ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
บทความนี้จะแนะนำวิธีการดาวน์โหลดและอัพโหลดข้อมูลและไฟล์ต่างๆ ระหว่างมือถือกับคอมพิวเตอร์
ขั้นตอน
-
ใช้สาย USB ต่อมือถือเข้ากับพอร์ท USB ของคอม. ถ้ามือถือคุณไม่มีสาย USB มาด้วย ให้ลองเข้าไปติดต่อสอบถามที่เว็บผู้ผลิต หรือหาซื้อสายที่ใช้กับมือถือรุ่นของคุณได้จากในเน็ต
-
ในมือถือต้องมีเมโมรี่การ์ดอยู่.
-
แตะที่หน้าจอมือถือ เพื่ออนุญาตให้เชื่อมต่อ USB.
-
เลือก Mount.
-
มองหา removable storage drive หรือไดรฟ์แบบพกพาในหน้าจอคอม. ถ้าคุณใช้ Mac ไดรฟ์ที่เพิ่งเสียบจะไปโผล่ในหน้า desktop แต่ถ้าคุณใช้ PC ให้ไปที่ My Computer
-
ลากไฟล์ที่ต้องการจากในมือถือไปหย่อนลงคอม.
-
พอเสร็จแล้ว ให้ไปที่ Notifications แล้วเลือก Turn Off USB Storage.
-
ดึงสาย USB ออก เพื่อเลิกเชื่อมต่อมือถือกับคอม.โฆษณา
-
1ใส่เมโมรี่การ์ดเข้าไปในมือถือ. เช็คก่อนว่ามือถือคุณใช้เมโมรี่การ์ดได้ไหม หลายเครื่องใช้ micro memory card ที่มาพร้อมมือถือ และถอด-ใส่ได้ตามสะดวก
-
2เช็คให้ชัวร์ว่ามือถือคุณเซฟข้อมูลลงเมโมรี่การ์ดได้ ไม่ใช่เซฟลงเครื่องได้อย่างเดียว.
-
3เสียบเมโมรี่การ์ดเข้า memory card reader. memory card reader บางเครื่องก็ใหญ่ไปสำหรับ micro memory card ถ้าเป็นแบบนี้ก็ต้องมี adapter ใช้เสียบ micro memory card ก่อน จากนั้นค่อยเอา adapter ไปเสียบ memory card reader อีกที
-
4เสียบ memory card reader เข้ากับคอม. ทางพอร์ท USB
-
5ถ่ายข้อมูลลงคอม. memory card reader จะขึ้นเป็น removable disk ใน Finder หรือ My Computer
- ถ้าคุณใช้ Mac ให้เปิด iPhoto แล้วไปที่ File>Import to Library จากนั้นเลือกรูปที่จะเซฟลงคอมจากในเมโมรี่การ์ด
โฆษณา
-
เปิด Bluetooth ในมือถือ. ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าต้องเปิดยังไง ให้ไปที่ Settings หรือ Controls
-
ซื้อ Bluetooth adapter. ถ้าคอมคุณไม่มีฮาร์ดแวร์ใช้ต่อ Bluetooth/Infrared ได้ ก็ต้องซื้อ adapter ที่บางครั้งเรียกว่า 'dongle' ถ้าเป็น adapter แบบ BT/I ทั่วไปจะเสียบเข้าพอร์ท USB ได้ แต่ถ้างบคุณจำกัด ก็มีแบบมือสองตามเน็ต เพราะ adapter พวกนี้แพงน่าดู และต้องใช้โปรแกรมเฉพาะเวลาจะเชื่อมต่อ แต่จะทำให้คุณสามารถเซฟไฟล์จากมือถือลงคอมหรือสลับกันได้
- คอมบางเครื่องอย่าง MacBook นั้นมี Bluetooth ในตัวอยู่แล้ว ไม่ต้องต่อสายแต่อย่างใด ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าคอมคุณมี Bluetooth หรือเปล่า ก็ให้ลองศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมในเน็ตดู
-
ดูให้ดีว่าเปิด Bluetooth ทั้งในคอมและในมือถือแล้ว.
- ถ้าคุณใช้ Mac ดูได้ว่าเปิด Bluetooth แล้วหรือยังโดยคลิกที่สัญลักษณ์ Bluetooth ทางขวาของแถบเครื่องมือด้านบน สัญลักษณ์จะอยู่ซ้ายมือของวันที่และเวลา หน้าตาเหมือนสามเหลี่ยมหลายๆ อัน
- ถ้าคุณใช้ Vista ให้ไปที่ Control Panel -> Network and Internet Connection -> Bluetooth Devices
-
4อย่ายืนห่างคอมเกิน 30 ฟุต (9.1 เมตร). เพราะสัญญาณ Bluetooth แรงได้ไม่เกินนั้น
-
หาข้อมูลในมือถือที่จะเซฟ.
-
ไปที่เมนู แล้วเลือก Copy หรือ Send.
-
เลือก Bluetooth.
-
พอยืนยันแล้วว่าคุณจะเปิด Bluetooth เมนู Bluetooth ในมือถือจะเด้งขึ้นมาเอง.
-
เลือก "Look for Devices".
-
เลือกเครื่องของคุณจากในรายการ.
-
จะมีแจ้งเตือนขึ้นในเครื่องให้คุณกดรับรูปที่จะส่งมา.
-
กดรับไฟล์ แล้วไฟล์จะถูกเซฟลงเครื่องคุณ.โฆษณา
วิธีการ 6
วิธีการ 6 ของ 9:
ถ่ายข้อมูล Contacts โน้ตสั้น รูปถ่าย และปฏิทินจากมือถือ CDMA
-
1หาหรือหาซื้อสาย USB (data link cable) แบบที่ด้านหนึ่งใช้เสียบมือถือ ส่วนอีกด้านใช้เสียบกับพอร์ท USB ของคอมได้. พยายามเลือกที่ตรงกับยี่ห้อและรุ่นมือถือของคุณ เดี๋ยวนี้ในเน็ตก็มีขายเยอะแยะไป
-
2ติดตั้งไดรฟ์เวอร์ที่จำเป็นของมือถือ. จะเป็นไดรฟ์เวอร์ที่มากับสาย USB หรือแผ่น CD.
-
3
-
4เสียบมือถือแล้วเปิดโปรแกรม BitPim. เพื่อสแกนหามือถือคุณโดยอัตโนมัติ
-
52 ปุ่มในแถบเครื่องมือมุมซ้ายบนคือ Get Phone Data กับ Send Phone Data. ให้ใช้ปุ่มพวกนี้เซฟและส่งข้อมูลต่างๆ จากมือถือของคุณโฆษณา
-
1เลือก View จากนั้น View Filesystems เพื่อเปิดฟังก์ชั่นที่แอดวานซ์กว่า.
-
2มองหาโฟลเดอร์ที่น่าจะมีข้อมูลของคุณอยู่. ใน Samsung a930 เพลงกับวีดีโอจะอยู่ในเมโมรี่การ์ดที่ /mmc1/MY_(FLIX/MP3S/MUSIC/PIC)
-
3ถ้าคุณมีหลายไฟล์ (หนังหรือรูป) ที่อยากเอาออกจากมือถือทันที ก็แค่คลิกขวาที่โฟลเดอร์ แล้วเลือก "Backup Directory". เพื่อ copy ทุกอย่างในโฟลเดอร์นั้นลงคอม.
-
4ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและสอบถามขอคำแนะนำเรื่องการถ่ายข้อมูลจากมือถือของคุณในเน็ตดู. เพราะบางรุ่นบางยี่ห้อก็ใช้ไฟล์เฉพาะ แตกต่างจากชาวบ้านเขา บางเครื่องก็มีข้อจำกัดเรื่องขนาดที่คุณควรรู้ไว้ สรุปแล้วใช้มือถือยี่ห้อไหนรุ่นไหนก็ลองค้นข้อมูลโดยเฉพาะก่อนดีกว่าโฆษณา
-
1เลือกข้อมูลที่จะเซฟ. เหมาะสำหรับเวลาคุณจะเซฟลิงค์ ไฟล์ภาพ หรือข้อความจากหน้าเบราว์เซอร์ลงมือถือ เช่น คุณอยากเซฟเส้นทางใน Google Maps เซฟ shopping list หรือลิงค์ของรูปที่จะเอาไปแชร์ให้คนอื่นหรือเซฟลงเครื่อง รวมถึงในกรณีที่คุณใช้คอมของออฟฟิศแล้วเซฟข้อมูลด้วยวิธีอื่นไม่ได้เนื่องจากมีระบบรักษาความปลอดภัย
-
2หา QR code creator จากในเน็ต. มีหลายแบบให้เลือกใช้ ทั้งเว็บ extensions ของเบราว์เซอร์ และโปรแกรมหรือแอพที่ดาวน์โหลดมาได้
-
3ใช้ QR code creator เปลี่ยนลิงค์ รูป หรือข้อความของคุณเป็น QR code.
-
4สแกน QR code ด้วยแอพ QR code reader ในมือถือ. แต่ละเครื่องก็มี reader แตกต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่จะเป็นแอพฟรีทั้งนั้น พอสแกนโค้ดแล้ว แอพจะแสดงข้อมูลข้างในออกมา หรือก็คือรูป ลิงค์ และข้อความของคุณนั่นเองโฆษณา
-
สมัครใช้ Dropbox ในเว็บ.
-
ติดตั้ง Dropbox ลงคอม. คุณดาวน์โหลดโปรแกรมได้จากในเว็บนั่นแหละ
-
เอาไฟล์ที่อยากเซฟลงมือถือไปใส่ในโฟลเดอร์ย่อยของ Dropbox-folder ในคอม. ซึ่งจะอยู่ที่ "C:\Users\<your user name>\Dropbox" หรือจะพิมพ์ "%HOMEPATH%\Dropbox" (ไม่ต้องมีเครื่องหมายคำพูด) ลงในแถบ address ของ Windows Explorer ก็ได้
-
ติดตั้งแอพ Dropbox ลงมือถือ. มีทั้งแอพของ Android, iPhone, iPad, iPod Touch และ Blackberry
-
ล็อกอินเข้าใช้แอพ Dropbox ที่คุณเพิ่งติดตั้ง.
-
ให้เข้าโฟลเดอร์ที่คุณใส่ไฟล์ลงไปจากในมือถือ.
-
คลิกที่ลูกศรถัดจากไฟล์ แล้วคลิก "Extract".
-
เลือกโฟลเดอร์ที่จะเซฟลง.
-
ดาวน์โหลดได้เลย. ทีนี้ก็เซฟไฟล์ตามสะดวกโฆษณา
เคล็ดลับ
- ไฟล์หนังในมือถือแต่ละรุ่นก็จะแตกต่างกันออกไป ต้องลองศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมในเน็ตดู ว่ามีโปรแกรมไหนใช้แปลงเป็นไฟล์ที่ใช้ทั่วไปได้บ้าง YouTube รองรับไฟล์หลากหลายมาก รวมถึง .3g2 ด้วย เพราะฉะนั้นก็อัพโหลดคลิปขึ้นเว็บได้เลยโดยไม่ต้องแปลงไฟล์ แต่ถ้าจะเซฟไฟล์หนังลงมือถือคุณ ต้องแปลงไฟล์หนังนั้นเป็นไฟล์ที่มือถือคุณอ่านได้ซะก่อน
- ถ้ามีปัญหาเชื่อมต่อมือถือกับคอมไม่ได้ ลองเปลี่ยนพอร์ท USB ดูอาจจะได้ผล
- ลองศึกษาดูว่า "resolution" ของวอลล์เปเปอร์ในมือถือคุณมีขนาดเท่าไหร่ จะได้เลือกขนาดรูปที่จะเปิดดูในมือถือได้เหมาะสม
โฆษณา
คำเตือน
- บางทีพอไปยุ่งกับไฟล์แบบแอดวานซ์ก็อาจทำมือถือคุณ error หรือถึงขั้นเจ๊งได้ เพราะฉะนั้นอย่าพยายามใช้ฟีเจอร์แอดวานซ์ของ BitPim เว้นแต่คุณจะเชี่ยวชาญจริงๆ
โฆษณา
สิ่งของที่ใช้
- มือถือ
- คอมพิวเตอร์
- สาย USB (Data Link Cable) (ไม่จำเป็น)
- Memory card reader (ไม่จำเป็น)
- Bluetooth (ไม่จำเป็น)
- Wi-Fi (ไม่จำเป็น)
ข้อมูลอ้างอิง
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 13,442 ครั้ง
โฆษณา