ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
แซลมอน คือเนื้อปลาสีขาวแดงหรือขาวส้มที่มีต้นกำเนิดมาจากมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือหรือมหาสมุทรแปซิฟิก แซลมอนสดนั้นมีคุณค่าทางอาหารมากมาย อย่างโปรตีน โอเมก้า3 และวิตามินดี แซลมอนมักจะนำไปรมควัน ย่าง ปิ้ง อบ หรือรับประทานดิบในบางโอกาส ปลาชนิดนี้เหมาะกับการประกอบอาหารสดๆ หลังจากจับมาหรือซื้อมาที่สุด อย่างไรก็ตาม ถ้าหากว่าคุณมีปลาแซลมอนแช่แข็ง ก็มีคำแนะนำที่คุณควรทำตามเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการปนเปื้อนในอาหารทะเล โดยจะเป็นการทำให้เสียรสชาติเอาได้ บทความนี้จะช่วยบอกวิธีการละลายน้ำแข็งจากปลาแซลมอนให้คุณได้ทราบ
ขั้นตอน
-
นำแซลมอนออกมาจากช่องแช่แข็งประมาณ 12 ชั่วโมงก่อนที่จะนำไปทำอาหาร. สำหรับแซลมอนที่หนักกว่า 450 กรัม ให้นำออกจากมาก่อน 24 ชั่วโมง
-
แกะห่อด้านนอกออกถ้าหากว่ามีมากกว่าถุงแช่ของเย็นหรือฟอยล์อลูมิเนียม 1 ชั้น
-
วางปลาไว้ในชามก้นตื้น.
-
วางชามไว้ในพื้นที่เรียบในตู้เย็น ให้ห่างออกจากอาหารที่จะมีกลิ่นติดแซลมอนมาได้. ตู้เย็นควรมีอุณหภูมิอยู่ที่ 1.5 ถึง 4.5 องศาเซลเซียส เพื่อไม่ให้สิ่งมีชีวิตเล็กๆ เติบโตขึ้น
-
นำมาประกอบอาหารทันทีหลังจากที่นำแซลมอนออกจากตู้เย็นแล้ว.โฆษณา
-
นำแซลมอนออกมาจากช่องแช่แข็ง. คุณต้องเพิ่มเวลาละลายน้ำแข็งทุกๆ 30 นาทีต่อน้ำหนักปลา 450 กรัม ก่อนที่จะนำไปประกอบอาหาร
-
ให้แน่ใจว่าปลาอยู่ในถุงพลาสติก ถ้าหากว่ามันยังไม่พร้อมใช้. นี่เป็นการเก็บปลาดิบไม่ให้มีการกระจายของแบคทีเรียเกิดขึ้น
-
วางแซลมอนไว้ในชามขนาดใหญ่. โดยเนื้อปลาต้องจมลงไปในน้ำที่ใส่ชามเอาไว้ทั้งหมด
- คุณสามารถใช้อ่างล้างจานในการละลายน้ำแข็งได้ อย่างไรก็ตาม ก็ควรให้ความสำคัญกับการเก็บปลาระหว่างที่ละลายน้ำแข็งเพื่อป้องกันการปนเปื้อน
-
เติมน้ำเย็นลงชามหรืออ่างล้างจานจนแซลมอนจะจมใต้น้ำทั้งหมด
-
เปลี่ยนน้ำเย็นทุกๆ 30 นาที.
-
นำปลาออกมาหลังจากที่ละลายน้ำแข็งได้หมดแล้ว และนำไปประกอบอาหารทันที.
- ถ้าคุณจะละลายน้ำแข็งออกจากแซลมอนที่อยู่ในก้อนน้ำแข็งเลย ให้เปิดน้ำไหลผ่านแซลมอนจนกว่าก้อนน้ำแข็งจะหายไป หลังจากนั้นก็นำแรปพลาสติกมาห่อ ใส่ไว้ในถาดแล้วทิ้งเอาไว้ในตู้เย็นประมาณ 6 ถึง 12 ชั่วโมง
โฆษณา
-
นำแซลมอนออกจากช่องแช่แข็ง. แกะบรรจุภัณฑ์ออก
-
วางไว้บนจานที่ปูไว้ด้วยกระดาษทิชชู่แผ่นหนา. แล้วคลุมปลาไว้ด้วยทิชชู่แผ่นหนาอีกชั้นหนึ่ง
-
วางส่วนที่บางสุดของปลาเอาไว้กลางจาน
-
ตั้งค่าให้ละลายน้ำแข็ง อุ่นประมาณ 4 ถึง 5 นาทีต่อน้ำหนักปลาทุกๆ 450 กรัม. การตั้งค่าให้ละลายน้ำแข็งจะใช้พลังงานความร้อนเพียง 30 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมด หรือตั้งเป็น "Power 3" บนปุ่มควบคุม
-
หยุดไมโครเวฟตอนที่มันอบไปได้ครึ่งทาง แล้วค่อยอบต่อ.
-
หยุดไมโครเวฟก่อนที่มันจะสิ้นสุดเวลาของการละลายน้ำแข็งที่ตั้งเอาไว้ล่วงหน้า ฉะนั้นจึงจะยังมีเกล็ดน้ำแข็งเล็กน้อยเกาะอยู่.
-
นำจานออกมาวางบนเคาน์เตอร์ห้องครัวประมาณ 5 นาทีเพื่อทำการละลายน้ำแข็งให้สมบูรณ์
-
นำไปประกอบอาหารทันที.
- การละลายน้ำแข็งด้วยไมโครเวฟเป็นวิธีที่ไม่ค่อยแนะนำเท่าไร ความร้อนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของเนื้อปลาจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ผนังเซลล์ของปลาไหม้ไปได้ แล้วเนื้อปลาจะโดนละลายน้ำแข็งไม่เท่ากันและยังแห้งอีกด้วย
โฆษณา
เคล็ดลับ
- ให้จดวันที่คุณแช่แข็งแซลมอน เพื่อที่จะได้แน่ใจว่ามันจะไม่อยู่ในช่องแช่แข็งนานกว่า 8 สัปดาห์ก่อนที่คุณจะรับประทานมัน
- ถ้าคุณจะละลายแซลมอนทั้งตัว ให้ตรวจสอบดูช่องด้านในว่ามีก้อนน้ำแข็งอยู่หรือไม่ แล้วเปิดน้ำเย็นใส่โพรงนั้นเพื่อละลายแซลมอนให้สมบูรณ์
โฆษณา
คำเตือน
- ห้ามละลายเนื้อปลาด้วยน้ำอุ่น เพราะมันจะไปกระตุ้นการเติบโตของแบคทีเรียได้
- ห้ามนำเนื้อแซลมอนที่ละลายน้ำแข็งแล้วไปแช่แข็งใหม่เด็ดขาด
- ให้แน่ใจว่าได้แช่แข็งอย่างถูกต้องแล้ว ช่องแช่แข็งตามครัวเรือนจะมีการไหลเวียนของอากาศและอุณหภูมิ ซึ่งหมายความว่าไม่ได้เอาไว้ใช้แช่เก็บเป็นเวลานาน ให้รับประทานแซลมอนภายใน 2 ถึง 3 เดือนหลังจากที่ซื้อมาและแช่แข็งมัน ถ้าหากว่าแซลมอนสัมผัสกับอากาศเมื่อไร แม้ว่าจะอยู่ในบรรจุภัณฑ์หรือในช่องแช่แข็งก็ตาม มันก็จะไม่ได้ถูกแช่แข็งอย่างเหมาะสม และไม่ควรนำมาละลายและรับประทาน
โฆษณา
สิ่งของที่ใช้
- ตู้เย็น
- อ่างล้างจาน
- ไมโครเวฟ
- น้ำเปล่า
- ทิชชู่แผ่นหนา
- ภาชนะก้นเตี้ย
- แซลมอน
ข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา