PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

ต่างหู เป็นเครื่องประดับที่ช่วยเติมแต่งหรือปรับเปลี่ยนลุคของคุณได้อย่างยอดเยี่ยม แต่หากคุณไม่ได้สวมต่างหูเป็นประจำ รูเจาะหูของคุณอาจเริ่มสมานกันและปิดตันได้ แม้ว่าในบางกรณีอาจจำเป็นต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากช่างเจาะมืออาชีพ แต่คุณก็สามารถจัดการรูเจาะหูที่เกือบตันให้เปิดออกอีกครั้งด้วยตัวเองที่บ้านได้เช่นกัน สิ่งสำคัญคือรักษาสภาพแวดล้อมให้ปลอดเชื้อ ค่อยๆ ใช้ต่างหูเจาะลงไปอย่างเบามือ และดูแลอย่างถูกวิธีเพื่อไม่ให้รู้สึกเจ็บหรือเกิดการติดเชื้อได้ เพียงเตรียมความพร้อมให้ดีและใช้ความอดทนสักเล็กน้อย คุณก็สามารถเปิดรูเจาะหูออกได้อย่างปลอดภัยและกลับมาสวมต่างหูคู่โปรดได้อีกครั้ง

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

รักษาสภาพแวดล้อมให้ปลอดเชื้อ

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ก่อนเริ่มต้นใช้ต่างหูดันลงไปเพื่อให้รูเจาะหูเปิดออกอีกครั้ง ให้คุณใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นประคบไว้ที่ติ่งหูหรืออาบน้ำอุ่นเสียก่อน วิธีนี้จะทำให้ผิวบริเวณติ่งหูอ่อนนุ่มขึ้นและช่วยให้คุณสามารถเปิดรูเจาะหูออกได้ง่ายยิ่งขึ้น [1]
  2. ล้างมือด้วยน้ำอุ่นและสบู่ต้านเชื้อแบคทีเรียนาน 30 วินาทีเพื่อขจัดสิ่งสกปรก เศษฝุ่น และเชื้อแบคทีเรียที่ติดอยู่บนมือให้หลุดออกไป หลังจากที่ล้างฟองออกจนหมดและซับน้ำออกจนแห้งสนิทแล้ว ให้คุณสวมถุงมือลาเท็กซ์หรือถุงมือยางให้เรียบร้อยเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อแบคทีเรียเข้าสู่รูเจาะหูได้ [2]
  3. ไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์ (Isopropyl alcohol) หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า รับบิ้งแอลกอฮอล์ (Rubbing alcohol) เป็นสารฆ่าเชื้อที่สามารถกำจัดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และเชื้อไวรัสที่ติดอยู่บนพื้นผิวได้อย่างดีเยี่ยม สามารถหาซื้อได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ตหรือร้านขายยาทั่วไป ให้คุณใช้สำลีก้อนหรือก้านสำลีจุ่มลงไปในรับบิ้งแอลกอฮอล์ให้ชุ่มและนำไปเช็ดต่างหูก้านบางที่ต้องการใช้สำหรับดันลงไปเพื่อเปิดรูเจาะหูออก พยายามเช็ดทำความสะอาดให้ทั่วถึงและวางต่างหูไว้บนพื้นผิวที่สะอาดเพื่อรอให้แห้ง
    • หากมีอาการแพ้ต่างหู คุณควรเลือกใช้ต่างหูเงินแท้หรือต่างหูที่ทำจากวัสดุที่ไม่ก่อให้เกิดการแพ้เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดอาการแพ้ขึ้นมาได้ [3]
  4. ใช้สำลีก้อนหรือก้านสำลีอันใหม่สำหรับเช็ดทำความสะอาดบริเวณติ่งหูด้วยรับบิ้งแอลกอฮอล์ อย่าลืมเช็ดทั้งด้านหน้าและด้านหลังของติ่งหูโดยเน้นตรงรูเจาะหูเป็นพิเศษ
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ใช้ต่างหูดันลงไปเพื่อให้รูเจาะหูเปิดออกอีกครั้ง

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. เมื่อสัมผัสที่รูเจาะหู คุณอาจรู้สึกถึงก้อนแข็งเล็กๆ ที่เกิดจากการสะสมของเซลล์ผิวที่ตายแล้วซึ่งอุดตันในรูเจาะหูของคุณในช่วงที่แผลกำลังฟื้นฟู
    • หากแผลจากการเจาะหูสมานดีแล้ว คุณอาจจำเป็นต้องให้ช่างเจาะมืออาชีพทำการเจาะหูซ้ำเพื่อให้รูเจาะหูของคุณเปิดออกอีกครั้ง จำไว้ว่าระยะเวลาการสมานของแผลของแต่ละคนอาจแตกต่างกัน ดังนั้นบางคนอาจยังคงเปิดรูเจาะหูออกอีกครั้งได้ด้วยตัวเองที่บ้านแม้ว่าจะไม่ได้สวมต่างหูติดต่อกันนานหลายปี ในขณะที่รูเจาะหูของหลายคนอาจตันสนิทหลังผ่านไปเพียงไม่กี่เดือน [4]
    เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ

    Karissa Sanford

    ผู้เชี่ยวชาญด้านการเจาะร่างกาย
    คาริสซ่า แซนฟอร์ดเป็นเจ้าของร่วมของ Make Me Holey Body Piercing สตูดิโอรับเจาะร่างกายในซานฟรานซิสโกที่เชี่ยวชาญด้านการเจาะได้ปลอดภัยและเป็นกันเอง คาริสซ่ามีประสบการณ์มากว่า 10 ปีและเป็นสมาชิกของสมาคมช่างเจาะอาชีพ (APP)
    Karissa Sanford
    ผู้เชี่ยวชาญด้านการเจาะร่างกาย

    รูเจาะหูของคุณอาจเพียงหดเล็กลงเท่านั้นและยังไม่ตันสนิท "โดยส่วนใหญ่แล้วเมื่อคุณไม่สวมต่างหู รูเจาะหูของคุณอาจเพียงหดเล็กลงและไม่จำเป็นต้องตันสนิทเสมอไป จำไว้ว่าหากคุณถอดต่างหูออกเมื่อแผลจากการเจาะหูสมานดีแล้ว โอกาสที่รูเจาะหูของคุณจะตันสนิทก็จะลดน้อยลง อย่างไรก็ตาม คุณสามารถมองหาร้านเจาะร่างกายที่มีมาตรฐานและให้ช่างเจาะหูมืออาชีพจัดการรูเจาะหูที่ตันไปแล้วบางส่วนหรือหดเล็กลงให้เปิดออกอีกครั้ง"

  2. ป้ายปิโตรเลียมเจลเลียมหรือยาขี้ผึ้งปฏิชีวนะในปริมาณที่พอเหมาะให้ทั่วบริเวณติ่งหูเพื่อหล่อลื่นไม่ให้แห้งจนเกินไปและลดการเสียดสีในระหว่างที่ใช้ต่างหูดันลงไป [5] จากนั้นใช้นิ้วมือนวดติ่งหูไปมาอย่างเบามือเพื่อให้ความร้อนจากมือช่วยให้ผิวบริเวณติ่งหูนุ่มขึ้น
  3. ใช้นิ้วมือจับเบาๆ ที่ขอบติ่งหูก่อนค่อยๆ ดึงลงมาในทิศทางตรงกันข้ามเพื่อให้รูเจาะหูขยายกว้างกว่าเดิมเล็กน้อย [6] โดยวิธีนี้จะช่วยให้น้ำมันหล่อลื่นจากผลิตภัณฑ์ที่ป้ายไว้ซึมเข้าสู่รูเจาะหูมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม พยายามอย่าออกแรงถูหรือดึงติ่งหูมากจนเกินไป
  4. เคลือบต่างหูที่ฆ่าเชื้อแล้วด้วยน้ำมันหล่อลื่น. ใช้ปิโตรเลียมเจลลี่หรือยาขี้ผึ้งปฏิชีวนะทาบางๆ บนก้านต่างหูที่ฆ่าเชื้อเรียบร้อยแล้ว พยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้ผลิตภัณฑ์สัมผัสถูกหัวต่างหูเพื่อให้คุณสามารถจับต่างหูได้อย่างถนัดมือและไม่ลื่นหลุดไปมา
    • ควรเลือกใช้ต่างหูที่มีก้านบาง เนื่องจากก้านต่างหูที่หนาอาจไม่สามารถทะลุผ่านรูเจาะหูที่ตันไปแล้วบางส่วนได้ นอกจากนี้การฝืนดันต่างหูที่มีก้านหนาเข้าไปในรูเจาะหูยังอาจก่อให้เกิดความเจ็บปวด ทิ้งรอยแผลเป็น หรือทำให้เลือดออกได้อีกด้วย
  5. เตรียมกระจกให้พร้อมและค่อยๆ ดันต่างหูเข้าไปทางด้านหน้าของรูเจาะหูด้วยมือข้างหนึ่งพร้อมใช้มืออีกข้างหนึ่งจับที่ติ่งหูไว้ ใช้นิ้วโป้งกดเบาๆ ลงไปที่ด้านหลังของรูเจาะหูตรงบริเวณที่มีเซลล์ผิวที่ตายแล้วสะสมเป็นก้อนแข็ง
  6. ขยับต่างหูไปมาเบาๆ ที่บริเวณรูเปิดของรูเจาะหู โดยคุณอาจจำเป็นต้องขยับต่างหูไปมาสักพักเพื่อหามุมที่ก้านต่างหูจะสามารถทะลุเข้าไปได้ [7] พยายามให้นิ้วโป้งกดลงไปที่ด้านหลังของติ่งหูตลอดเวลาเพื่อให้รู้สึกถึงตำแหน่งของปลายก้านต่างหู
    • หากรู้สึกเจ็บหรือปวดขึ้นมา ให้คุณประคบด้วยน้ำแข็งสักครู่เพื่อให้รู้สึกชาที่ติ่งหูก่อนลองดันต่างหูเข้าไปอีกครั้ง [8] อย่างไรก็ตาม หากคุณยังคงรู้สึกเจ็บหรือปวดอย่างต่อเนื่องในระหว่างดันต่างหูเข้าไป คุณอาจจำเป็นต้องปรึกษาช่างเจาะมืออาชีพแทน
  7. หมุนต่างหูไปรอบๆ เพื่อเปิดรูเจาะหูออกอีกครั้ง. หลังจากที่คุณหารูเจาะหูและมุมที่ถูกต้องจนเจอแล้ว ให้คุณหมุนต่างหูช้าๆ ผ่านเข้าไปในรูเจาะหูโดยระวังอย่าออกแรงกดมากจนเกินไป [9] เนื่องจากบางส่วนของรูเจาะหูยังคงไม่ตันดีรวมทั้งติ่งหูและก้านต่างหูมีความลื่นมากพอ คุณจึงรู้สึกว่าก้านต่างหูสามารถดันผ่านเข้าไปในรูเจาะหูได้ง่ายยิ่งขึ้น
    • หากก้านต่างหูไม่สามารถดันผ่านเข้าไปในรูเจาะหูได้แม้จะหมุนต่างหูไปรอบๆ แล้ว ลองหยุดและค่อยๆ ดันต่างหูเข้าไปจากมุมอื่นๆ แทน
  8. หลังจากที่คุณหมุนต่างหูไปรอบๆ จนรูเจาะหูเปิดออกดีแล้ว ให้คุณดันก้านต่างหูเข้าไปเบาๆ จนทะลุออกมาก่อนใส่แป้นต่างหูให้เรียบร้อยเพื่อป้องกันไม่ให้ต่างหูหลุดหายไป
    • อย่าออกแรงดันต่างหูมากจนเกินไป ไม่เช่นนั้นอาจเกิดรอยแผลเป็นหรือการติดเชื้อได้
  9. ป้องกันการติดเชื้อหลังสวมต่างหูเข้าไปอีกครั้ง. หลังจากที่คุณสวมต่างหูเข้าไปเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมชำระล้างติ่งหูให้สะอาดด้วยน้ำอุ่นและสบู่ต้านเชื้อแบคทีเรียเพื่อไม่ให้เกิดการระคายเคืองหรือการติดเชื้อ หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสติ่งหูในช่วงที่แผลกำลังฟื้นฟูเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อแบคทีเรียเข้าสู่แผลได้ รวมทั้งรักษาความสะอาดของผิวบริเวณติ่งหูด้วยการงดเว้นการใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมและเครื่องสำอางที่มีลักษณะเป็นฝุ่นผงสักระยะหนึ่ง [10]
  10. การจัดการรูเจาะหูที่เกือบตันให้เปิดออกอีกครั้งโดยปราศจากการดูแลและการฆ่าเชื้อที่เหมาะสมอาจส่งผลให้เกิดการเสียเลือด การอักเสบ และการบาดเจ็บของเส้นประสาทได้ ดังนั้นหากคุณรู้สึกเจ็บในระหว่างที่ดันต่างหูเข้าไปหรือไม่สามารถทำให้รูเจาะหูเปิดออกได้สำเร็จ ให้คุณหยุดและอย่าฝืนดันต่างหูเข้าไปต่อ [11] จากนั้นลองปรึกษาแพทย์หรือช่างเจาะมืออาชีพตามร้านเจาะร่างกายหรือร้านเครื่องประดับที่ได้รับใบอนุญาตอย่างถูกต้องเพื่อเข้ารับการเจาะหูซ้ำในสภาพแวดล้อมที่ปลอดเชื้อเพื่อให้รูเจาะหูของคุณเปิดออกอีกครั้ง
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ดูแลรูเจาะหูอย่างเหมาะสม

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. หลังจากที่รูเจาะหูเปิดออกอีกครั้งแล้ว ให้คุณสวมต่างหูเล็กๆ ไว้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องถอดออกนานอย่างน้อย 6 สัปดาห์ เพราะหากคุณถอดต่างหูออกเร็วจนเกินไป รูเจาะหูของคุณอาจเริ่มปิดตันลงอีกครั้ง [12]
  2. หมั่นทำความสะอาดหูเป็นประจำทุกเช้าหรือก่อนนอน โดยล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่ต้านเชื้อแบคทีเรียก่อนฟอกทำความสะอาดบริเวณติ่งหูโดยใช้น้ำอุ่นและสบู่เพียงวันละครั้งเพื่อรักษาความสะอาดของผิวบริเวณรูเจาะหูและป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อที่บริเวณดังกล่าวได้ [13]
    • คุณยังสามารถป้องกันการตกสะเก็ดของแผลได้โดยการทำความสะอาดผิวบริเวณรูเจาะหูด้วยรับบิ้งแอลกอฮอล์วันละ 2 ครั้ง โดยใช้สำลีก้อนหรือก้านสำลีจุ่มลงไปในรับบิ้งแอลกอฮอล์และนำไปเช็ดรอบๆ รูเจาะหู
  3. จับต่างหูเบาๆ ด้วยมือที่ล้างสะอาดและหมุนไปรอบๆ เป็นประจำทุกวันเพื่อป้องกันไม่ให้รูเจาะหูปิดตันอีกครั้ง [14]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • หากไม่สามารถดันต่างหูให้ทะลุออกมาจากทางด้านหน้าได้ ให้คุณลองขยับก้านต่างหูไปมาจากทางด้านหลังของติ่งหูแทน
โฆษณา

คำเตือน

  • หากสังเกตเห็นรอยแดงหรือรอยบวมที่มากจนผิดปกติหรือรู้สึกเจ็บอย่างรุนแรงที่บริเวณติ่งหู คุณควรไปพบแพทย์โดยทันที
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • ต่างหูที่มีก้านบาง
  • สบู่ต้านเชื้อแบคทีเรีย
  • มือสะอาด
  • ถุงมือยาง
  • รับบิ้งแอลกอฮอล์
  • สำลีก้อนหรือก้านสำลี
  • ปิโตรเลียมเจลลี่
  • ยาขี้ผึ้งปฏิชีวนะ

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 27,385 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา