ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
บางครั้ง โดยเฉพาะเวลาที่ความดันอากาศเปลี่ยนกะทันหัน (อย่างเวลานั่งเครื่องบินหรือดำน้ำ) หูคุณจะมีเสียงป๊อป หรือเกิดอาการหูอื้อเมื่อท่อยูสเตเชียนปิด ท่อยูสเตเชียน (Eustachian tubes) เป็นท่อที่เชื่อมต่อระหว่างหูชั้นกลางและโพรงหลังจมูกตรงลำคอ มีหน้าที่ช่วยระบายของเหลวและปรับความดันในหู [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ถ้าคุณรู้สึกเหมือนหูอื้อๆ อ่านขั้นตอนแรกด้านล่างนี้เพื่อหาวิธีบรรเทาอาการได้เลย
ขั้นตอน
-
อ้าปากเล็กน้อยและหาว. อ้าให้กว้างระดับที่จะเปล่งเสียง “อ้า” และพยายามทำให้หาว ทำปากเป็นรูปตัวโอ (O) ค่อยๆ อ้าปากช้าๆ จนหาวจริงๆ
- ถ้ารู้สึกว่าหูหายอื้อแล้วก็หยุดทำ ถ้าครั้งแรกไม่ได้ผลก็ทำซ้ำ คุณจะรู้สึกได้เมื่อความดันในหูปรับเป็นปกติแล้ว ไม่ใช่แค่รู้สึกหรือได้ยินเสียงป๊อป แต่คุณจะได้ยินเสียงชัดขึ้นกว่าตอนที่หูอื้อด้วย
- เงยหน้าขึ้นและยื่นขากรรไกรไปด้านหน้า การเงยหน้าจะทำให้ท่อยูสเตเชียนอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม และการยื่นขากรรไกรจะช่วยให้หาว และทำให้ท่อยูสเตเชียนเปิดและปรับความดัน
-
เคี้ยวหมากฝรั่ง. ถ้าการหาวไม่ได้ผล เคี้ยวหมากฝรั่งอาจช่วยได้ หรือแค่ทำท่าเคี้ยวเฉยๆ ก็ได้ การเคี้ยวแบบนี้จะช่วยปรับความดันภายในหูกับภายนอกให้สมดุลกัน การเคี้ยวหมากฝรั่งนี่ก็ใช้เป็นวิธีป้องกันได้เช่นเดียวกับการหาว ลองเริ่มเคี้ยวหมากฝรั่งก่อนจะไปเจอกับการเปลี่ยนระดับความสูงเพื่อดักทางล่วงหน้าไว้เลย
- เคี้ยวหมากฝรั่งชิ้นใหญ่ เราหมายถึงแบบแผ่นใหญ่ๆ ไม่ใช่ชิ้นเล็กๆ บางๆ การขยับปากเคี้ยวจะต้องกว้างมากพอที่จะเปิดลำคอและปรับความดันในหูได้ ถ้าไม่มีอะไรให้เคี้ยวก็ให้ทำท่าทางเลียนแบบเอา ทำให้เหมือนเวลากินอาหารคำใหญ่เกินจะเคี้ยวไปเลย
-
อมลูกอมหรือยาอมชนิดเม็ดแข็งๆ. เช่นเดียวกับการเคี้ยวหมากฝรั่ง การอมลูกอม มินต์ หรือยาอมเม็ดแข็งๆ ก็สามารถช่วยปรับความดันให้สมดุลได้ แต่อย่าเคี้ยวนะ ไม่ได้ให้กินเข้าไปเลย แต่ให้อมไว้สักพักเพื่อปรับความดันเฉยๆ
-
ดื่มน้ำแก้วใหญ่ๆ. การดื่มน้ำเป็นเหมือนการรวมเอาวิธีที่ใช้ได้ผลหลายวิธีรวมกัน เทน้ำแก้วใหญ่ๆ ดื่มและเงยหน้าขึ้นเพื่อจัดตำแหน่งท่อยูสเตเชียน และกลืนน้ำลงไปอึกใหญ่ๆ เพื่อให้ช่วยปรับความดันในหู ถ้าทำถูกวิธีคุณจะรู้สึกได้ว่าหูหายอื้อและปวดน้อยลง
-
ถ้าน้ำเข้าหูคุณ ให้ใช้นิ้วช่วยปรับความดันอย่างระมัดระวัง. ถ้าคุณเพิ่งว่ายน้ำเสร็จและรู้สึกปวดหูเหมือนมีน้ำอยู่ข้างใน คุณสามารถใช้แรงโน้มถ่วงช่วยโดยการเอียงตัว ให้หูข้างที่อื้อขนานกับพื้น แล้วเอาปลายนิ้ววางตรงรูหู ไม่ต้องแหย่เข้าไป แต่ให้ขยับเข้าออกเหมือนเวลาใช้ที่ปั๊มชักโครก มันจะค่อยๆ ช่วยปรับความดันในหูคุณและทำให้หูหายอื้อ หรือไม่ก็ปรับความดันให้มากพอที่จะขับเอาน้ำออกจากหูได้
- ห้ามแหย่นิ้วเข้าไปในรูหู แค่ให้คุณพยายามปรับความดัน ไม่ได้ให้วักน้ำออกมา การเอานิ้วแหย่หูเข้าไปลึกเกินอาจเป็นอันตรายต่อการได้ยินเสียง
-
ทำวอลซัลวา (Valsalva maneuver). ชื่ออาจจะดูซับซ้อน แต่มันง่ายมาก การทำวอลซัลวาคือการเพิ่มแรงดันต้านไปยังท่อยูสเตเชียนโดยค่อยๆ หายใจออก
- บีบจมูก ปิดปาก และพยายามค่อยๆ เบ่งลมหายใจออกทางจมูกเบาๆ มันจะช่วยเปิดท่อยูสเตเชียน ปรับความดันให้สมดุล และทำให้หูหายอื้อได้
- ทำอย่างอ่อนโยนที่สุด การทำวอลซัลวาไม่ต้องออกแรงมาก ถ้าทำแรงหรือถี่เกินไปอาจทำให้ท่อยูสเตเชียนระคายเคืองและอักเสบ ซึ่งจะยิ่งทำให้หายยากเข้าไปใหญ่
- สำหรับบางคน การก้มตัวแล้วทำวอลซัลวาไปด้วยจะช่วยได้ โน้มตัวลงเหมือนเวลายืดแขนไปแตะปลายเท้า และทำวอลซัลวา แล้วปล่อยมือที่บีบจมูก หายใจเข้าลึกๆ การทำสลับกันไปอย่างนี้ขณะก้มตัวจะช่วยปรับความดันและทำให้หูหายอื้อ
โฆษณา
-
อย่ากลัวที่จะไปหาหมอ. ถ้าหูคุณอื้อบ่อยๆ มันอาจจะมาจากปัญหาเกี่ยวกับโพรงจมูกที่ทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง ควรไปพบแพทย์ เขาอาจแนะนำให้ใช้ยาบรรเทาปวด ยาพ่นจมูก หรือยาปฏิชีวนะ [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ในระหว่างนี้ หาวิธี บรรเทาอาการปวดหู หรือ รักษาอาการติดเชื้อในหู ไปก่อน
-
ให้แพทย์สั่งจ่ายเครื่องเป่าแก้หูอื้อ (ear popper) ให้. ถ้าคุณยังทำให้หายหูอื้อไม่ได้ ปรึกษาแพทย์เรื่องการใช้เครื่องเป่าแก้หูอื้อ มันจะช่วยปรับสมดุลความดันภายในและภายนอกแก้วหู และทำให้หูหายอื้อ แม้จะแพงและต้องให้แพทย์สั่งจ่าย มันก็เหมือนเครื่องมือที่แพทย์สั่งให้เท่านั้นเอง
-
ล้างจมูกเป็นประจำ. ถ้าคุณคัดจมูกเพราะเป็นหวัดหรือภูมิแพ้ หูคุณอาจจะอื้อและเสียภาวะสมดุล ทำให้รู้สึกเหมือนมีอะไรอัดอยู่และต้องเอาออก ทางแก้ก็คือ กำจัดอาการคัดโดยการล้างจมูกสม่ำเสมอด้วยน้ำเกลืออุ่นๆ ใช้ขวดล้างจมูกตามคำแนะนำเพื่อให้ปลอดภัยและได้ผล แต่จำไว้ว่ามันต้องสะอาดและใช้อย่างถูกวิธีเพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อหรือภาวะแทรกซ้อนตามมาได้ [3] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ US Food and Drug Administration ไปที่แหล่งข้อมูล
- กาเนติสามารถหาซื้อได้ทั่วไป วิธีใช้คือเติมน้ำอุ่นผสมเกลือเล็กน้อยลงไป ก้มศีรษะเหนืออ่างล้างหน้าและเทน้ำเกลือใส่รูจมูกข้างหนึ่ง ให้มันไหลผ่านโพรงจมูกและออกมาทางรูจมูกอีกข้าง มันจะรู้สึกแปลกๆ ตอนทำครั้งแรก แต่ช่วยบรรเทาอาการคัดจมูกได้ดีทีเดียว
- ถ้าคัดจมูกอย่างหนักจนน้ำไม่สามารถไหลผ่านได้ ความดันที่เปลี่ยนก็อาจจะพอทำให้หายคัดจมูกและหายหูอื้อได้ ลองดูก็ไม่เสียหาย
- อย่าลืมล้างกาเนติหลังจากการใช้ทุกครั้ง และใช้แต่น้ำกลั่นหรือน้ำที่ผ่านการฆ่าเชื้อเท่านั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคที่เป็นอันตรายเข้าสู่ร่างกายคุณได้
-
ใช้ยาแก้แพ้หรือยาแก้คัดจมูกก่อนที่อาการจะแย่ลง. คุณควรป้องกันตัวเองจากอาการคัดจมูกและหูอื้อ ถ้าคุณมีปัญหาเกี่ยวกับโพรงจมูกบ่อยๆ อย่ารอให้ปวดหูหรือหูอื้อมากๆ ก่อนแล้วจึงหาวิธีแก้ หายากินเพื่อดักทางโรคไซนัสไว้ก่อนเลย
-
อาบน้ำอุ่นและแช่หูในน้ำ. ถ้าคุณไม่สบายและอยากบรรเทาอาการหูอื้อ ให้แช่น้ำอุ่นและเอนตัวลงไปให้หูอยู่ใต้น้ำ เงยหน้าขึ้นและกลืนน้ำลายหลายๆ ครั้ง ดูว่าหูหายอื้อหรือเปล่า ความดันที่เปลี่ยนจะช่วยปรับสมดุลความดันในหู และไอจากน้ำร้อนยังช่วยบรรเทาอาการคัดคั่งได้ด้วย หลังอาบน้ำเสร็จ ถ้ายังรู้สึกว่าหูอื้อๆ อยู่ ลองเอียงตัวให้หูขนานกับพื้นและใช้นิ้วเพิ่มแรงดันแบบวิธีด้านบนที่กล่าวไปแล้ว
-
สั่งน้ำจมูกเบาๆ. การสั่งน้ำมูกก็เหมือนการทำวอลซัลวาอีกรูปแบบหนึ่งเลย แต่มีประโยชน์มากขึ้นคือช่วยแก้คัดจมูกได้ด้วย ใช้กระดาษทิชชู่อุดปิดรูจมูกไว้หนึ่งข้าง และสั่งน้ำมูกจากอีกข้างเบาๆ ทำสลับกัน มันจะช่วยปรับความดันในหูให้สมดุล
- การทำอย่างนุ่มนวลที่สุดนั้นสำคัญมาก ถ้าสั่งน้ำมูกอย่างรุนแรงมันจะยิ่งแย่ ยิ่งทำให้เกิดแรงดันอัดในช่องหู และทำให้คุณยิ่งหูอื้อเข้าไปอีก ดังนั้นให้ค่อยๆ ทำ
โฆษณา
-
บ้วนน้ำเกลือร้อน. พยายามให้น้ำเกลืออุ่นที่สุดโดยไม่ลวกปาก [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ใส่เกลือประมาณ 1 ช้อนชาลงในน้ำร้อน 1 แก้วกาแฟ คนให้ละลาย บ้วนซ้ำหลายๆ รอบ พักครั้งละ 1 นาที บ้วนไปจนน้ำหมดแก้วและพักอย่างน้อย 30 นาที ก่อนจะเริ่มทำใหม่
-
ลองชะล้างหูด้วยน้ำส้มสายชูผสมแอลกอฮอล์ล้างแผล. ถ้าคุณสงสัยว่าการที่ความดันในหูชั้นกลางของคุณไม่เท่ากันนั้นมาจากการที่มีขี้หูสะสมเยอะเกิน คุณอาจต้องล้างหูก่อน แล้วค่อยลองใช้วิธีอื่นๆ ที่แนะนำในบทความ วิธีทำมีดังต่อไปนี้
- ผสมน้ำส้มสายชูกับแอลกอฮอล์ 70% ในอัตราส่วนเท่าๆ กัน สารละลายนี้จะช่วยสลายขี้หูทำให้ไม่อุดตัน
- เอียงศีรษะไปด้านข้างและใช้หลอดดูดยาหยดสารละลายนั้นลงไปในหู 2-3 หยด
- เอียงศีรษะค้างไว้สักครู่ และเอียงกลับมาที่เดิม คุณอาจจะรู้สึกเหมือนสารละลายน้ำส้มสายชูนั้นไหลออกมาจากหู ทำซ้ำอีกข้าง
- ล้างหูด้วยน้ำสะอาดเล็กน้อย แม้ว่าสารละลายนั้นจะระเหยไปเองได้เพราะมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ แต่ถ้าจะให้ดีก็ควรใช้น้ำล้างตามด้วย ใช้หลอดดูดยาหยดน้ำใส่หูสัก 2-3 หยดขณะที่เอียงศีรษะอยู่ และเอียงกลับมาให้น้ำไหลออก
-
กินอะไรที่เผ็ดจัดๆ อย่างพริกฮาลาพิโน่. มันอาจไม่ใช่รสชาติหรือรสสัมผัสที่น่าพอใจนัก แต่รับรองว่าทำให้น้ำมูกไหลได้แน่ (เชื่อกันว่าพริกช่วยให้การสร้างน้ำมูก) พอน้ำมูกไหลแล้วให้สั่งน้ำมูกและขยับขากรรไกรไปมา คุณจะรู้สึกได้ว่าหูหายอื้อ [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ลองทำครานิโอซาคราลบำบัด (craniosacral therapy). ครานิโอซาคราลบำบัดถูกค้นพบในช่วงศตวรรษที่ 20 มันเป็นการปรับสมดุลของของเหลวในสมองและไขสันหลังให้เป็นไปตามธรรมชาติ ถึงจะถูกนำไปใช้กับโรคและการบำบัดที่หลากหลาย แต่มันก็อาจจะช่วยเรื่องปรับความดันในท่อยูสเตเชียนที่ทำให้เกิดอาการหูอื้อได้ด้วย
- มีคำกล่าวอ้างเกี่ยวกับการทำครานิโอซาคราลบำบัดจำนวนมากที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ถ้าคุณมองหาทางแก้อื่นๆ อยู่ก็ลองดูได้ มันไม่เป็นอันตราย
-
ลองใช้วิธีฝังเข็ม. การฝังเข็มสามารถช่วยรักษาได้ทุกอย่าง ตั้งแต่เส้นเอ็นฝ่าเท้าอักเสบไปจนถึงปวดขากรรไกร และแม้แต่อาการหูอักเสบด้วย ลองไปพบแพทย์ฝังเข็มและปรึกษาเกี่ยวกับอาการของคุณดู ถ้าคุณลองทำทุกวิธีที่แนะนำแล้วยังไม่หายหูอื้อโฆษณา
เคล็ดลับ
- อาหารเย็นจัดช่วยได้ เช่น ไอศกรีมหรือโยเกิร์ตแช่แข็ง
- การหาวหรือแม้แต่การกรี๊ดก็ช่วยได้
- ดึงปลายหูหมุนเป็นวงกลมเบาๆ
- การกลืนน้ำลายช่วยได้ ถ้าเคี้ยวหมากฝรั่งจะทำให้ง่ายขึ้น เพราะมันจะไปกระตุ้นการหลั่งน้ำลาย
- อีกวิธีคือการหาว และการทำวอลซัลวา (คือการเอามือบีบจมูก ปิดปาก แล้วเบ่งลมหายใจออกทางจมูกเบาๆ)
- เบ่งลมหายใจออกเบาๆ ขณะเอามือบีบจมูกไว้ ระวังอย่าทำแรงเกินเพราะอาจเกิดอันตรายได้
- ถ้าคุณมีอาการหูอื้อบ่อยหรือชอบได้ยินเสียงไม่ชัด (เป็นเฉพาะคุณเท่านั้น) มันอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงโรคไซนัสอักเสบ
- กักน้ำลายไว้ในปากเยอะๆ แล้วกลืน ฟังดูน่าขยะแขยงนะ แต่มันก็อาจช่วยได้
- บีบจมูกและหายใจออกใต้น้ำ
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.webmd.com/a-to-z-guides/blocked-eustachian-tubes-topic-overview
- ↑ http://www.webmd.com/a-to-z-guides/blocked-eustachian-tubes-topic-overview
- ↑ http://www.fda.gov/ForConsumers/ConsumerUpdates/ucm316375.htm
- ↑ http://www.drweil.com/drw/u/QAA400614/Why-Wont-My-Ears-Pop.html
- ↑ http://www.myhomeremedies.com/topic.cgi?topicid=276
- ↑ http://www.quackwatch.com/01QuackeryRelatedTopics/cranial.html
โฆษณา