟืองชิ้นที่เล็กลงและน้ำมากขึ้นที่เพื่อทำเป็นแยม หรือมะเฟืองชิ้นใหญ่ขึ้นและใช้น้ำน้อยลงเพื่อทำเป็นชัทนีย์ (Chutney)
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

วิธีทำเครื่องดื่มจากมะเฟือง

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. นำมะเฟืองมาปั่นกับผลไม้และน้ำผลไม้เขตร้อนอื่นๆ เพื่อทำเครื่องดื่มผลไม้เนื้อข้น
    • นำมะเฟืองที่เอาเมล็ดออกแล้ว 3 ผล มาปั่นรวมกับมะม่วงหั่นเป็นลูกเต๋า 1 ผล น้ำส้ม 3 ถ้วย (750 มล.) น้ำแข็งก้อน 2 ถ้วย (500 มล.) ชินนามอนป่น ½ ช้อนชา (2.5 มล.) และน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ (15 มล.) จนเป็นเนื้อเดียวกัน ถ้าต้องการก็สามารถเติมชิ้นสับปะรด สตรอเบอร์รี่ หรือกล้วยลงไปในสมูทตี้ได้เช่นกัน
  2. ผสมมะเฟืองกับเหล้าผลไม้และเหล้ารัมเพื่อทำเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ทำให้สดชื่น
    • ปั่นมะเฟือง 1 ผลกับเหล้าส้ม ¼ ถ้วย (60 มล.) เหล้ารัม ½ ถ้วย (125 มล.) น้ำส้มคั้น 1 ถ้วย (250 มล.) และน้ำแข็งก้อน ประดับด้วยมะเฟืองหั่นเป็นชิ้น
  3. ผสมมะเฟืองกับน้ำผลไม้ธรรมดาๆ หรือน้ำเปล่าเพื่อทำเป็นเครื่องดื่มแบบไม่มีแอลกอฮอล์
    • ผสมมะเฟือง 450 กรัมกับ ขิง 1 แง่ง น้ำมะนาว 1 ช้อนชา (5 มล.) น้ำเปล่า 4 ถ้วย (1,000 มล.) และน้ำตาลหรือน้ำผึ้งเพื่อเพิ่มรสชาติ กรองน้ำผลไม้และเสิร์ฟ
    • เติมน้ำโซดาลงในส่วนผสมนี้เพื่อทำเป็นเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์
  4. โฆษณา

คำเตือน

  • อย่ากินมะเฟืองถ้าคุณรู้ว่ามีปัญหาเกี่ยวกับไต
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • มีดทำครัวคมๆ
  • เขียง
  • เครื่องปั่น


เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 13,002 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา