ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
มะรุมผง เป็นอาหารเสริมสมุนไพรสารพัดประโยชน์ที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ โปรตีน และแร่ธาตุ หลายคนมักเลือกทานมะรุมผงเพิ่มเติมจากอาหารมื้อหลักเพื่อบำรุงสุขภาพ เพราะเชื่อกันว่ามะรุมผงมีประโยชน์ต่อร่างกายในหลายๆ ด้านตั้งแต่ช่วยลดอาการของโรคหอบหืดไปจนถึงกระตุ้นการสร้างน้ำนม [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง เพื่อให้คุณค่าของมะรุมผงเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ให้คุณทานมะรุมผงเดี่ยวๆ โดยเทเข้าปากทันทีหรือผสมเข้ากับอาหารหรือเครื่องดื่มที่คุณชื่นชอบ สิ่งเดียวที่ควรหลีกเลี่ยงคือการนำมะรุมผงไปปรุงสุก เนื่องจากความร้อนอาจทำให้สารอาหารต่างๆ ในมะรุมผงสูญเสียไปได้
ขั้นตอน
-
สอบถามแพทย์ว่ามะรุมผงปลอดภัยกับคุณหรือไม่. อย่าลืมปรึกษาแพทย์ทุกครั้งก่อนเริ่มต้นทานอาหารเสริมทุกชนิด แม้ว่าในปัจจุบันยังไม่มีการยืนยันที่แน่ชัดว่ามะรุมผงสามารถเกิดปฏิกิริยากับยาตัวอื่นๆ ได้ อย่างไรก็ตาม แพทย์ของคุณจะเป็นผู้พิจารณาว่าการทานมะรุมผงมีความปลอดภัยกับร่างกายของคุณหรือไม่ [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการทานมะรุมผงได้แก่ อาการปวดท้องหรืออาการท้องเสีย
- หญิงตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงการทานมะรุมผงเพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการแท้งบุตรได้
- ห้ามทานมะรุมผงที่สกัดจากรากของต้นมะรุมโดยเด็ดขาด เพราะแม้ว่าใบและเมล็ดของต้นมะรุมจะสามารถทานได้อย่างปลอดภัย แต่ส่วนของรากอาจมีฤทธิ์เป็นพิษต่อร่างกายได้
-
ตักผงมะรุม 1 ช้อนชา (6 กรัม). การทานมะรุมผงมากเกินไปอาจมีฤทธิ์เป็นยาระบายได้ ดังนั้นพยายามทานในปริมาณเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงดังกล่าว ซึ่งมะรุมผงเพียง 1 ช้อนชาก็เพียงพอต่อการสร้างประโยชน์ให้กับร่างกายได้ [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- แม้ว่าบางคนอาจทานมะรุมผงมากถึง 1 ช้อนโต๊ะ (18 กรัม) ต่อวัน แต่โดยทั่วไปแล้วปริมาณที่แนะนำให้ทานในช่วงเริ่มต้นคือวันละไม่เกิน 1-2 ช้อนชา (6-12 กรัม)
-
เทมะรุมผงไว้ใต้ลิ้น. การทานมะรุมผงโดยเทไว้ใต้ลิ้นจะช่วยให้มะรุมผงสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้เร็วยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม อย่าเผลอสูดมะรุมผงเข้าไปในระหว่างนี้ รวมทั้งเตรียมใจไว้เนิ่นๆ กับรสขมเฝื่อนและเผ็ดฉุนคล้ายกับหัวไช้เท้าของมะรุมผง [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ดื่มน้ำเปล่าตามเข้าไป. ดื่มน้ำเปล่าอึกใหญ่ๆ และกลืนมะรุมผงลงไปพร้อมกัน จากนั้นจิบน้ำเปล่าตามเข้าไปอีกครั้งเพื่อชะล้างคราบมะรุมผงที่ยังคงเหลือในปาก [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
-
ชงมะรุมผง 1 ช้อนชา (6 กรัม) ในน้ำเปล่าเป็นน้ำชา. เตรียมน้ำเย็นหรือน้ำอุ่น 1 แก้ว (235 มล.) และเติมมะรุมผงลงไปคนผสมให้ละลายเข้ากันจนเกือบหมด จากนั้นเตรียมกระชอนหรือผ้าขาวบางวางไว้เหนือแก้วอีกใบหนึ่งก่อนเทน้ำชาลงไปเพื่อกรองเอาเฉพาะน้ำและแยกเอากากมะรุมผงทิ้งไป [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- หากไม่ชอบรสชาติของมะรุมผงเท่าไรนัก คุณสามารถเติมน้ำผึ้งและเลมอนเพิ่มลงไปได้
- คุณอาจเลือกดื่มชามะรุมผงแบบร้อนได้เช่นกัน แต่จำไว้ว่าความร้อนอาจทำลายสารต้านอนุมูลอิสระบางส่วนในมะรุมผงได้
-
ผสมมะรุมผง 1 ช้อนชา (6 กรัม) เข้ากับสมูธตี้รสโปรด. สมูธตี้สามารถช่วยเจือจางรสชาติที่เผ็ดฉุนคล้ายกับหัวไช้เท้าของมะรุมผงให้เบาลงได้อย่างดีเยี่ยม โดยคุณสามารถเพิ่มมะรุมผงลงไปผสมเข้ากับสมูธตี้รสชาติใดก็ได้ตามต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมูธตี้ผักเคลหรือสมูธตี้ผักปวยเล้งที่มีรสชาติเข้ากันอย่างดีกับรสขมเฝื่อนของมะรุมผง [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- โรยมะรุมผงเพิ่มลงไปในส่วนผสมก่อนปั่นให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว หรือจะคนผสมเข้ากับสมูธตี้ที่ปั่นเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ได้เช่นกัน
-
โรยมะรุมผงลงไปบนสลัดหรืออาหารสดที่ไม่ต้องผ่านการปรุงสุกอื่นๆ. คุณสามารถเพิ่มมะรุมผงลงไปในอาหารประเภทต่างๆ มากมาย อย่างไรก็ตาม หลีกเลี่ยงการนำมะรุมผงไปปรุงสุกพร้อมกับอาหาร เนื่องจากความร้อนสามารถทำลายสารอาหารที่มีประโยชน์ในมะรุมผงได้ พยายามทานมะรุมผงร่วมกับอาหารสดที่ไม่ต้องผ่านการปรุงสุกต่างๆ อย่างสลัด ฮัมมัส และโยเกิร์ต [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- คุณยังสามารถเติมมะรุมผงลงไปในอาหารที่ปรุงสุกเรียบร้อยและทิ้งไว้จนเย็นดีแล้ว เช่น โอ๊ตมีล ก็ได้เช่นกัน
-
ทานมะรุมผงที่บรรจุในแคปซูล. อีกหนึ่งตัวเลือกที่สะดวกยิ่งขึ้นคือการเลือกทานมะรุมผงในรูปแบบแคปซูลหรือเม็ด โดยคุณสามารถหาซื้อมะรุมผงในรูปแบบแคปซูลหรือเม็ดได้จากร้านขายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพหรือร้านขายอาหารเสริมทั่วไปและควรทานตามปริมาณที่ระบุไว้บนฉลากข้างขวด [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
-
ทานมะรุมผงเพื่อเพิ่มโปรตีนประเภทสมบูรณ์สำหรับอาหารมังสวิรัติ. มะรุมผงเป็นแหล่งโปรตีนประเภทสมบูรณ์ชั้นดีที่ประกอบด้วยกรดอะมิโนจำเป็นทั้ง 9 ชนิด จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ทานมังสวิรัติซึ่งอาจมองหาแหล่งโปรตีนจากอาหารที่ไม่ใช่เนื้อสัตว์ [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ทานมะรุมผงเพื่อบรรเทาอาการของโรคเบาหวาน. แม้ว่าสรรพคุณในการบรรเทาอาการของโรคเบาหวานของมะรุมผงยังคงอยู่ในช่วงศึกษาวิจัย แต่มีการคาดการณ์ว่ามะรุมผงสามารถช่วยในเรื่องของการรักษาระดับน้ำตาลในเลือดของร่างกายให้เป็นปกติได้ นอกจากนี้การทานมะรุมผงเป็นประจำทุกวันยังช่วยลดโอกาสการเกิดผลข้างเคียงต่างๆ อย่างโรคหัวใจได้อีกด้วย [11] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Science Direct ไปที่แหล่งข้อมูล
-
ทานมะรุมผงเพื่อลดการอักเสบจากโรคหอบหืดหรือโรคข้ออักเสบ. เนื่องจากมีแนวโน้มว่ามะรุมผงมีสรรพคุณในการต้านการอักเสบ การทานมะรุมผงจึงอาจช่วยบรรเทาอาการของโรคหอบหืดหรือโรคข้ออักเสบได้บ้างเล็กน้อย คุณสามารถลองทานมะรุมผงควบคู่กับการรักษาด้วยการแพทย์แผนปัจจุบันอื่นๆ เพื่อประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น [12] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ PubMed Central ไปที่แหล่งข้อมูล
- จำไว้ว่าคุณสมบัติของมะรุมผงในด้านการต้านอักเสบยังคงอยู่ในช่วงศึกษาวิจัย ดังนั้นจึงยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่ามะรุมผงสามารถใช้ในการรักษาอาการของโรคหอบหืดหรือโรคข้ออักเสบได้อย่างมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด
-
ปรึกษาแพทย์ก่อนทานมะรุมผงในช่วงให้นมลูก. หลายคนนิยมทานมะรุมผงเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำนมให้มากขึ้นในช่วงให้นมลูก อย่างไรก็ตาม อย่าลืมปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มต้นทานเพื่อให้แน่ใจว่ามะรุมผงมีความปลอดภัยต่อคุณและทารก [13] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- แพทย์ของคุณอาจแนะนำให้คุณรอสัก 1-2 สัปดาห์หลังคลอดลูกก่อนเริ่มทางมะรุมผง
- ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่ามะรุมผงสามารถช่วยเพิ่มปริมาณน้ำนมได้หรือไม่
-
หยุดทานมะรุมผงทันทีหากพบความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร. อาการปวดท้อง ท้องเสีย หรือความผิดปกติอื่นๆ ของระบบทางเดินอาหารเป็นผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยจากการทานมะรุมผง หากสังเกตเห็นอาการเหล่านี้ ลองหยุดทานมะรุมผงประมาณ 2-3 วันจนกระทั่งอาการหายเป็นปกติ และหากคุณต้องการกลับมาทานมะรุมผงอีกครั้ง ให้คุณลดปริมาณลงเหลือเพียงครึ่งหนึ่งของที่ทานตามปกติ อย่างไรก็ตาม คุณควรหยุดทานมะรุมผงอย่างสิ้นเชิงหากอาการยังคงไม่ดีขึ้น [14] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
เคล็ดลับ
- มะรุมเป็นสมุนไพรที่สามารถนำมาใช้ได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันจากที่สกัดจากเมล็ด ใบ รวมทั้งเปลือกของลำต้นด้วย
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://www.webmd.com/vitamins/ai/ingredientmono-1242/moringa
- ↑ https://www.webmd.com/vitamins-supplements/ingredientmono-1242-moringa.aspx?activeingredientid=1242
- ↑ https://www.shape.com/healthy-eating/diet-tips/health-benefits-moringa
- ↑ https://treesforlife.org/our-work/our-initiatives/moringa/faq/using-moringa/how-do-i-use-moringa-leaf-powder
- ↑ https://treesforlife.org/our-work/our-initiatives/moringa/faq/using-moringa/how-do-i-use-moringa-leaf-powder
- ↑ https://www.youtube.com/watch?v=2DhnTgiEPm0&feature=youtu.be&t=8
- ↑ https://www.shape.com/healthy-eating/diet-tips/green-superfood-powders-make-meals-healthier?utm_campaign=shp_816167442_editorialcontent&utm_medium=social&utm_source=pinterest
- ↑ https://treesforlife.org/our-work/our-initiatives/moringa/faq/using-moringa/how-do-i-use-moringa-leaf-powder
- ↑ http://www.naturallivingideas.com/moringa-benefits/
- ↑ https://www.pastemagazine.com/articles/2017/01/whats-up-with-that-food-moringa.html
- ↑ https://www.sciencedirect.com/science/article/pii/S2213453016300362
- ↑ https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC5187941/
- ↑ https://www.webmd.com/vitamins-supplements/ingredientmono-1242-moringa.aspx?activeingredientid=1242
- ↑ http://www.naturallivingideas.com/moringa-benefits/
โฆษณา