ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
ปกติเวลาจะเชื่อมต่อ external hard drive กับคอม ก็แค่เสียบสายเท่านั้น แต่ถ้าใช้ Macbook Pro หรือเครื่อง Mac ต้องฟอร์แมตฮาร์ดไดรฟ์เป็น file system ที่ Mac รองรับซะก่อน เวลาฟอร์แมตไดรฟ์ ข้อมูลทั้งหมดจะหายไป ถ้าฮาร์ดไดรฟ์เป็นฟอร์แมต NTFS มาแต่แรกเหมือนฮาร์ดไดรฟ์ที่ขายกันทั่วไป Mac OS X จะอ่านข้อมูลได้เฉยๆ เซฟข้อมูลไม่ได้
ขั้นตอน
-
เสียบฮาร์ดไดรฟ์ที่เครื่อง Mac ด้วยสายที่ติดมา. ฮาร์ดไดรฟ์ส่วนใหญ่จะเสียบต่อผ่านสาย USB ให้เสียบสายด้าน USB ที่พอร์ทว่างของ Mac ปกติที่แต่ละด้านของ Mac จะมี 1 พอร์ท USB ขึ้นไป
- บางไดรฟ์ที่ใช้กับ Mac โดยเฉพาะ จะมาพร้อมสาย Thunderbolt หรือ FireWire แบบนี้ต้องเสียบให้ถูกพอร์ท หรือหา adapter มาใช้ ถ้า Mac เครื่องนั้นไม่มีพอร์ทที่ใช้ได้
เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญช่างซ่อมคอมพิวเตอร์เจเรมี่ เมอร์เซอร์เป็นผู้จัดการและหัวหน้าช่างของ MacPro-LAในลอสแองเจลิส เขามีประสบการณ์ทำงานซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้ากว่าสิบปีและผ่านงานร้านค้าปลีกที่เน้นทั้งอุปกรณ์ระบบ Mac และ PCคุณเลือก external hard drive ได้ทั้งโดยพิจารณาตามราคาและความเร็ว บาง external hard drive จะเป็น HDD drive ทำให้ราคาถูกกว่า จุได้มาก แต่ก็ช้ากว่า ส่วน solid-state hard drive นั้นแพงขึ้นมาหน่อย แต่ทำงานเร็วกว่าเยอะ ที่สำคัญต้องเลือกสายสำหรับเสียบไดรฟ์กับ Mac ให้ถูกต้อง
-
เช็คไดรฟ์ที่หน้า desktop. ถ้าฟอร์แมตและเชื่อมต่อไดรฟ์ดีแล้ว ไดรฟ์จะไปโผล่ในหน้า desktop ของ Mac โดยเป็นไดรฟ์ที่มีไอคอน USB หรือ Thunderbolt
- ถึงเชื่อมต่อดีแล้ว บางทีไอคอนของไดรฟ์ก็อาจจะไม่โผล่มาในหน้า desktop ให้เช็คไดรฟ์ในกรอบซ้ายมือของหน้าต่าง Finder ในหัวข้อ "Devices"
- คุณตั้งค่าให้ไดรฟ์โผล่มาที่หน้า desktop ได้โดยคลิกเมนู Finder เลือก "Preferences" แล้วติ๊กช่อง "External disks" [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าไดรฟ์ไม่โผล่มาใน Finder หรือหน้า desktop ให้อ่านส่วนถัดไปของบทความ
-
เปิดไดรฟ์เพื่อดูไฟล์. ดับเบิลคลิกไดรฟ์ที่หน้า desktop หรือเลือกไดรฟ์จากในกรอบทางซ้ายของหน้าต่าง Finder เพื่อดูไฟล์ต่างๆ ในไดรฟ์ หลังจากนี้จะลากไฟล์ไปหย่อนในไดรฟ์ หรือ copy ไฟล์ลง internal hard drive ของ Mac ก็ได้โฆษณา
-
เปิด Disk Utility. external hard drive ส่วนใหญ่ จะเป็นแบบฟอร์แมตมาแล้วให้ใช้กับคอมพิวเตอร์ Windows ซึ่งจำกัดให้ใช้งานกับ Mac แทบไม่ได้ ถ้าได้ external drive ใหม่มา เป็นแบบใช้กับ Windows จะเปิดอ่านข้อมูลได้ แต่เซฟข้อมูลไม่ได้ แบบนี้ให้ฟอร์แมตเป็น file system ที่รองรับก่อน ด้วย Disk Utility
- ในหน้า Desktop ให้คลิกเมนู "Go" เลือก "Utilities" แล้วเลือก "Disk Utility"
- ฟอร์แมตไดรฟ์แล้วข้อมูลทั้งหมดจะถูกลบหายไป ถ้าเป็นไดรฟ์ใหม่เอี่ยมก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเป็นไดรฟ์เดิมที่ใช้อยู่ มีไฟล์ต่างๆ ข้างในที่อยากเก็บไว้ ต้องเซฟแยกไว้ก่อนฟอร์แมตไดรฟ์
-
เลือกฮาร์ดไดรฟ์จากเมนูทางซ้าย. จะเห็นรายชื่อไดรฟ์ทั้งหมดที่เชื่อมต่อไว้ในเมนูนี้ ให้เลือก external drive ใหม่จากในรายชื่อ
- ถ้าไม่เจอไดรฟ์ที่ใช้ตรงนี้ ให้อ่านส่วนถัดไปของบทความ
-
คลิกปุ่ม "Erase" ทางด้านบนของหน้าต่าง Disk Utility. เพื่อเริ่มขั้นตอนการฟอร์แมตไดรฟ์
- ทุกอย่าง ในฮาร์ดไดรฟ์ จะถูกลบไป เพราะงั้นอย่าลืม backup ข้อมูลสำคัญเก็บไว้ ถ้าไดรฟ์เป็นฟอร์แมต Windows ก็ copy ไฟล์ที่ต้องการจะใช้ต่อใน Mac ไว้ก่อนฟอร์แมตได้
-
เลือก "ExFAT" จากในเมนู "Format". ฟอร์แมตนี้ใช้ได้กับทั้ง Mac OS X, Windows และ Linux เลยย้ายฮาร์ดไดรฟ์ไปมาระหว่างระบบได้ง่าย ไม่เหมือน FAT เวอร์ชั่นก่อนๆ ปกติจะไม่มีจำกัดขนาดไฟล์หรือจำนวนไฟล์ชัดเจน เพราะงั้นก็ใช้กับไดรฟ์ขนาดไหนก็ได้
- ถ้าตั้งใจจะใช้ไดรฟ์กับ Mac เท่านั้น ให้เลือก "Mac OS Extended (Journaled)" เพื่อให้ใช้ทุกฟีเจอร์ของ Mac เช่น Time Capsule กับไดรฟ์นั้นได้เต็มประสิทธิภาพ
-
คลิก "Erase" เพื่อแปลงไดรฟ์เป็นฟอร์แมตที่เลือก. เป็นขั้นตอนที่ทำแล้วทำเลย แก้ไขไม่ได้ ข้อมูลทั้งหมด ในไดรฟ์ จะถูกลบหายไป ส่วนจะฟอร์แมตเสร็จเมื่อไหร่ ก็ขึ้นอยู่กับขนาดของไดรฟ์
-
ลองใช้ไดรฟ์ที่ฟอร์แมตใหม่. พอฟอร์แมตไดรฟ์ถูกต้องตามขั้นตอนแล้ว ไดรฟ์จะไปโผล่ที่หน้า desktop ให้ดับเบิลคลิกเพื่อเปิด เท่านี้ก็เพิ่มไฟล์ ลบไฟล์ ได้ตามสะดวกโฆษณา
-
เช็คว่าเชื่อมต่อไดรฟ์ถูกต้องแล้ว. เช็คว่าเสียบสายทั้งหมดที่เชื่อมต่อไดรฟ์กับ Mac ถูกต้องแล้ว ถ้าสายหลวม คอมจะสแกนไม่เจอไดรฟ์
-
ต้องจ่ายไฟให้ไดรฟ์เพียงพอ. บาง external drive ต้องเสียบสายจ่ายไฟแยก แบบนี้ต้องใช้สาย USB คู่ เป็นสายที่ด้านหนึ่งเป็นหัว USB เอาไว้เสียบ external drive กับอีกด้านเป็น 2 หัวเสียบ สำหรับเสียบที่ Mac [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
รีสตาร์ท Mac. ส่วนใหญ่ปัญหาการใช้งาน Mac หรือฮาร์ดไดรฟ์ แค่ปิดแล้วเปิดเครื่องก็มักจะแก้ได้ ให้ปิดคอมจากในเมนู Apple รอจนดับสนิท แล้วค่อยเปิดกลับขึ้นมาโดยกดปุ่ม Power เท่านี้ไดรฟ์ที่เสียบไว้ก็น่าจะโผล่มาหลังรีสตาร์ท
-
ลองใช้สายอื่นหรือพอร์ทอื่น. บางทีอาจจะใช้สาย USB ที่ชำรุด หรือหนึ่งในพอร์ท USB ของ Mac อาจจะทำงานผิดพลาด ให้ลองเสียบฮาร์ดไดรฟ์ที่พอร์ท USB อื่น หรือใช้สาย USB อื่นดู [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ใช้ First Aid ในไดรฟ์. Disk Utility จะมีบางฟังก์ชั่นสำหรับ repair หรือซ่อมแซมไดรฟ์ ช่วยให้ไดรฟ์ที่ทำงานผิดพลาด กลับมาปกติตามเดิม
- เปิด Disk Utility จากในโฟลเดอร์ Utilities
- เลือกไดรฟ์ แล้วคลิกปุ่ม "First Aid"
- คลิก "Run" เพื่อเริ่มสแกนไดรฟ์หา error
- อนุญาตให้ utility แก้ error ที่เจอ น่าจะทำให้ใช้ไดรฟ์ได้อีกครั้ง แต่ระวัง ถ้าเจอ error อาจเป็นสัญญาณแรกเริ่มว่าไดรฟ์กำลังจะล่ม
-
ลองเปลี่ยนไดรฟ์ใหม่. แน่นอนว่าสุดท้าย ฮาร์ดไดรฟ์ก็ต้องถึงคราวหมดอายุขัยสักวัน ยิ่งใช้นานไป ฮาร์ดไดรฟ์ก็ยิ่งเสื่อม เสี่ยงจะล่ม เอาจริงๆ แล้วคนส่วนใหญ่อาจจะแปลกใจด้วยซ้ำ ถ้ารู้ว่าไดรฟ์ใหม่แกะกล่องก็มีโอกาสล่มได้ง่ายกว่าที่คิด ถ้าไดรฟ์ของคุณอายุ 4 ปีขึ้นไป แล้วสแกนไม่เจอ ไม่ว่ายังไงก็ตาม เป็นไปได้มากว่าเสียซะแล้ว
- จะลองเอาไปเสียบกับคอมเครื่องอื่นก็ได้ ว่าจะโผล่มาไหม ถ้าสุดท้ายแล้วเครื่องสแกนไม่เจอ แสดงว่าถึงเวลาเปลี่ยนไดรฟ์แล้ว
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา