ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ผู้หญิงทุกคนใฝ่ฝันที่จะได้พบกับผู้ชายที่สมบูรณ์แบบ โชคไม่ดีที่มันไม่ง่ายที่จะหาผู้ชายที่ใช่เพื่อใช้เวลากับคุณ บางทีคุณทั้งคู่อาจจะต้องตากันทั้งวัน ชอบกันแต่ขี้อายเกินไปที่จะเริ่มบทสนทนา บางทีเขาอาจจะไม่รู้ว่าคุณมีตัวตนได้ซ้ำ ไม่ว่าจะอย่างไร คุณสามารถทำตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อให้ได้ผู้ชายในฝันของคุณ

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

การแต่งตัวเพื่อได้รับความสนใจที่ใช่

ดาวน์โหลดบทความ
  1. มันไม่มีวิธีตายตัวสำหรับผู้หญิงในการแต่งตัวเพื่อให้ดึงดูดผู้ชาย เพราะฉะนั้นคุณต้องนึกถึงประเภทของผู้หญิงที่คุณต้องการเป็นและประเภทของผู้ชายที่คุณต้องการดึงดูด เช่น ถ้าหากคุณเป็นหนอนหนังสือและมองหาหนอนหนังสือด้วยกัน คุณก็ไม่ควรใส่รองเท้าส้นตึก กระโปรงสั้นและแต่งหน้าจัดเพียงเพราะว่าคุณเห็นว่าวิธีนี้ได้ผลในภาพยนตร์
    • คุณไม่ควรแต่งตัวในแบบที่คุณคิดว่าผู้ชายน่าจะชอบ แต่งตัวในแบบที่คุณต้องการจะแสดงให้ผู้ชายเห็น วิธีนี้จะทำให้คุณดึงดูดประเภทของผู้ชายที่จะชอบคุณในแบบที่คุณเป็น
  2. ถึงแม้ว่าคุณต้องการให้ผู้ชายหันมามองแต่คุณต้องไม่ทำเพื่อเหตุผลที่ไม่ถูกต้อง เช่น คุณอาจจะดูไม่เป็นตัวเองถ้าหากคุณแต่งตัวเรียบร้อยเกินไปถึงแม้ว่าเครื่องแต่งกายของคุณดูดีก็ตาม อย่าแต่งตัวธรรมดาไปงานปาร์ตี้ชุดแฟนซีของใครบางคน
  3. ผู้หญิงแต่ละคนมีรูปร่างที่ต่างกัน เพราะฉะนั้นคุณไม่ควรเลือกเสื้อผ้าโดยอ้างอิงจากรูปร่างของคนอื่น ทำการค้นคว้าเล็กน้อยเกี่ยวกับรูปร่างของตัวเองไม่ว่าคุณจะต้องการ แต่งตัวให้เลิศสำหรับหุ่นสะโพกดินระเบิด หรือหุ่นแบบนาฬิกาทรายหรือรูปร่างอวบ
    • ถ้าหากคุณมีเรียวขาที่ผอมและเอวเล็ก คุณควรใส่สกินนี่ยีนหรือกางเกงรัดรูป
    • ถ้าหากคุณมีเอวที่โค้งเว้า คุณควรใส่ยีนหรือกางเกงขาตรงเพื่อดึงดูดความสนใจมาที่รูปร่างแบบนาฬิกาทรายของคุณ
    • ถ้าหากคุณมีรูปร่างผอม การสวมเสื้อผ้าหลวมๆ อาจจะดูหลวมเกินไปสำหรับคุณ
    • ผู้หญิงที่มีช่วงเอวโค้งเว้าควรลองใส่ชุดเดรสทรงเอซึ่งจะช่วยเน้นส่วนโค้งเว้าเหล่านั้น
  4. แต่งหน้า ให้เหมาะสม. ถึงแม้ว่าคุณคงไม่อยากแต่งหน้าจัดแต่การลงรองพื้นเล็กน้อยและทาลิปสติกสามารถทำให้องค์ประกอบบนใบหน้าของคุณดูสวยโดดเด่น
    • คุณต้องใช้รองพื้นที่เหมาะสมกับสีผิวของคุณ [1] ถ้าหากรองพื้นสีสว่างเกินไป คุณจะดูเหมือนแวมไพร์แต่ถ้าหากรองพื้นสีเข้มจนเกินไป คุณจะดูเหมือนกำลังปกปิดร่างกายด้วยสีแทนปลอมๆ
    • ใช้คอนซีลเลอร์ที่สว่างกว่าผิวของคุณ 2 เฉดรอบดวงตาเพื่อปกปิดรอยคล้ำและทำให้ใบหน้าของคุณดูสดชื่น
    • ใช้คอนซีลเลอร์ที่มีสีเดียวกับสีผิวของคุณเพื่อปกปิดรอยสิวและรอยแผลเป็นที่คุณอาจจะมี
    • ใช้ลิปกลอสเพื่อเพิ่มความเงางามให้กับริมฝีปาก
    • ใช้ลิปสติกน้ำเพื่อสีที่ติดทนและจะไม่ลบออกอย่างง่ายดายระหว่างวัน
    • ตรวจดูเครื่องสำอางในกระจก 2-3 ครั้งระหว่างวันและเติมเครื่องสำอางหากจำเป็น
  5. เลือกคนรู้สึกสวย คุณจะมีความมั่นใจมากขึ้นและความมั่นใจสามารถดึงดูดผู้ชายได้ [2] ทำทรงผมต่างๆ เล่นๆ เมื่อคุณอยู่ตามลำพังในบ้านเพื่อหาทรงผมที่จะทำให้คุณรู้สึกมั่นใจมากที่สุด พิจารณาถึงระยะเวลาที่คุณใช้เพื่อทำทรงผมนั้นเพราะคุณคงไม่อยากต้องตื่นเช้าทุกวันเพื่อทำผม
    • การถักเปียเข้านอนสามารถทำให้คุณมีลอนผมที่นุ่มและเบาบาง
    • ถ้าหากคุณใช้ที่ ยืดผม คุณต้องปกป้องผมด้วยผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมที่เหมาะสมเพราะความร้อนอาจทำให้ผมเสียได้
    • ถ้าหากคุณไม่มีที่ม้วนผมไฟฟ้า คุณสามารถใช้ที่ยืดผมเพื่อม้วนผมตรงได้
    • ถ้าหากคุณมีผมยาว คุณสามารถรวบผมเพื่อเกล้าจุก มวยหรือหางม้าได้
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

การดึงดูดผู้ชายที่คุณไม่รู้จักดี

ดาวน์โหลดบทความ
  1. สิ่งแรกที่ผู้ชายพยายามจะสังเกตเกี่ยวกับคุณคือดูว่าคุณอยู่ในอารมณ์ที่พร้อมจะคุยหรือไม่ ถ้าหากคุณต้องการให้ผู้ชายคุยกับคุณ คุณต้องทำตัวให้ดูเปิดรับพร้อมมีบทสนทนา
    • ผู้ชายหลายคนคิดว่าการที่ผู้หญิงยิ้มให้เป็นสิ่งที่น่าดึงดูดมาก อย่ายิ้มกว้างจนเกินไปเพราะคุณจะดูตลก เพียงยิ้มอย่างยั่วยวนก็พอและการยิ้มเห็นฟันช่วยแสดงความมั่นใจ
  2. สิ่งนี้คืออีกวิธีในการแสดงว่าคุณมั่นใจในตัวเอง คุณไม่กลัวที่จะถูกจับได้ว่าคุณแอบมองเขาและคุณไม่กลัวความรู้สึกของตัวเอง
    • ถึงแม้ว่าคุณควรสบตาแต่คุณต้องไม่จ้องเขาจากระยะไกล คุณต้องทำตัวให้ดูสนใจและเปิดรับแต่ไม่ใช่หมกมุ่น
  3. ถ้าหากคุณมักจะอยู่คนเดียวเวลาที่ผู้ชายที่คุณชอบเห็นคุณ เขาอาจจะคิดว่าคุณไม่มีเพื่อนเพราะว่าคุณไม่ใช่คนที่อยู่ด้วยแล้วสนุก ถ้าหากเขาเห็นคุณหัวเราะและทำให้คนอื่นหัวเราะ เขาจะสามารถบอกได้ว่าคุณคือผู้หญิงที่เขาต้องการทำความรู้จัก
    • ผู้หญิงหลายคนหัวเราะแบบเสแสร้งเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ชายแต่คุณต้องไม่ทำแบบนั้น มันเห็นได้ชัดว่าเป็นการหัวเราะแบบเสแสร้งและบางครั้งมันฟังดูตลกและโจ่งแจ้ง
    • คุณควรใส่ใจกับสิ่งที่เพื่อนของคุณพูดและตอบโต้ในบทสนทนา วิธีนี้เสียงหัวเราะของคุณจะฟังดูจริงใจและสวยงามและคุณยังจะมีความสุขกับการหัวเราะและสารสัมพันธ์กับเพื่อน
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

การพูดกับผู้ชายที่คุณชอบ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เป็นฝ่ายเคลื่อนไหวก่อนและทำลายกำแพงกั้นความสัมพันธ์ด้วยตัวเองถ้าหากเขาไม่ได้เดินมาคุยกับคุณ. เขาอาจจะรู้สึกตื่นเต้นที่ต้องคุยกับคุณมากพอๆ กับที่คุณรู้สึก ถึงแม้ว่าในอดีตผู้คนคิดว่าผู้หญิงที่เป็นฝ่ายเริ่มบทสนทนาหรือความสัมพันธ์ก่อนเป็นผู้หญิงที่ดูรุกเกินไปแต่เราไม่ได้อยู่ในอดีตแล้ว คุณต้องเป็นผู้กล้าหาญ
    • การทำลายกำแพงกั้นความสัมพันธ์ที่ดีคือการขอให้เขาช่วยเหลือ [3] เช่น ถ้าหากคุณห้องเรียนเดียวกัน คุณสามารถขอยืมสมุดจดการเรียน 1 คืน สิ่งนั้นสามารถเริ่มบทสนทนาเกี่ยวกับเนื้อหาการเรียนหรือเกี่ยวกับคุณครู เป็นต้น คุณยังจะมีบทสนทนาเพิ่มเติมเพื่อพูดคุยเมื่อคุณคืนสมุดจดการเรียนครั้งต่อไปที่คุณเจอเขา
    • ทำการสังเกตหรือการพูดเล่นๆ เช่น “การบ้านเมื่อคืนยากมาก” หรือ “รอให้ถึงวันหยุดสุดสัปดาห์ไม่ไหวแล้ว” กระตุ้นบางอย่างให้เขาพูดเพื่อที่เขาจะมีบทสนทนากับคุณ
  2. อย่ากังวลว่าเขาจะคิดยังไงกับคุณในตอนแรกเพราะงานวิจัยเผยว่าความประทับใจในครั้งแรกไม่ได้มีความสัมพันธ์มากมายกับการคบหา [4] มันสำคัญมากกว่าที่เขาต้องทำความรู้จักตัวตนที่แท้จริงของคุณ ถ้าหากคุณเสแสร้งเพื่อทำให้ผู้ชายชอบคุณ เขาก็อาจจะต้องการคบกับคุณแต่คุณจะต้องแกล้งทำเป็นผู้หญิงในจินตนาการของเขาตลอดเวลาที่คุณอยู่ด้วยกัน คุณต้องทำให้เขารู้จักตัวตนที่แท้จริงของคุณว่าคุณเป็นอย่างไรตั้งแต่ครั้งแรกที่คุณคุยกัน
    • ถ้าหากเขาพูดบางอย่างที่คุณไม่เห็นด้วยก็อย่ากลัวที่จะโต้แย้งเขาด้วยท่าทางที่ดี สิ่งนี้ไม่ได้แปลว่าคุณต้องทะเลาะกันแต่อย่ากลัวที่จะออกความคิดเห็นของตัวเองในรูปแบบของบทสนทนาทั่วไป
    • ถ้าหากเขาพูดบางอย่างที่ตลก คุณก็ควรหัวเราะแต่อย่าหัวเราะทุกครั้งที่เขาพูดเพราะคุณจะดูฝืนและเสแสร้ง
  3. ภาษากายสามารถบ่งบอกได้ว่าเป็นบวกหรือลบและถ้าหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งกำลังส่งผ่านพลังงานที่เป็นลบ สิ่งนี้ก็อาจไปไม่รอด อั้มขอจับหน่อยนะ [5] อ่านภาษากายของเขาเพื่อดูว่าเขาตอบโต้อย่างไรกับบทสนทนา ปรับเปลี่ยนภาษากายของคุณเพื่อทำให้เขารู้ว่าคุณกำลังมีความสุข
    • ภาษากายที่เป็นบวกบ่งบอกได้ด้วยการโน้มตัวเข้าหรือเคลื่อนตัวเข้าใกล้ มีท่าทางที่ผ่อนคลายและไม่ไขว้ขา รักษาการสบตาและชี้หัวเท้าไปยังบุคคลที่คุณกำลังคุยด้วย
    • ภาษากายที่เป็นลบบ่งบอกได้ด้วยกันโน้มตัวออกหรือเคลื่อนตัวหนี มีท่าทางที่เกร็งและไขว้ขาและกอดอกแน่น หันหัวเท้าหนีและหลีกเลี่ยงการสบตา
    • จำไว้ว่าท่าทางภาษากายที่เป็นลบอาจจะเป็นเพราะความอาย เพียงเพราะผู้ชายไม่สามารถสบตากับคุณได้ไม่ได้แปลว่าเขาไม่ได้อยากสบตาด้วย
  4. ไม่มีใครชอบเวลาที่พวกเขาพูดถึงบางอย่างที่เขาคิดว่าน่าสนใจแต่ผู้ฟังไม่สนใจฟัง รับฟังสิ่งที่เขาพูดเพื่อทำให้เขารู้สึกว่าคุณใส่ใจและเรียนรู้มากขึ้นเกี่ยวกับเขา สุดท้ายแล้วคือคุณต้องตัดสินใจว่าเขาเป็นผู้ชายที่ใช่สำหรับคุณหรือไม่
    • ถึงแม้ว่าคุณควรจะรับฟังแต่อย่าเสแสร้งว่าคุณสนใจในบางอย่างที่คุณไม่ได้ใส่ใจจริงๆ เพียงเพราะเขาพูดถึงมัน ถ้าหากคุณทำให้เขาคิดว่าคุณใส่ใจจริงๆเกี่ยวกับหัวข้อนั้น เขาอาจจะทำให้คุณเบื่อหน่ายกับเรื่องนี้ได้
  5. คุณต้องการให้เขาเรียนรู้เกี่ยวกับตัวคุณ เพราะฉะนั้นควรพูดถึงความสนใจของคุณเช่นเดียวกับที่คุณกำลังเรียนรู้เกี่ยวกับเขาโดยการฟังเขาพูดถึงสิ่งที่เขาสนใจ ตระหนักว่ามีบางหัวข้อที่เหมาะสำหรับเพื่อนสนิทหรือเพื่อนสาวเท่านั้น เช่น อย่าพูดถึงความลับสุดยอดด้านมืดของคุณหรือเทคนิคการแต่งหน้าที่คุณชอบกับผู้ชายที่คุณกำลังทำความรู้จัก
    • โอ้อวดถึงคุณสมบัติพิเศษที่คุณต้องการให้เขารู้โดยการโยงเข้ามาในบทสนทนา ถ้าหากคุณเป็นนักกีฬาที่ดีเยี่ยม คุณสามารถพูดถึงการฝึกซ้อมในสัปดาห์นั้น ถ้าหากคุณเป็นนักแสดง ลองพูดถึงการฝึกซ้อมแสดง ถ้าหากคุณชอบอ่านหนังสือ คุณสามารถพูดถึงหนังสือที่คุณกำลังอ่านในตอนนี้
    • อย่าควบคุมบทสนทนาอยู่ฝ่ายเดียวโดยการพูดถึงตัวเองและสิ่งที่คุณชอบตลอดเวลา สิ่งนี้ควรมาจากทั้งสองฝ่าย คุณทั้งสองควรพูดและฟังในปริมาณที่เท่ากัน
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • เป็นตัวของตัวเอง มีใครบางคนที่จะชอบคุณในแบบที่คุณเป็น
  • ทำตามหัวใจไม่ใช่สมอง คุณต้องถามตัวเองว่าเขาคือคนที่ใช่สำหรับคุณหรือไม่
  • ถ้าหากคุณตกหลุมรักใครบางคน เขาจะตกหลุมรักคุณง่ายขึ้นด้วยการดูว่าคุณชอบอะไร เช่น ถ้าหากคุณรู้ว่าผู้ชายที่คุณชอบนั้นชอบเล่นฟุตบอล คุณก็ควรลองเล่นกีฬานี้ คุณต้องเป็นตัวของตัวเองและพยายามมีส่วนร่วม คุณอาจจะได้รับความสนใจจากเขา
  • มีความสุขและอย่าพยายามมากเกินไปเพราะว่าคุณต้องการให้เขามองเห็นคุณอย่างเป็นธรรมชาติ
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 3,541 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา