ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การส่งข้อความเป็นหนึ่งในวิธีการที่ดีในการหว่านเสน่ห์ใส่ผู้ชาย โดยคุณอาจจะส่งข้อความหาคนที่เพิ่งเริ่มเรียนรู้กัน คนที่กำลังพัฒนาความสัมพันธ์ด้วย หรือคนที่คบกันมานานแล้วเพื่อกระชับความสัมพันธ์ก็ได้ คุณยังสามารถส่งข้อความเพื่อรักษาความสัมพันธ์ ดึงดูดความสนใจ หรือเพื่อผูกสัมพันธ์กับผู้ชายก่อนที่จะขยับความสัมพันธ์ไปอีกขั้นก็ยังได้

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

เปิดการสนทนาและเริ่มหว่านเสน่ห์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หากคุณต้องการอ่อยผู้ชายที่ยังไม่ได้จี๋จ๋ากัน คุณต้องเป็นฝ่ายเริ่มรุกด้วยการเริ่มบนสนทนาที่สร้างความโรแมนติก พอคุณเป็นฝ่ายรุก เขาก็จะเข้าใจคุณเองและหากเขามีท่าทีสนใจคุณก็พยายามพูดคุยกันต่อไปในทิศทางนี้ได้เลย [1]
    • ตัวอย่างเช่น เริ่มต้นโดยบอกอีกฝ่ายว่า "เมื่อคืนฉันฝันถึงคุณด้วยแหละ!” โดยสื่อเป็นนัยว่าคุณกำลังหว่านเสน่ห์ใส่เขาอยู่ การส่งข้อความแบบนี้จะสื่อว่าคุณกำลังอ่อยหรือฝันหวานถึงความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเขา และหากเขาเข้าใจไปในทางนั้น คุณอาจจะยิ่งหว่านเสน่ห์เพิ่มขึ้นได้เรื่อยๆ ตอนที่คุยกันต่อไป
    • หากเขามีท่าทีเมินเฉยต่อความนัยที่คุณสื่อ อาจแปลว่าเขาไม่ได้สนใจในตัวคุณขนาดนั้น
  2. ใครๆ ก็ชอบฟังเรื่องดีๆ เกี่ยวกับตัวเองทั้งนั้นแหละ และการชมเชยก็เป็นวิธีการหว่านเสน่ห์ที่ดีวิธีหนึ่งเลยล่ะ หากคุณอยากจะเริ่มการสนทนาเพื่อหว่านเสน่ห์ใส่อีกฝ่าย ลองชมอีกฝ่ายแบบอ่อยๆ เพื่อเริ่มต้นการสนทนาดูสิ
    • ตัวอย่างเช่น หากคุณกำลังเดทกับคนในทีมบาสเก็ตบอล ลองส่งข้อความไปว่า "จู่ๆ ในยิมก็ร้อนแรงขึ้นมาเลยล่ะตอนคุณเดินเข้ามาวันนี้น่ะ!”
    • จริงใจและตรงไปตรงมา คุณไม่จำเป็นต้องชมแค่รูปลักษณ์ของอีกฝ่าย แต่คุณควรชมอีกฝ่ายอย่างเฉพาะเจาะจงเลย เช่น แทนที่จะบอกว่า "คุณดูดีจังเลยค่ะ" ลองบอกไปว่า "รอยยิ้มคุณสวยมากเลย" แทน
  3. ตอนนี้อาจจะยังไม่ใช่เวลาที่จะส่งข้อความหาเขาตอนตีสองเว้นเสียแต่ว่าคุณสองคนเป็นแฟนกันแล้ว แต่การส่งข้อความหาตอนกลางคืนจะให้ความรู้สึกสนิทสนมและชวนให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าคุณกำลังหว่านเสน่ห์มากกว่าตอนกลางวัน [2]
    • การส่งข้อความตอนกลางคืนจะมีมนต์ขลังที่ชวนให้คุณทั้งสองปล่อยใจมากขึ้น ลองรอจนค่ำมืดก่อนแล้วค่อยส่งข้อความหาเขาดูสิ
    • คุณอาจจะพิมพ์ข้อความว่า “ฉันนอนอุตุอยู่บนเตียง คุณทำอะไรอยู่เหรอคะ?”
  4. เมื่อส่งข้อความ คุณอาจจะรู้สึกอยากทำตัวแบ๊วๆ อ้อนๆ หรือทำตัวเซ็กซี่กว่าที่คุณเป็นจริงๆ ซึ่งจริงๆ แล้วไม่มีความจำเป็นต้องทำเลย โดยเฉพาะหากเขารู้จักคุณแค่ผ่านข้อความ หากเจอกันจริงๆ แล้วเขาอาจจะคิดว่าคุณเป็นคนแบบเดียวกับตอนส่งข้อความได้นะ [3]
    • ตัวอย่างเช่น คุณไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องหมายตกใจเป็นล้านตอนส่งข้อความเพื่อแสดงให้เขาเห็นว่าคุณตื่นเต้นเพียงใดหรอกหากตัวจริงของคุณไม่ได้เป็นคนตื่นเต้นง่ายอะไรขนาดนั้น
  5. แม้ว่าคุณอาจจะไม่ต้องฝืนตัวเองเพื่อเป็นคนอื่น การแสดงด้านสนุกสนานของตัวเองผ่านข้อความนั้นไม่ใช่เรื่องผิดอะไร การส่งข้อความเปิดโอกาสให้คุณได้แสดงตัวตนผ่านข้อความสั้นๆ สบายๆ ดังนั้น การเผยด้านสนุกสนานออกมาจะทำให้เขาสนใจอยากรู้จักคุณมากขึ้นเอง [4]
    • ตัวอย่างเช่น หากคุณพักผ่อนยามค่ำคืนที่บ้านในชุดนอน ลองส่งข้อความไปบอกเขาเรื่องนี้ดู และบอกเขาว่าเมื่อคืนก่อนคุณสนุกสนานขนาดไหน เช่น "เมื่อคืนก่อน ออกไปเที่ยวกับเพื่อนสาวมากแหละ แต่เอาแต่คิดถึงคุณ อยากให้คุณมาด้วยกัน"
  6. การหยอกล้อจะช่วยสร้างความสนิทสนมตราบใดที่ผู้ชายคนนั้นเป็นคนมีอารมณ์ขัน สิ่งหนึ่งที่คุณอาจจะนำมาหยอกล้อเขาได้ก็เช่นเวลาโปรแกรมแก้คำผิดแก้ข้อความของเขาออกมาแบบฮาๆ ไงล่ะ [5]
    • ตัวอย่างเช่น หากเขาส่งข้อความมาบอกว่า "ผมคิดว่าตาข่ายของคุณเซ็กซี่มากๆ เลย" ในขณะที่ความจริงแล้วเขาอาจจะต้องการพิมพ์ว่า "ดวงตา" คุณอาจจะพิมพ์ตอบกลับไปว่า "โอ้โห คุณคิดว่า ‘ตาข่าย’ ของฉันเซ็กซี่เหรอคะ? ส่วนไหนของร่างกายฉันมี “ตาข่าย” เหรอ?”
  7. การตั้งชื่อเล่นให้อาจดูต๊องๆ แต่นี่เป็นวิธีที่จะทำให้เขารู้ว่าคุณชอบเขาอยู่ คุณอาจจะตั้งชื่อเท่ๆ แมนๆ หรือจะไปให้สุดด้วยการตั้งชื่อเล่นแบ๊วๆ บ๊องๆ ให้เขาเลยก็ได้ ไม่ว่าจะเลือกแบบไหน ลองเรียกเขาด้วยชื่อเล่นเวลาคุยกันผ่านข้อความเพื่อสื่อให้เขารู้ความในใจคุณ [6]
    • ตัวอย่างเช่น คุณอาจจะเรียกเขาว่า "พ่อกล้ามใหญ่" หรือ "พ่อเทพเจ้าธอร์" หากอยากให้ชื่อเล่นดูแมนๆ
    • หรือถ้าอยากจะแบ๊ว ลองเรียกว่า "ชูก้าพาย" หรือ "ที่รัก" ดูก็ได้
  8. การส่งข้อความเดิมๆ ทุกวันหาเขาในเวลาเดิมๆ อาจจะดูน่าเบื่อ ลองพยายามหลุดจากความเคยชินด้วยการเปลี่ยนข้อความไปเรื่อยๆ เพื่อที่เขาจะได้รู้สึกกระตือรือร้นที่จะอ่านอยู่เสมอ [7]
    • ตัวอย่างเช่น การส่งข้อความร่าเริงๆ อย่าง "อรุณสวัสดิ์ค่าที่รัก!” นั้นเป็นการทักทายยามเช้าที่ดีแต่ก็ไม่ควรจะส่งไปเสียทุกเช้า
    • ลองเปลี่ยนข้อความนิดหน่อยเป็น "ตื่นได้แล้วค่ะ มายซันชาย!” หรือ “รอเจอกันที่โรงเรียนไม่ไหวแล้ว!” ดูสิ
  9. หากคุณเจออะไรที่ย้ำเตือนให้คุณคิดถึงเขา ถ่ายรูปเก็บไว้ และส่งไปให้เขาพร้อมกับข้อความประกอบ บอกให้เขารู้ว่ารูปที่คุณถ่ายทำให้คุณคิดถึงเขา เขาจะยิ้มออกแน่ๆ ล่ะ [8]
    • ถ่ายแต่รูปสิ่งที่เขาสนใจหรือเป็นมุกที่เข้าใจกันระหว่างคุณและเขา
    • อย่าส่งภาพอะไรที่จริงจัง เช่น แหวนหรือเค้กแต่งงานไปให้เขาล่ะ
  10. หากคุณและเขาโต้ตอบกันผ่านข้อความ คุณต้องพยายามสานต่อบทสนทนาไม่ให้จบ การตอบสั้นๆ เป็นคำๆ จะไม่ทำให้บทสนทนาลื่นไหลไปได้ไกลหรอก ดังนั้น พยายามให้ความสำคัญกับสิ่งที่เขาตอบกลับมา ถามคำถาม หรือหาเรื่องใหม่ๆ มาคุยกันหากไม่มีอะไรจะพูดถึงเรื่องเก่าแล้ว [9]
    • ตัวอย่างเช่น หากเขาถามว่า "คุณชอบดูหนังไหม?" อย่าตอบกลับไปแค่ "ชอบสิ" แต่พยายามตอบอะไรที่จะทำให้คุยกันต่อไปเรื่อยๆ ได้ "ชอบสิ โดยเฉพาะเวลาได้ไปดูกับคนน่ารักๆ แบบคุณไง! เมื่อไหร่เราจะได้ไปดูหนังด้วยกันล่ะจ๊ะ?”
    • หรือคุณอาจจะลองเป็นฝ่ายถามคำถามเกี่ยวกับตัวเขาก็ได้ เช่น "แล้วปกติแล้วคุณชอบกินอะไรล่ะคะ?"
  11. คุณอาจจะอยากรีบส่งข้อความเซ็กซี่ๆ หาเขา แต่ทางที่ดีรอสักหน่อยดีกว่า จริงๆ แล้ว ทางที่ดีคุณควรรอจนกระทั่งได้คบกันกับเขาแล้วถึงค่อยส่งข้อความเซ็กซี่ๆ ไปหาเขา [10]
    • การหว่านเสน่ห์นิดๆ หน่อยๆ ถือว่าโอเค เช่น บอกเขาว่าคุณชอบดวงตาของเขา เป็นต้น
    • สิ่งที่คุณควรหลีกเลี่ยงคือการส่งข้อความเซ็กซี่เลยเถิดไปถึงเรื่องใต้สะดือและพยายามชวนเขาคุยข้อความทางเพศด้วยกัน แน่นอนว่าจะส่งข้อความอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับคุณ แต่คุณอาจจะทำให้เขาผวาได้หากจู่ๆ ส่งข้อความแนวนี้ไปให้ตั้งแต่แรกๆ ที่รู้จักกัน
  12. แม้ว่าพวกคุณจะคบกันแล้ว อย่าส่งรูปเซ็กซี่ของตัวเองไปให้เขาดีกว่า เพราะเมื่อรูปเหล่านั้นหลุดออกไปแล้ว คุณไม่สามารถดึงกลับมาได้ และก็ไม่มีอะไรจะกะรันตีได้ว่าคนอื่นๆ จะไม่ปล่อยรูปออกคุณออกไป [11]
    • ในขณะที่การส่งรูปหว่านเสน่ห์ทั่วๆ ไป เช่น รูปคุณส่งจุ๊บไปให้เขาเป็นเรื่องรับได้ อย่าส่งรูปที่คุณไม่อยากให้คุณยายของคุณเห็นหากรูปหลุดบนอินเตอร์เน็ตเพราะรูปของคุณอาจจะหลุดขึ้นมาและคุณยายของคุณก็อาจจะได้เห็นจริงๆ
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

การส่งข้อความก่อนและหลังเดทกัน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หากคุณอยากเดทกับเขา คุณอาจจะเริ่มบอกใบ้เขาได้ หากคุณไม่สามารถชวนเขาไปเดทตรงๆ ได้ ลองชวนแบบอ้อมๆ ดู เช่น คุณอาจจะบอกเขาไปว่าสุดสัปดาห์นี้คุณมีแผนจะทำอะไรและดูว่าเขาจะเล่นด้วยไหม [12]
    • คุณอาจจะส่งข้อความไปว่า "สุดสัปดาห์นี้คุณจะทำอะไรเหรอคะ? ฉันว่าจะไปดูหนังซักหน่อย คุณล่ะ?"
    • การบอกเขาว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่ก็คือการเปิดโอกาสให้เขาเสนอตัวไปด้วยนั่นแหละ
  2. หากคุณอยากจะพูดออกไปตรงๆ คุณอาจจะเป็นฝ่ายรุกและชวนเขาออกไปเที่ยวด้วยเองเลย ทำตัวสบายๆ ไว้ล่ะ เขาจะได้มีโอกาสถอยหากเขาไม่ได้สนใจคุณแบบที่คุณหวังไว้ [13]
    • ลองพิมพ์อะไรประมาณว่า "สัปดาห์นี้หนักหนามากเลย สุดสัปดาห์นี้เลยว่าจะไปหาอะไรสนุกๆ ทำเสียหน่อย สนใจไหมคะ?"
    • หรือคุณอาจจะพูดตรงๆ ไปเลยก็ได้ เช่น "ฉันอยากจะออกไปเที่ยวกับคุณบ้าง คุณอยากไปจิบกาแฟกันช่วงสุดสัปดาห์นี้ไหมคะ?"
  3. แสดงความกระตือรือร้นต่อเดทที่กำลังจะเกิดขึ้น. การส่งข้อความจะช่วยให้เขาตั้งตารอเดทที่จะเกิดขึ้นได้ ดังนั้น ลองส่งข้อความหาก่อนหรือวันที่กำลังจะได้เดทกันเพื่อบอกให้เขารู้ว่าคุณตื่นเต้นและรอคอยที่จะได้เจอเขา [14]
    • ตัวอย่างเช่น คุณอาจจะเขียนไปแบบเรียบๆ ว่า "รอเจอคุณคืนนี้ไม่ไหวแล้ว!”
    • หรือคุณอาจจะอ่อยอีกฝ่ายเพิ่มด้วยการชมเขาเสียหน่อย "ฉันรอเจอคุณคืนนี้ไม่ไหวแล้ว โดยเฉพาะคุณที่ใส่กางเกงยีนส์รัดๆ ตัวโปรดน่ะ"
  4. หากเดทผ่านไปได้อย่างราบรื่น การส่งข้อความไปบอกก็เป็นวิธีที่ดี แม้ว่าการโทรไปหาเลยอาจจะดีกว่า แต่ถ้าคุณไม่มีเวลาโทรหาในวันถัดมา การส่งข้อความไปหาก็จะช่วยให้เขารู้สึกมั่นใจได้ว่าคุณมีช่วงเวลาดีๆ เหมือนกัน [15]
    • แค่ส่งไปว่า "เมื่อคืนนี้สนุกมากเลยค่ะ!” ก็เพียงพอแล้ว
    • อย่างไรก็ตาม การระบุให้ชัดเจนขึ้นมาก็ไม่เลว เช่น "ฉันชอบร้านซูชิที่คุณพาไปเมื่อวานมากเลย อร่อยสุดๆ! แล้วฉันก็ชอบการได้ใช้เวลาร่วมกับคุณเมื่อคืนมากเลยค่ะ”
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

รู้ว่าอะไรควรหรือไม่ควร

ดาวน์โหลดบทความ
  1. แม้ว่าจะไม่มีข้อจำกัดว่าคุณควรส่งข้อความวันละกี่ครั้ง คุณควรจะคุยกับอีกฝ่ายโดยใช้ข้อความสั้นๆ การพิมพ์อะไรไปยาวๆ อาจจะชวนให้รู้สึกไม่อยากอ่านเพราะฝ่ายนั้นต้องกวาดตาอ่านจนจบเพื่อที่จะรู้ว่าคุณต้องการจะสื่ออะไร [16]
    • พูดง่ายๆ ก็คือ อย่าพิมพ์ยืนยาวราวกับแต่งนิยายให้เขาอ่าน
    • การใช้อักษรย่อภาษาอังกฤษก็ถือว่าโอเคหากอีกฝ่ายเข้าใจว่าคุณจะสื่ออะไร เช่น LOL (Laugh Out Loud "ขำชะมัด") หรือ BRB (Be Right Back "เดี๋ยวมานะ").
    • อย่างไรก็ดี คุณไม่ควรใช้อักษรย่อบ่อยเกินไปโดยเฉพาะกับคำที่คลุมเครือ [17] คำย่อพวกนี้รวมไปถึงอิโมจิต่างๆ อาจจะทำให้คนบางคนเบื่อหน่ายได้ [18]
  2. การเสียดสีผ่านข้อความเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะหากคุณไม่รู้จักผู้รับดีพอ หลีกเลี่ยงไม่ใช้ถ้อยคำเสียดสีเวลาอ่อยผู้ชายจนกระทั่งคุณทั้งสองรู้จักกันดีพอที่จะตีความน้ำเสียงของกันและกันได้แล้ว [19]
  3. บางครั้ง คุณอาจะรู้สึกว่าคุณต้องเล่นเกมกับอีกฝ่ายเพื่อให้เขารอเสียหน่อยก่อนจะตอบข้อความ การทำแบบนี้ก็เหมือนการเล่นหมาหยอกไก่ อย่างไรก็ดี เวลาที่ส่งข้อความกัน การไม่ตอบข้อความเกินหนึ่งวันก็เหมือนกับการบอกเขาว่าคุณไม่ชอบเขามากพอนะ [20]
    • ดังนั้น หากคุณชอบเขาเหมือนกันก็ตอบข้อความเขาให้ไวๆ หน่อย
    • เวลาส่งข้อความคุยกัน ตอบช้าไปแค่ชั่วโมงเดียวก็ถือว่านานแล้วนะ
  4. หากคุณส่งข้อความวันละยี่สิบข้อความ นั่นถือว่าเยอะแล้วโดยเฉพาะหากเขาตอบกลับมาไม่ครบทุกข้อความ พยายามส่งข้อความน้อยลงหน่อย สัก 3 ใน 5 ของที่เคยส่ง พอทำแบบนี้แล้วเขาจะได้มีเวลาคิดถึงคุณในช่วงระยะของการรอข้อความไงล่ะ [21]
    • หลีกเลี่ยงไม่ถามอีกฝ่ายว่า “เห็นข้อความที่ส่งไปหรือยัง?” เพราะอาจจะดูสิ้นหวังเกินไปได้ หากเขาไม่ตอบ เขาอาจจะแค่ยุ่งก็ได้นะ
  5. การส่งข้อความตอนเมาคือการทำสิ่งที่คุณอาจรู้สึกเสียดายภายหลัง คุณอาจจะอ่อยเกินกว่าที่ตั้งใจไว้ หรืออาจจะทำให้ผู้ชายหนีเพราะคุณพิมพ์อะไรบ้าๆ ออกไป แม้ว่าการหยุดตัวเองตอนเมาอาจจะเป็นเรื่องยาก พยายามหลีกเลี่ยงเท่าที่จะทำได้นะ [22]
  6. หากคุณเป็นพวกคลั่งการวิเคราะห์ ข้อความทางโทรศัพท์อาจจะเป็นฝันร้ายสำหรับคุณ เพราะสิ่งที่เห็นนั้นเพียงพอที่จะนำไปตีความได้ แต่ไม่มากพอที่จะให้รายละเอียดเป็นตุเป็นตะ หากคุณเป็นพวกชอบตีความ พยายามไม่จับประเด็นจากข้อความที่ได้เกินควร บางครั้งคำว่า "สวัสดีครับ" ก็เป็นแค่การทักทาย แต่ไม่ใช่สิ่งที่จะบอกว่าเขาไม่สนใจคุณเพียงแค่เพราะไม่มีเครื่องหมายตกใจตามหลังมา [23]
  7. เราต่างรู้ดีว่าโปรแกรมแก้คำผิดอัตโนมัตินั้นเป็นศัตรูกับผู้ส่งข้อความทุกคน อ่านทวนข้อความของคุณให้ดีก่อนส่ง คุณจะได้ไม่ต้องเห็นข้อความ "ฮะ?" กลับมาจากเขาไงล่ะ [24]
    • และแม้ว่าหลักไวยากรณ์จะไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญเวลาส่งข้อความ ตรวจทานหน่อยก็ดี ไม่ใช่ทุกคนจะรำคาญคนที่พิมพ์โดยใช้ไวยากรณ์ผิดๆ แต่คนน้อยกว่ามากที่จะเกลียดที่คุณใช้ไวยากรณ์ถูกๆ
    โฆษณา


เคล็ดลับ

  • เคารพการตัดสินใจหากฝ่ายชายไม่มีทีท่าสนใจ หากเขาไม่ชอบคุณก็หยุดหว่านเสน่ห์ใส่เขาซะ
  • เมื่อได้ไปเดทกัน พยายามพูดคุยกับเขาเหมือนกับเวลาที่คุณส่งข้อความหาเขา
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 21,763 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา