ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
Linux แทบทุกเวอร์ชั่น จะมี graphical user interface (GUI) ที่ให้ผู้ใช้เปิดโปรแกรมได้โดยคลิกไอคอนโปรแกรมในเมนู Apps แต่ก็อาจมีบางสถานการณ์ที่บังคับให้ต้องเปิดโปรแกรมจากใน Terminal ซึ่ง Terminal ที่ว่า ก็คือ tool หรือเครื่องมือสำคัญที่ใช้เปิดโปรแกรมและจัดการระบบ Linux ได้โดยพิมพ์คำสั่งผ่านคีย์บอร์ด บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการเปิดโปรแกรมด้วย Terminal ของ Linux ให้คุณเอง
ขั้นตอน
-
กด Ctrl + Alt + T เพื่อเปิด Terminal. คุณเปิด Terminal ของ Linux แทบทุกเวอร์ชั่น ได้ด้วยการกดคีย์ลัดที่คีย์บอร์ด คีย์ลัดที่ว่าก็คือ Ctrl + Alt + T หรือจะคลิกไอคอน Terminal ในเมนู Apps ก็ได้ ปกติไอคอนจะเป็นหน้าจอสีดำ มีเคอร์เซอร์สีขาวบอกตำแหน่งพิมพ์
-
พิมพ์ชื่อโปรแกรมแล้วกด ↵ Enter . จะต่างจาก command-line (CMD) ของ Windows ตรงที่ไม่ต้องพิมพ์ directory path เต็มๆ ไม่ต้องเปลี่ยน directories ของโปรแกรมส่วนใหญ่ใน Linux ขอแค่โปรแกรมนั้นอยู่ในตัวแปร "$PATH" Linux ก็จะค้นหาโปรแกรมใน $PATH แล้วเปิดให้อัตโนมัติ
- เช่น ถ้าจะเปิด Firefox จากใน Terminal ก็แค่พิมพ์ firefox แล้วกด Enter
- พิมพ์ -h หรือ --help ต่อท้ายชื่อโปรแกรม เพื่อเปิด help menu หรือเมนูช่วยเหลือของโปรแกรมนั้น หลายโปรแกรมจะมีส่วนขยายต่อท้ายคำสั่ง ใช้เปิดโปรแกรมแบบเจาะจงได้ เช่น เปิดเว็บในเบราว์เซอร์ โดยพิมพ์ชื่อเบราว์เซอร์ ตามด้วยชื่อเว็บ แล้วกด Enter เพื่อเปิดเว็บที่ระบุในเบราว์เซอร์นั้น (เช่น firefox www.wikihow.com )
- ถ้ามีข้อความขึ้นว่าไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดโปรแกรมนั้น หรือปฏิเสธการเข้าถึง ให้พิมพ์ sudo ข้างหน้าชื่อโปรแกรม แล้วกด Enter โดยคำสั่ง "sudo" ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถใช้คำสั่งใน Terminal แบบมีสิทธิ์แอดมิน (administrative privileges) หรือ root access ได้
- ถ้าจะเปิดโปรแกรมภาษา C หรือ C++ จากใน Terminal ต้อง complie โปรแกรมก่อน ถึงจะเปิดจากใน Terminal ได้
โฆษณา
-
กด Ctrl + Alt + T เพื่อเปิด Terminal. คุณเปิด Terminal ของ Linux แทบทุกเวอร์ชั่น ได้ด้วยการกดคีย์ลัดที่คีย์บอร์ด คีย์ลัดที่ว่าก็คือ Ctrl + Alt + T หรือจะคลิกไอคอน Terminal ในเมนู Apps ก็ได้ ปกติไอคอนจะเป็นหน้าจอสีดำ มีเคอร์เซอร์สีขาวบอกตำแหน่งพิมพ์
-
พิมพ์ cd เว้นวรรค แล้วตามด้วยตำแหน่งที่เซฟไฟล์ของโปรแกรมไว้. ถ้าเซฟไฟล์สำหรับเปิดโปรแกรมไว้นอกตัวแปร $PATH ก็ต้องไปที่ตำแหน่งนั้นผ่าน Terminal โดยใช้คำสั่ง "cd" เช่น ถ้าเซฟโฟลเดอร์โปรแกรม Python ไว้ในโฟลเดอร์ "Documents" ก็ให้ไปที่โฟลเดอร์นั้นผ่าน Terminal โดยพิมพ์ cd ~/Documents/Python หรืออื่นๆ ที่ใกล้เคียง แล้วกด Enter
-
พิมพ์ chmod a+x [filename] แล้วกด ↵ Enter . แทนที่ "filename" ด้วยไฟล์จริงที่ใช้เปิดโปรแกรม โดยคำสั่ง "chmod a+x" ใช้บอก Linux ว่าไฟล์นั้นเป็นไฟล์ executable [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
พิมพ์ ". /" ตามด้วยชื่อไฟล์สำหรับเปิดโปรแกรม แล้วกด ↵ Enter . เพื่อเปิดโปรแกรม เช่น ถ้ามีไฟล์ Python ชื่อ "Helloworld.py" ก็ให้พิมพ์ ./helloworld.py เพื่อเปิดไฟล์ [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
-
กด Ctrl + Alt + T เพื่อเปิด Terminal. ถ้าเปิดโปรแกรมโดยพิมพ์ชื่อโปรแกรมไม่ได้ อาจจะต้องเพิ่ม directory ที่ติดตั้งโปรแกรมนั้นไว้ ในตัวแปร $PATH ก่อน ทำขั้นตอนนี้ใน Terminal ได้เลย ให้ใช้คีย์ลัดเปิด Terminal ก่อน ถ้ายังไม่ได้ทำ
-
พิมพ์คำสั่ง export directory ของโปรแกรมไปยังตัวแปร $PATH. โดยพิมพ์ export PATH=$PATH:[path/to/program] แล้วกด Enter เปลี่ยน "[path/to/program]" เป็น directory tree จริงๆ ที่ติดตั้งโปรแกรมไว้ แต่จะไม่มีผลหลังจบ session นั้น
- เช่น ถ้าติดตั้งโปรแกรมไว้ใน directory "bin" ของโฟลเดอร์ "Home" ก็ให้พิมพ์ export PATH=$PATH:$Home/bin แล้วกด Enter เพื่อสร้าง directory "$Home/bin" ไว้ชั่วคราว ในตัวแปร $PATH
- เช็คได้ว่าเพิ่ม directories ไหนในตัวแปร $PATH แล้ว โดยพิมพ์คำสั่ง echo $PATH แล้วกด Enter
-
พิมพ์ nano ~/.bashrc แล้วกด ↵ Enter . เพื่อเปิดไฟล์ ".bashrc" ใน text editor ของ Terminal คุณใช้ไฟล์นี้เพิ่ม directory ชั่วคราวในตัวแปร $PATH ได้
-
เพิ่มคำสั่ง "export PATH" ในไฟล์. โดยเลื่อนเมาส์ลงไปที่ท้ายไฟล์แล้วพิมพ์ export PATH=$PATH:[path/to/program] ด้านล่าง เปลี่ยน "[path/to/program]" เป็น directory tree จริงที่ติดตั้งโปรแกรมไว้ [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
กด Ctrl + X . เพื่อออกจาก text editor จะมีถามว่าจะเซฟไฟล์ไหม
-
กด Y แล้วกด ↵ Enter . เพื่อยืนยันว่าจะเซฟแล้วออกจาก text editor หลังจากนี้จะกลับไปที่ command prompt ปกติของ Terminal
-
พิมพ์ source ~/.bashrc แล้วกด ↵ Enter . เพื่อโหลดตัวแปร $PATH ที่อัปเดทแล้วใน session ปัจจุบัน [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
พิมพ์ชื่อโปรแกรม แล้วกด ↵ Enter . พอเพิ่ม directory ของโปรแกรมในตัวแปร $PATH แล้ว ก็จะเปิดโปรแกรมได้ง่ายๆ แค่พิมพ์ชื่อโปรแกรมแล้วกด Enterโฆษณา
-
กด Ctrl + Alt + T เพื่อเปิด Terminal. นอกจากเปิดโปรแกรมจากใน Terminal แล้ว ยังติดตั้งและถอนการติดตั้งโปรแกรมจากใน Terminal ได้ด้วย ให้ใช้คีย์ลัดเปิด Terminal ก่อน ถ้ายังไม่ได้เปิด
-
พิมพ์ sudo apt install [app_name] แล้วกด ↵ Enter (Debian). เปลี่ยน "[app_name]" เป็นชื่อโปรแกรมที่จะติดตั้ง โดยคำสั่งนี้ใช้ได้กับ Linux เวอร์ชั่น Debian อย่าง Ubuntu และ Mint
-
พิมพ์ sudo apt remove [app_name] แล้วกด ↵ Enter (Debian). เปลี่ยน "[app_name]" เป็นชื่อโปรแกรมที่จะถอนการติดตั้ง โดยคำสั่งนี้ใช้ได้กับ Linux เวอร์ชั่น Debian อย่าง Ubuntu และ Mint
-
พิมพ์ sudo dnf install [app_name] แล้วกด ↵ Enter (Red Hat). เปลี่ยน "[app_name]" เป็นชื่อโปรแกรมที่จะติดตั้ง โดยคำสั่งนี้ใช้ได้กับ Linux เวอร์ชั่น Red Hat อย่าง RHEL, Fedora และ CentOS
-
พิมพ์ sudo dnf remove [app_name] แล้วกด ↵ Enter (Red Hat). เปลี่ยน "[app_name]" เป็นชื่อโปรแกรมที่จะถอนการติดตั้ง โดยคำสั่งนี้ใช้ได้กับ Linux เวอร์ชั่น Red Hat อย่าง RHEL, Fedora และ CentOS [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
พิมพ์ชื่อโปรแกรมแล้วกด ↵ Enter . พอติดตั้งโปรแกรมแล้ว ก็เปิดโปรแกรมได้ง่ายๆ แค่พิมพ์ชื่อโปรแกรม แล้วกด Enter ใน Terminalโฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://unix.stackexchange.com/questions/639438/whats-the-difference-between-chmod-ax-and-chmod-x
- ↑ https://ostoday.org/linux/how-to-run-a-program-in-linux-terminal.html
- ↑ https://unix.stackexchange.com/questions/3809/how-can-i-make-a-program-executable-from-everywhere
- ↑ https://linuxize.com/post/how-to-add-directory-to-path-in-linux/
- ↑ https://opensource.com/article/18/8/how-install-software-linux-command-line
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 4,432 ครั้ง
โฆษณา