บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Asa Don Brown, PhD, DNCCM, FAAETS
. ดร. เอซา ดอน บราวน์เป็นนักจิตวิทยาคลินิกที่มีประสบการณ์มากกว่า 25 ปี เขาเชี่ยวชาญในการทำงานร่วมกับครอบครัว เด็กๆ และคู่สมรสเพื่อรักษาความผิดปกติทางจิตต่างๆ บาดแผลทางจิตใจ และการถูกทารุณกรรม นอกจากนี้เขายังเชี่ยวชาญการเจรจาต่อรองและการรวบรวมข้อมูล ดร. บราวน์ยังเป็นนักพูด ผู้เขียนหนังสือต้นแบบที่ได้รับการตีพิมพ์สามเล่ม และเป็นนักเขียนให้แก่นิตยสาร วารสาร และสิ่งพิมพ์ซึ่งเป็นที่นิยมจำนวนมาก เขาได้รับปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาเทววิทยาและศาสนา โดยมีวิชาโทคือการตลาดและได้รับปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการให้คำปรึกษา โดยเน้นด้านคู่สมรสและครอบครัว จากมหาวิทยาลัยเกรตฟอลส์ ดร. บราวน์ยังได้รับปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาจิตวิทยา โดยเน้นด้านจิตวิทยาคลินิก จากมหาวิทยาลัยคาเปลลา เขาเป็นสมาชิกของสมาคมผู้เชี่ยวชาญด้านโรคเครียดจากเหตุการณ์ร้ายแรงอเมริกาและเป็นผู้ได้รับประกาศนียบัตรจากศูนย์เพื่อการจัดการวิกฤติแห่งชาติ ดร. บราวน์ยังคงทำงานเป็นคณะกรรมการด้านจิตวิทยาและวิทยาศาสตร์หลายคณะอย่างต่อเนื่อง
มีการอ้างอิง 11 ข้อ
ที่อ้างอิงอยู่ในบทความ ซึ่งสามารถพบได้ทางด้านล่างของบทความ
บทความนี้ถูกเข้าชม 2,340 ครั้ง
การถูกครอบครัวปฏิเสธอาจเป็นหนึ่งในเรื่องยากที่สุดที่เราจะต้องผ่านไปให้ได้ เราเข้าใจว่าคุณอาจจะรู้สึกถึงคลื่นความเจ็บปวดและความเสียใจ เพราะบ้านควรเป็นพื้นที่ปลอดภัย ไม่ใช่สถานที่ทุกข์ใจ ความรู้สึกเหล่านี้ไม่ได้หายไปภายในชั่วข้ามคืน และหากคุณกำลังต่อสู้กับการถูกครอบครัวปฏิเสธ ขอให้รู้ไว้ว่าการมองหาวิธีรับมือคือก้าวแรกที่สำคัญในการเยียวยาตัวเอง! คุณสามารถใช้วิธีการต่างๆ จัดการกับความรู้สึกของตัวเองและยอมรับสิ่งที่คุณเปลี่ยนแปลงไม่ได้ สุดท้ายเมื่อคุณผ่านมันมาได้ คุณจะเข้มแข็งและลุกขึ้นได้เร็วกว่าแต่ก่อน
ขั้นตอน
-
รับรู้ว่าตัวเองรู้สึกอย่างไรและอย่ากลั้นน้ำตา. การเผชิญหน้ากับความเศร้าตรงๆ นั้นอาจเป็นเรื่องยาก แต่การเลี่ยงอารมณ์ต่างๆ ก็ไม่ได้ทำให้ความรู้สึกหายไปเช่นกัน เพราะฉะนั้นให้คุณฟังเพลงเศร้า ร้องไห้ และยอมรับตรงๆ ว่าตัวเองรู้สึกอย่างไร ไม่ว่าเราจะถูกใครปฏิเสธเราก็เจ็บปวดทั้งนั้น แต่ถ้าคนที่ปฏิเสธเราคือครอบครัว ความรู้สึกเหล่านั้นจะยิ่งทวีคูณ ขอให้ยอมรับกับตัวเองว่ากำลังเศร้า เพราะมันอาจจะช่วยให้คุณเข้าสู่หนทางแห่งความสุขในวันข้างหน้าได้ง่ายขึ้น [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- แต่ก็อย่าจมกับความรู้สึกนานเกินไปเช่นกัน หลังจากฟังเพลงเศร้าไปแล้ว 2-3 เพลง ให้เลิกแล้วออกไปเดินเล่น! คุณไม่จำเป็นต้องรับรู้ทุกความรู้สึกพร้อมกันถึงจะผ่านมันไปได้ [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- คุณต้องย้ำกับตัวเองว่าคุณไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมของคนในครอบครัวได้ แต่คุณสามารถควบคุมได้ว่าคุณจะโต้ตอบอย่างไร แม้ว่ามันจะยาก แต่คุณต้องให้ความสำคัญกับการเติบโตทางอารมณ์ของคุณเป็นอันดับแรก เพื่อให้คุณรู้สึกเข้มแข็งระหว่างก้าวผ่านความเสียใจ [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- จำไว้ว่าการถูกครอบครัวปฏิเสธไม่ได้เป็นเครื่องชี้วัดคุณค่าของคุณ
โฆษณา
-
การเขียนความรู้สึกลงไปอาจช่วยให้คุณเข้าใจอารมณ์ตัวเองชัดเจนขึ้น. คุณอาจจะรู้สึกถึงอารมณ์ต่างๆ มากมายหลังจากถูกครอบครัวปฏิเสธ ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์เศร้า โกรธ และสะเทือนใจสุดขีด ลองซื้อสมุดบันทึกหรือสมุดไดอารีมาเขียนความรู้สึกลงไป หาเวลาแค่ไม่กี่นาทีในแต่ละวันเพื่อไตร่ตรอง หวังว่าคุณจะเข้าใจอารมณ์ต่างๆ มากขึ้นระหว่างเขียน [4] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ University of Rochester Medical Center ไปที่แหล่งข้อมูล
- ใช้สมุดบันทึกสร้างความภาคภูมิใจในตัวเองขึ้นมาใหม่หลังจากถูกปฏิเสธ การถูกครอบครัวปฏิเสธเป็นเรื่องเจ็บปวด ให้คุณเขียนทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณชอบเกี่ยวกับตัวเองเพื่อป้องกันไม่ให้การถูกปฏิเสธมีผลต่อการมองเห็นคุณค่าในตัวเอง ครั้งหน้าที่คุณรู้สึกแย่ ให้กลับมาอ่านสิ่งที่เขียน! [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- นอกจากนี้การจดบันทึกยังทำให้คุณเห็นว่าอะไรเป็นตัวกระตุ้นด้วย อ่านบันทึกเก่าๆ และสังเกตวันที่คุณรู้สึกเศร้ามากเป็นพิเศษว่า วันที่คุณเศร้ามากๆ นั้นมีอะไรที่เหมือนกันบ้าง และดูว่าคุณสามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้บ้างเพื่อเลี่ยงสิ่งกระตุ้นเหล่านี้ [6] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ University of Rochester Medical Center ไปที่แหล่งข้อมูล
-
เตือนตัวเองว่าคุณจะผ่านมันไปได้! คำพูดสร้างแรงบันดาลใจเป็นวิธีง่ายๆ แต่มีความหมายที่ช่วยดึงสติคุณออกจากมาจุดที่ยากลำบากในชีวิต ใช้คำพูดอย่าง "ฉันสมควรได้รับความรักและความเคารพ" "ฉันเป็นคนที่มีพรสวรรค์และงดงาม" และ "ฉันเป็นคนเข้มแข็ง ฉันจะผ่านทุกอย่างไปได้" แม้ว่าในช่วงแรกคุณจะยังไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ แต่การพูดประโยคเหล่านี้ในหัวหรือพูดออกมาดังๆ จะกระตุ้นให้คุณมองเห็นตัวเองและสถานการณ์ในมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้น [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- คำพูดยืนยันเชิงบวกอื่นๆ ที่คุณอาจนำมาใช้ได้แก่ "ฉันสามารถทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้" "ฉันสมควรได้รับการดูแลเป็นอย่างดี" และ "ฉันรักตัวเอง"
โฆษณา
-
อย่าปล่อยให้ความคิดอย่าง "ฉันเป็นคนที่แย่มากๆ" วนไปวนมาในหัว. เมื่อถูกครอบครัวปฏิเสธ คุณคงอดที่จะโทษตัวเองไม่ได้ แต่พยายามอย่าปล่อยให้ความคิดเหล่านี้เข้ามาในหัว เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณรู้เท่าทันตัวเองว่าคุณกำลังว่าตัวเองอีกแล้ว ให้ปรับความคิดเสียใหม่โดยการมองจากมุมที่เป็นบวกมากขึ้น ถ้าคุณคิดว่า "ฉันคงไม่มีวันมีความสุขได้อีกแล้วละ" ให้เปลี่ยนไปคิดเชิงบวกแทน เช่น "ฉันรู้ว่ามันยาก แต่ฉันรู้ว่าฉันจะมีความสุขได้อีกครั้งในวันข้างหน้า!" [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- การคิดลบทำให้คุณหาความสุขไม่เจอ เพราะมันจะทำให้คุณมองไม่เห็นสิ่งดีๆ ในชีวิต [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
การออกมาจากชีวิตครอบครัวในตอนนี้อาจดีกับตัวคุณมากกว่า. ข้อนี้สำคัญมากหากคุณเคยถูกทำร้ายจิตใจหรือร่างกาย พฤติกรรมเหล่านี้อาจส่งผลในระยะยาว และการให้อภัยหรือกลับไปสานสัมพันธ์กันใหม่อาจไม่ปลอดภัยกับตัวคุณเอง ถ้าคุณเติบโตมาในครอบครัวที่เป็นพิษหรือใช้ความรุนแรง ให้เตือนตัวเองว่าการไม่มีพวกเขาอยู่ในชีวิตคุณนั้นปลอดภัยกว่า มองการถูกปฏิเสธว่าเป็นโอกาสที่คุณจะได้อยู่ท่ามกลางคนที่ทำให้คุณรู้สึกปลอดภัย ได้รับความเคารพและความรัก [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- หากคุณถูกทำร้ายไม่ว่าจะในรูปแบบใดก็ตาม เว็บไซต์อย่าง https://www.alljitblog.com/ และ https://www.istrong.co/ มีแหล่งข้อมูลเพิ่มเติมที่พร้อมให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนคุณ
โฆษณา
-
ดูแลตัวเองเพื่อเยียวยาแผลหลังจากถูกปฏิเสธ. รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพและมีคุณค่าทางโภชนาการ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ (วันละ 7-10 ชั่วโมง) เพื่อให้คุณได้พักผ่อนเต็มที่และพร้อมที่จะสู้ในแต่ละวัน [11] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล ออกกำลังกายเพื่อคลายเครียดและทำให้ร่างกายแข็งแรงและทนทาน ทำงานอดิเรกใหม่ๆ เพื่อเติมเต็มชีวิต เช่น เล่นดนตรีหรือเข้าร่วมกลุ่มหนังสือ ทั้งหมดนี้จะทำให้คุณรู้สึกว่าชีวิตกำลังก้าวไปในเส้นทางที่สดใส แม้ว่าคุณจะต้องรับมือกับความเจ็บปวดจากความบาดหมางในครอบครัวก็ตาม [12] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- อย่าหันหน้าไปพึ่งพายาเสพติดหรือแอลกอฮอล์เพื่อให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น เพราะมันไม่ได้ผลในระยะยาว แถมยังทำให้คุณรู้สึกแย่กว่าเดิมด้วย
-
คนเราแม้ไม่ใช่สายเลือดเดียวกันก็เป็นครอบครัวได้. สร้างมิตรภาพที่แน่นแฟ้นและมองหาความสัมพันธ์ที่เข้าอกเข้าใจจากคนรัก เลือกเพื่อนและคนรักที่ทำให้คุณรู้สึกปลอดภัย ได้รับความห่วงใย และความรัก! คุณควรอยู่ท่ามกลางคนที่ทำให้คุณรู้สึกดีกับตัวเอง [13] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ชวนเพื่อนมาดูหนังด้วยกันตอนกลางคืนหากปกติแล้วคุณเคยนอนดูหนังกับครอบครัว ชวนเพื่อนๆ มารับประทานมื้อเย็นพร้อมหน้าพร้อมตากัน คุณจะอยู่กับกลุ่มเพื่อนสนิทในช่วงวันหยุดเทศกาลก็ยังได้!
- ลองเป็นอาสาสมัครชุมชน เข้าร่วมกลุ่มหนังสือใกล้บ้าน หรือสานสัมพันธ์กับคนอื่นในโลกออนไลน์เพื่อหาเพื่อนใหม่
โฆษณา
-
โทรหาเพื่อนหรือแวะไปคุยกับเพื่อนที่บ้าน. เล่าให้เพื่อนฟังว่าคุณผ่านอะไรมา และถามเพื่อนว่าคุณสามารถขอคำแนะนำหรือคุยกับเพื่อนเพื่อทำความเข้าใจสิ่งที่ตัวเองรู้สึกได้หรือเปล่า เพื่อนที่ดีจะพูดปลอบใจคุณและเตือนให้คุณรู้ว่า คุณยังมีคนที่รักและห่วงใยคุณ [14] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- หากคุยกับเพื่อนแล้วคุณยังไม่สามารถทำความเข้าใจความรู้สึกของตัวเองได้ หรือไม่มีใครที่คุณไว้ใจจะคุยด้วย ให้คุยกับผู้เชี่ยวชาญแทน นักจิตบำบัดหรือนักให้คำปรึกษาสามารถให้แนวทางในการรับมือได้
-
เป็นไปได้ว่าครอบครัวอาจจะยังติดต่อมาหาคุณเป็นครั้งคราว. ถ้าพวกเขาทำไม่ดีกับคุณ บอกเขาว่าพวกเขาจะมาทำแบบนี้กับคุณไม่ได้ ครั้งต่อไปที่พวกเขาทำให้คุณรู้สึกแย่ บอกพวกเขาว่าคุณรู้สึกอย่างไร พูดประมาณว่า "หนูเสียใจนะคะเวลาที่แม่พูดกับหนูแบบนี้" หรือ "ถ้าแม่ทำแบบนี้กับหนู หนูคงคุยกับแม่ต่อไม่รู้เรื่องแล้วละคะ" ถ้าพวกเขาไม่ยอมเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม อาจถึงเวลาที่คุณจะต้องจำกัดการติดต่อกับพวกเขาเพื่อรักษาความเป็นอยู่ที่ดีด้านจิตใจของตัวเอง [15] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- หากพวกเขาทำให้คุณรู้สึกไม่ปลอดภัยหรือไม่เคารพขอบเขตของคุณ คุณจะเลิกติดต่อพวกเขาไปเลยก็ได้ แม้ว่าการขาดการติดต่อไปเลยจะทำให้คุณรู้สึกเจ็บปวด แต่มันอาจจะเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดเพื่อความปลอดภัยและสุขภาพจิตของคุณเอง [16] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- คุณไม่จำเป็นต้องตัดสินใจเรื่องนี้ในทันที หากคุณไม่แน่ใจว่าตัวเองรู้สึกอย่างไร ให้หาเวลาทบทวนขอบเขตของตัวเองที่จะทำให้คุณรู้สึกปลอดภัยที่สุดและมีความสุขที่สุดก่อน [17] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
-
ผู้เชี่ยวชาญสามารถวางแผนเยียวยารายบุคคลให้คุณได้. นอกจากนี้พวกเขายังสามารถให้มุมมองจากคนนอก ซึ่งเป็นสิ่งที่เพื่อนของครอบครัวที่คุณไว้ใจอาจไม่สามารถให้ได้ คุณสามารถค้นหานักจิตบำบัดหรือนักให้คำปรึกษาใกล้บ้านได้ที่เว็บไซต์ เช่น https://hdmall.co.th/health-checkup/ตรวจสุขภาพจิต ค้นหาผู้เชี่ยวชาญด้านความบาดหมางในครอบครัว เขาจะสามารถให้เครื่องมือที่จะช่วยให้คุณทำความเข้าใจความรู้สึกของตัวเองได้ [18] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- บางครั้งมันอาจใช้เวลาสักหน่อยกว่าจะเจอนักจิตบำบัดหรือนักให้คำปรึกษาที่เหมาะกับคุณ ถ้าคนแรกยังไม่ใช่ อย่าเพิ่งถอดใจ พยายามหาผู้เชี่ยวชาญใกล้บ้านคนอื่นๆ ที่อาจจะช่วยคุณได้มากกว่า!
บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://kidshealth.org/en/teens/rejection.html
- ↑ https://kidshealth.org/en/teens/rejection.html
- ↑ https://www.psychologytoday.com/us/blog/the-savvy-psychologist/202001/broken-family-ties-and-how-cope-estrangement
- ↑ https://www.urmc.rochester.edu/encyclopedia/content.aspx?ContentID=4552&ContentTypeID=1
- ↑ https://psychcentral.com/lib/why-feeling-left-out-can-feel-so-painful-and-7-healthy-ways-to-cope
- ↑ https://www.urmc.rochester.edu/encyclopedia/content.aspx?ContentID=4552&ContentTypeID=1
- ↑ https://psychcentral.com/lib/why-feeling-left-out-can-feel-so-painful-and-7-healthy-ways-to-cope
- ↑ https://kidshealth.org/en/teens/rejection.html
- ↑ https://kidshealth.org/en/teens/rejection.html
- ↑ https://www.psychologytoday.com/us/blog/the-savvy-psychologist/202001/broken-family-ties-and-how-cope-estrangement
- ↑ https://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/adult-health/in-depth/sleep-the-foundation-for-healthy-habits/art-20270117
- ↑ https://psychcentral.com/blog/psychology-self/2020/06/self-care-mental-health
- ↑ https://www.psychologytoday.com/us/blog/being-unlonely/201906/finding-connection-through-chosen-family
- ↑ https://kidshealth.org/en/teens/rejection.html
- ↑ https://www.psychologytoday.com/us/blog/tech-support/201911/4-things-weve-learned-about-adult-child-parent-estrangement
- ↑ https://www.psychologytoday.com/us/blog/tech-support/201911/4-things-weve-learned-about-adult-child-parent-estrangement
- ↑ https://www.psychologytoday.com/us/blog/tech-support/201911/4-things-weve-learned-about-adult-child-parent-estrangement
- ↑ https://www.psychologytoday.com/us/blog/real-families/201910/coping-family-estrangement