PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

มีคนจำนวนไม่น้อยที่ต้องทรมานจากการปวดหลังส่วนล่าง ด้วยสาเหตุต่างๆ กัน เช่น ทำงานหนัก ออกกำลังกาย ยืนนานๆ หรือปวดเรื้อรังมาเป็นเวลานาน ซึ่งทำให้ปวดและรู้สึกกล้ามเนื้ออ่อนล้าไม่มีแรง [1] วิธีที่ดีวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้กระดูกสันหลังมีสุขภาพดี ไม่บาดเจ็บ คือ วิธีนอนหลับที่ถูกต้อง เนื่องจากมีทางท่าทาง ถ้านอนในท่านั้นนานๆ จะทำให้ปวดหลังเพิ่มขึ้น นอกจากนั้นการเลือกที่นอนและหมอนที่ดี ก็มีผลให้นอนหลับสบายได้เช่นเดียวกัน เพราะการนอนจะช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย และช่วยเคลียร์การรับความรู้สึกเจ็บปวด ทำให้ตื่นนอนแล้วรู้สึกสบาย ไม่มีอาการปวด

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

เปลี่ยนชุดเครื่องนอน

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าใช่ นั่นคือถึงเวลาต้องเปลี่ยนแล้ว เนื่องจากวัสดุที่ผลิตเป็นที่นอนจะเสื่อมสภาพ ทำให้ไม่ช่วยรองรับสรีระของร่างกายขณะนอน [2]
    • ไม่มีที่นอนแบบใดที่สามารถบอกได้ว่าดีที่สุดสำหรับผู้ที่มีอาการปวดหลัง แต่ควรทดลองนอนจริงก่อนซื้อ แล้วเลือกแบบที่รู้สึกสบายที่สุด เพราะบางคนอาจจะชอบแบบเฟิร์ม แต่บางคนอาจจะชอบแบบนิ่มมากกว่า
    • ที่นอนแบบโฟมมักจะสบายกว่าที่นอนแบบสปริง [3]
    • เลือกซื้อที่นอนจากร้านที่มีการรับประกันที่น่าพอใจและสามารถเปลี่ยนคืนได้ เนื่องจากการปรับตัวให้เข้ากับที่นอนใหม่อาจจะต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ หากใช้ไปแล้วอาการปวดหลังไม่ดีขึ้น อาจจะต้องนำไปเปลี่ยนคืนที่ร้าน
  2. หากยังไม่พร้อมซื้อที่นอนใหม่ อาจใช้การเสริมไม้อัด ระหว่างสปริงกับผืนที่นอน หรืออาจจะวางที่นอนลงบนพื้นโดยตรงเลยก็ได้
    • หรือหาที่นอนโฟม ลาเท๊กซ์ มาเสริมให้รองรับน้ำหนักได้ดีขึ้น ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่าการซื้อใหม่ทันที [4]
  3. เลือกซื้อหมอนที่เหมาะสมกับการนอนของคุณ โดยอาจซื้อหมอนข้าง หมอนรองด้านหลัง หมอนปกติ หรือหมอนขนาดใหญ่มารองระหว่างขาหากคุณชอบนอนตะแคง [5]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

รู้ท่าทางเกี่ยวกับการนอน

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. การเคลื่อนย้ายตัวบนเตียงที่ไม่เหมาะสม จะทำให้เกิดอาการปวดหลังได้ ควรใช้การพลิกตัวแบบทั้งท่อน (พลิกให้หัว ตัว สะโพกไปด้วยกัน) เมื่อจะเอนตัวลงนอน [6]
    • นั่งข้างเตียง โดยนั่งบริเวณที่ต้องการจะนอนจริง เอนตัวลงนอนพร้อมกับยกขาสองข้างขึ้นบนเตียง
    • พลิกตัวมาอยู่ในท่านอนหงาย หรือพลิกให้อยู่ในท่านอนตะแคงตามที่ต้องการโดยการงอขาข้างตรงข้ามกับฝั่งที่ต้องการจะพลิกไปพร้อมกับถีบเท้านั้นกับเตียงเพื่อช่วยยันตัวให้ตะแคงไปฝั่งตรงข้ามได้ หลีกเลี่ยงการบิดตัวเพื่อพลิกไปนอนตะแคง
  2. การนอนตะแคงแล้วงอเข่าเข้าหาอกจะช่วยให้ช่องว่างระหว่างกระดูกสันหลังเปิดออก และควรใช้นอนขนาดใหญ่วางไว้ระหว่างขาสองข้างให้สบาย [7] สอดหมอนขนาดคิงไซส์หรือหมอนข้างไว้กลางขาทั้งสองข้างเมื่อนอนตะแคง
  3. จะช่วยลดโค้งของหลังที่มากขึ้น และลดอาการปวดลงได้ [12]
    • ถ้าชอบทั้งนอนหงายและนอนตะแคง ให้ใช้หมอนรองใต้เข่าเวลานอนหงาย และหากเปลี่ยนไปนอนตะแคงก็ใช้หมอนนั้นกอดระหว่างขาสลับไปมาได้
    • หรืออาจใช้ผ้าขนหนูม้วนเล็กๆ รองใต้หลัง เพื่อช่วยลดโค้งของหลังได้
  4. หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำหากมีปัญหาปวดหลังส่วนล่างอยู่แล้ว. การนอนคว่ำจะทำให้การการบิดของกระดูกสันหลัง [13] หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ให้นอนเอาหมอนรองใต้ท้อง และไม่ต้องหนุนหมอน เพราะจะทำให้ปวดคอและหลังได้ [14]
    • ในผู้ป่วยบางรายที่มีหมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้น การนอนคว่ำอาจจะเป็นผลดี หากนอนที่บ้านควรเปลี่ยนจากหมอนปกติ เป็นหมอนที่มีรูให้เอาหน้าลงไปได้ เพื่อไม่ให้คอแหงนและบิดขณะนอน หรือใช้มือประสานรองที่หน้าผากแทนได้
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

เตรียมกล้ามเนื้อหลังก่อนจะเข้านอน

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ความร้อนจะช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ซึ่งจะบรรเทาอาการปวดหลัง ความร้อนจะได้ผลมากกว่าความเย็น สำหรับผู้ที่ปวดหลังเรื้อรัง [15]
    • อาบน้ำอุ่นประมามณ 10 นาที ก่อนเข้านอน โดยให้น้ำไหลผ่านบริเวณหลังที่ปวด
    • ใช้น้ำอุ่นใส่ขวดหรือแผ่นประคบร้อนวางบนบริเวณที่ปวด แต่ห้ามใช้ขณะนอนเพราะจะทำให้ผิวหนังไหม้ได้ ควรใช้วางแค่ประมาณ 15-20 นาทีก่อนนอน [16]
  2. หายใจเข้าลึกๆ ก่อนนอน. โดยหายใจเข้าลึกๆ ออกยาวๆ ฟังเสียงลมหายใจและค่อยๆ ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ไล่ไปแต่ละส่วนของร่างกาย [17]
    • เริ่มจากหายใจเข้าให้ลึก หลับตา และจับจังหวะการหายใจ
    • จินตนาการว่าตอนนี้กำลังอยู่ในที่ที่สบาย เช่น ชายหาด ป่า หรือในห้องส่วนตัว
    • ใช้ประสาทสัมผัสทุกอย่างเข้าด้วยกัน ทั้งการมองเห็น การได้ยิน การสัมผัส การรับรส และการได้กลิ่น แล้วจินตนาการถึงสิ่งที่สบาย
    • ใช้เวลาดังกล่าวเพียงไม่กี่นาที ก่อนที่จะนอนหลับไป
    • หรืออาจจะดาวน์โหลดบทสวดมนต์ก่อนนอนเก็บไว้ในโทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์เพื่อฟังให้สงบก่อนนอน [18]
  3. หลีกเลี่ยงอาหารมื้อหนัก เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือคาเฟอีนก่อนนอน. การรับประทานอาหารมื้อหนักก่อนนอน จะทำให้เกิดกรดไหลย้อนและนอนไม่หลับ อาจเปลี่ยนเป็นขนมเบาๆ เช่นขนมปังสักชิ้น จะช่วยให้นอนหลับได้ หากคุณหิวกลางดึก [19] [20]
    • ลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยให้เหลือไม่เกิน 1 แก้ว/วัน สำหรับผู้หญิง และ 2 แก้ว/วันสำหรับผู้ชาย [21] เพราะการดื่มก่อนนอนจะทำให้ไม่ง่วง ซึ่งรบกวนวงจรการนอน ทำให้ตื่นนอนมาแล้วไม่สดชื่น [22]
    • หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มคาเฟอีนภายใน 6 ชั่วโมงก่อนนอน เพราะจะทำให้นอนไม่หลับ [23]
  4. สามารถซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป โดยยานี้จะช่วยให้รู้สึกอุ่น ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
  5. การนอนนานเกินไปจะทำให้กล้ามเนื้อเกร็งแข็งและปวดหลังได้ ควรลุกขึ้นมาและขยับร่างกายให้สบาย หากได้รับบาดเจ็บจนต้องนอนพัก การยิ่งฟื้นตัว ลุกขึ้นมาเปลี่ยนท่าทางได้เร็วเท่าไร ยิ่งเป็นประโยชน์ เพราะการนอนนานจะทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงและฟื้นตัวช้า [24]
    • ปรึกษาแพทย์ก่อนจะกลับไปทำกิจกรรมต่างๆ ตามปกติ เพราะหากรีบร้อนเกินไป ก็จะทำให้บาดเจ็บซ้ำได้
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

หาวิธีการรักษาอื่นๆ

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. หาวิธีที่เหมาะกับตนเองไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอวิธีที่เหมาะที่สุด
  2. หากอาการปวดหลังไม่ดีขึ้น ควรหาวิธีอื่นที่ลดอาการปวดหลังระหว่างวันได้ เช่น วิธีบรรเทาอาการปวดหลัง
    • ไม่ยกของหนักเกินไป โดยใช้การยกจากท่างอเข่า แขม่วท้อง หลังตรงและเก็บคางขณะยกของขึ้น โดยของนั้นต้องอยู่ใกล้ตัวมากที่สุด และไม่ยกในท่าบิดลำตัว [25]
    • ใช้โฟมโรลเลอร์ช่วยลดอาการปวดกล้ามเนื้อ โดยการนอนเอาบริเวณที่ปวดทับโฟมนั้นแล้วกลิ้งไปมาบริเวณหลัง [26] แต่ต้องระวังไม่ให้หลังอยู่ในท่าที่แอ่นเกินไป ซึ่งจะทำให้ปวดหลังได้ และหากใช้นานเกินไปก็จะทำให้เกิดการบาดเจ็บของข้อข่อ ควรกลิ้งทับทางด้านข้างแบบเบาๆ จะลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บได้
    • จัดตำแหน่งของโต๊ะทำงาน หรือ สถานที่ อุปกรณ์ในการทำงานให้อยู่ในตำแหน่งที่ไม่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บของร่างกาย [27]
    • ขณะนั่งต้องมีที่พิงหลัง โดยเก้าอี้ที่มีที่พิงหลังที่เหมาะสม จะช่วยไม่ให้ปวดหลังเมื่อต้องนั่งเป็นเวลานาน และอย่าลืมลุกขึ้นยืดเหยียดร่างกายทุกๆ 1 ชั่วโมง [28]
  3. อาการปวดหลังที่เพิ่งเป็นทันที หากดูแลตัวเองเบื้อต้นได้ดี ควรหายภายในไม่กี่วัน หากผ่านไปกว่า 1 เดือนแล้วอาการไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์ เพราะอาจมีโรคร้ายที่ต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม [29]
    • สาเหตุที่มักทำให้ปวดหลังส่วนล่าง คือ ข้อเสื่อม หมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อม และปัญหาของเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ [30]
    • ไส้ติ่งอักเสบ ไต การติดเชื้อบริเวณอุ้งเชิงกราน ความผิดปกติของรังไข่ ก็เป็นสาเหตุให้ปวดหลังส่วนล่างได้ [31]
  4. อาการปวดหลังส่วนล่างนี้ พบได้ประมาณ 84 % ของวัยผู้ใหญ่ [32] โดยรวมถึงอาการอันตรายที่มากกว่าการปวดหลังธรรมดา ซึ่งหากมีอาการเหล่านี้จำเป็นจะต้องพบแพทย์โดยด่วน ได้แก่ : [33]
    • ปวดหลังร้าวลงขา
    • ปวดหลังเพิ่มขึ้นเมื่อก้มตัว หรืองอเข่า
    • ปวดมากขึ้นในตอนกลางคืน
    • ปวดหลังร่วมกับมีไข้
    • ปวดหลังร่วมกับมีปัญหาด้านการปัสสาวะและอุจจาระ
    • ปวดหลังร่วมกับชาหรืออ่อนแรงของขา
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ควรเฝ้าติดตามอาการปวดหลังตั้งแต่เนิ่นๆ หากคุณมีอาการปวดหลังอย่างรุนแรงติดต่อกันเกิน 2 วัน ไม่ควรเริ่มต้นด้วยการทำกายภาพบำบัดหรือการรักษาอื่นๆ โดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์
โฆษณา
  1. http://my.clevelandclinic.org/health/healthy_living/be_well/sleepinghealthy_spine_bewell1008
  2. http://www.webmd.com/baby/features/sleep-soundly-during-pregnancy
  3. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/back-pain/multimedia/sleeping-positions/sls-20076452
  4. http://www.webmd.com/back-pain/america-asks-13/12-back-pain-tips?page=3
  5. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/back-pain/multimedia/sleeping-positions/sls-20076452?s=3
  6. http://www.healthline.com/health/chronic-pain/treating-pain-with-heat-and-cold#Heatvs.Cold1
  7. http://www.webmd.com/back-pain/tc/use-heat-or-ice-to-relieve-low-back-pain-topic-overview
  8. http://www.unr.edu/counseling/virtual-relaxation-room/using-visualization-to-relax-and-sleep-better
  9. http://www.sonima.com/videos/guided-meditations/sleep-meditation/
  10. http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/adult-health/in-depth/sleep/art-20048379
  11. http://www.webmd.com/sleep-disorders/features/trouble-sleeping-some-bedtime-snacks-can-help-you-sleep
  12. http://www.niaaa.nih.gov/alcohol-health/overview-alcohol-consumption/moderate-binge-drinking
  13. http://www.webmd.com/sleep-disorders/features/nix-nightcap-better-sleep
  14. http://www.aasmnet.org/jcsm/ViewAbstract.aspx?pid=29198
  15. http://www.webmd.com/back-pain/america-asks-13/12-back-pain-tips
  16. http://www.ninds.nih.gov/disorders/backpain/detail_backpain.htm
  17. http://www.webmd.com/fitness-exercise/at-home-workouts-5-essential-items-for-a-home-gym?page=3
  18. https://www.osha.gov/SLTC/etools/computerworkstations/
  19. http://www.ninds.nih.gov/disorders/backpain/detail_backpain.htm
  20. https://nccih.nih.gov/health/pain/spinemanipulation.htm
  21. http://www.takingcharge.csh.umn.edu/conditions/back-pain
  22. http://www.takingcharge.csh.umn.edu/conditions/back-pain
  23. http://www.rochesterhealth.com/healthnotes/articles/back-pain-is-it-serious-or-will-it-go-away
  24. http://www.takingcharge.csh.umn.edu/conditions/back-pain

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 5,335 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา