PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

เวลาที่คุณเขียนรายงานหรือหนังสือ จำเป็นมากที่จะต้องผนวกบรรณานุกรมหรือรายชื่อหนังสือ บทความ และการอ้างอิงอื่นๆ ทั้งหมดที่คุณใช้ในการให้ข้อมูลงานของคุณ บรรณานุกรมมักจะมีรูปแบบการเขียนอยู่สามแบบด้วยกัน: แบบของสมาคมจิตวิทยาแห่งอเมริกา (APA) สำหรับรายงานทางวิทยาศาสตร์, สมาคมภาษาสมัยใหม่ (MLA) สำหรับรายงานทางมนุษยศาสตร์ และแบบคู่มือชิคาโก (CMS) สำหรับหนังสือกับจุลสารทั่วไป

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

เขียนบรรณานุกรมแบบ APA

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. เหลือพื้นที่หน้ากระดาษในส่วนท้ายของรายงานไว้สำหรับบรรณานุกรม ตั้งชื่อหน้าว่า “บรรณานุกรม” ตามด้วยรายชื่อของบทความ หนังสือ ข้อมูลเว็บไซต์ และแหล่งข้อมูลอื่นที่คุณใช้ประกอบการให้ข้อมูลในชิ้นงาน
  2. บทความจะถูกอ้างอิงด้วยชื่อผู้เขียน ตามด้วยปีที่เผยแพร่ จากนั้นเป็นชื่อบทความ ชื่อผู้พิมพ์ เลขที่เล่มและฉบับ และจำนวนหน้าที่ถูกอ้างอิง รูปแบบจะเป็นไปตามนี้: ชื่อผู้เขียน, ก. ก., และ ชื่อผู้เขียน, ข. ข. (ปี) "ชื่อบทความ" ชื่อของจุลสาร , เลขที่เล่ม (เลขที่ฉบับ), หน้าที่อ้างอิง.
    • ตัวอย่าง: เจนเซ่น, โอ. อี. (2012). "ช้างแอฟริกัน" จุลสารซาวันนาห์, 2(1), 88.
    • ถ้าหากบทความนั้นเป็นการเรียกนำมาใช้งานจากทางอินเทอร์เน็ต ให้รวมคำว่า "นำมาจาก" ตามด้วยที่อยู่ของเว็บไซต์
    • ใส่ข้อมูลให้เยอะที่สุดเท่าที่จะหาได้ ถ้ามีข้อมูลไหนหายไป ก็ว่างเอาไว้
  3. เริ่มจากชื่อผู้เขียน ตามด้วยปีที่ตีพิมพ์ ชื่อหนังสือ ที่อยู่ของสำนักพิมพ์ และปิดท้ายด้วยชื่อสำนักพิมพ์ รูปแบบจะเป็นไปดังต่อไปนี้: ชื่อผู้เขียน, ก. ก. (ปี). ชื่อหนังสือ. สถานที่: สำนักพิมพ์.
    • ตัวอย่าง: เวอร์เดน บี. แอล. (1999). เสียงสะท้อนจากอีเดน. นิวยอร์ก, นิวยอร์ก: วันทูเพรส.
  4. อ้างอิงเว็บไซต์. ใส่ชื่อผู้เขียน. ปี/เดือน/วัน. หัวเรื่องของเว็บเพจ. และคำว่า “สืบค้นจาก” ตามด้วยที่อยู่เว็บไซต์ รูปแบบจะเป็นไปดังต่อไปนี้: ชื่อผู้เขียน, ก. ก. (ปี, เดือน, วัน). หัวเรื่องของเว็บเพจ/เอกสาร. สืบค้นจาก http://URL ตามหน้าที่อ้างอิง
    • ตัวอย่าง: ควอร์รี่, อาร์. อาร์. (พฤกษาคม 23, 2010). ฟ้าสะพรึง. สืบค้นจาก http://wildskies.com.
    • ถ้าหากไม่ปรากฏชื่อผู้เขียน ให้เริ่มด้วยชื่อเรื่อง หากไม่มีวันที่บอกไว้ ให้เขียนคำว่า “ม.ป.ป.” หรือ "n.d."
  5. APA ให้ใช้การอ้างอิงธรรมดาในวงเล็บโดยตรงหลังประโยคหรือแนวคิดในข้อเขียนของคุณซึ่งคุณใช้ประโยคที่อ้างอิงมา การอ้างอิงในตัวเนื้อความให้ข้อมูลที่จำกัด และจะสอดคล้องกับการอ้างอิงที่สมบูรณ์ครบถ้วนที่อยู่ในบรรณานุกรมตรงท้ายเล่ม
    • เวลายกการอ้างอิงขึ้นมากล่าวถึง ให้รวมชื่อสกุลของผู้เขียนและปีที่ตีพิมพ์ไว้ด้วย เช่น จากงานวิจัยแสดงให้เห็นว่าจำนวนประชากรผีเสื้อโมนาร์คได้ลดลงอย่างมากในช่วงสิบปีที่ผ่านมา (เจนเซ่น, 2011).
    • สำหรับการยกประโยคขึ้นมาอ้างอิงโดยตรง ให้รวมชื่อสกุลของผู้เขียน ปีและเลขหน้า เช่น ประชากรผีเสื้อโมนาร์คนั้น "ลดลงอย่างฮวบฮาบอันเนื่องมาจากภาวะโลกร้อน" (เจนเซ่น, 2011, น. 380).
    • ถ้าไม่ปรากฏชื่อผู้เขียน ให้ใช้คำสองสามคำแรกของชื่อผู้พิมพ์ เช่น มีการพบเห็นผีเสื้อน้อยลงในแถบชายฝั่งแคลิฟอร์เนีย (ข่าวผีเสื้อ, 2011).
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

เขียนบรรณานุกรมแบบ MLA

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. เว้นพื้นที่หน้าในตอนท้ายของหนังสือสำหรับบรรณานุกรม ซึ่งถูกเรียกเป็น "หนังสืออ้างอิง" ในแบบของ MLA ให้เขียนคำว่า "หนังสืออ้างอิง" บนสุดของหน้ากระดาษ และทำรายชื่อหนังสือ บทความ และเว็บไซต์ทั้งหมดที่คุณใช้เป็นแหล่งข้อมูลในหนังสือของคุณ
  2. เริ่มด้วยชื่อสกุลและชื่อแรกของผู้เขียน ตามด้วยชื่อบทความ ชื่อผู้พิมพ์ เลขที่เล่มและเลขที่ฉบับ วันที่ และเลขที่หน้า ให้แน่ใจว่าได้ใช้ตัวเอนและเครื่องหมายได้ถูกต้อง รูปแบบจะเป็นเช่นนี้: ชื่อสกุลของผู้เขียน, ชื่อหน้า. "ชื่อบทความ" ชื่อผู้พิมพ์ เลขที่เล่ม วันที่: เลขที่หน้า.
    • ตัวอย่าง: กรีน, มาช่า. "ชีวิตในคอสตราริกา" นิตยสารไซเอนซ์ 1 4 มีนาคม 2013: 1-2.
    • ใส่ข้อมูลให่ละเอียดที่สุดเท่าที่คุณมีของบทความนั้น
  3. ให้รวมชื่อสกุลและชื่อแรกของผู้เขียน ชื่อหนังสือ สถานที่พิมพ์ สำนักพิมพ์ และวันที่ตีพิมพ์ รูปแบบจะเป็นไปตามนี้: ชื่อสกุลผู้เขียน, ชื่อต้น. ชื่อหนังสือ . ข้อมูลเพิ่มเติม. สถานที่พิมพ์: สำนักพิมพ์, วันที่พิมพ์.
    • ตัวอย่าง: บัทเลอร์, โอลิเวีย. นิทานคติสอนใจของดอกไม้. ซาคราเมนโต: ซีดส์เพรส, 1996.
  4. เริ่มด้วยชื่อสกุลและชื่อต้นของผู้เขียน (ถ้ามี), ชื่อของบทความหรือโครงการ, ชื่อเว็บไซต์, วันที่เผยแพร่, ชื่อสถาบันที่ให้การสนับสนุน, วันที่เข้าเว็บ, และที่อยู่เว็บไซต์แบบเต็ม รูปแบบจะเป็นตามนี้: ชื่อสกุลผู้เขียน, ชื่อต้น. "ชื่อของชิ้นงานภายในโครงการหรือฐานข้อมูล" ชื่อของเว็บไซต์, โครงการ, หรือฐานข้อมูล ข้อมูลการเผยแพร่ทางอิเลคโทรนิคส์ (วันที่เผยแพร่หรือวันที่ปรับปรุงล่าสุด และชื่อของสถาบันที่ให้การสนับสนุน). วันที่เข้าเว็บ และ < URL> แบบเต็ม
    • ตัวอย่าง: จ็อง, จูน. "วิธีการเขียนความเรียง" ไรติ้งพอร์ทัล. 2 สิงหาคม 2012. มหาวิทยาลัยแห่งมลรัฐแคลิฟอร์เนีย. 23 กุมภาพันธ์ 2013. <http://writingportal.com>.
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

เขียนบรรณานุกรมแบบ CMS

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. เว้นหน้าสำหรับบรรณานุกรมในตอนท้ายของหนังสือหรือรายงาน เขียนคำว่า “บรรณานุกรม” บนหัวกระดาษ และใส่รายชื่อหนังสือ บทความ เว็บไซต์ทั้งหมดที่คุณใช้เป็นแหล่งข้อมูลอ้างอิงในตัวงาน
  2. เขียนชื่อเต็มของผู้เขียน, ชื่อบทความ, ชื่อวารสารหรือนิตยสาร, หมายเลขเล่ม, วันที่บทความได้รับการตีพิมพ์, และหมายเลขหน้า ถ้าคุณอ้างอิงหนังสือพิมพ์ ให้เว้นหมายเลขเล่มไว้ รูปแบบจะเป็นไปตามนี้: ชื่อต้นและชื่อสกุลของผู้เขียน. "ชื่อบทความ" ชื่อจุลสาร หมายเลขเล่ม (วันที่): หมายเลขหน้า.
    • ตัวอย่าง: สกายลาร์ มาร์ช. "ก้าวย่างบนผืนน้ำ" นิตยสารเอิร์ธ 4(2001): 23.
  3. เขียนชื่อเต็มของผู้เขียน, ชื่อหนังสือ, ชื่อสถานที่พิมพ์, ชื่อสำนักพิมพ์, ปีที่พิมพ์, และหมายเลขหน้า รูปแบบจะเป็นไปตามนี้: วอลเตอร์ ไวท์. อวกาศและเวลา . นิวยอร์ก: ลอนดอนเพรส, 1982.
  4. เขียนชื่อบริษัทหรือองค์กร, ชื่อหน้าเว็บหรือชื่อบทความ, วันที่ได้มีการปรับปรุงข้อมูลล่าสุด, และที่อยู่แบบเต็มของเว็บไซต์ รูปแบบจะเป็นไปตามนี้: ชื่อบริษัท. "ชื่อเว็บเพจ" วันที่ปรับปรุงล่าสุด. ที่อยู่เว็บไซต์.
    • ตัวอย่าง: มหาวิทยาลัยแห่งมลรัฐแคลิฟอร์เนีย "ประวัติของมหาวิทยาลัยแห่งมลรัฐแคลิฟอร์เนีย" ปรับปรุงครั้งล่าสุด เมษายน 3, 2013. http://universityofcalifornia.com.
    โฆษณา


เคล็ดลับ

  • ให้แน่ใจว่าได้ใส่แหล่งข้อมูลที่คุณอ้างอิงในผลงานของคุณไว้อย่างครบถ้วน


โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 7,143 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา