PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

ศาสนาอิสลามมีผู้นับถือมากกว่าหมื่นล้านคนและยังคงเติบโตขึ้นเรื่อยๆตามกาลเวลา นับว่าเป็นศาสนาที่โตเร็วที่สุดในโลก [1] สิ่งที่ทำให้อิสลามพิเศษ แตกต่างจากศาสนาอื่นคือ การเปลี่ยนมารับอิสลามนั้นทำได้อย่างง่ายๆด้วยการปฏิญาณตนรับอิสลามด้วยวาจา อย่างไรก็ตามการปฏิญาณตนไม่ใช่สิ่งที่ปฏิบัติได้โดยทันทีโดยปราศจากความเข้าใจและการอุทิศตนตามหลักศาสนา ซึ่งนับว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

การรับอิสลามคือการขจัดบาปเก่าที่ติดตัวมา มุสลิมใหม่เป็นผู้บริสุทธิ์เช่นเดียวกับเด็กแรกคลอด มุสลิมควรพยายามสุดความสามารถในการรักษาตนให้บริสุทธิ์ตลอดเวลาด้วยการทำความดีตามที่อัลลอฮฺสั่งใช้ (อิบาดะฮฺ)

โปรดจำไว้ว่าอิสลามไม่ได้สนับสนุนการเข่นฆ่า การฆ่าคนในศาสนาหลักของโลกส่วนใหญ่เป็นบาปหนัก ความประพฤติสุดโต่งเหล่านี้ไม่แนะนำให้กระทำ

อิสลามมีกฎระเบียบเรื่องการแต่งกายที่เน้นความสุภาพเรียบร้อย ถ่อมตน ที่มุสลิมทุกคนควรปฏิบัติตาม

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

สู่การเป็นมุสลิม

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. สำรวจตนให้แน่ใจว่ารู้จริงๆว่าการเป็นมุสลิมคืออะไร. ข้อปฏิบัติแรกสุดของการเป็นมุสลิมคือเชื่อว่าอัลลอฮฺเป็นพระเจ้าหนึ่งเดียว พระองค์เป็นพระเจ้าเพียงองค์เดียว เป็นผู้สร้างและทรงอำนาจสูงสุด อัลลอฮฺเป็นผู้เดียวที่สมควรแก่การกราบไหว้บูชา สมควรอุทิศตนกระทำสิ่งดีเพื่อพระองค์ โดยไม่มีสิ่งใดมาเทียบเคียงได้ ศาสนทูตของอัลลอฮฺ ท่านนบีมุฮัมมัด (ซ็อลฯ) เป็นศาสนทูตคนสุดท้ายที่ลงมาบนโลกนี้ จะไม่มีศาสนทูตท่านอื่นถูกส่งมาเพื่อมนุษยชาติอีก อิสลามเป็นศาสนาที่ดำเนินตามกฎแห่งธรรมชาติและใกล้ชิดวิถีของผู้สร้างมากที่สุด ดังนั้นผู้ที่น้อมรับอิสลามก็กำลังกลับสู่วิถีทางแรกสุดแห่งธรรมชาติ
    • อิสลามถือว่าผู้ใดที่เชื่อดังกล่าวข้างต้น มีสถานะเป็นมุสลิม ไม่ว่าจะอาศัยอยู่มุมใดของโลก เช่น อิสลามนับพระเยซูเป็นมุสลิมถึงแม้ว่าพระองค์มีชีวิตอยู่หลายร้อยปีก่อนศาสนาอิสลามจะกำเนิดขึ้นในหน้าประวัติศาสตร์
    • อัลลอฮฺ คือพระนามของพระเจ้าในศาสนาอิสลาม ซึ่งเป็นพระเจ้าองค์เดียวกันกับพระเจ้าของชาวคริสต์และชาวยิว (พระเจ้าของอับราฮัม) ดังนั้นมุสลิมจึงเคารพศาสนทูตของศาสนาคริสต์และยูดาย (รวมไปถึง พระเยซู, โมเสส, เอลียาห์ และอื่นๆ) อีกทั้งยังนับว่า พระคัมภีร์ไบเบิ้ลและโตราห์ ได้รับการดลใจจากพระเจ้าเช่นกัน
  2. อัลกุรอานเป็นแหล่งรวมคำสอนหลักของอิสลาม เชื่อกันว่า พระคัมภีร์อัลกุรอานเป็นพระวจนะของพระเจ้าที่ไม่เคยถูกบิดเบือน อีกทั้งยังสนับสนุนพระคัมภีร์ของชาวคริสต์และชาวยิวที่มีมาก่อนให้สมบูรณ์ [2] หนังสือทางศาสนาที่สำคัญในอิสลามอีกเล่มคือ ฮะดีษ ซึ่งรวบรวมคำสอนของท่านนบีมุฮัมมัด ฮะดีษนี่เองเป็นส่วนประกอบพื้นฐานของกฎหมายอิสลาม [3] การอ่านพระคัมภีร์และคำสอนนี้ทำให้มุสลิมมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และกฎเกณฑ์ต่างๆของศาสนา
  3. อิหม่ามคือผู้นำทางศาสนา ที่จะประกอบพิธีต่างๆในมัสยิด อิหม่ามถูกคัดเลือกด้วยระดับความรู้ในพระคัมภีร์อัลกุรอานและการปฏิบัติตนที่ดี อิหม่ามสามารถให้คำปรึกษาว่าเราพร้อมจะอุทิศตนเพื่ออิสลามหรือยัง
    • ข้อแนะนำข้างต้นอ้างอิงถึงอิหม่ามในนิกายซุนนีหรือสุหนี่ซึ่งเป็นนิกายที่คนส่วนใหญ่นับถือ อิหม่ามในนิกายชีอะห์จะมีบทบาทที่แตกต่างออกไป . [4]
  4. หากมั่นใจแล้วว่าอยากจะเป็นมุสลิมจริงๆ สิ่งที่จะต้องทำคือกล่าวชะฮาดะฮฺ เป็นคำปฏิญาณตนสั้นๆเพื่อประกาศการเดินตามพระประสงค์ของอัลลอฮฺด้วยวาจา การกล่าว ชะฮาดะฮฺ หมายความว่าจะเดินในทางของอิสลามตลอดชีวิต คำกล่าวชะฮาดะฮฺคือ “ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮฺ มุหัมมะดุรรอซูลุลลอฮฺ” แปลได้ว่า “ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ และมุฮัมมัดเป็นศาสนทูตของพระองค์” [5] หลังจากปฏิญาณตนแล้วคุณก็เป็นมุสลิมเต็มตัว.
    • ส่วนแรกของชะฮาดะฮฺ ("ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮฺ ") ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ ไม่ได้หมายถึงแค่พระเจ้าในศาสนาอื่นที่อาจเผลอไปกราบไหว้ และยังหมายถึงสิ่งต่างๆในโลกนี้ เช่น ความร่ำรวย หรืออำนาจที่อาจมาแทนที่อัลลอฮ์ได้ [6]
    • ส่วนที่สองของชะฮาดะฮฺ ("มุหัมมะดุรรอซูลุลลอฮฺ") เป็นการน้อมรับว่าคำสอนของนบีมุฮัมมัด เป็นสาส์นจากพระเจ้า มุสลิมต้องใช้ชีวิตตามแบบอย่างของท่านนบีมุฮัมมัดตามที่เปิดเผยในอัลกุรอาน การกล่าวชะฮาดะฮฺเป็นการสาบานที่จะน้อมรับหลักการเหล่านี้
    • ชะฮาดะฮฺ จะต้องกล่าวด้วยความจริงใจและเข้าใจถึงพันธะผูกพัน คุณไม่สามารถเป็นมุสลิมได้ด้วยการกล่าวถ้อยคำในชะฮาดะฮฺเฉยๆโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไร เพราะวาจาต้องสำแดงความเชื่อที่แท้จริงจากหัวใจ
    • มุสลิมจะต้องไม่โกหก ลักขโมย ดื่มเหล้า เสพยา มีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน หรือทำบาปต่างๆในลักษณะนี้
  5. การเป็นสมาชิกในแวดวงมุสลิมอย่างเป็นทางการ ทำได้ชวนพี่น้องมุสลิมมาเป็นพยานตอนปฏิญาณตน. ที่จริงไม่จำเป็นต้องมีพยานในการจะเป็นมุสลิม พระเจ้าทรงรอบรู้ทุกสิ่ง ดังนั้นการกล่าวชะฮาดะฮฺ สามารถทำได้โดยลำพัง ด้วยความเข้าใจ ก็ถือว่าเป็นมุสลิมแล้วในสายพระเนตรของอัลลอฮฺ แต่หากอยากได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจากมัสยิด ส่วนมากกระทำโดยกล่าวชะฮาดะฮฺต่อหน้าพยานมุสลิม 2 คน และอิหม่ามในมัสยิดเพื่อเป็นพยานยืนยันในความเชื่อ [7]
  6. หลังจากที่เป็นมุสลิมแล้ว สมควรที่จะอาบน้ำเป็นการชำระล้าง การกระทำนี้เป็นสัญลักษณ์ว่าเราได้ละทิ้งอดีต ที่ได้ผุดขึ้นจากความมืดสู่ความสว่าง
    • ไม่มีบาปใดที่เกินการชำระล้าง หลังจากกล่าวชะฮาดะฮฺ แล้ว บาปต่างๆในอดีตจะถูกชำระใหม่ ชีวิตใหม่ได้เริ่มขึ้นแล้ว จากนี้มุสลิมใหม่ต้องพยายามยกระดับจิตใจโดยการกระทำสิ่งดี
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

ใช้ชีวิตตามหลักอิสลาม

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. หากยังไม่แน่ใจว่าจะนมัสการพระเจ้าด้วยการละหมาดอย่างไร วิธีที่ง่ายที่สุดคือ ไปที่มัสยิดในเวลาละหมาดหลัก 5 เวลา การละหมาดควรกระทำโดยไม่เครียด ทำใจให้สบาย แต่ก็ต้องระลึกไว้เสมอว่าการละหมาดเป็นข้อบังคับที่มุสลิมอายุมากกว่า 10 ปีต้องปฏิบัติ ให้เวลาในการละหมาดเป็นไปอย่างช้าๆ อย่ารีบร้อน การละหมาดแบบรีบๆ จะทำให้พลาดจากผลบุญสูงสุด
    • เตือนตัวเองเสมอว่า การละหมาดเชื่อมมนุษย์เข้ากับพระผู้สร้าง ผู้ให้ชีวิต การละหมาดควรจะทำให้จิตใจสงบสุข เปี่ยมไปด้วยสันติ สิ่งเหล่านี้จะเพิ่มพูนขึ้นตามเวลา อย่ามีท่าทีในการละหมาดเพื่อโอ้อวด จงละหมาดอย่างเรียบง่ายและถ่อมตน วัตถุประสงค์หลักคือต้องละหมาดให้เป็นนิสัยและทำให้การละหมาดเป็นประสบการณ์ที่น่าอภิรมย์
    • จัดตารางชีวิตโดยคำนึงถึงเวลาละหมาดเป็นหลัก. เหลือเวลาไว้สำหรับการขอพรต่ออัลลอฮฺ (ดุอาอฺ) ทุกครั้งหลังละหมาดเสร็จ การทำเช่นนี้เป็นการขอความช่วยเหลือจากอัลลอฮฺ ในเรื่องต่างๆ ควรฝึกละหมาดในกรณีพิเศษอื่นๆนอกเหนือจากการละหมาดปกติด้วย
    • อธิษฐานต่ออัลลอฮฺสำหรับการตัดสินใจที่ถูกต้องในเรื่องต่างๆและความสำเร็จในชีวิต. แต่ระลึกไว้เสมอว่า ต้องปฏิบัติตามสิ่งที่อัลลอฮฺสั่งใช้ให้ทำก่อน จะอธิษฐานขออย่างเดียวไม่ได้ เราต้องทำในสิ่งที่ต้องทำจึงจะควรค่าแก่การได้รับพร อีกอย่างคือควรเชื่อในอัลลอฮฺในทุกเรื่อง ความสำเร็จทางโลกจะผ่านพ้นไป แต่อัลลอฮฺทรงดำรงอยู่ตลอดกาล จงอุทิศตนเพื่ออัลลอฮฺไม่ว่าจะประสบความสำเร็จในชีวิตหรือไม่
  2. อิสลามกำหนดให้มุสลิมต้องทำตามข้อกำหนดบางอย่าง ข้อกำหนดเหล่านี้เรียกว่า ฟัรดู ฟัรดูแบ่งออกเป็นสองแบบคือ ฟัรดูอัยนิ และ ฟัรดูกิฟายะหฺ โดยฟัรดูอัยนิจะเป็นข้อบังคับที่เกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวสิ่งต่างๆที่มุสลิมต้องทำในแต่ละวันเช่น ละหมาด และถือศีลอดในเดือนรอมฎอน [8] ในขณะที่ฟัรดูกิฟายะหฺกล่าวถึงสิ่งที่มุสลิมต้องปฏิบัติเมื่ออยู่ร่วมกับคนอื่นในชุมชน เช่น หากมีมุสลิมเสียชีวิต มุสลิมคนอื่นในชุมชนต้องมารวมตัวกันเพื่อละหมาดในงานศพ หากไม่มีใครปฏิบัติเลย ชุมชนนั้นก็กระทำผิด
    • อิสลามสนับสนุนให้มุสลิมรักษาซุนนะฮฺ หรือชีวิตที่ดำเนินตามแบบอย่างนบีมุฮัมมัด ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ข้อบังคับแต่ก็สมควรปฏิบัติตามเป็นอย่างยิ่ง
  3. มุสลิมต้องมีแนวทางการดำเนินชีวิตที่มีแบบแผนแน่ชัด ต้องหลีกเลี่ยงพฤติกรรมบางอย่างและควรขัดเกลาลักษณะนิสัย มุสลิมควรประพฤติตนดังนี้:
    • ทานอาหาร “ฮาลาล”. มุสลิมต้องละเว้นจากการทานเนื้อสุกร เลือด และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นอกจากนั้น เนื้อสัตว์ที่นำมาบริโภคต้องถูกเชือดอย่างเหมาะสมโดย มุสลิม ชาวคริสต์ หรือ ชาวยิว
    • กล่าว บิสมิลลาห์ (“ในพระนามพระเจ้า”) ก่อนรับประทานอาหาร
    • ใช้มือขวาในการกินและดื่ม
    • รักษาความสะอาดอย่างถูกวิธี
    • ละเว้นจากปฏิสัมพันธ์กับเพศตรงข้ามโดยไม่จำเป็น ถึงแม้ว่าจะเป็นกิจกรรมทางสังคมที่ดูไม่ร้ายแรงเช่น การพูดคุย แต่การกระทำนั้นก็สามารถนำไปสู่ความใกล้ชิดในอีกระดับได้ มุสลิมควรระลึกไว้เสมอว่าปฏิสัมพันธ์ทางเพศภายนอกการแต่งงานนั้นเป็นสิ่งต้องห้าม
    • ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วต้องงดการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างมีประจำเดือน
    • ศึกษาการแต่งกายตามแบบอย่างอิสลามที่มุ่งเน้นความเรียบร้อย ถ่อมตน แล้วนำไปปฏิบัติ
  4. ทำความเข้าใจเสาหลัก 5 ประการในอิสลาม เสาหลักห้าประการนี้คือข้อบังคับที่มุสลิมต้องปฏิบัติ เป็นศูนย์กลางของชีวิตมุสลิม ซึ่งมีดังนี้:
    • คำปฏิญาณตน (ชะฮาดะฮฺ). เป็นการประกาศตนเป็นมุสลิมด้วยการยืนยันว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺและมุฮัมมัดเป็นศาสนทูตของพระองค์
    • ละหมาดห้าเวลาต่อวัน (ศอลาต). ละหมาดโดยหันหน้าไปทางนครมักกะฮฺอันศักดิ์สิทธิ์
    • ถือศีลอดในเดือนรอมฎอน (อัศ-เซาม์). รอมฏอนเป็นเดือนอันศักดิ์สิทธิ์ที่เปี่ยมไปด้วย การละหมาด อดอาหาร และ บริจาคทาน
    • บริจาคทรัพย์ 2.5% ให้คนยากไร้ (ซะกาต) สิ่งนี้เป็นความรับผิดชอบส่วนบุคคลของมุสลิมที่จะช่วยผู้ที่มีโอกาสน้อยกว่า
    • ไปแสวงบุญที่มักกะฮ์ (ฮัจจ์). ผู้ที่มีความพร้อม ต้องเดินทางไปแสวงบุญที่มักกะฮ์อย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต
  5. เชื่อในหลักศรัทธา 6 ประการ มุสลิมศรัทธาในอัลลอฮฺและกฎสภาวการณ์ที่ทรงตั้งไว้แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่มนุษย์ยากจะเข้าใจได้ มุสลิมต้องเชื่อในหลักศรัทธาเหล่านี้:
    • ศรัทธาต่ออัลลอฮฺ (พระเจ้า). อัลลอฮฺเป็นผู้สร้างโลกและจักรวาล และเป็นผู้เดียวที่มีค่าควรแก่การสักการะ
    • เชื่อในทูตสวรรค์. ทูตสวรรค์เป็นบ่าวที่รับใช้อัลลอฮฺตามพระประสงค์ของพระองค์
    • ศรัทธาต่อพระคัมภีร์อัลกุรอาน. อัลกุรอานเป็นพระวจนะของพระเจ้าถึงมนุษยชาติที่สำแดงต่อนบีมุฮัมมัดผ่านทางทูตสวรรค์ญิบรีล (หรือที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อกาเบรียล) มุสลิมถือว่าพระคัมภีร์ของชาวคริสต์และชาวยิวมีความศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน เนื่องจากคัมภีร์เหล่านั้นล้วนถูกประทานจากอัลลอฮฺ แต่เนื้อหาภายในบางส่วนถูกบิดเบือนไป
    • ศรัทธาต่อศาสนทูต. อัลลอฮฺส่งศาสนทูตของพระองค์มาเพื่อสั่งสอนมนุษย์ นบีมุฮัมมัดคือคนสุดท้ายและเป็นศาสนทูตที่ยิ่งใหญ่ที่สุด (ศาสนทูตเหล่านั้นรวมไปถึง พระเยซู อับราฮัม และศาสนทูตท่านอื่นๆ)
    • ศรัทธาเรื่องวันพิพากษา. อัลลอฮฺจะทรงทำให้คนตายฟื้นขึ้นเพื่อพิพากษาการกระทำในเวลาที่พระองค์เท่านั้นทรงรู้
    • กฎสภาวการณ์ อัลลอฮฺทรงปรีชาญาณและได้กำหนดทุกสิ่งไว้แล้ว ไม่มีสิ่งเกิดขึ้นโดยที่พระองค์ไม่รู้ก่อน
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

เพิ่มพูนศรัทธา

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. มุสลิมจะได้เรียนรู้อะไรมากมายจากการอ่านคำแปลของอัลกุรอาน คำแปลบางสำนวนอาจจะยากกว่าแบบอื่น มุสลิมในประเทศไทยสามารถหาเอกสารเกี่ยวกับอัลกุรอานได้ที่ มูลนิธิสันติชน หรือ องค์กรอิสลามทั่วไป อย่างไรก็ตาม เป็นการดีกว่าถ้าจะขอความช่วยเหลือจากผู้รู้เกี่ยวกับอัลกุรอานจริงๆ ไม่ควรนั่งอ่านแล้วตีความเอง ที่มัสยิดมีคนที่ยินดีช่วยเหลือมุสลิมใหม่ให้รู้จักอิสลามมากขึ้น อาจจะมีกลุ่มมุสลิมใหม่ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่จะเรียนรู้ไปด้วยกันโดยที่รู้สึกไม่อึดอัด อีกทั้งยังมีคนสอนที่มีความรู้พอและไว้ใจได้
    • มุสลิมจำนวนมากใช้เวลาในการจดจำอัลกุรอาน เพราะว่าได้ผลบุญใหญ่ เมื่อทักษะภาษาอาหรับของเราดีขึ้น ให้เริ่มจำซูเราะฮฺ (บทในอัลกุรอาน) ที่ชื่นชอบ มุสลิมสามารถอ่านซูเราะฮฺเหล่านี้ระหว่างละหมาดหากต้องการยกระดับจิตวิญญาณให้มากขึ้น
  2. ศาสนาอิสลามนิกายซุนนีมีสำนักคิดหลักที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายอิสลามสี่สำนัก ลองศึกษาทั้งหมดแล้วเลือกที่คิดว่าเหมาะสมกับตนเองที่สุด เลือกแนวทางที่ช่วยตีความกฎหมายอิสลามดังที่เปิดโดยตรงในอัลกุรอานและซุนนะฮฺ ทั้งสี่แนวทางมีความถูกต้องเท่าเทียมกัน ถึงแม้ว่ากฎหมายอิสลามจะดูเข้มงวด แต่กฎเกณฑ์และการลงโทษเป็นของขวัญจากอัลลอฮฺเพื่อที่มนุษย์จะได้มีสังคมที่มั่นคง ปลอดภัย และยุติธรรม จงปรับใช้สิ่งที่ได้เรียนรู้กับชีวิตของคุณให้ดีที่สุด สำนักคิดที่ยอมรับกันอย่างเป็นทางการคือ:
    • ฮานาฟี. แนวทางแบบฮานาฟีเริ่มต้นจากอิหม่าม อบู ฮะนีฟะฮฺ เป็นแนวทางที่มีคนยึดถือมากที่สุดและมีข้อมูลในภาษาอังกฤษมากที่สุด มีมุสลิมจากหลายที่ดำเนินตามแนวทางนี้ ตั้งแต่ชาวเติร์กที่ไม่เคร่งครัดมากจนถึงกลุ่มที่เคร่งครัดมากในปากีสถาน ผู้ที่ตามแนวทางฮานาฟีส่วนมากอาศัยอยู่บริเวณอนุทวีป อินโด-ปากี ตุรกี อิหร่านตะวันออก บางส่วนของอียิปต์และประเทศอื่นๆที่ไม่ได้มีมุสลิมเป็นประชากรหลัก
    • ชาฟิอียฺ.แนวทางชาฟิอียฺเริ่มโดยอิหม่ามอบูอับดุลลอฮฺ มุฮัมมัด อัล-ชาฟิอียฺ เป็นแนวทางที่เป็นที่มีผู้ยึดถือมากเป็นอันดับสอง ส่วนมากอาศัยอยู่ใน อียิปต์ แอฟริกาตะวันออก รวมไปถึง เยเมน มาเลเซีย และ อินโดนีเซีย สำนักชาฟิอียฺมีชื่อเสียงในเรื่องระบบยุติธรรมที่ซับซ้อน
    • มาลิกี. สำนักคิดมาลิกก่อตั้งโดยอิหม่าน อบู อนัส มาลิกซึ่งเป็นศิษย์ของอิหม่ามฮะนีฟะฮฺ เป็นแนวทางที่นิยมทางภาคเหนือและตะวันตกเฉียงเหนือของแอฟริกา อีกทั้งมีผู้ติดตามจำนวนหนึ่งในซาอุดิอาระเบีย อิหม่ามมาลิกนำหลักปฏิบัติของท่านมาจากผู้คนในมาดีนะห์ นักวิชาการสำนักมาลิกที่โด่งดังคือ ฮัมซะฮฺ ยูซุฟ
    • ฮัมบาลี. สำนักฮัมบาลีก่อตั้งโดยอิหม่าม อะหมัด อิบนฺ ฮัมบัล ผู้ยึดถือแนวทางนี้อยู่ในซาอุดิอาระเบียเกือบทั้งหมด มีผู้ติดตามบางส่วนบ้างจากทางตะวันตก ฮัมบาลีเน้นหลักบัญญัติศาสนาและพิธีกรรม นับว่าเป็นแนวทางที่อนุรักษ์นิยมและเคร่งครัดที่สุด
  3. เหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด จงเป็นคนดีที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ ไม่ว่าเราจะมีความโกรธ ความทุกข์หรือเสียใจบ้าง หน้าที่ของมุสลิมคือต้องพยายามเป็นคนที่ดีที่สุดเพื่ออัลลอฮฺ (ซ.บ. ). อัลลอฮฺสร้างมนุษย์เพื่อให้มีชีวิตที่ดีและมีความสุขจากการรับใช้พระองค์ จงใช้ความรู้ความสามารถในการช่วยเหลือผู้คนและสรรค์สร้างสังคมให้ดีงาม เปิดใจให้กว้าง อย่าทำร้ายผู้อื่น ถือเสียว่าเป็นภารกิจส่วนตัวที่จะทำให้ชาวโลกเห็นว่าอิสลามเป็นศาสนาแห่งสันติ
    • เช่นเดียวกับศาสนาอื่นๆ อิสลามสนับสนุนศาสนิกให้ทำตาม กฎทองแห่งการอยู่ร่วมกัน โดยยึดคำแนะนำจากฮะดีษด้านล่าง:
      • "มีชาวเบดูอินคนหนึ่งมาพบท่านนบีมุฮัมมัด เขาคว้าโกลนอูฐของท่านแล้วถามว่า “ท่านศาสนทูตของพระเจ้า! โปรดสอนข้าสิ่งหนึ่งที่จะทำให้ข้าขึ้นสวรรค์ได้” ท่านนบีตอบว่า “หากท่านอยากให้ผู้อื่นปฏิบัติต่อท่านเช่นไร ก็ให้ปฏิบัติเช่นนั้นกับเขา และหากท่านไม่ชอบให้ใครปฏิบัติต่อท่านอย่างไร ก็อย่าทำสิ่งนั้น จงปล่อยโกลนอูฐเถิด สิ่งที่กล่าวมานั้นเพียงพอแล้ว จงไปปฏิบัติเสีย” [9]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • อย่ารีบร้อนในการใช้ชีวิตแบบอิสลาม มุสลิมใหม่ต้องมีความเข้าใจที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับกฎเกณฑ์ต่างๆที่จะทำให้เป็นมุสลิมที่ดีก่อนเข้ารับอิสลาม ควรจะรู้สึกว่าสิ่งเหล่านี้เป็นธรรมชาติ แม้ว่าจะมีอะไรให้เรียนรู้มากมายก็ตาม อย่าลืมว่าอิสลามคือศาสนาที่อยู่ในสถานะใกล้ชิดธรรมชาติมากที่สุด
  • เข้าร่วมชั้นเรียนในตอนเย็นหรือวันหยุดที่มัสยิดเพื่อศึกษาอิสลามให้มากขึ้น อิสลามไม่ใช่แค่ศาสนา แต่เป็นธรรมนูญแห่งชีวิตที่จะนำทางผู้เชื่อตั้งแต่เกิดจนสิ้นลมหายใจ
  • แบ่งเวลาเพื่อศึกษาอัลกุรอานและแนวทางอิสลามทุกวัน การเรียนรู้เป็นสิ่งที่ต้องทำจนกว่าชีวิตจะหาไม่ ยิ่งรู้เกี่ยวกับอิสลามมากเท่าใด ก็จะยิ่งเป็นประโยชน์มาก
  • พยายามสมาคมกับผู้ที่เคร่งครัดในหลักศาสนา ผู้รู้เหล่านั้นสามารถช่วยคลายข้อสงสัยต่างๆได้
  • แต่งกายตามหลักการอิสลาม การทำตามมีผลดีมากมายทั้งในแง่การใช้ประโยชน์ในชีวิตจริงอีกทั้งยังช่วยบ่งชี้ถึงอัตลักษณ์ความเป็นมุสลิมของผู้ปฏิบัติอีกด้วย ผู้หญิง ควรปกปิดร่างกายให้มิดชิด เว้นเพียงใบหน้า เท้าและฝ่ามือ อย่าใส่เสื้อผ้าที่เปิดเผยหรือมองทะลุได้ ควรสวมฮิญาบ (ผ้าคลุมผม) ผ้าคลุมควรยาวพอที่จะปิดคอและหน้าอกให้มิดชิด
  • คุณไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยว เข้าร่วมเว็บไซด์ของมุสลิมใหม่เพื่อแสวงหาความเข้าใจหากยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับความเชื่อ
  • ถ้าพบว่าตนกระทำผิด ให้สารภาพและขออภัยจากอัลลอฮฺ พระองค์จะฟัง
  • อิสลามมีหลายนิกาย ศึกษาข้อมูลให้แน่นอนก่อนตัดสินใจ
  • พยายามระลึกถึงอัลลอฮฺเสมออย่างสุดความสามารถ ไม่ว่าจะอยู่แห่งหนใด
  • เมื่อเกิดความสงสัยในฐานะมุสลิมใหม่ ให้ถามมุสลิมที่เป็นผู้รู้ อาจจะถามอิหม่ามในมัสยิดใกล้บ้าน
  • เรียนรู้ที่จะอ่านอัลกุรอานเป็นภาษาอาหรับถ้าเป็นไปได้ เพราะนอกจากจะได้ผลตอบแทนทางจิตวิญญาณ (ถึงแม้ว่าจะเข้าใจความหมายหรือไม่ก็ตาม) ก็ยังได้อ่านอัลกุรอานในภาษาที่อัลลอฮฺประทานแก่ท่านนบีมุฮัมมัด ยิ่งไปกว่านั้นอัลกุรอานในรูปแบบดั้งเดิมเป็นบทกวีที่มีสัมผัสงดงามซึ่งไม่สามารถเห็นได้ในฉบับแปลอื่นๆ .
    • หากไม่สามารถเรียนภาษาอาหรับได้ ให้ฟังคนอ่านอัลกุรอานเป็นภาษาอาหรับแล้วขณะอ่านคำแปลภาษาไทย
  • การอาบน้ำก่อนละหมาดสำคัญมาก
  • ต้องล้างมือและรักษาความสะอาด
โฆษณา

คำเตือน

  • ในชีวิตจริงมุสลิมอาจเจอผู้คนที่ไม่เป็นมิตรเนื่องจากบ่อยครั้งมุสลิมเป็นเป้าหมายของการข่มเหงและโจมตี พยายามทำใจให้เข้มแข็งแล้วอัลลอฮฺจะทรงตอบแทน
  • มีความเข้าใจผิดๆเกี่ยวกับศาสนาอิสลามมากมาย พยายามจำบทต่างๆของอัลกุรอานหรือคำสอนของท่านนบีมุฮัมมัดไว้ให้มาก หากต้องการความเข้าใจมากขึ้น ถามนักวิชาการอิสลามหรืออิหม่ามในมัสยิดใกล้บ้าน
  • เช่นเดียวกับศาสนาอื่นๆ อิสลามมีกลุ่มคนสุดโต่งที่พยายามจะรักษาศาสนาให้บริสุทธิ์ที่สุดด้วยการทำลายชุมชน และสร้างความเกลียดชัง แตกแยก ระวังว่าแหล่งข้อมูลทางศาสนามาจากที่ไหน หากพบเจอคำสอนที่บอกว่าเป็นของอิสลามแต่มีเนื้อหาน่าสงสัย หรือสนับสนุนความสุดโต่ง รุนแรง ให้เปลี่ยนมาฟังจากมุสลิมที่เคร่งครัดในศาสนาแต่ไม่สุดโต่งแทน


โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 20,729 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา