PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

ไม่ว่าจะเป็นเพราะคุณสังสรรค์มาทั้งคืน ต้องตื่นมาดูแลลูกเล็ก หรืออดนอนขณะที่พยายามทำโปรเจคให้เสร็จ แต่เมื่อตอนนี้คุณอยู่ที่ทำงาน และรู้สึกง่วง กำลังจะหลับเสียให้ได้ คุณสัญญากับตัวเองว่าจะนอนให้เยอะขึ้น ถ้าหากคุณสามารถที่จะผ่านวันนี้ไปได้โดยไม่ถูกหัวหน้าจับได้ว่าตาของคุณปิดอยู่ การผลอยหลับไปที่ทำงาน เป็นอะไรที่เสี่ยงต่อการถูกไล่ออกได้ และอาจเป็นสัญญาณที่บอกถึงปัญหานิสัยการนอนของคุณ

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

คำแนะนำง่ายๆ ในการตื่นตัว

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ปลุกตัวเองด้วยการฟังเพลงสักหน่อย ดนตรีจะช่วยกระตุ้นอารมณ์ในตัวคน และช่วยทำให้สมองเกิดการใช้งานได้
    • ฟังเพลงที่ทำให้คุณรู้สึกระปรี้กระเปร่า ถ้าเป็นไปได้ ให้เต้นหรือร้องตามไปด้วย แม้ว่าจะเป็นแค่การโยกหัวหรือฮัมเพลง เพลงที่กวนใจคุณอาจช่วยให้คุณตื่นได้ดีกว่าเพลงที่คุณคุ้นเคย แต่อย่าลืมใส่หูฟังด้วย จะได้ไม่รบกวนเพื่อนร่วมงานคนอื่น
    • ฟังเพลงเบาๆ แทนที่จะเปิดเสียงดังๆ มันเป็นความเข้าใจที่ผิดว่าการเปิดเพลงดังๆ จะช่วยให้คุณตื่น จริงๆแล้ว การเปิดเสียงเพลงให้เบามากๆ นั้นมีประสิทธิภาพมากกว่าเสียอีก มันจะบังคับให้คุณต้องตั้งใจฟังเพื่อที่จะได้ยินเสียงเครื่องดนตรี เนื้อร้อง และเสียงกลอง ถ้าหากคุณมีปัญหาในการเข้าใจเนื้อเพลง แสดงว่าระดับเสียงนี้กำลังเหมาะแล้ว เพราะมันหมายถึง ใจคุณกำลังทำงานอยู่
  2. การหาอะไรที่น่าสนใจสามารถใช้เป็นตัวดึงความสนใจของคุณได้ ถ้าหากคุณสนใจในอะไรบางอย่าง สมองของคุณจะไปมุ่งเน้นอยู่ที่นั่น คุณสามารถที่จะหาความสนใจในงานของคุณ หรือสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัวก็ได้
  3. ถ้าเป็นไปได้ ให้เป็นแสงของพระอาทิตย์ช่วงกลางวัน เวลาข้างในร่างกายคุณ (เวลารอบวัน) จะเป็นตัวกำหนดด้วยแสงพระอาทิตย์ที่คุณได้รับ นั่นหมายถึงคุณสามารถที่จะหลอกร่างกายของคุณได้ว่า คุณควรจะต้องตื่นอยู่นะแม้ว่ามันจะรู้สึกเหนื่อยก็ตาม
    • ออกไปข้างนอกบ้าง แม้ว่าจะแค่แป๊บเดียวก็ตาม ถ้าหากคุณสามารถที่จะออกไปข้างนอกได้ (แม้ว่าจะเป็นวันที่มีเมฆมาก) หรือมองออกไปนอกหน้าต่างประมาณหนึ่งนาทีเต็ม คุณจะรู้สึกตื่นตัวมากขึ้น
    • ใช้แสงหลอดไฟ แม้ว่าคุณจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีแต่แสงหลอดไฟ แต่ถ้ายิ่งสว่างก็ยิ่งดี ไม่ว่าคุณจะทำงานที่ไหน ให้ลองหาว่ามีอะไรที่คุณหามาแทนแสงไฟที่ติดอยู่ได้บ้าง หรืออาจหาโคมไฟมาเพิ่มเพื่อทำให้โต๊ะทำงานสว่างมากขึ้น
  4. ถ้าหากคุณเคี้ยวน้ำแข็งอยู่ มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่คุณจะเผลอหลับ อุณหภูมิที่เย็นๆ จะช่วยให้สมองของคุณยังคงทำงานอยู่ แม้แต่เวลาที่คุณกำลังขับรถตอนดึกๆ เหนื่อยล้า และสิ่งที่คุณโหยหาอย่างมากคือการนอน
    • การเคี้ยวอะไรก็ตาม แม้ว่ามันจะเป็นแค่ปากการหรือดินสอ ร่างกายของคุณจะคิดว่าคุณกำลังจะกิน และมันจะเตรียมพร้อมที่จะรับอาหารโดยการปล่อยอินซูลินออกมา ซึ่งจะทำให้คุณตื่นตัว
  5. ถ้ามันเย็นแค่นิดเดียว ให้ถอดเสื้อหนาว หรือแจ๊คเก็ตออก เพื่อให้คุณรู้สึกเย็น เปิดหน้าต่างหรือพัดลมเล็กๆ และเป่ามาที่หน้าของคุณ
    • สาเหตุที่ร่างกายของคุณตอบสนองเช่นนั้นกับความเย็นนั้นเป็นเพราะ มันกำลังเตรียมตัวเองให้รักษาความอบอุ่นในตัว ร่างกายของคุณจำเป็นต้องรักษาอุณหภูมิในร่างกายเพื่อให้อวัยวะทั้งหมดทำงานได้ปกติ ดังนั้นถ้ามันพยายามป้องกันตัวเองจากน้ำแข็งหรือความหนาวเย็นมากๆ มันจะช่วยทำให้ตัวเองตื่นไปด้วยเช่นกัน
  6. ใช้กลิ่นที่ฉุนๆ ไม่ว่าจะกลิ่นดีหรือแย่ จะช่วยให้คุณตื่นตัวมากขึ้นได้อย่างรวดเร็ว นักบำบัดด้วยกลิ่นแนะนำว่า น้ำมันหอมระเหยที่สกัดจากพืชต่อไปนี้จะช่วยกระตุ้นระบบประสาท และลดความเหนื่อยล้า ให้เปิดขวด และสูดหายใจลึกๆ ดมกลิ่นต่อไปนี้เมื่อคุณรู้สึกง่วง:
    • โรสแมรี่ (Rosemary)
    • ยูคาลิปตัส บูลกัม (Eucalyptus blue gum)
    • เป็ปเปอร์มิ้นท์ (Peppermint)
    • กาแฟ; แบบเม็ด หรือแบบชง ก็สามารถใช้ได้ทั้งคู่: ผลการวิจัยกล่าวว่า แค่การดมกลิ่นกาแฟธรรมดาก็สามารถปลุกคนให้ตื่นได้ [1]
    • แน่นอนว่า คงไม่ใช่ทุกคนที่จะมีน้ำมันหอมระเหยสกัดเก็บไว้อยู่ในตู้เอกสาร ให้ใช้โลชั่นทามือ หรือเทียนไขที่จุดอยู่ที่มีกลิ่นเหมือนกัน จะช่วยให้คุณได้เช่นกัน สมุนไพรเช่น โรสแมรี่ และเป็ปเปอร์มิ้น สามารถหาได้ทั่วไปตามร้านขายของสด หรือขายของแห้ง; สำหรับตัวกระตุ้นเล็กน้อย ให้หยดออกมาหยดหนึ่งและป้ายระหว่างปลายนิ้วของคุณและสูดดม
  7. การกินก็สามารถช่วยให้คุณตื่นได้เช่นกัน ตราบเท่าที่คุณไม่กินจนมันอิ่มเกินไป อย่างที่เราทราบกันดีว่า การกินมากเกินไปจะทำให้เราง่วงนอน ดังนั้นอย่ากินพิซซ่าทั้งถาด หรือสเต็กเนื้อขนาด 12 ออนซ์ ในมื้อกลางวัน
    • การเคี้ยวขนมทั้งวันแทนที่จะกินอาหารมื้อใหญ่ๆ หลักการคือเพื่อไม่ให้ได้รับปริมาณน้ำตาลมากเกินไป (ที่มาตามด้วยความล้มเหลวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้) เช่นเดียวกับการบริโภคคาเฟอีน ให้แบ่งการบริโภคกาแฟ โซดา หรือเครื่องดื่มบำรุงกำลังลงเป็นทีละน้อยๆ
    • หลีกเลี่ยงอาหารเช้าที่มีพวกคาร์โบไฮเดรตสูง (มัฟฟิน ขนมปังปิ้ง ขนมอบพาสทรี่ ขนมปังเบเกิ้ล) คุณจะทำให้ร่างกายของคุณเริ่มอยากล้มตัวลงนอนสักประมาณ 11 โมง เพราะมันได้รับน้ำตาลมากในช่วงก่อนหน้า
    • เทเมล็ดทานตะวันออกมาใส่มือและค่อยๆใส่ไปในแก้มและใช้เพียงแค่ฟันและลิ้นของคุณกัดให้เปลือกแตกออกทีละหนึ่ง นี่จะช่วยให้คุณต้องใช้ความตื่นตัวพอสมควรและการขยับลิ้นจะช่วยให้คุณไม่เผลอหลับไป และเกลือจากเมล็ดทานตะวันยังทำให้กระปรี้กระเปร่า และกระตุ้นให้ตื่น ให้คายเปลือกเมล็ดทานตะวันออกมาใส่ถ้วยกระดาษ อย่างเงียบๆ โดยที่ไม่รบกวนคนรอบตัวคุณ
  8. ในอินเตอร์เน็ตมีเว็บไซต์ต่างๆ ที่น่าสนใจมากมาย ที่คุณสามารถเลือกที่จะเล่นเกมออนไลน์ได้ เลือกเกมคำศัพท์ หรือเกมปริศนา เกมรถแข่ง หรืออะไรก็ตามที่คุณชอบ ใช้เวลาสัก 15-20 นาทีเล่นเกม จะช่วยปลุกจิตใจคุณให้ตื่นขึ้น เพราะมันไม่ได้ต้องใช้ความพยายามอย่างมาก หรือน่าเบื่อ มันจะสนุกมากขึ้นถ้าคุณเลือกเกมที่คุณถนัด
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

ออกกำลังกายเพื่อให้ตื่น

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. การยืดเส้นยืดสาย หรือบิดตัวจะช่วยให้การไหลเวียนโลหิตดีขึ้น ซึ่งจะทำให้คุณตื่นตัว การหมุนคอหรือหัวไปมาสัก 20 วินาที สามารถช่วยได้เช่นกัน
  2. การนวดที่จุดต่างๆ ต่อไปนี้จะช่วยการไหลเวียนให้ดีขึ้น และผ่อนคลายความเหนื่อยล้า [2] :
    • ที่ด้านบนสุดของหัว กดเบาๆ ด้วยปลายนิ้ว หรือใช้ที่นวดหนังศีรษะ
    • ด้านหลังคอ
    • ด้านหลังมือ ระหว่างนิ้วโป้งและนิ้วชี้คือจุดที่ดีที่สุด
    • ด้านใต้เข่า
    • ติ่งหู.
  3. เพียงแค่เพราะคุณกำลังนั่งอยู่ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่สามารถใช้กล้ามเนื้อได้ ให้ออกกำลังกายที่หน้าจอคอมพิวเตอร์นั่นล่ะ หรือลุกขึ้นเดินเป็นครั้งคราว เพื่อกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนและทำให้คุณตื่น
    • ลอง การออกกำลังกายแบบง่ายๆ เช่น กระโดดตบ วิดพื้น ครั้นช์ และสควอท ไม่จำเป็นต้องทำเหมือนกับที่ทำในโรงยิม แต่ให้ออกกำลังกายเพียงเพื่อให้เลือดไหลได้ดีขึ้น และอย่าให้เพื่อนร่วมงานสังเกตพฤติกรรมแปลกๆ ของคุณ
    • พยายามยืน เดินให้มากเท่าที่ทำได้ ถ้าคุณนั่งซะเป็นส่วนใหญ่ ให้คุณลุกขึ้นทุกๆ 20-30 นาที ถ้าคุณต้องการแรงบันดาลใจ หรือสิ่งกระตุ้นให้คุณต้องยืนมากขึ้น ลองนี่ดู: คนที่นั่งน้อยกว่าสามชั่วโมงต่อวัน จะช่วยยืดอายุชีวิตออกไปได้อีกเกือบสองปี [3]
    • ถ้าคุณจำเป็นต้องนั่ง ให้หาเก้าอี้ที่นั่งไม่สบายที่สุดที่คุณจะหาได้ พยายามอย่านั่งอะไรก็ตามที่จะทำให้คุณปวด ถ้าหากคุณนั่งที่นั่น ยืดหลังให้ตรง บังคับให้ตัวเองนั่งตัวตรง อย่าให้หัวไปพิงหรือพักอยู่กับอะไร ไม่ว่าจะเป็น แขน โต๊ะ หรือกำแพง
  4. บางคนลุกขึ้นเดินสักพักเพื่อเป็นการกระตุ้นให้มีพลังงานกลับมา มันเป็นเรื่องปกติที่จะเอามาเป็นตัวเบี่ยงเบนความสนใจ โดยเฉพาะถ้าคุณต้องนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งวัน
    • งานกระดาษเอกสารใดๆที่รอคุณอยู่ที่คุณจะต้องถือไปให้เพื่อนร่วมงาน หรือผู้จัดการของคุณ (เช่น เอาไปให้เซ็นเช็ค หรือเอกสาร) ให้วางไว้ข้างๆ เมื่อใดที่คุณรู้สึกง่วงนั่นล่ะ ให้เดินถือนำมันไปให้เขาเซ็น (หรือทำอะไรกับมันก็ตาม) เมื่อคุณเดินกลับมาที่โต๊ะ คุณจะรู้สึกตื่นมากขึ้น และรู้สึกสดชื่น
    • การวิจัยพบว่า การพักสั้นๆจากการทำงานก็ช่วยให้คุณทำงานได้ดีขึ้น [4] ดังนั้น ถ้าคุณกังวลว่าจะทำงานไม่ทันกำหนด อย่าเครียดไป! ให้พักไปเดินสักพัก มันจะช่วยคุณเอง (คุณสามารถที่จะบอกหัวหน้าคุณด้วยก็ได้)
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

กลยุทธ์อื่นๆ

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้ามีเวลาให้นอนสัก 15-20 นาที จะช่วยให้คุณตื่นตัวมากขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ถ้าหากคุณดื่มกาแฟสักแก้ว (หรืออะไรก็ตามที่มีคาเฟอีน) ก่อนที่คุณจะหลับ คาเฟอีนจะใช้เวลาประมาณ 20 นาทีในการเริ่มทำงาน ดังนั้น มันจึงไม่มีผลอะไรที่จะทำให้คุณนอนไม่หลับในทันที และคุณจะตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่น
    • การนอนสัก 20 นาที ช่วยกระตุ้นสมองซีกขวา [5] ซึ่งทำงานด้านกระบวนการ และเก็บข้อมูลที่ได้รับ
  2. เข้านอนให้เป็นเวลา และกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ. สมองจะได้รับประโยชน์อย่างดีเยี่ยมจากตารางเวลานี้ ถ้าหากคุณเข้านอน และตื่นนอนเป็นเวลาทุกวัน แม้แต่ในวันหยุด สมองของคุณจะรู้ว่า เมื่อใดที่ถึงเวลานอน และมันจะดำเนินไปตามรูปแบบเดิมเรื่อยๆ การกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพจะช่วยรับรองว่าร่างกายของคุณได้รับพลังงานที่เหมาะสมพอตลอดทั้งวัน โดยไม่ต้องหาเวลางีบเพื่อเอาแรงเพิ่มเป็นพิเศษ
    • คุณจะต้องนอนมากกี่ชั่วโมงเพื่อรับรองว่าคุณได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ? ผู้ใหญ่ควรนอนพักผ่อนประมาณ 7-9 ชั่วโมงในแต่ละคืน [6] แต่ถ้าหากคุณกำลังตั้งครรภ์ หรืออายุมากกว่านั้น คุณอาจต้องการนอนมากกว่านั้น ประมาณ 10-11 ชั่วโมง
    • บางคนแนะนำว่า [7] ให้นอนโดยเปิดผ้าม่านไว้ครึ่งหนึ่ง เมื่อแสงอาทิตย์ตอนเช้าส่องมา จะส่งสัญญาณให้ร่างกายของคุณชะลอการปล่อยสารเมลาโทนิน และเริ่มหลั่งสารอะดรีนาลีนออกมาแทน ทำให้ตื่นได้ง่ายขึ้น
  3. มันอาจจะฟังดูยาก แต่อย่าปล่อยให้จิตใจของคุณลอยไปอยู่ใน “สภาวะล่องลอย” เมื่อใจของคุณเริ่มว่างเปล่า ให้คิดถึงเรื่องอะไรสักเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นหนัง หรืออะไรก็ตามที่ทำให้ใจของคุณหมกมุ่นทำงานต่อ แม้แต่การคิดถึงเรื่องที่ทำให้คุณโกรธก็ยังสามารถช่วยได้ แน่นอนว่าคุณคงจะไม่เคยเห็นคนโกรธที่ไหนที่จะเผลอหลับไปในทันที ถ้าพวกเขาไม่ได้เมา
  4. โทรหาเพื่อน หรือญาติ หรือใครก็ได้ที่ทำให้คุณหัวเราะ บทสนทนาเล็กๆ จะทำให้คุณสดชื่นขึ้น และคุณก็จะพร้อมที่จะเริ่มทำงานอีกครั้งก่อนที่คุณจะรู้ตัวเสียอีก เดินเล่นไปรอบๆ ขณะที่คุยโทรศัพท์ มันจะทำให้คุณกระปรี้กระเปร่าขึ้น คนเราจะเริ่มดูมีชีวิตชีวามากขึ้นเมื่อพวกเขาเดินและคุยไปด้วย
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ การขาดน้ำจะทำให้คุณรู้สึกง่วงหรือมึนหัวได้ ซึ่งการดื่มน้ำเย็นจะช่วยให้คุณไม่ง่วง
  • อย่าดื่มเครื่องดื่มคาเฟอีนมากเกินไป เพราะมันเพียงแต่จะทำให้คุณตื่นตัวและค้างอยู่เพียงชั่วครู่เท่านั้น หลังจากนั้น 2-3 ชั่วโมงมันก็จะหายไป และคุณจะรู้สึกเหนื่อยกว่าเดิม 10 เท่า
  • ให้คิดว่าคุณอาจไม่ได้เหนื่อยอย่างที่คุณคิด บ่อยครั้งที่คุณพบว่า ตลอดทั้งวันคุณมัวแต่นั่งฝันถึงการได้กลับไปนอนทันทีที่ถึงบ้าน แต่มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ หรือเปล่า? สำหรับใครหลายๆ คน เมื่อเราเลิกงาน และกำลังสนุกกับเวลาที่เหลือของวันนั้น เรามักจะรู้สึกตื่นตัวมากแล้วแม้จะไม่ได้นอนเลยก็ตาม ให้สังเกตสิ่งที่อยู่ในใจของคุณว่ากำลังคิดถึงอะไรอยู่
  • ปล่อยให้น้ำเย็นๆ ไหลผ่านข้อมือคุณ
  • ถ้าหากคุณรู้สึกง่วงหรือเหนื่อย งีบสักเล็กน้อยก่อนขับรถไปที่ไหนก็ตาม
  • คอยตบหน้าตัวเองเป็นระยะ มันจะช่วยปลุกให้ร่างกายของคุณตื่นขึ้น เพราะคุณไม่สามารถจะหลับได้ขณะที่เจ็บอยู่
  • คิดถึงสิ่งที่คุณอยากรู้หรือเรียนรู้เพิ่มเติม เช่น คุณอาจจะนั่งดูวิธีหัดทำอะไรสักอย่าง คิดถึงอะไรก็ได้สักอย่างที่คุณเคยคิดถึงมาตลอดแต่ยังไม่มีเวลาที่จะทำมันสักที เพราะมัวแต่ไปทำอย่างอื่นอยู่ คิดหัวข้อขึ้นมาสักอย่างหนึ่งที่คุณอยากจะทำ

เลือกหัวข้อ และศึกษาหาข้อมูลให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในตารางเวลาที่คุณจะจัดสรรให้ได้ เมื่อทำได้ ให้มุ่งจดจ่อความสนใจทั้งหมดไปที่สิ่งนั้น เมื่อคุณรู้สึกว่าคุณมีข้อมูลจำนวนมหาศาลแล้ว ให้เขียนบทความ มันจะทำให้คุณสามารถจำในสิ่งที่คุณเรียนรู้ไปได้

  • ปลุกหน้าของคุณให้ตื่น ไม่ว่าจะตบ หรือหยิกแก้ม ตบหน้าเบาๆ ไปทั่วๆ หน้า สะบัดแขนขา ให้ร่างกายคุณได้ตื่นขึ้นอีกหน่อย มันจะทำให้ใจของคุณไม่หลุดลอยไปถ้าคุณเริ่มรู้สึกเหนื่อย
โฆษณา

คำเตือน

  • ไม่ว่าคุณจะรู้สึกว่าคุณยังไหวอยู่หรือตื่นอยู่ แต่ถ้าคุณรู้สึกง่วงขณะขับรถ ให้หยุดจอดข้างทาง และงีบสัก 20 นาที
  • จำกัดปริมาณคาเฟอีนที่กินเข้าไปให้อยู่แค่ 300 มิลลิกรัม หรือน้อยกว่านั้นในหนึ่งวัน (ประมาณชา 4-8 ถ้วย) เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบข้างเคียง
  • หลายๆ อย่างที่คุณทำเพื่อให้ไม่ง่วงนั้นเป็นการรบกวนสมาธิเช่นกัน ในท้ายที่สุดแล้ว สิ่งที่คุณต้องการจริงๆ ก็คือการนอนพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อที่จะทำงานให้ได้เต็มประสิทธิภาพ
  • นอนพักผ่อนให้ครบ 8 ชั่วโมงเสมอ เวลาที่เหมาะที่สุดสำหรับการนอนคือ 10 โมง – 6 โมงเช้า
  • บางคนอาจแพ้น้ำมันหอมระเหยสกัด และกลิ่นของมัน ให้คำนึงถึงเพื่อนร่วมงานของคุณด้วย และถามให้แน่ใจว่าพวกเขาโอเคกับกลิ่นที่คุณใช้จากโต๊ะทำงานคุณ


โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 9,999 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา