ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

จะส่งข้อความหาเขา/เธออีกครั้งดีหรือไม่? หากคนคุยหรือเพื่อนของคุณอ่านข้อความจากคุณแล้วไม่ตอบกลับ คุณคงเกิดความลังเลใจว่าควรดำเนินบทสนทนานี้ต่อหรือหยุดเพียงเท่านี้ บางทีเราอาจด่วนสรุปเอาเองว่าอีกฝ่ายกำลังพยายาม “เพิกเฉย” ใส่ แต่ที่จริงแล้วพวกเขาอาจแค่กำลังยุ่งอยู่เท่านั้น เราได้รวบรวมวิธีต่างๆ ที่จะช่วยคุณพิจารณาว่าอีกฝ่ายจงใจเพิกเฉยต่อคุณหรือเพียงแค่ไม่มีเวลาตอบข้อความจากคุณ ลองอ่านต่อด้านล่างเพื่อหาคำตอบว่าจะทำอย่างไรเมื่อเขาหรือเธออ่านข้อความของคุณแล้วไม่ตอบกลับ

1

ให้เวลาอีกฝ่ายในการตอบกลับ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. รออย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนส่งข้อความหาอีกฝ่ายอีกครั้ง. หากข้อความของคุณไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน อีกฝ่ายอาจเพียงเปิดอ่านและไม่คิดว่าจำเป็นต้องตอบกลับโดยทันที ซึ่งแม้แต่ตัวคุณเองก็อาจเคยละเลยข้อความจากคนอื่นเพราะกำลังยุ่งหรือเพียงไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะคุยกับใครเช่นกัน ดังนั้นเผื่อเวลาให้เขาหรือเธอตอบกลับข้อความของคุณสัก 2-3 ชั่วโมงหรือ 1 วันเต็มๆ ก่อนจะทึกทักไปเอง [1]
    • หลังพ้นวันไปแล้ว คุณอาจลองทักไปหาเขาหรือเธออีกครั้ง
    โฆษณา
2

โพสต์ลงโซเชียลมีเดียเพื่อให้เป็นจุดสนใจ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เตือนให้อีกฝ่ายนึกถึงข้อความจากคุณโดยไม่ต้องทักไปหาโดยตรง. หากคุณและอีกฝ่ายติดตามกันในโซเชียลมีเดีย ลองโพสต์สตอรี่บน Instagram หรือสเตตัสบน Facebook ที่คุณคิดว่าเขาหรือเธอจะมองเห็น วิธีนี้จะช่วยเตือนให้อีกฝ่ายนึกถึงข้อความจากคุณโดยที่คุณไม่ต้องกังวลกับการทักไปหาเขาหรือเธอโดยตรง พยายามโพสต์เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับบทสนทนาที่ค้างอยู่ของคุณทั้งสองคนเพื่อให้เขาหรือเธอหันมาสนใจข้อความที่ยังไม่ได้ตอบ [2]
    • พยายามอย่าให้เรื่องราวที่โพสต์มุ่งเป้าไปที่อีกฝ่ายโดยตรง เพราะอาจเป็นการสร้างความอึดอัดใจให้เขาหรือเธอได้
    • โพสต์เรื่องราวบวกๆ เพื่อไม่ให้ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกผิดที่ไม่ได้ตอบข้อความจากคุณ
    • ยกตัวอย่างเช่น หากคุณส่งข้อความหาอีกฝ่ายเรื่องทริปเดินป่า อย่าโพสต์ว่า “อยากมีใครสักคนไปเที่ยวเดินป่าด้วยกันจัง 😢”
    • แต่ให้โพสต์ว่า “รอไม่ไหวที่จะได้ออกไปเดินป่าครั้งต่อไปแล้ว 😍”
3

แสดงความเห็นตลกๆ หรือประชดประชัน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ของคุณทั้งสองคน คุณอาจส่งข้อความหยอกล้อที่อีกฝ่ายไม่ตอบกลับข้อความจากคุณเพื่อให้บทสนทนาติดตลกมากขึ้น การพูดหยอกล้อขำๆ เป็นวิธีที่จะช่วยประคับประคองให้บทสนทนาสามารถดำเนินต่อไปได้แม้คุณจะรู้สึกว่าไม่มีอะไรจะคุยมากมายก็ตาม [3]
    • คุณอาจพูดกับอีกฝ่ายว่า “ว้าว เธอตอบกลับมาเร็วมากจนเราพิมพ์ตอบแทบไม่ทันเลย 😂”
    • หรือพูดว่า “เธอต้องป๊อปปูล่ามากแน่ๆ จนไม่มีเวลาตอบกลับเราเลย 😱”
    • หากคุณรู้สึกว่าข้อความล่าสุดของคุณฟังดูค่อนข้างน่าเบื่อ ยอมรับและเล่นมุกตลกล้อเลียนตัวเองเพื่อแสดงให้อีกฝ่ายเห็นว่าคุณไม่ได้เป็นคนจริงจังมากขนาดนั้น
    • ปรับเปลี่ยนคำพูดตามความอ่อนไหวทางอารมณ์ของอีกฝ่ายต่ออารมณ์ขันของคุณ
    โฆษณา
4

ส่งข้อความใหม่ที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องเดิมเลย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หากคุณต้องรอแล้วรออีกจนกระทั่งอีกฝ่ายตอบกลับ อาจเป็นเพราะว่าบทสนทนาระหว่างคุณทั้งสองคนมาถึงทางตันและอีกฝ่ายไม่รู้จะตอบกลับอย่างไร หลังผ่านไประยะหนึ่ง ให้คุณส่งมีมตลกๆ หรือเปิดประเด็นใหม่โดยไม่ต้องพูดถึงหัวข้อสนทนาก่อนหน้านี้ที่เขาหรือเธอไม่ได้ตอบกลับเพื่อให้บทสนทนาดำเนินต่อไป [4]
    • ยกตัวอย่างเช่น หากก่อนหน้านี้คุณส่งข้อความไปว่า “ศุกร์นี้มีแผนจะทำอะไรบ้าง” และถัดมาจึงส่งไปว่า “เราเจอคลิปที่บ้ามากๆ จนอยากส่งให้เธอดูเลย”
    • หากอีกฝ่ายตอบกลับในครั้งนี้ นั่นหมายความว่าเขาหรือเธอยังคงอยากคุยกับคุณ บางทีอีกฝ่ายอาจพูดถึงเรื่องที่เขาหรือเธอไม่ได้ตอบกลับข้อความของคุณด้วย
    • ลองดูดีๆ ว่าข้อความล่าสุดของคุณจำเป็นต้องตอบกลับจริงหรือไม่ [5]
5

ถามอีกฝ่ายว่าทำไมไม่ตอบกลับ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หากคุณสนิทสนมกับอีกฝ่ายในระดับที่สามารถพูดคุยอย่างตรงไปตรงมาได้โดยไม่ทำให้เขาหรือเธอรู้สึกไม่พอใจ คุณอาจลองถามเขาหรือเธอว่าทำไมจึงไม่ยอมตอบกลับข้อความจากคุณ ในกรณีที่ดีที่สุด อีกฝ่ายอาจกล่าวขอโทษและบอกสาเหตุให้คุณรู้ แต่หากไม่มีข้อความตอบกลับใดๆ อาจเป็นการดีที่สุดหากคุณถอยห่างออกมาจากอีกฝ่าย อย่างน้อยจนกระทั่งเขาหรือเธอพร้อมที่จะคุยกับคุณอีกครั้ง [6]
    • บางคนอาจรู้สึกอึดอัดใจเมื่อถูกถามตรงๆ ดังนั้นอย่าทำเช่นนี้กับคนที่เพิ่งรู้จักกันไม่นาน
    • ใช้ถ้อยคำที่สุภาพแต่ตรงไปตรงมา
    • คุณอาจพูดกับอีกฝ่ายว่า “เป็นยังไงบ้าง ไม่ยอมตอบแชทเราเลยนะ”
    โฆษณา
6

บอกความรู้สึกของคุณให้อีกฝ่ายได้รับรู้

ดาวน์โหลดบทความ
  1. บอกให้อีกฝ่ายรู้ว่าคุณคาดหวังอย่างไรในบทสนทนาต่อจากนี้. จงซื่อสัตย์กับความรู้สึกตัวเองเมื่อเปิดใจพูดคุยถึงสิ่งที่คุณทั้งสองคนคาดหวังในความสัมพันธ์ในระยะยาว บางทีอาจเป็นไปได้ว่าอีกฝ่ายเพียงแค่มีสไตล์การสื่อสารที่แตกต่างไปจากคุณเท่านั้น ดังนั้นอย่าลังเลที่จะพูดถึงความต้องการของคุณอย่างตรงไปตรงมาและร่วมกันสร้างบทสนทนาที่สร้างความสบายใจให้กับทั้งสองฝ่าย [7]
    • เปิดบทสนทนาเช่นนี้เฉพาะกับคนที่คุณไว้ใจจริงๆ เท่านั้น
    • คุณไม่สามารถตำหนิอีกฝ่ายที่ไม่เข้าใจความคาดหวังของคุณได้หากคุณไม่เคยพูดมันออกมามาก่อน
    • คุณอาจเปิดบทสนทนาว่า “เรารู้สึกแย่มากเลยที่เธออ่านแล้วไม่ตอบ”
    • หรืออาจพูดว่า “เรารู้สึกว่าเธอไม่สนใจเราเลย เราสองคนคุยกันหน่อยได้มั้ย”
7

ถามสารทุกข์สุขดิบกับอีกฝ่าย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เข้าใจในความรู้สึกของอีกฝ่ายหรือสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังเผชิญ. บางทีสาเหตุที่อีกฝ่ายพยายามถอยห่างจากคุณอาจไม่เกี่ยวกับคุณเลยสักนิด แต่อาจเป็นเพราะว่าเขาหรือเธอกำลังเผชิญปัญหาทางจิตใจและพยายามปิดกั้นตัวเองจากสังคม หากคุณคิดว่าอาจเป็นเพราะสาเหตุนี้ อย่าบังคับให้อีกฝ่ายตอบกลับข้อความจากคุณ แต่แสดงความห่วงใยต่อเขาหรือเธอในข้อความต่อจากนี้ [8]
    • อาจเป็นเรื่องยากที่จะฟันธงได้ว่าที่อีกฝ่ายไม่ตอบกลับเป็นเพราะสาเหตุนี้จริงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม พึงระวังไว้แต่แรกคงดีกว่ามานั่งเสียใจในภายหลัง
    • คุณอาจใช้โอกาสนี้แสดงให้อีกฝ่ายเห็นว่าคุณพร้อมรับฟังหากเขาหรือเธออยากระบายความรู้สึกไม่สบายใจออกมา
    • คุณอาจแสดงความห่วงใยผ่านคำพูดว่า “คิดถึงเธอเสมอนะ หวังว่าเธอคงสบายดี”
    • หรืออาจพูดว่า “เห็นว่าช่วงนี้เธอหายไปเลย หากมีเรื่องกังวลใจอะไรก็เล่าให้เราฟังได้นะ”
    โฆษณา
8

ส่งข้อความทีละเพียงข้อความเดียว

ดาวน์โหลดบทความ
  1. พยายามให้ข้อความที่ส่งอีกครั้งกระชับและเรียบง่าย. การกระหน่ำส่งข้อความหาอีกฝ่ายมีแต่จะทำให้คุณดูร้อนรนหรือตื่นตระหนกจนเกินไปในสายตาของเขาหรือเธอ ดังนั้นเมื่อคุณส่งข้อความหาอีกฝ่านอีกครั้ง (หลังจากทิ้งระยะเวลามาแล้วช่วงหนึ่ง) พยายามใช้ถ้อยคำที่สั้นกะทัดรัดที่สุด ไม่เช่นนั้นเขาหรือเธออาจรู้สึกว่าคุณกำลังพยายามเล่นใหญ่เกินจริงจนน่ารำคาญ ซึ่งคุณคงไม่อยากให้เป็นเช่นนั้นแน่นอน [9]
    • ตามปกติแล้วพยายามอย่าส่งข้อความเกิน 2 บรรทัดต่อครั้ง
    • หากคุณไม่ได้สนิทสนมกับอีกฝ่ายมากนัก พยายามส่งข้อความให้ยาวพอๆ กับข้อความที่เขาหรือเธอส่งหาคุณเพื่อให้แต่ละฝ่ายต่างไม่มีใครได้เปรียบหรือเสียเปรียบมากกว่ากัน [10]
9

ส่งข้อความครั้งสุดท้ายหลังผ่านไปนานกว่าสัปดาห์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ส่งข้อความถามอีกฝ่ายมากสุดเพียง 3 ครั้งเท่านั้น. หากคุณส่งข้อความไปแล้ว 2 ครั้งและอีกฝ่ายยังคงไม่ตอบกลับเช่นเดิม ให้คุณรออย่างน้อยอีก 7 วันก่อนส่งข้อความหาเขาหรือเธออีกครั้ง ซึ่งอีกฝ่ายอาจทักมาหาคุณในช่วง 1 สัปดาห์ที่คุณเงียบหายไปหากเขาหรือเธอยังคงอยากคุยกับคุณอยู่ แต่หากเขาหรือเธอไม่ตอบอะไรกลับมาหลังผ่านไปนานกว่าสัปดาห์ คุณสามารถส่งข้อความหาเขาหรือเธอเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อบอกให้อีกฝ่ายรู้ว่าคุณจะไม่ติดต่อไปหาเขาหรือเธออีก [11]
    • คุณอาจไม่แม้แต่ส่งข้อความครั้งสุดท้ายหาอีกฝ่าย เพียงเงียบหายไปจนกว่าเขาหรือเธอจะตัดสินใจทักมาหาคุณอีกครั้ง
    • หากคุณรู้ดีว่าไม่ใช่ความผิดของคุณที่อีกฝ่ายไม่ตอบกลับ จงยืนหยัดในความเชื่อของตัวเองว่าเขาหรือเธอควรตอบกลับข้อความจากคุณ
    • คุณอาจพูดกับอีกฝ่ายว่า “เราจะส่งข้อความนี้หาเธอเป็นครั้งสุดท้ายแล้วคงไม่ติดต่อไปหาเธออีก”
    โฆษณา
10

ให้ความสนใจกับอย่างอื่นแทน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ใช้เวลากับคนอื่นๆ ที่จะไม่เพิกเฉยต่อข้อความจากคุณดีกว่า. การที่คุณพยายามติดต่อหาใครสักคนแต่กลับถูกเขาหรือเธอเมินใส่เป็นเรื่องที่บั่นทอนใจไม่น้อย แต่แทนที่คุณจะจมอยู่กับความรู้สึกโดดเดี่ยว คุณควรให้ความสำคัญกับคนรอบข้างที่พร้อมอยู่เคียงข้างคุณจะดีกว่า ใช้เวลาร่วมกับพวกเขาเพื่อให้ตัวเองลืมเรื่องแย่ๆ ที่เกิดขึ้นและตั้งตารอคอยสิ่งใหม่ๆ ที่กำลังจะเข้ามา [12]
    • ใช้เวลาอยู่กับกลุ่มเพื่อนหรือทำงานอดิเรกที่ชื่นชอบดีกว่านอนเกลือกกลิ้งอยู่หน้าจอทีวีหรือไถดูแต่หน้าฟีดโซเชียลมีเดีย
11

ทบทวนความสัมพันธ์ของคุณทั้งสองคน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ลองคิดดูดีๆ ว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าหรือเปล่า. เมื่อถึงจุดหนึ่ง คุณอาจต้องมานั่งคิดทบทวนว่าคุณควรให้โอกาสคนๆ นี้อีกสักครั้งแบบนี้ไปเรื่อยๆ หรือไม่ บางทีคุณอาจตระหนักได้ว่าอีกฝ่ายไม่ใช่คนที่ใช่สำหรับคุณ ยังมีคนที่คู่ควรกับเวลาและพลังที่คุณทุ่มเทให้ไปอีกมากรอคุณอยู่ [13]
    • ควรพิจารณาเรื่องนี้อย่างยิ่งหากคุณเพิ่งเริ่มคุยกับอีกฝ่ายได้ไม่นานนัก
    • คุณอาจไม่อยากละทิ้งความสัมพันธ์ที่สร้างขึ้นมาเพราะเหตุผลว่าอีกฝ่ายอ่านข้อความจากคุณแล้วไม่ตอบกลับ แต่อย่างที่ได้บอกไป คุณต้องการรักษาความสัมพันธ์กับคนที่หายเงียบไปดื้อๆ อยู่เรื่อยๆ เช่นนี้จริงหรือ? [14]
    โฆษณา
12

ปล่อยอีกฝ่ายไป

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เชื่อมั่นในตัวเองว่าคุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่านี้และตัดใจซะ. หากอีกฝ่ายยังคงไม่ตอบกลับแม้ว่าคุณจะทั้งให้เวลาสักพักหรือทั้งส่งข้อความไปอีกครั้งหรือแม้แต่ครั้งที่สาม คุณอาจทำเรื่องที่พอจะทำได้ไปทั้งหมดแล้ว เมื่อมาถึงจุดนี้ คุณอาจต้องเผชิญหน้ากับความจริงที่ว่าคนๆ นี้ไม่พร้อมที่จะทุ่มเทเวลาและพลังให้กับคุณ ดังนั้นอย่าเสียเวลากับคนที่ไม่เห็นค่าของคุณอีกต่อไป [15]
    • อย่างที่ได้บอกไป คุณควรพิจารณาเรื่องนี้เป็นพิเศษหากคุณทั้งสองคนไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นต่อกันมากนัก

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 5,966 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา