ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

หนึ่งในปัญหาที่สร้างความกระอักกระอ่วนใจให้กับคุณก็คือ การหาว่าเพื่อนร่วมงานแอบชอบคุณหรือเปล่า เพราะคุณไม่เพียงแต่อาจจะได้รับสัญญาณที่คลุมเครือจากคนที่แอบชอบคุณเท่านั้น แต่คุณอาจจะไม่สามารถตอบกลับได้อย่างเหมาะสมเนื่องจากข้อจำกัดด้านสภาพแวดล้อมของที่ทำงาน แต่ก็มีหลายสิ่งที่คุณสามารถทำได้เพื่อให้รู้ว่าเพื่อนร่วมงานแอบชอบคุณหรือเปล่า การพยายามอ่านการสื่อสารที่ไม่ใช่ภาษาและการพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานคนนั้นสามารถทำให้คุณรู้ได้ว่าความรู้สึกที่แท้จริงของเขาเป็นอย่างไร

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

อ่านการสื่อสารที่ไม่ใช่ภาษา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ดูว่าคนๆ นั้นปฏิบัติต่อพื้นที่ส่วนตัวของคุณอย่างไร. อย่าลืมสังเกตว่าคนๆ นี้ปฏิบัติต่อพื้นที่ส่วนตัวของคุณอย่างไร ถ้าเพื่อนร่วมงานมีใจให้คุณ เขาก็อาจจะเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของคุณมากกว่าเมื่อเทียบกับว่าถ้าเขาไม่ได้รู้สึกอะไร
    • คนๆ นี้เข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของคุณด้วยท่าทีที่อบอุ่นและไม่ได้คุกคามหรือเปล่า เขาอาจจะแค่อยากเข้าใกล้คุณหรือแสดงความชอบพอเฉยๆ ก็ได้
    • สังเกตว่าเพื่อนร่วมงานคนนี้มักจะเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวเพื่อจับไหล่ จับผม จับหรือแตะแขน หรือบังเอิญเจอคุณอยู่บ่อยๆ หรือเปล่า
    • สังเกตว่าเขาปฏิบัติต่อคนรอบตัวคุณอย่างไรก่อนจะสรุปว่าเขาแอบชอบคุณหรือเปล่าเสมอ
    • ระวังอย่าสับสนระหว่าง “คนที่ชอบพูดใกล้ๆ” หรือคนที่ไม่เข้าใจหรือไม่เคารพพื้นที่ส่วนตัวกับคนที่แอบมีใจให้คุณ
  2. สังเกตว่าเขามักจะหาข้ออ้างมาอยู่ใกล้ๆ คุณหรือเปล่า. อีกวิธีที่จะช่วยให้คุณรู้ว่าเพื่อนร่วมงานแอบชอบคุณหรือไม่โดยไม่ใช้คำพูดก็คือ พิจารณาว่าเขาพยายามอย่างมากที่จะได้อยู่ใกล้คุณหรือเปล่า ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็อาจเป็นสัญญาณว่าเขาแอบชอบคุณ
    • ถ้าเขาไม่ได้มีเหตุผลที่เป็นประโยชน์หรือเข้าใจได้ แต่เขาก็ยังเข้ามาอยู่ใกล้ๆ คุณเสมอ ก็เป็นไปได้ว่าเขาอาจมีใจให้คุณ
    • ถ้าเขาอยู่ใกล้คุณบ่อยๆ แต่นั่นเป็นเพราะความจำเป็น เขาก็อาจจะไม่ได้รู้สึกอะไรกับคุณก็ได้ [1]
  3. ใช้เวลาสักหน่อยในการพยายามสังเกตว่า เพื่อนร่วมงานชอบมองคุณบ่อยๆ หรือเปล่า ถ้ามีสัญญาณอื่นๆ ร่วมด้วย การที่เขามองคุณก็อาจจะเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าเขาแอบชอบคุณอยู่ เพื่อนร่วมงานอาจจะแอบชอบคุณถ้าหาก
    • เขาลอบมองมาที่คุณตลอดทั้งวันโดยไม่มีเหตุผลที่แน่ชัด
    • เขาจ้องมาที่คุณ ขยิบตาให้ หรือไม่ก็ใช้สายตาเรียกร้องความสนใจจากคุณในระหว่างการประชุมหรือโอกาสอื่นๆ ในที่ทำงาน
    • เขาคอยมองลักษณะทางกายของคุณเป็นประจำ [2]
  4. ภาษาท่าทางคือสิ่งที่สำคัญมากในการบอกว่าเพื่อนร่วมงานแอบชอบคุณหรือเปล่า การสังเกตภาษาท่าทางของเพื่อนร่วมงานจะทำให้คุณได้คำบอกใบ้สำคัญว่าเขารู้สึกอย่างไรกับคุณ
    • เพื่อนร่วมงานยืนในท่าทีที่เชิญชวนหรือผ่อนคลายหรือเปล่า ถ้าแขนและขาของเขาเปิดออกและท่าทางของเขาก็ดูผ่อนคลาย ก็เป็นไปได้ว่าเขาอาจจะสนใจคุณ
    • เพื่อนร่วมงานส่งสัญญาณว่าเขาปิดกั้นตัวเองจากคุณหรือเปล่า ถ้าเขายืนกอดอกหรือไม่ค่อยพูดค่อยจา ก็แปลว่าเขาอาจจะประหม่าหรือไม่ก็ไม่ได้สนใจคุณเลย
    • ประเมินภาษาท่าทางร่วมกับสัญญาณอื่นๆ ที่เขาส่งมาให้คุณเสมอ [3]
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

สื่อสารกับเพื่อนร่วมงาน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ลองคิดดูว่าเพื่อนร่วมงานชมคุณบ่อยๆ หรือเปล่า คำชมหรือการแสดงความคิดเห็นด้านบวกอื่นๆ อาจแสดงให้เห็นว่าเขามองคุณในแง่ดีหรืออาจจะแอบชอบคุณก็ได้
    • ถ้าเพื่อนร่วมงานชมงานที่คุณทำไม่ขาดปาก ก็เป็นไปได้ว่าเขาอาจจะแค่เคารพคุณในฐานะเพื่อนร่วมงานเฉยๆ
    • ถ้าเพื่อนร่วมงานชมลักษณะภายนอกหรือสิ่งอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับงาน ก็เป็นไปได้ว่าเขาอาจจะชอบคุณแบบคนรัก
    • อย่าเอาแค่คำชมอย่างเดียวมาเป็นตัวตัดสินว่าเพื่อนร่วมงานแอบชอบคุณ แต่ให้ประเมินคำชมในบริบทของปัจจัยอื่นๆ ด้วย [4]
  2. ประเมินว่าเพื่อนร่วมงานคุยกับคุณเรื่องอะไร. หัวข้อของการสนทนาระหว่างคุณกับเพื่อนร่วมงานก็เป็นสิ่งที่บอกใบ้ได้ค่อนข้างมากว่าเขารู้สึกอย่างไรกับคุณ เพราะฉะนั้นให้สังเกตสักเล็กน้อยว่าเพื่อนร่วมงานพูดอะไรกับคุณและเขาเริ่มต้นบทสนทนาประเภทไหน ถามตัวเองว่า
    • เพื่อนร่วมงานพูดเรื่องส่วนตัวมากๆ หรือเปล่า เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น มันก็อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าเขาคิดกับคุณมากกว่าแค่คนรู้จัก
    • เพื่อนร่วมงานคุยเรื่องเซ็กส์ ความใกล้ชิด หรือความชอบพอแบบหนุ่มสาวกับคุณหรือเปล่า เพราะมันอาจจะเป็นวิธีเรียกความสนใจแบบคนรักจากคุณ
    • เพื่อนร่วมงานไว้ใจเล่าความลับให้คุณฟังหรือเปล่า สิ่งนี้อาจจะบอกได้ว่าเขาเห็นคุณเป็นมากกว่าแค่เพื่อนร่วมงาน
    • เพื่อนร่วมงานชวนคุณไปร่วมกิจกรรมที่นอกเหนือจากงานหรือเปล่า นี่เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าเขาสนใจคุณแบบคนรักแน่ๆ [5]
  3. ถามเพื่อนร่วมงานเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับเขา. หลังจากที่สังเกตสัญญาณอื่นๆ มาสักพัก คุณก็อาจจะต้องถามเพื่อนร่วมงานออกไปตรงๆ ว่าเขาแอบชอบคุณหรือเปล่า แม้ว่าวิธีนี้อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ง่ายและสบายใจที่สุดที่คุณจะทำ แต่มันก็อาจจะให้ผลลัพธ์ที่คุณต้องการก็ได้
    • พูดประมาณว่า “คุณคิดว่าความสัมพันธ์ของเราเกินเรื่องงานไปไหมคะ”
    • ถ้าไม่อยากถามออกไปตรงๆ ลองใช้มุกขำๆ เกริ่นคำถามออกมาก็ได้ คุณอาจจะเล่นมุกเรื่องที่พนักงานคนอื่นๆ คอยเลี่ยงคุณหมด แล้วก็บอกว่า “คุณดูจะไม่ได้เกลียดขี้หน้าฉันเหมือนคนอื่นๆ เลยนะ”
    • แต่ระวังจะกลายเป็นว่า คุณกำลังบอกใบ้ว่าคุณอยากได้มากกว่าความสัมพันธ์ในที่ทำงาน [6]
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

หลีกเลี่ยงปัญหา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ศึกษานโยบายเรื่องความสัมพันธ์ในที่ทำงานของบริษัท. ก่อนจะเริ่มลงมือหาคำตอบว่าเพื่อนร่วมงานแอบชอบคุณหรือเปล่า คุณต้องไปศึกษาก่อนว่านโยบายของบริษัทเรื่องความสัมพันธ์เชิงชู้สาวในที่ทำงานเป็นอย่างไร เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญเพราะถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้อยากมีความสัมพันธ์กับเขา แต่ข่าวลือว่าคนสองคนกิ๊กกันก็ยังอาจสร้างปัญหาได้
    • ถ้ามีคู่มือพนักงานก็ให้อ่านเรื่องนโยบายด้านความสัมพันธ์ในที่ทำงาน
    • ถ้าคุณไม่สามารถหาข้อมูลที่ไหนได้แล้ว ให้พูดคุยกับตัวแทนฝ่ายบุคคล
    • แจ้งผู้บังคับบัญชาถ้าคุณเริ่มสร้างความสัมพันธ์ที่เป็นทางการระหว่างกัน [7]
  2. เลี่ยงสิ่งที่อาจถูกตีความว่าเป็นการคุกคามทางเพศ. เวลาที่คุณพยายามค้นหาว่าเพื่อนร่วมงานของคุณแอบชอบคุณหรือเปล่า คุณต้องพยายามเลี่ยงการสนทนาหรือการกระทำใดๆ ที่อาจถูกตีความไปว่าเป็นการคุกคามทางเพศ ซึ่งเป็นสิ่งที่ยากมากๆ เพราะแต่ละคนก็อ่อนไหวกับเรื่องนี้ไม่เหมือนกัน และอาจจะมองว่าคำวิจารณ์ที่ดูเหมือนไม่มีอะไรของคุณมีความหมายลึกซึ้งกว่านั้น
    • อย่าวิจารณ์เรื่องเพศหรือเรื่องชู้สาวอย่างโจ๋งครึ่มกับคนที่คุณไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่เป็นทางการระหว่างกันเด็ดขาด
    • อย่าแตะเนื้อต้องตัวพนักงานคนอื่นๆ ยกเว้นว่าเขาจะยินดีให้คุณทำอย่างนั้น และอย่าแตะเนื้อต้องตัวในทางเพศหรือชู้สาวในที่ทำงานเด็ดขาดแม้ว่าคุณจะมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน
    • ถ้าคุณคิดว่าเขาแอบชอบคุณ และคุณไม่สบายใจที่จะบอกให้เขารู้ว่าคุณไม่ได้สนใจเขา ก็อาจจะลองติดต่อฝ่ายบุคคลก็ได้
    • ถ้าเขายังรุกคืบเข้ามาทั้งที่คุณส่งสัญญาณแล้วว่าให้หยุด ให้ติดต่อฝ่ายบริหารหรือฝ่ายบุคคลทันที [8]
  3. ไม่แน่ว่าสิ่งสำคัญที่สุดที่คุณต้องทำเวลาค้นหาคำตอบว่าเพื่อนร่วมงานแอบชอบคุณหรือเปล่าก็คือการไม่ทึกทักเอาเอง เพราะการทึกทักเอาเองจะทำให้คุณด่วนสรุปเรื่องต่างๆ ทั้งที่ยังไม่รู้แน่ชัด ซึ่งพอคุณทำแบบนี้ คุณก็อาจจะทำหรือพูดอะไรที่อาจทำให้เกิดปัญหาหรือทำร้ายความรู้สึกของคนอื่น
    • เวลาที่ตัดสินใจว่าจะทำอะไร คุณต้องแน่ใจว่าตัวเองได้รับข้อมูลที่ถูกต้องก่อนเสมอ
    • อย่าปฏิบัติกับเขาไม่เหมือนเดิมเพราะคุณคิดว่าเขาแอบชอบคุณ
    • อย่าหวังผลประโยชน์ในเรื่องของการเดต การมีเพศสัมพันธ์ หรืออะไรทำนองนั้นจากคนที่คุณคิดว่าเขาแอบชอบคุณ [9]
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 39,001 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา