บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Kelli Miller, LCSW, MSW
. เคลลี่ มิลเลอร์เป็นนักจิตบำบัด นักเขียน และพิธีกรรรายการโทรทัศน์ในลอสแองเจลิส เคลลี่เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ในครอบครัวและชีวิตคู่ โรคซึมเศร้าและเรื่องเพศสัมพันธ์ เธอจัดการบำบัดกลุ่มที่ The Villa Treatment Center สำหรับผู้มีปัญหาเรื่องสุราและยาเสพติด เธอยังได้รับรางวัล Next Generation Indie Book Award สำหรับหนังสือ "Thriving with ADHD: A Workbook for Kids" และยังเขียน "Professor Kelli's Guide to Finding a Husband" เคลลี่ยังเป็นพิธีกรรายการ "The Dr. Debra and Therapist Kelli Show" ให้สถานีวิทยุ LA Talk Radio คุณสามารถติดตามเธอได้ที่อินสตราแกรม @kellimillertherapy เธอได้รับปริญญาโทด้านสังคมสงเคราะห์จากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย
มีการอ้างอิง 10 ข้อ
ที่อ้างอิงอยู่ในบทความ ซึ่งสามารถพบได้ทางด้านล่างของบทความ
บทความนี้ถูกเข้าชม 1,741 ครั้ง
เมื่อสามีหรือภรรยาไม่ยอมเก็บกวาดบ้านหลังจากทำรกไว้ เราก็อาจต้องเป็นฝ่ายเก็บกวาดให้เสียเอง ไม่ใช่เราคนเดียวที่ประสบปัญหานี้! ผู้อื่นก็พบปัญหานี้บ่อยมาก แต่เราสามารถขอความช่วยเหลือจากอีกฝ่ายให้เก็บบ้านจนสะอาดเรียบร้อยได้หลายวิธี มาดูกลวิธีที่ทำให้อีกฝ่ายช่วยเหลือโดยที่เราไม่ต้องจู้จี้จุกจิกกัน
ขั้นตอน
-
หาเวลาพูดคุยกับคู่สมรสถึงปัญหาที่เราประสบอยู่. พูดคุยอย่างใจเย็นว่าอะไรที่สร้างปัญหาให้เราและเราอยากเปลี่ยนแปลงอะไร เราอาจพูดอย่างเช่นว่า "ฉันรู้สึกเครียดจริงๆ ที่บ้านของเรารกอยู่เรื่อย เหมือนฉันต้องคอยเก็บกวาดบ้านตลอดและฉันเหนื่อย" [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ในการพูดคุยให้พูดเจาะจงลงไปเลยก็ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามี 1 หรือ 2 อย่างที่สร้างปัญหาให้เราจริงๆ ตัวอย่างเช่น เราอาจพูดเจาะจงไปว่า "ห้องน้ำมักจะมีคราบสกปรกเป็นประจำ ผ้าขนหนูก็วางไว้ไม่เป็นที่ เสื้อผ้าที่ใช้แล้วก็ถูกทิ้งเกลื่อนกลาดอยู่บนพื้น และมีคราบยาสีฟันอยู่บนอ่างล้างหน้า"
โฆษณา
-
อย่าเพิ่งตัดสินอีกฝ่ายแต่ให้เน้นว่าเราอยากเห็นอีกฝ่ายทำอะไร. อย่าใช้คำพูดกล่าวโทษอย่างเช่นว่า "คุณเป็นแบบนี้ตลอดเลย" หรือ "คุณไม่เคยเก็บกวาดทำความสะอาดเลย" เพราะคู่สมรสจะรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาทันที เราอาจพูดอย่างเช่นว่า "ฉันอยากให้คุณนำเสื้อผ้าที่ใช้แล้วไปใส่ไว้ในตะกร้า" แทนการพูดอย่างเช่นว่า "คุณไม่เคยเอาเสื้อผ้าที่ใช้แล้วไปใส่ไว้ในตะกร้าเลย" [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- คู่สมรสจะยินดีรับฟังเรื่องการทำความสะอาดบ้านมากขึ้น ถ้าเราไม่ทำให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องส่วนตัว ถ้าเราเริ่มโมโห อาจรอสักครู่ให้ตนเองใจเย็นลงก่อนที่จะเริ่มการสนทนาต่อ
- การสนทนาในเรื่องนี้ยังทำให้เห็นว่าอีกฝ่ายได้มีส่วนช่วยในการเก็บกวาดทำความสะอาดด้วยเหมือนกัน เช่น เราอาจไม่เคยรู้เลยว่าอีกฝ่ายช่วยปัดฝุ่นเฟอร์นิเจอร์จนกระทั่งได้กล่าวถึงเรื่องการเก็บกวาดทำความสะอาดบ้านขึ้นมา
-
เขียนรายการงานบ้านที่เราต้องทำทั้งหมดลงในกระดาษ. นั่งระดมความคิดกับคู่สมรสและเขียนรายการงานบ้านทั้งหมดที่เราต้องทำลงในกระดาษ อย่าลืมเขียนงานที่เราต้องทำสัปดาห์ละครั้งลงไปด้วยอย่างเช่น เอาขยะออกไปทิ้งหรือถูพื้นครัว ด้านล่างนี้คือตัวอย่างรายการงานบ้าน [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ห้องนอน: ซักผ้าปูที่นอน จัดข้าวของให้เป็นระเบียบ ดูดฝุ่น ปัดฝุ่นเฟอร์นิเจอร์
- ห้องน้ำ: ขัดอ่างอาบน้ำ อ่างล้างหน้า และส้วม ถูพื้น เปลี่ยนผ้าขนหนู ทำความสะอาดกระจก
- ห้องรับแขก: ดูดฝุ่น ถูพื้น จัดข้าวของให้เป็นระเบียบ ปัดฝุ่นเฟอร์นิเจอร์
- ห้องครัว: ทำความสะอาดตู้เย็น เช็ดถูท็อปเคาน์เตอร์ ขัดถูอ่างล้างจาน ล้างจานและคว่ำจาน นำขยะออกไปทิ้ง
โฆษณา
-
ดูสิว่าในงานบ้านทั้งหมดอีกฝ่ายชอบทำงานอะไรบ้าง. มาตัดสินร่วมกันว่าในรายการงานบ้านต่างๆ นี้คู่สมรสจะทำอะไรบ้างและเราจะทำอะไรบ้าง การแบ่งงานบ้านกันทำอาจยาก แต่ให้ช่วยกันตัดสินใจว่าเราได้แบ่งงานกันทำอย่างยุติธรรมหรือยัง หรือมีคนใดคนหนึ่งจะต้องรับผิดชอบงานบ้านมากกว่าหรือเปล่า ถ้าเกิดกรณีนั้นขึ้นมา พูดคุยกันสิว่าต่างฝ่ายต่างรู้สึกอย่างไร ถ้ามีใครรู้สึกไม่พอใจ เราต้องแบ่งงานกันใหม่ [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราไม่ได้ทำงานนอกบ้าน แต่คู่สมรสของเราใช้เวลาทำงานนอกบ้าน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เขาก็อาจไม่สามารถหาเวลาทำความสะอาดบ้านได้มากนัก ในกรณีนี้ให้เลือกงานสักสองสามอย่างที่เราอยากให้เขาช่วยจริงๆ อย่างเช่น นำผ้าที่ใช้แล้วใส่ในตะกร้า ล้างจาน ทำความสะอาดห้องทำงาน เป็นต้น จุดประสงค์คือเราจะได้ช่วยกันแบ่งเบาภาระของกันและกันเพื่อเราจะได้ต่างมีความสุขกับการช่วยกันทำให้บ้านสะอาด
- ยกตัวอย่างเช่น ถ้าอีกฝ่ายเกลียดงานบางอย่างมากจริงๆ อย่างเช่น การถูพื้น ลองหางานอื่นๆ ที่เขาชอบทำมากกว่าให้ทำแทนอย่างเช่น ดูดฝุ่น หรือจัดข้าวของให้เป็นระเบียบ
-
อย่าคาดหวังว่าคู่สมรสจะเปลี่ยนแปลงนิสัยชั่วข้ามคืน. ควรจะให้อีกฝ่ายเริ่มช่วยงานเล็กๆ น้อยๆ ก่อนและค่อยๆ เพิ่มงานเข้าไปเมื่อเขาเริ่มเต็มใจช่วยทำงานบ้านมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคู่สมรสไม่เคยเก็บกวาดห้องหลังจากทำรกเลย ก็ให้เขาเริ่มจากการนำเสื้อผ้าที่ใช้แล้วมาใส่ตะกร้าและจัดบริเวณพื้นที่ของตนเองในห้องนอนให้เป็นระเบียบเรียบร้อย [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เราอาจต้องปรับความคาดหวังไปทีละเล็กทีละน้อย ถ้าเราคาดหวังไว้สูงเกินไปตั้งแต่เริ่ม สุดท้ายเราก็อาจต้องลดความคาดหวังลง หรือถ้าอีกฝ่ายกระตือรือร้นที่จะทำงานต่างๆ ให้สำเร็จลุล่วง เราอาจเพิ่มงานให้เขาสักหนึ่งหรือสองอย่างก็ได้
โฆษณา
-
พยายามทำให้การทำความสะอาดบ้านเป็นกิจกรรมที่น่าสนุกสำหรับเราทั้งคู่. การจัดข้าวของให้เป็นระเบียบไม่ใช่กิจกรรมที่เราต่างตั้งตารอ แต่เราสามารถทำให้กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่น่าสนุกได้ ถ้าบ้านของเราต้องได้รับการทำความสะอาดอย่างละเอียด เปิดเพลงหรือพอดแคสต์ฟังขณะทำความสะอาดบ้านด้วยกัน [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เมื่อทำความสะอาดบ้านเสร็จแล้ว ให้ชมเชยกันและกันว่าทำงานได้ดีมาก เราอาจออกไปดื่มกาแฟหรือออกไปกินข้าวนอกบ้านและดูหนังด้วยกันเพื่อเป็นการให้รางวัลก็ได้
-
พูดคุยกับคู่สมรส เมื่อต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม. เราอาจไม่สบาย อยู่ในช่วงที่งานยุ่งมากเป็นพิเศษ หรืออยากให้คู่สมรสช่วยเหลือเรามากกว่านี้ ไม่ว่าเหตุผลจะเป็นอะไรก็ตาม แค่ขอความช่วยเหลือจากอีกฝ่ายโดยพูดให้ชัดเจนเมื่อต้องการความช่วยเหลือ การพูดออกไปตรงๆ ดีกว่าการหวังว่าอีกฝ่ายจะอ่านใจเราออกและอารมณ์เสียที่เขาไม่รู้ [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ยกตัวอย่างเช่น "ฉันมีประชุมพิเศษสัปดาห์นี้ คุณช่วยเอาผ้าเข้าเครื่องในวันพรุ่งนี้ให้หน่อยจะได้ไหม"
โฆษณา
-
การแก้ไขงานให้คู่สมรสแสดงให้เห็นว่าเขายังทำได้ไม่ดี. ถ้าอีกฝ่ายยังเห็นเราทำแบบนี้อยู่เรื่อยๆ เขาก็จะหยุดช่วยเหลือเรา สมมติว่าเราให้เขาช่วยพับผ้า แต่เราเห็นว่าเขาพับผ้าไม่เรียบร้อย จึงพับผ้าให้ใหม่ เมื่อเขาเห็น ก็อาจคิดว่าทำไมเขาถึงต้องพับผ้าด้วย ก็ในเมื่อเราตัดสินใจพับผ้าใหม่ด้วยตนเองอยู่ดี [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าเราเห็นว่าอีกฝ่ายทำบางสิ่งบางอย่างไม่ถูกต้อง อย่ารอช้าและบอกวิธีการที่ถูกต้อง สมมติเราเห็นเขาแยกผ้าที่จะซักไม่ถูกต้อง เราก็อาจบอกไปว่า "ปกติฉันจะแยกผ้าออกเป็น 3 กองคือผ้าขาว ผ้าสี และผ้าขนหนู"
-
ขอบคุณอีกฝ่ายที่ช่วยเหลือ เขาจะได้รู้ว่าสิ่งที่ตนเองทำมีคุณค่า. ในทางหนึ่งก็เป็นการขัดเกลาพฤติกรรมอีกฝ่ายให้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่เราอยากเห็น บอกคู่สมรสว่าเราเห็นเขาเก็บกวาดห้องและจัดข้าวของต่างๆ ในบ้านให้เป็นระเบียบโดยที่เราไม่ต้องร้องขอ การมีคนสังเกตเห็นและชื่นชมในสิ่งที่ตนเองทำนั้นก่อให้เกิดความรู้สึกที่ดี เราจึงทำให้อีกฝ่ายเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไปในทางที่ดีมากขึ้น [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- สมมติเราเห็นคู่สมรสเก็บจานอาหารเช้าไปล้างและคว่ำให้เรา เราก็อาจพูดอย่างเช่นว่า "ฉันเห็นคุณเก็บจานอาหารเช้าไปล้างและคว่ำให้ฉัน ขอบคุณมากนะที่ช่วย" แค่นี้อีกฝ่ายก็ดีใจแล้ว!
โฆษณา
-
พูดคุยกับคู่สมรสหากต้องการสับเปลี่ยนหน้าที่บางอย่าง. แค่เพราะว่าเราทั้งคู่ตัดสินใจเรียบร้อยแล้ว ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นไปตามการตัดสินใจนั้นตลอดไป! การเห็นผลของการตัดสินใจว่าเป็นอย่างไรและปรับเปลี่ยนไปตามความเหมาะสมจะทำให้ทั้งสองฝ่ายต่างได้ประโยชน์ [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ตัวอย่างเช่น ถ้าเราเริ่มตั้งครรภ์ เราก็ไม่ควรทำความสะอาดกระบะทรายอีกแล้ว ควรให้สามีทำหน้าที่นี้แทน ส่วนเราอาจทำหน้าที่ล้างจานแทนเขาหลังรับประทานอาหารเย็น
เคล็ดลับ
- ถ้าเราได้พยายามทำทุกอย่างแล้วแต่อีกฝ่ายก็ไม่ยอมรับและทำตามเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้ ให้จ้างแม่บ้านมาทำความสะอาดบ้านเป็นครั้งคราว จะได้เป็นการลดความกดดันของเราและส่งสัญญาณให้อีกฝ่ายเห็นว่าเราต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม [11] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://youtu.be/HUVnRQEva5Y?t=70
- ↑ https://youtu.be/Gapx9xphoOQ?t=92
- ↑ https://youtu.be/HUVnRQEva5Y?t=204
- ↑ https://www.seattletimes.com/life/what-to-do-when-husband-wont-help-with-the-chores/
- ↑ https://www.canadianliving.com/home-and-garden/article/how-to-get-your-spouse-to-clean-the-house
- ↑ https://youtu.be/HUVnRQEva5Y?t=468
- ↑ https://www.todaysparent.com/modern-marriage-till-chores-do-us-part/
- ↑ https://www.theglobeandmail.com/life/relationships/want-him-to-do-more-around-the-house-stop-mommying-him-new-book-says/article4472141/
- ↑ https://www.workingmother.com/10-proven-ways-to-get-your-husband-to-help-more-with-mental-load-and-chores#page-4
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
คำจำกัดสิทธิ์ความรับผิดชอบทางการแพทย์
เนื้อหาของบทความชิ้นนี้มิได้มีเจตนาที่จะใช้ทดแทนคำแนะนำ การตรวจ วินิจฉัยและการรักษาทางการแพทย์ คุณควรปรึกษาแพทย์หรือมืออาชีพทางการดูแลสุขภาพที่ได้รับอนุญาตเสมอ ก่อนที่จะทำการเริ่มต้น เปลี่ยนแปลง หรือหยุดการดูแลสุขภาพไม่ว่าประเภทใด