ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ถ้าคุณกำลังมีปัญหาในความสัมพันธ์ของคุณทั้งสองอยู่ล่ะก็ รู้ไว้เถิดว่าพวกคุณไม่ใช่แค่คู่เดียวในโลกนี้แน่นอนที่เป็นแบบนี้ เพราะคนส่วนมากพอคบกันไปถึงจุดหนึ่งก็ย่อมมีปัญหาในความสัมพันธ์กันทุกคู่ อย่างไรก็ตามคุณทั้งสองสามารถแก้ไขและฟื้นฟูความสัมพันธ์ของคุณให้ดีขึ้นมาได้ โดยให้หันมามองและพยายามเข้าใจถึงสาเหตุที่ทำให้ความสัมพันธ์ของคุณนั้นมีปัญหาและแก้ไขมันซะ

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

ทำความเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นเสียก่อน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ปัญหาที่เกิดขึ้นอาจจะคอยกัดกินความสัมพันธ์ของคุณทั้งสองให้แย่ลงได้ มันอาจจะเกิดจากการที่คนหนึ่งทำเพื่ออีกคนหนึ่งมากกว่าหรือทั้งคู่อาจจะไม่ค่อยเข้าใจกันเท่าที่ควร ซึ่งคุณจะต้องมองหาอาการหรือสัญญาณต่างๆ ของปัญหาที่เกิดขึ้นให้เจอ โดยสามารถสังเกตได้จากอาการเหล่านี้: [1]
    • คุณเริ่มรู้สึกว่าแฟนของคุณอยากให้คุณเปลี่ยนเป็นคนที่แตกต่างออกไปจากเดิม เช่นการที่แฟนของคุณขอให้คุณทำสิ่งต่างๆ โดยที่ปกติแล้วคุณไม่เคยทำ ขอให้คุณเปลี่ยนแปลงบุคลิกภาพหรือพยายามควบคุมการกระทำของคุณ ในทางกลับกันถ้าคุณต้องการให้แฟนของคุณเปลี่ยนไปในทางที่คุณต้องการ นั่นก็ถือว่าเป็นสัญญาณของปัญหาในความสัมพันธ์อย่างหนึ่งเช่นกัน [2]
    • คุณทั้งสองคนเถียงกันเรื่องเดิมๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยหาทางออกของปัญหาไม่ได้สักที [3]
    • เริ่มรู้สึกว่าคุณกับแฟนคุณใช้เวลาอยู่ด้วยกันน้อยลง หรือไม่มากพอเท่าที่คุณต้องการ [4]
    • ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเริ่มก้าวขึ้นมามีอำนาจมากกว่าอีกฝ่ายหนึ่ง หรือเริ่มรู้สึกว่าถูกปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียม [5]
  2. คุยไปตรงๆ กับแฟนไปเลยว่าคุณคิดว่าตอนนี้ความสัมพันธ์ของคุณทั้งสองคนนั้นเริ่มมีปัญหา [6] โดยพยายามพูดให้ตรงประเด็นเท่าที่คุณจะทำได้ แต่ก็ต้องแน่ใจเสียก่อนนะว่าสิ่งที่คุณรู้สึกนั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่ความโกรธ โดยพยายามอย่าแสดงท่าทีโมโหออกมา
    • ตัวอย่างเช่น "ที่รัก ฉันว่าตอนนี้เราเริ่มไม่ค่อยเข้าใจกันมากเท่าไหร่นะ เราน่าจะหาเวลามาคุยกันเรื่องความสัมพันธ์ของเราสองคนกันหน่อยนะคะ เผื่อว่าเราจะได้ช่วยกันแก้ไขหรือปรับเปลี่ยนอะไรต่างๆ ที่พวกเราไม่ชอบกันได้"
    • มีการศึกษามากมายที่บอกว่าการพูดคุยกันเป็นประจำถึงสิ่งที่ถูกและสิ่งผิดที่ไม่ควรทำในการใช้ชีวิตคู่นั้นสามารถช่วยให้ความสัมพันธ์ของคนสองคนดียิ่งขึ้นและจะทำให้กลายเป็นความสัมพันธ์ระยะยาวได้เพราะว่าคุณทั้งสองจะไม่ทะเลาะกันบ่อยและจะไม่ทำให้เรื่องเล็กๆ กลายเป็นเรื่องใหญ่นั่นเอง [7]
  3. การที่คนสองคนจะต่อว่ากันเรื่องการกระทำของอีกฝ่ายนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ง่ายมาก เพราะฉะนั้นคุณอาจจะต้องลองปรับเปลี่ยนการพูดของคุณ เช่นแทนที่จะว่าแฟนของคุณตรงๆ อย่างเช่น "ผมไม่ชอบที่คุณเอาจานที่มีเศษอาหารไปวางไว้ในอ่างเลย" ให้ลองเปลี่ยนเป็นพูดเน้นปัญหาที่เกิดขึ้นแทน เช่น "ตอนที่ผมลืมเอาขยะจากเครื่องล้างจานออกไปทิ้ง คุณก็เอาจานที่มีเศษอาหารติดอยู่ไปใส่ไว้แล้วผมก็ล้างไม่ทันเพราะมันเยอะมากเลย เราจะแก้ปัญหานี้กันยังไงดีหรอคุณ” [8]
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

เรียนรู้ที่จะคุยกันดีๆ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าเกิดว่ามีปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เกิดขึ้นแล้วคุณไม่ยอมเคลียร์กัน มันก็จะสะสมไปเรื่อยๆ และระเบิดออกมาในที่สุด แต่ถ้าพวกคุณเคลียร์กันในขณะที่ปัญหานั้นเกิดขึ้นเลยมันก็จะไม่กลายเป็นปัญหาใหญ่ที่แก้ยาก [9]
  2. ถ้าคุณเริ่มรู้สึกโมโหในขณะที่กำลังเคลียร์ปัญหากันอยู่ ให้คุณพยายามออกมาพักใจสักครู่หนึ่งเพื่อทำให้ใจเย็นลง คุณก็ต้องรู้ดีอยู่แล้วว่าอะไรที่จะทำให้อารมณ์ของคุณเองนั้นเย็นลงได้ เช่น การออกไปเดินเล่น ฟังเพลง อาบน้ำหรือหายใจนับหนึ่งถึงสิบก่อนที่จะกลับเข้าไปคุยปัญหากันต่อ [10]
    • สังเกตสัญญาณจากอีกฝ่ายให้ดี ถ้าคุณเริ่มรู้สึกว่าคุณจะต้องเป็นฝ่ายชนะในขณะที่กำลังเคลียร์กันอยู่ แนะนำให้คุณเลิกคุยและพักสักพักหนึ่ง เพราะถ้าคุยต่อ คุณจะพูดในสิ่งที่คุณไม่ได้คิดและไม่เกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นเลยและคุณก็จะมาเสียใจที่หลัง [11]
  3. เวลาที่คุณโมโหคุณก็จะเอาแต่คิดถึงสิ่งที่คุณทำว่าผิดหรือไม่ อย่างไรก็ตามในขณะที่คุณกำลังคิดถึงเรื่องของตัวเอง ขอให้คุณคำนึงถึงอีกฝ่ายด้วยว่าเขาต้องผ่านอะไรมาบ้างและขอให้มีความเห็นอกเห็นใจให้เขาบ้าง ซึ่งวิธีนี้จะสามารถลดความโกรธที่คุณมีอยู่ได้ [12]
    • การเคารพความรู้สึกของฝ่ายตรงข้ามเป็นเรื่องสำคัญมากเพราะทุกคนมีสิทธิในการแสดงความคิดเห็นและแสดงอารมณ์กันได้ และไม่ว่าคุณจะมองว่าเขาถูกหรือผิดก็ตาม คุณก็จะต้องเข้าใจความรู้สึกของเขาและให้เกียรติความรู้สึกของเขาด้วย [13]
  4. พยายามรับฟังฝั่งตรงข้ามให้เข้าใจเพื่อที่จะทำให้คุณมีความเห็นอกเห็นใจกับเขามากขึ้น ไม่ใช่แค่ปล่อยให้สิ่งที่เขาพูดไหลผ่านหูไปเฉยๆ ลองพยายามทำความเข้าใจในคำพูดของเขา และคิดตามว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นจริงๆ แล้วมันหมายความว่าอย่างไร [14]
    • วิธีหนึ่งที่จะแสดงให้เห็นว่าคุณเข้าใจในสิ่งที่อีกฝ่ายหนึ่งพูดคือการสรุปสิ่งที่อีกฝ่ายหนึ่งพูดออกมา เช่น "จากที่ฟังนะ สิ่งที่คุณไม่พอใจก็คือการที่คุณต้องทำงานบ้านมากเกินไปกว่าที่ตกลงกันเอาไว้ใช่ไหม"
    • อีกวิธีหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าคุณเข้าใจสิ่งที่ฝ่ายหนึ่งพูดคือ การถามคำถามที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เขาพูดออกมา
  5. คุยกันอย่างสันติว่ามุมมองของแต่ละคนเป็นอย่างไร. คุณมีสิทธิที่จะพูดหรือแสดงความคิดในสิ่งที่คุณคิดออกมาได้แต่ที่สำคัญที่สุดคือคุณจะต้องพูดโดยไม่ใช้อารมณ์ ซึ่งการที่คุณพูดในสิ่งที่คุณคิดออกมาชัดๆ เลยนั้นเป็นเรื่องที่ดีและเป็นสิ่งที่สำคัญเพราะอีกฝ่ายหนึ่งคงไม่มีความสามารถในการอ่านจิตใจคนได้ว่าคุณคิดหรือรู้สึกอะไรอยู่กันแน่ [15]
    • พยายามพูดแต่สิ่งที่คุณคิดว่าเป็นปัญหาแทนที่จะเป็นการต่อว่าซึ่งกันและกัน หรืออีกนัยหนึ่งให้เริ่มด้วยคำว่า “ฉัน” แทนที่จะเริ่มด้วยคำว่า “คุณ” เช่น “ฉันไม่ค่อยสบายใจเลยกับการที่บ้านของเราไม่ค่อยสะอาด เราลองมาช่วยกันวางแผนทำความสะอาดบ้านกันไหมเผื่อว่ามันจะสะอาดมากขึ้น” แทนที่จะพูดว่า “คุณนี้ไม่เคยทำความสะอาดบ้านเลยนะ!” [16]
  6. สิ่งที่สำคัญเวลาคบกันคือการเรียนรู้ที่จะยอมกันบ้าง คุณจะมาหวังว่าจะเป็นผู้ชนะในทุกๆ ครั้งเวลาทะเลาะกันไม่ได้ เพราะความสัมพันธ์เป็นเรื่องของการรู้จักให้และรับซึ่งการประนีประนอมซึ่งกันและกันนั้นถือว่าเป็นพื้นฐานที่จะทำให้คนทั้งสองคนนั้นได้เรียนรู้ที่จะให้ซึ่งกันและกันมากขึ้น [17]
    • คุยกันว่าชอบหรือไม่ชอบอะไร [18] เมื่อคุณสองคนรู้แล้วว่าแต่ละฝ่ายต้องการอะไรคุณก็ต้องให้ความสำคัญกับจุดนี้เป็นพิเศษเช่นกัน โดยพื้นฐานแล้วคุณทั้งคู่ก็ต้องรู้ว่าอะไรที่สำคัญมากและสำคัญน้อยตามลำดับลงไปและก็ต้องเรียนรู้ที่จะทิ้งความต้องการบางอย่างที่ไม่สำคัญออกไปบ้าง
    • ถ้าคุณเกลียดการล้างห้องน้ำแต่แฟนคุณขอให้คุณช่วยทำความสะอาดบ้านมากขึ้น คุณอาจจะต้องแบ่งงานบ้านและจัดสรรว่าอันไหนคือสิ่งที่คุณทนทำได้และอันไหนที่แฟนคุณทนทำได้และจากนั้นก็แจกแจงงานให้เหมาะสม
  7. เวลาที่ทะเลาะกันคนเรามักจะขุดอดีตขึ้นมาพูดเนื่องจากต่างฝ่ายต่างรู้จักกันดีและจะนำอดีตขึ้นมาเพื่อตอกย้ำปมของอีกฝ่ายหนึ่งให้เจ็บใจ ซึ่งวิธีนี้จะทำให้อีกฝ่ายหนึ่งยิ่งโมโหมากขึ้นและจะยิ่งทำให้ความสัมพันธ์มันแย่ลงไปอีก [19]
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

ทำความรู้จักกันและกันใหม่อีกครั้ง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การละเลยไม่เห็นอกเห็นใจกันนานๆ ไปจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ในความสัมพันธ์ของคนสองคนเพราะต่างคนต่างชินชาและไม่ค่อยพยายามทำอะไรเพื่อกันและกันเท่าที่ควรเหมือนเมื่อก่อน และเมื่อคุณเข้าใจแล้วว่าเรื่องนี้มันเป็นปัญหายังไง คุณก็จะต้องเปลี่ยนแปลงตนเองเพื่อป้องกันปัญหานี้ให้ได้ [20]
  2. การที่คุณใจร้ายและหยาบคายต่อกันและกันบ่อยๆ จะทำให้ความสัมพันธ์ของคุณทั้งสองแย่ลงไปอีก แต่ถ้าหากคุณพยายามที่จะเป็นคนดีและสุภาพซึ่งกันและกัน มันจะช่วยให้คุณทั้งสองสามารถสร้างความสัมพันธ์ครั้งใหม่ขึ้นมาได้และอาจจะเป็นความสัมพันธ์ที่เหมือนเดิมหรือดีกว่าเดิมด้วยซ้ำ [21]
  3. เวลาที่คุณคบกันใหม่ๆ คุณก็ต้องมีการพูดคุยเพื่อที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับความชอบของอีกฝ่ายหนึ่งก่อน โดยคุณก็จะต้องพูดคุยว่าเขากลัวหรืสนใจในอะไร ชอบและไม่ชอบอะไร และเมื่อความสัมพันธ์ดำเนินไปในจุดหนึ่งแล้ว คุณก็อาจจะเลิกทำแบบนี้ได้ อย่างไรก็ดีการสร้างความสัมพันธ์ขึ้นมาใหม่อีกครั้งนั้น คุณจำเป็นจะต้องหาเวลาคุยกันสองต่อสองในทุกๆ วัน เพื่อให้มีเวลาในการทำความเข้าใจกันอย่างลึกซึ้งมากกว่าที่จะมานั่งทะเลาะกัน [22]
  4. อีกวิธีหนึ่งในการสร้างความสำพันธ์ให้ดีขึ้นอีกครั้งหนึ่งคือวางแผนออกไปเดทกัน เพราะการวางแผนคือการมองไปข้างหน้า ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้พวกคุณมีโอกาสช่วยกันวางแผนในอนาคตร่วมกันมากขึ้น [23]
  5. การถูกเนื้อต้องตัวกันเป็นสิ่งสำคัญในการใช้ชีวิตคู่ ซึ่งก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นเรื่องเซ็กส์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะการจูบ การจับมือกัน การนัวเนียกัน ก็ถือว่าเป็นการสัมผัสที่จะช่วยส่งเสริมให้คุณสามารถสร้างความสัมพันธ์ขึ้นใหม่ให้ดีอีกครั้งได้ [24]
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

วางแผนว่าจะเดินหน้าต่อไปกันอย่างไร

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เมื่อคุณทั้งคู่รู้ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นคืออะไร คุณทั้งสองก็ต้องช่วยกันหาทางออกร่วมกัน ซึ่งคุณจะต้องหาทางออกให้กับปัญหาที่คุณทั้งสองคนนั้นสามารถที่จะยอมรับและอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขได้ พูดง่ายๆ ก็คือหาจุดกึ่งกลางของทางออกให้เจอ [25]
    • เริ่มจากจุดที่ทั้งสองคนเห็นด้วยร่วมกัน คุณทั้งคู่อาจจะใช้เวลานานกว่าจะหาทางออกของปัญหาได้หรือไม่แน่ก็อาจจะสรุปจบและหาทางออกได้ตั้งแต่ทางออกช่วงแรกๆ เลยก็ได้ ตัวอย่างเช่น พวกคุณอาจจะเห็นเหมือนกันก็ได้ว่าคุณทั้งสองคนห่างเกินกันมากขึ้นและหลังจากนั้นอาจจะหาทางออกให้ปัญหานี้อีกโดยการใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น [26]
  2. หลังจากที่ทั้งคู่หาทางออกร่วมกันได้แล้วแล้ว ก็ถึงเวลาที่คุณทั้งสองคนจะต้องปฏิบัติตามทางออกนั้นๆ เช่น ถ้าคุณสองคนตกลงกันว่าจะใช้เวลาร่วมกันให้มากขึ้น คุณก็ต้องหาเวลาออกเดทกันอย่างน้อยอาทิตย์ละหนึ่งครั้ง เป็นต้น [27]
  3. เนื่องจากทุกคนมี่ความต้องการและอารมณ์ที่แตกต่างกันออกไป จึงทำให้เวลาเจอสถานการณ์ต่างๆ พวกเขาจะตอบสนองต่อสถานการณ์นั้นๆ แตกต่างกันออกไป ตัวอย่างเช่น แฟนของคุณอาจจะต้องการใช้เวลาร่วมกับคุณมากขึ้นหลังจากที่ทะเลาะกันเพราะฉะนั้นคุณก็ต้องเข้าใจและหันกลับไปอยู่กับเขาเสีย [28]
  4. เวลาทะเลาะกันคุณต้องระวังอย่าตะคอกใส่เขา แทนที่จะตะคอกใส่กันคุณควรเปลี่ยนมาเป็นสื่อสารกันดีๆ แทน ว่าทำไมคุณถึงไม่พอใจเขา อีกนัยหนึ่งก็คือคุณกับแฟนของคุณจะต้องสื่อสารให้รู้เรื่องตลอดเวลา อย่าหยุดคุยกันเพราะอีกฝ่ายหนึ่งไม่มีทางรู้ได้เลยว่าคุณคิดหรือรู้สึกอะไรอยู่ [29]
    • ตัวอย่างเช่น แฟนสาวของคุณต้องการที่จะออกไปกินข้าวนอกบ้านแต่คุณอยากจะตะคอกใส่เธอเพราะสถานะทางการเงินของคุณนั้นไม่ค่อยดี แทนที่จะตะคอกเธอใส่ ให้คุณเปลี่ยนมาพูดว่า “ตอนนี้ใช้เงินเยอะๆ ไม่ค่อยจะดีนะที่รัก เพราะผมค่อนข้างเครียดที่หาเงินมาจ่ายค่าโน่นนี่ในบ้านไม่ค่อยทัน เราไปปิกนิคข้างนอกแทนได้ไหมจ๊ะ?”
  5. เวลาคุณมีความสัมพันธ์กับใครสักคนหนึ่งคุณก็จะทุ่มเทกับมันอย่างจริงจังซึ่งบางครั้งคุณก็ต้องหาเวลาหันมาทุ่มเทและทำในสิ่งที่ตนชอบด้วย และเมื่อคุณสนใจตัวเองและอยู่ด้วยตัวเองได้อย่างเข็มแข็งแล้วคุณก็จะยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของคุณทั้งสองนั้นยิ่งแข็งแรงมากยิ่งขึ้นไปอีกด้วย เพราะฉะนั้นการใช้เวลาอยู่กับตัวเองบ้างถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก [30]
  6. ถึงแม้ว่าแฟนของคุณจะไม่เอาด้วยแต่การปรึกษาแบบนี้สามารถช่วยรักษาและฟื้นฟูความสัมพันธ์ของคุณได้ เพราะมันจะช่วยให้คุณเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงตนเองเวลาพูดคุยกับผู้อื่น และมันจะดียิ่งขึ้นไปอีกถ้าแฟนของคุณเข้าร่วมด้วย [31]

คำเตือน

  • ถ้าความสัมพันธ์ของคุณเป็นแบบมีการใช้กำลังกัน คุณก็ควรที่จะเลิก แล้วออกมาจากจุดนั้นเสีย และถ้าแฟนของคุณทำร้ายร่างกายและจิตใจของคุณอยู่บ่อยๆ คุณก็ไม่ควรที่จะเปลี่ยนแปลงหรือฟื้นฟูความสัมพันธ์อะไรไปมากกว่านี้แล้ว

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

เริ่มความสัมพันธ์แบบ Friends with Benefits
ทำให้แฟนเก่ากลับมารักคุณอีกครั้ง
รู้ว่าเมื่อไหร่ที่อีกฝ่ายไม่อยากคุยกับคุณแล้ว
รู้ว่าแฟนสาวของคุณแอบไปนอนกับคนอื่นหรือเปล่า
ทำให้ใครบางคนรู้สึกผิด
ทำให้แฟนเก่าคิดถึงคุณ
พิชิตหัวใจแฟนเก่ากลับมา หลังจากการเลิกรา
หาเสี่ยเลี้ยง
ปลอบโยนแฟนสาวของคุณเมื่อเธอรู้สึกแย่
ดูว่าเพื่อนอิจฉาคุณหรือไม่
เรียกความเชื่อใจจากเขาหรือเธอกลับมา
ดูว่าผู้ชายกำลังหลอกใช้คุณเพื่อเซ็กส์หรือไม่
จบความสัมพันธ์
ทำให้คู่รักแยกทาง
  1. http://psychcentral.com/blog/archives/2009/04/14/9-steps-to-better-communication-today/?all=1
  2. https://www.psychologytoday.com/articles/200604/how-fight-and-how-not
  3. https://www.psychologytoday.com/blog/the-mindful-self-express/201304/four-steps-relationship-repair-the-h-e-l-technique
  4. http://www.cmhc.utexas.edu/vav/vav_healthyrelationships.html
  5. http://psychcentral.com/blog/archives/2009/04/14/9-steps-to-better-communication-today/
  6. http://strongermarriage.org/files/uploads/Married/FY04400.pdf
  7. http://strongermarriage.org/files/uploads/Married/FY04400.pdf
  8. http://strongermarriage.org/files/uploads/Married/FY04700.pdf
  9. http://www.cmhc.utexas.edu/vav/vav_healthyrelationships.html
  10. http://psychcentral.com/blog/archives/2009/04/14/9-steps-to-better-communication-today/?all=1
  11. https://www.psychologytoday.com/blog/tech-support/201410/6-steps-repairing-your-relationship
  12. http://www.healthymarriageinfo.org/couples/resources-for-couples/download.aspx?id=280
  13. https://www.psychologytoday.com/blog/tech-support/201410/6-steps-repairing-your-relationship
  14. http://www.healthymarriageinfo.org/couples/resources-for-couples/download.aspx?id=280
  15. https://www.psychologytoday.com/blog/tech-support/201410/6-steps-repairing-your-relationship
  16. http://strongermarriage.org/files/uploads/Married/FY04700.pdf
  17. http://strongermarriage.org/files/uploads/Married/FY04700.pdf
  18. http://strongermarriage.org/files/uploads/Married/FY04700.pdf
  19. http://www.cmhc.utexas.edu/vav/vav_healthyrelationships.html
  20. http://www.healthymarriageinfo.org/couples/resources-for-couples/download.aspx?id=280
  21. http://www.healthymarriageinfo.org/couples/resources-for-couples/download.aspx?id=280
  22. http://divorce.usu.edu/files/uploads/ShouldIKeepTryingtoWorkItOut.pdf

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 172,046 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม