PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

การเข้าค่ายพักแรมนั้นเป็นกิจกรรมที่สนุกอยู่แล้ว ยิ่งเราคิดจะสร้างที่พักแรมโดยไม่ใช้เต็นท์ ก็ยิ่งทำให้การเข้าค่ายนั้นน่าตื่นเต้นและท้าทายขึ้นไปอีก การสร้างที่พักแรมโดยไม่ใช้เต็นท์ช่วยให้เราไม่ต้องแบกอุปกรณ์ที่หนักให้เหนื่อยและเปลืองแรง! ถ้าเราอยากสร้างที่พักแรมโดยไม่ใช้เต็นท์ ลองอ่านวิธีการต่างๆ ที่ด้านล่างนี้เพื่อเราจะได้หลับอย่างสบายและปลอดภัยในที่พักของตนเอง แต่อย่าลืมอ่านวิธีการป้องกันตนเองจากแมลงและสภาพอากาศที่เลวร้ายด้วย

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

สร้างที่พักแรมโดยใช้อุปกรณ์อื่น

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ใช้ถุงนอนแบบกึ่งเต็นท์เพื่อป้องกันแมลงและปกป้องตนเองจากสภาพอากาศที่เลวร้าย รวมทั้งให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย. ถุงนอนแบบกึ่งเต็นท์จะมีคุณสมบัติคล้ายเต็นท์และถุงนอนผสมกัน ทำมาจากวัสดุกันน้ำและอากาศสามารถถ่ายเทได้สะดวกเหมือนเต็นท์ จึงสามารถได้ แต่ถุงนอนแบบกึ่งเต็นท์ใหญ่พอสำหรับนอนแค่คนเดียว จึงไม่มีพื้นที่ให้เปลี่ยนเสื้อผ้าหรือเก็บอุปกรณ์ [1]
    • ถ้าเลือกใช้ถุงนอนแบบกึ่งเต็นท์เป็นที่พักแรม เราสามารถยัดถุงนอนไว้ภายในนั้นเพื่อเพิ่มความอบอุ่นและความสบายได้
    • เราสามารถใช้ถุงนอนแบบกึ่งเต็นท์แทนเต็นท์ได้ เพราะสามารถปกป้องเราได้เหมือนกัน อีกทั้งมีน้ำหนักเบากว่าด้วย
  2. ใช้ผ้าใบกันน้ำสร้างที่พักแรม ถ้าอยากนอนหลับในพื้นที่โล่งแต่กลัวว่าฝนจะตก. ถ้าเห็นว่าถุงนอนแบบกึ่งเต็นท์นั้นแคบเกินไป แต่ไม่ต้องการหอบหิ้วอุปกรณ์ให้ลำบากและตั้งเต็นท์อย่างเต็มรูปแบบ ผ้าใบกันน้ำสามารถนำมาใช้สร้างที่พักแรมได้ ถ้าเราสร้างที่พักแรมในบริเวณที่มีต้นไม้ เราสามารถยึดมุมของผ้าใบกันน้ำอย่างน้อยมุมหนึ่งไว้ที่ต้นไม้และยึดมุมที่เหลือของผ้าใบกันน้ำไว้กับพื้นดิน จะได้สร้างที่พักได้ง่ายและรวดเร็ว [2]
    • เราจะต้องนำเชือกหรือเชือกป่านและสมอบกมายึดผ้าใบกันน้ำให้อยู่กับที่
    • ถ้าพื้นดินเปียก วางแผ่นกันน้ำหรือผ้าใบกันน้ำอีกแผ่นรองไว้ข้างใต้ตัวเราเพื่อเราจะได้ไม่เปียกยามนอนหลับตอนกลางคืน
    • ผ้าใบกันน้ำจะป้องกันไม่ให้เราเปียกฝน (ถ้าฝนไม่ตกหนักมากหรือมีลมแรง) และป้องกันแดดได้ แต่ไม่สามารถป้องกันแมลงหรืออากาศที่หนาวเย็นได้
    เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ

    Halle Payne

    นักร้อง/นักแต่งเพลง
    ฮัลลี่ เพย์นแต่งเพลงตั้งแต่อายุแปดขวบ เธอเขียนเพลงสำหรับกีตาร์และเปียโนหลายร้อยเพลง บางเพลงได้รับการบันทึกเสียงและมีให้ลองฟังบนช่อง Soundcloud หรือ Youtube เมื่อไม่นานมานี้ฮัลลี่เข้าร่วมกลุ่มนักดนตรี 15 คนในสต็อกโฮล์ม สวีเดนที่ใช้ชื่อวงว่า the Skål Sisters
    Halle Payne
    นักร้อง/นักแต่งเพลง

    ฝึกใช้ผ้าใบกันน้ำสร้างที่พักแรมก่อนวันพักแรมจริง Halle Payne ผู้นำการท่องเที่ยวแบบแบกเป้เดินทางไกลบอกว่า:"เราสามารถสร้างที่พักจากผ้าใบกันน้ำได้ง่ายๆ นำเชือกมาผูกระหว่างต้นไม้ นำผ้าใบกันน้ำมาคลุมเชือก และใช้หมุดเต็นท์ยึดมุมของผ้าใบกันน้ำเอาไว้! เราควรฝึกการผูกเงื่อนแบบง่ายๆ อย่างเช่น เงื่อนผูกลากรถบรรทุก เงื่อนกระทก มาล่วงหน้า จะได้สามารถสร้างที่พักได้เป็นอย่างดี เราคงไม่อยากศึกษาวิธีผูกเงื่อนท่ามสายฝนที่ตกกระหน่ำลงมาในวันพักแรมจริงแน่นอน!"

  3. ผูกเปลญวนไว้กับต้นไม้หรือเสา ถ้าเห็นว่าอากาศแจ่มใส. ถ้าตอนกลางคืนอากาศดีและเราอยากนอนชมดาว การนอนพักบนเปลญวนนั้นน่าจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับการพักแรม เราจะต้องหาบริเวณที่มีต้นไม้ หรือเสาเพื่อเราจะได้สามารถผูกเปลญวนเอาไว้ได้ รวมทั้งมีที่กำบังมากพอที่จะปกป้องเราจากลมหนาวยามค่ำคืน เราสามารถกางผ้าใบกันน้ำ หรือฟลายชีทไว้เหนือเปลญวนเพื่อจะได้ปกป้องเราจากสภาพอากาศที่เลวร้ายได้มากขึ้น [3]
    • ถ้าอยากหลับบนเปลญวนได้สบายขึ้น เราอาจต้องวางแผ่นรองนอนและถุงนอนไว้ในเปลญวน การนอนแนวทแยงในเปลญวนยังช่วยให้เรานอนหลับได้อย่างสบายในตอนกลางคืนด้วย
    • ระยะห่างระหว่างต้นไม้หรือเสาต้องมีมากพอ เราจะได้สามารถกางเปลโดยทำมุม 30 องศากับแนวระนาบได้ การกางเปลโดยทำมุมกับแนวระนาบน้อยกว่านี้จะทำให้เปลและต้นไม้ต้องรองรับน้ำหนักมาก

    เคล็ดลับ เปลญวนบางแบบก็มีมุ้งกันยุงให้ด้วย ถ้าเห็นว่าบริเวณที่จะพักแรมมีแมลงเยอะ อาจเลือกใช้เปลญวนแบบมีมุ้งกันยุง จะได้ป้องกันแมลงไปด้วยในตัว

  4. สร้างเพิงพัก ถ้าบริเวณนั้นมีกิ่งไม้และใบไม้มากพอ. ถ้าเราไม่อยากแบกอุปกรณ์สำหรับสร้างที่พักให้ลำบาก เราสามารถหาอุปกรณ์จากในบริเวณนั้นและนำมาใช้สร้างที่พักด้วยตนเองได้ การสร้างเพิงพักนั้นมีหลายวิธี แต่วิธีที่ง่ายที่สุดคือนำกิ่งไม้ที่แข็งแรงมาวางพิงกับต้นไม้ต้นหนึ่ง จากนั้นนำกิ่งไม้อื่นๆ ไปวางพิงกิ่งไม้กิ่งนั้นอีกทีเพื่อสร้างเพิงพักที่มีหลังคา นำใบไม้หรือกิ่งไม้เล็กๆ มาวางทับกิ่งไม้เหล่านั้นอีกทีจนหนาเป็นชั้นเพื่อทำให้หลังคาเพิงพักสามารถป้องกันเราจากสภาพอากาศที่เลวร้ายได้มากขึ้น [4]
    • ถ้าหากมีผ้าใบกันน้ำติดตัวมาด้วย ให้วางคลุมทับหลังคาเพิงพักเพื่อป้องกันไม่ให้ตนเองเปียกฝน หรือวางบนพื้นดินในเพิงพักก็ได้ เวลาเราเข้าพัก จะได้นอนในพื้นที่ซึ่งอบอุ่น แห้ง และป้องกันเราจากแมลงได้
    • ถ้าพื้นในเพิงพักขรุขระ เราอาจสร้าง "เตียง" จากกองใบไม้แล้วนำมาวางทับพื้นดินในเพิงพักนั้น
    • เราอาจใช้เชือกหรือเชือกป่านช่วยในการยึดกิ่งไม้เอาไว้
  5. พักแรมอยู่ในยานพาหนะเพื่อความปลอดภัยและความสะดวกสบาย. ถ้าอยากมีประสบการณ์พักแรมแบบไม่ใช้เต็นท์และสะดวกสบาย เราอาจเลือกพักแรมในรถบ้าน รถแคมป์ปิ้ง หรือรถยนต์ของตนเองก็ได้ แต่ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าบริเวณที่จะพักแรมอนุญาตให้นำรถเข้าไปได้
    • ถ้าเรามีรถกระบะ เราสามารถวางแผ่นรองนอนและถุงนอนไว้ในท้ายรถกระบะได้ ถ้ามีแร็คหลังคาติดไว้ที่ท้ายรถกระบะ เราสามารถนำผ้าใบกันน้ำคลุมแร็คหลังคานั้นไว้เพื่อจะได้กันลมและฝนได้มากขึ้น
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

เตรียมตัวให้พร้อมที่จะตั้งค่ายพักแรม

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ก่อนที่เราจะเริ่มการตั้งค่ายพักแรมแบบไม่ใช้เต็นท์ ดูพยากรณ์อากาศเพื่อจะได้ทราบสภาพอากาศของช่วงเวลาและบริเวณที่ตนเองต้องการตั้งค่ายพักแรม หากอากาศหนาว มีฝนตก หรือลมแรง เราจะเตรียมรับมือได้อย่างเหมาะสม [5]
    • ถ้ามีโอกาสเกิดสภาพอากาศที่เลวร้าย อาจนำเต็นท์มาเป็นที่พักแรมสำรองด้วย ถึงแม้พยากรณ์อากาศจะบอกว่าอากาศดี แต่เราก็ควรนำผ้าใบกันน้ำไปด้วยเผื่อในกรณีที่ฝนตกลงมาอย่างไม่คาดคิด
  2. เลือกพักแรมในพื้นที่สูงเพื่อหลีกเลี่ยงน้ำท่วมและความเปียกชื้น. ถึงแม้เราจะคิดว่าฝนไม่ตกก็ตาม แต่ก็ควรหลีกเลี่ยงการพักแรมในพื้นที่ต่ำ การพักแรมในพื้นที่ต่ำอาจทำให้เราเสี่ยงประสบภัยน้ำท่วม หินถล่ม โคลนถล่ม หรือปัญหาความเปียกชื้น พยายามหาพื้นที่ค่อนข้างสูงและมีลักษณะราบเรียบเพื่อพักแรม [6]
    • ถ้าเรานอนในพื้นที่ลาดเอียง ให้ดูสิว่าเราอยู่ที่ตำแหน่งไหน จากนั้นนอนโดยหันศีรษะไปทางเนิน
  3. อย่าเลือกพักแรมในบริเวณที่พื้นดินขรุขระหรือมีหินเยอะเกินไป. ถึงแม้เราจะนอนบนแผ่นรองนอนและในถุงนอนก็ตาม แต่ถ้านอนบนพื้นดินที่ขรุขระหรือมีหินเยอะเกินไป เราก็จะรู้สึกไม่สบายตัวอยู่ดี มองหาบริเวณที่พื้นดินเรียบและไม่มีหินคมๆ กับกิ่งไม้ จะดีกว่า [7]
    • เอาวัตถุคมๆ ออกจากบริเวณนั้นก่อนที่จะสร้างที่พักแรม ถ้าทำได้
  4. ปัญหาใหญ่อย่างหนึ่งที่เป็นอุปสรรคต่อการพักแรมโดยไม่ใช้เต็นท์คือเราจะประสบปัญหาแมลงมารบกวน [8] ก่อนนอนตอนกลางคืน นำสเปรย์ป้องกันแมลงที่มีส่วนผสมของ DEET ฉีดตนเองและอุปกรณ์ โดยควรเลือกสเปรย์ที่มีความเข้มข้นของ DEET อย่างน้อย 30% [9]
    • เราสามารถป้องกันแมลงมารบกวนได้ (ขณะที่นอนหลับอยู่ในพื้นที่กลางแจ้ง) โดยกางมุ้งกันยุงหรือเต็นท์กันยุงขนาดเล็ก
    • ถ้าต้องการป้องกันยุงและเห็บได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ให้ฉีดสเปรย์ป้องกันแมลงที่มีสารเพอร์เมทรินไว้ที่อุปกรณ์และเสื้อผ้ามาก่อนล่วงหน้า ทำตามคำแนะนำการใช้ซึ่งระบุไว้ที่ฉลากอย่างเคร่งครัด ปล่อยให้อุปกรณ์และเสื้อผ้าแห้งสนิทก่อนนำมาใช้ [11]

    คำเตือน สเปรย์ป้องกันแมลงที่มีสารเพอร์เมทรินนั้นเป็นอันตรายต่อสัตว์บางชนิด ถ้าเราเลี้ยงแมว เก็บอุปกรณ์และเสื้อผ้าที่ฉีดสารเพอร์เมทรินแล้วให้พ้นจากแมว อย่าใช้สารเพอร์เมทรินใกล้กับแหล่งน้ำ เพราะสารนี้เป็นพิษร้ายแรงต่อปลา [10]

  5. ถึงแม้ตอนกลางวันอากาศจะค่อนข้างร้อน แต่อุณหภูมิสามารถลดต่ำลงได้ในตอนกลางคืน เลือกเสื้อผ้าที่ใส่สบายและสามารถป้องกันเราจากสภาพอากาศที่แล้วร้ายได้ รวมทั้งอย่าลืมนำเสื้อผ้าที่เหมาะสมสำหรับใส่นอนพักแรมไปด้วย ถ้าคาดว่าอากาศจะหนาว เราสามารถป้องกันตนเองจากความหนาวเย็นได้ดังนี้ [12]
    • สวมใส่เสื้อผ้าที่ทอมาจากขนสัตว์หรือใยสังเคราะห์ เช่น โพลีเอสเตอร์ หรือโพลีโพรไพลีน ผ้าขนสัตว์และผ้าใยสังเคราะห์จะช่วยให้เราอบอุ่นและดูดซับความชื้นได้ดีกว่าผ้าฝ้าย
    • สวมถุงมือ และถุงเท้าเพื่อให้มือและเท้าของเราอบอุ่น รวมทั้งสวมหมวกแก๊ปด้วย
    • อย่าสวมใส่เสื้อผ้าที่หนามาก ไม่อย่างนั้นเราจะรู้สึกร้อนมากและมีเหงื่อออกตอนนอนหลับในถุงนอน
  6. นำถุงนอนและแผ่นรองนอนมาด้วยเพื่อร่างกายจะได้รับความอบอุ่นและนอนหลับอย่างสบาย. ไม่ว่าเราจะเลือกพักแรมแบบไหน เราจะหลับได้อย่างสบายและร่างกายได้รับความอบอุ่น ถ้าเรามีแผ่นรองนอนและนอนในถุงนอน เราต้องนำถุงนอนและแผ่นรองนอนมาด้วย หากต้องการนอนหลับภายใต้แสงดาวจริงๆ [13]
    • การนอนในถุงนอนหรือการมีแผ่นรองนอนรองรับตัวของเราเอาไว้ไม่เพียงทำให้เรานอนหลับสบายขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยป้องกันความหนาวเย็นและความชื้นจากพื้นดินด้วย
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ค่ายพักแรมหลายแห่งมีการกำหนดสถานที่และเวลาก่อกองไฟไว้อย่างเข้มงวด เราต้องทำตามกฎอย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัยของตนเอง ผู้ที่มาพักแรมด้วยกัน และค่ายพักแรม
  • ถ้าเราสร้างที่พักแรมใต้ต้นไม้ (เช่น ผูกเปลญวนไว้ใต้ต้นไม้) ตรวจสอบต้นไม้ต้นนั้นอย่างละเอียดเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีกิ่งไม้ขนาดใหญ่ที่ตายแล้วอยู่เหนือศีรษะพอดี โดยหลักแล้ว ไม่ควรสร้างที่พักแรมใต้ต้นไม้ใหญ่เพื่อความปลอดภัย [14]
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 3,471 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา