PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

iOS เป็นระบบปฏิบัติการสำหรับไอโฟน ไอแพด และไอพอดทัช ซึ่งแอปเปิลที่เป็นผู้ผลิตมักปล่อยอัปเดตอยู่บ่อยครั้ง ตั้งแต่อัปเดตย่อยไปจนถึงอัปเดตใหญ่ เพื่อปรับปรุงและพัฒนาระบบการทำงานต่างๆ ให้ดีขึ้น ซึ่งผู้ใช้จะถูกแนะนำให้ทำการอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดเสมอ เพื่อเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ และเพื่อความปลอดภัย โดยเราสามารถอัปเดต iOS ผ่านอุปกรณ์ที่ใช้โดยตรง หรือผ่าน iTunes ก็ได้ ซึ่งวิธีการอัปเดตของแต่ละอุปกรณ์นั้นก็ไม่ยากและไม่แตกต่างกันด้วย ถ้าอยากรู้ว่าทำอย่างไร ก็ลองอ่านแล้วทำตามขั้นตอนที่อยู่ด้านล่างนี้ได้เลย

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

การอัปเดตผ่านไอโฟน ไอแพด หรือไอพอด โดยตรง

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. 1
    แบ็คอัพข้อมูลของคุณ. ก่อนการอัปเดต มันจะแนะนำให้คุณแบ็คอัพข้อมูล เผื่อมีอะไรผิดพลาด โดยการแบ็คอัพสำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ iOS มี 2 วิธีคือ
    • เชื่อมต่ออุปกรณ์ของคุณกับคอมพิวเตอร์ เปิดโปรแกรม “iTunes” แล้วไปยังหน้า “Summary” ของอุปกรณ์ จากนั้นคลิกที่ “Back Up Now”
    • แบ็คอัพข้อมูลลง iCloud โดยเปิดแอป “Settings” ในเครื่องของคุณ เลือก “iCloud” ตามด้วย “Backup” แล้วกดคำสั่ง “Back Up Now” เพื่ออัปโหลดข้อมูลต่างๆ ลง iCloud
  2. ถ้าคุณทำการอัปเดต iOS ผ่านเครื่องโดยตรง เครื่องของคุณต้องมีที่ว่างเหลือพอสำหรับการดาวน์โหลดไฟล์อัปเดต ซึ่งขนาดของพื้นที่นี้ขึ้นอยู่กับลักษณะของการอัปเดต โดยปกติการอัปเดตใหญ่หรือการอัปเดตเวอร์ชัน เช่น iOS 8.0 หรือ 9.0 จะใช้พื้นที่มากกว่าการอัปเดตย่อย เช่น iOS 8.1 หรือ 9.1 ตัวอย่างเช่น iOS 8.0 ต้องใช้พื้นที่มากถึง 4.6 GB ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่ไม่น้อยสำหรับผู้ใหญ่ส่วนใหญ่ ขณะที่ iOS 9.0 ใช้พื้นที่ 1.6 GB ซึ่งถือว่ากำลังพอดีไม่มากไม่น้อยเกินไป ส่วนการอัปเดตย่อยจะใช้พื้นที่ประมาณ 100 - 300 MB เท่านั้น คุณสามารถเช็คพื้นที่ว่างในเครื่องของคุณได้ดังนี้
    • เปิดแอป “Settings” แล้วเลือก “General”
    • กดเลือก “Usage” แล้วเลื่อนไปยังหัวข้อ “Storage” จากนั้นสังเกตที่ “Available” ตัวเลขที่แสดงอยู่ตรงนี้คือพื้นที่ว่างในอุปกรณ์ของคุณ
    • ถ้าไม่อยากเพิ่มพื้นที่ว่างโดยการลบข้อมูลใดๆ ในเครื่อง เพื่อทำการอัปเดต iOS คุณสามารถอัปเดตผ่าน iTunes ในคอมพิวเตอร์แทนได้ โดยศึกษาขั้นตอนการอัปเดตได้ในหัวข้อถัดไป
  3. ถ้าคุณไม่เหลือพื้นที่พอสำหรับการอัปเดต คุณจำเป็นต้องเคลียร์ข้อมูลภายในเครื่องก่อน ซึ่งวิธีการเพิ่มพื้นที่ว่างสามารถทำได้ง่ายๆ ดังนี้
    • จากขั้นตอนที่ผ่านมา เมื่อคุณอยู่ในหน้า “Usage” ให้กดที่ “Manage Storage” เพื่อเรียกดูการใช้พื้นที่ของแต่ละแอปซึ่งติดตั้งอยู่ในเครื่อง คุณสามารถเพิ่มพื้นที่ได้โดยกดเลือกแอปที่ไม่จำเป็นต่อการใช้งาน แล้วเลือก “Delete App” เพื่อลบมันออกจากเครื่อง
    • โอนย้ายรูปภาพต่างๆ ในเครื่องลงคอมพิวเตอร์ของคุณ วิธีนี้จะทำให้พื้นที่ว่างในเครื่องเพิ่มขึ้นหลาย GB ซึ่งการโอนย้ายนั้นก็ไม่ยากและทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะโอนย้ายผ่านสายยูเอสบี คลาวด์ อีเมล ฯลฯ คุณสามารถเลือกใช้ได้ตามสะดวก
  4. เนื่องจากตัวอัปเดตนั้นมีขนาดใหญ่ ดังนั้นจึงต้องเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านวายฟายเพื่อดาวน์โหลด
    • ควรชาร์จเครื่องไปด้วยระหว่างอัปเดต เนื่องจากกระบวนการดาวน์โหลดและอัปเดตนั้นใช้เวลานานและกินแบตพอสมควร
  5. เมื่อเคลียร์ข้อมูลจนมีพื้นที่เหลือพอแล้ว คุณก็สามารถดาวน์โหลดและอัปเดตเครื่องได้เลย อย่าลืมว่าต้องทำการเชื่อมต่อวายฟายก่อน
  6. จากนั้นเครื่องก็จะตรวจสอบให้ว่ามีอัปเดตใหม่หรือไม่ ถ้ามี มันก็จะแสดงข้อมูลการอัปเดตขึ้นมา รวมถึงพื้นที่ที่ใช้ในการอัปเดตด้วย แต่ถ้ามันไม่ได้แสดงข้อมูลอะไร แสดงว่ายังไม่มีอัปเดตใหม่ ทั้งนี้สำหรับไอโฟน ไอแพด และไอพอดรุ่นเก่า จะไม่รองรับ iOS เวอร์ชันล่าสุด โดยเวอร์ชันสูงสุดที่เครื่องรุ่นเก่ารองรับมีดังนี้
    • เวอร์ชันสูงสุดที่ไอโฟน 4 รองรับคือ 7.1.2
    • เวอร์ชันสูงสุดที่ไอโฟน 3GS และไอพอดทัชรุ่นที่ 4 รองรับคือ 6.1.6
    • เวอร์ชันสูงสุดที่ไอแพดรุ่นแรกและไอพอดทัชรุ่นที่ 3 รองรับคือ 5.1.1
  7. กดที่ “Download and Install” เพื่อเริ่มกระบวนการดาวน์โหลดตัวอัปเดต. การดาวน์โหลดจะใช้เวลาพอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอัปเดตใหญ่
  8. จากนั้นมันจะมีรูปแบบการติดตั้งขึ้นมาให้เลือก โดยเลือก “Install” เพื่อติดตั้งตัวอัปเดตทันที หรือเลือก “Install Tonight” เพื่อติดตั้งตัวอัปเดตในตอนกลางคืน หรือเลือก “Remind Me Later” เพื่อให้มันแจ้งเตือนให้ติดตั้งในวันถัดไป
  9. ถ้าคุณเลือกติดตั้งตัวอัปเดตทันที เครื่องของคุณก็จะทำการรีบูตและเริ่มต้นอัปเดต iOS โดยใช้เวลาพอสมควรจนกว่าจะเสร็จสมบูรณ์ ทั้งนี้ระหว่างการอัปเดตหน้าจอจะแสดงโลโก้ของแอปเปิลพร้อมแถบแสดงความคืบหน้าของการอัปเดตอยู่ข้างใต้
    • ถ้าคุณเลือกติดตั้งตัวอัปเดตในตอนกลางคืน อย่าลืมเสียบสายชาร์จก่อนนอน มิฉะนั้นแบตของเครื่องอาจหมดก่อนทำการอัปเดตเสร็จ
  10. เมื่อกระบวนการอัปเดตเสร็จเรียบร้อยแล้ว เครื่องจะให้คุณกรอกพาสโค้ด (passcode) หรือให้ล็อกอินด้วยแอปเปิลไอดี (Apple ID) ก่อนใช้งาน และถ้าเป็นการอัปเดตใหญ่ มันอาจจะแนะนำฟีเจอร์ใหม่ให้คุณด้วย [1]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

การอัปเดตผ่าน iTunes

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. เชื่อมต่อไอโฟน ไอแพด หรือไอพอดทัช ของคุณกับคอมพิวเตอร์. คุณสามารถใช้ iTunes ในการดาวน์โหลดและอัปเดตเครื่องได้ ซึ่งมีข้อดีคือ เร็วกว่าการอัปเดตผ่านเครื่องโดยตรง และไม่ต้องเคลียร์ข้อมูลก่อนการอัปเดตด้วย
    • เมื่อเชื่อมต่อเครื่องกับคอมพิวเตอร์แล้ว ให้กด “Trust” ในหน้าต่างที่เด้งขึ้นมาในเครื่องของคุณ
  2. แต่ถ้ายังไม่ได้ติดตั้งโปรแกรมดังกล่าวไว้ คุณสามารถดาวน์โหลดได้ใน apple.com/itunes/download โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
  3. คลิกเลือกไอคอนที่เป็นรูปเครื่องของคุณในแถบที่อยู่ด้านบน. ซึ่งอาจใช้เวลาสักครู่หนึ่งกว่ามันจะแสดงขึ้นมา
  4. 4
    แบ็คอัพข้อมูล. ก่อนการอัปเดต โปรแกรมจะแนะนำให้คุณแบ็คอัพข้อมูลเผื่อมีอะไรผิดพลาด ถ้าคุณต้องการแบ็คอัพข้อมูลทั้งหมดที่อยู่ในเครื่อง ให้คลิกที่ “Back Up Now” โดยใช้เวลาประมาณ 1 - 2 นาทีในการแบ็คอัพ
  5. จากนั้นเครื่องก็จะตรวจสอบให้ว่ามีอัปเดตใหม่หรือไม่ ถ้ามี มันก็จะแสดงข้อมูลการอัปเดตขึ้นมา แต่ถ้าไม่ได้แสดงข้อมูลอะไร แสดงว่า iOS ในเครื่องของคุณเป็นเวอร์ชันล่าสุดแล้ว (คุณอาจได้รับแจ้งให้อัปเดตเครื่องอัตโนมัติ ถ้าคุณเชื่อมต่อเครื่องผ่าน iTunes เป็นครั้งแรก) ทั้งนี้สำหรับไอโฟน ไอแพด และไอพอดรุ่นเก่า จะไม่รองรับ iOS เวอร์ชันล่าสุด โดยเวอร์ชันสูงสุดที่เครื่องรุ่นเก่ารองรับมีดังนี้
    • เวอร์ชันสูงสุดที่ไอโฟน 4 รองรับคือ 7.1.2
    • เวอร์ชันสูงสุดที่ไอโฟน 3GS และไอพอดทัชรุ่นที่ 4 รองรับคือ 6.1.6
    • เวอร์ชันสูงสุดที่ไอแพดรุ่นแรกและไอพอดทัชรุ่นที่ 3 รองรับคือ 5.1.1
  6. จากนั้นโปรแกรมก็จะดาวน์โหลดตัวอัปเดตลงคอมพิวเตอร์ แล้วทำการอัปเดตให้กับเครื่องของคุณ กระบวนการนี้ใช้เวลาพอสมควร โดยคุณสามารถเช็คความคืบหน้าของการอัปเดตได้ในเครื่องของคุณ
  7. หลังติดตั้งตัวอัปเดตลงไอโฟน ไอแพด หรือไอพอดเสร็จเรียบร้อยแล้ว เครื่องจะให้คุณกรอกพาสโค้ดหรือให้ล็อกอินด้วยแอปเปิลไอดีก่อนใช้งาน และถ้าเป็นการอัปเดตใหญ่ มันอาจจะแนะนำฟีเจอร์ใหม่รวมถึงการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ให้คุณด้วย
    โฆษณา

ข้อมูลอ้างอิง

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 7,701 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา