ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการอนุญาตให้เบราว์เซอร์เซฟคุกกี้ (cookies) ของเว็บไว้ คุกกี้ที่ว่าก็คือชิ้นส่วนข้อมูลที่ช่วยให้เบราว์เซอร์จดจำข้อมูลของคุณได้ เช่น username, รหัสผ่าน และ preferences ของเว็บต่างๆ ถ้าเป็น iPhone กับ iPad ทั้ง Firefox และ Chrome จะเปิดใช้คุกกี้ไว้อยู่แล้ว และปิดเองไม่ได้
ขั้นตอน
-
เปิด Google Chrome . ที่ไอคอนเป็นลูกกลมสีเขียว เหลือง แดง และฟ้า
-
คลิก ⋮ . ที่มุมขวาบนของหน้าต่าง Chrome แล้วเมนูจะขยายลงมา
-
คลิก Settings . ที่เป็นตัวเลือกทางด้านล่างของเมนูที่ขยายลงมา เพื่อเปิดหน้า Settings
-
เลื่อนลงไปคลิก Advanced ▼ . ทางด้านล่างสุดของหน้า Settings เพื่อดูตัวเลือกเพิ่มเติม
-
เลื่อนลงไปคลิก Content Settings … . ที่เป็นตัวเลือกทางด้านล่างของหัวข้อ "Privacy and security"
-
คลิก Cookies . ทางด้านบนของหน้า
-
คลิกสวิตช์ "Allow sites to save and read cookie data (recommended)" สีเทา . ให้กลายเป็นสีฟ้า เท่านี้ Google Chrome ก็จะอนุญาตให้ใช้คุกกี้แล้ว
- ถ้าสวิตช์นี้เป็นสีฟ้าอยู่แล้ว แสดงว่า Google Chrome ใช้คุกกี้อยู่
โฆษณา
-
เปิด Google Chrome . แตะไอคอนของ Chrome ที่เป็นลูกกลมสีเขียว เหลือง แดง และฟ้า
- ถ้าใช้ Google Chrome ใน iPhone กับ iPad ก็ไม่ต้องเปลี่ยน cookie settings เพราะเปิดใช้อยู่แล้วตามค่าตั้งต้น
-
แตะ ⋮ . ที่มุมขวาบนของหน้าจอ แล้วเมนูจะขยายลงมา
-
แตะ Settings . ที่เป็นตัวเลือกทางด้านล่างของเมนูที่ขยายลงมา เพื่อเปิดหน้า Settings
-
แตะ Site settings . ปกติจะอยู่กลางหน้า Settings
-
แตะ Cookies . ทางด้านบนของหน้าจอ
-
แตะสวิตช์ "Cookies" สีเทา . ทางด้านบนของหน้าจอ สวิตช์จะกลายเป็นสีฟ้า แปลว่า Google Chrome เปิดใช้คุกกี้แล้ว
- ถ้าสวิตช์นี้เป็นสีฟ้าอยู่แล้ว แสดงว่า Google Chrome ใช้คุกกี้อยู่
โฆษณา
-
เปิด Firefox. ที่ไอคอนเป็นรูปหมาจิ้งจอกสีส้มกอดโลกสีฟ้า
-
คลิก ☰ . ที่มุมขวาบนของหน้าต่าง Firefox แล้วเมนูจะขยายลงมา
-
คลิก Options . กลางเมนูที่ขยายลงมา เพื่อเปิดหน้า Settings
- ถ้าใช้ Mac หรือ Linux ให้คลิก Preferences แทน
-
คลิก tab Privacy & Security . ปกติ tab นี้จะอยู่ทางซ้ายของหน้า
-
คลิกช่อง "Firefox will" ให้ขยายลงมา. ปกติจะอยู่ในหัวข้อ "History" กลางหน้า คลิกแล้วเมนูจะขยายลงมา
-
คลิก Use custom settings for history . ที่เป็นตัวเลือกในเมนูที่ขยายลงมา แล้วจะเห็นตัวเลือกเพิ่มเติม ล่างหัวข้อ "History"
-
ติ๊กช่อง "Accept cookies from websites". เพื่อเปิดใช้คุกกี้ในเบราว์เซอร์ Firefox
- ถ้าช่องนี้ติ๊กไว้ แสดงว่า Firefox ใช้คุกกี้อยู่
โฆษณา
-
เปิด Firefox. แตะไอคอนของ Firefox ที่เป็นรูปหมาจิ้งจอกสีส้มกอดโลกสีฟ้า
- ถ้าใช้เบราว์เซอร์ Firefox ใน iPhone หรือ iPad ไม่ต้องเปลี่ยน cookie settings เพราะเปิดใช้คุกกี้อยู่แล้ว
-
แตะ ⋮ . ที่มุมขวาบนของหน้าจอ แล้วเมนูจะขยายลงมา
-
แตะ Settings . ที่เป็นตัวเลือกทางด้านล่างของเมนูที่ขยายลงมา เพื่อเปิดหน้า Settings
-
แตะ Privacy . ปกติจะอยู่แถวๆ กลางหน้า
-
แตะ Cookies . ทางด้านบนของหน้า แล้วจะมีหน้าต่าง pop-up โผล่มา
-
แตะ Enabled . ที่เป็นตัวเลือกทางด้านบนของเมนู pop-up เพื่อเปิดใช้คุกกี้ในเบราว์เซอร์ Firefoxโฆษณา
-
เปิด Microsoft Edge. ที่ไอคอนเป็นตัว "e" สีขาวบนพื้นน้ำเงิน แต่บางทีก็อยู่ตำแหน่งอื่นในคอม โดยเป็นตัว "e" สีน้ำเงิน
-
คลิก ⋯ . ที่เป็นไอคอนมุมขวาบนของหน้าต่าง แล้วเมนูจะขยายลงมา
-
คลิก Settings . ทางด้านล่างของเมนูที่ขยายลงมา แล้วเมนู Settings จะโผล่มาทางขวาของหน้าต่าง
-
เลื่อนลงไปคลิก View advanced settings . ปกติปุ่มนี้จะอยู่ทางด้านล่างของเมนู Settings คลิกแล้วหน้า Advanced ของเมนูจะเปิดขึ้นมา
-
เลื่อนลงไปคลิกช่อง "Cookies" ให้ขยายลงมา. เป็นตัวเลือกทางด้านล่างของเมนู คลิกแล้วเมนูจะขยายลงมา
-
คลิก Don't block cookies . ในเมนูที่ขยายลงมา เท่านี้ Microsoft Edge ก็เปิดใช้คุกกี้เรียบร้อยโฆษณา
-
เปิด Internet Explorer. ที่เป็นไอคอนตัว "e" สีฟ้าอ่อน มีแถบเหลืองคาด
-
คลิกไอคอน "Settings" . จะเป็นไอคอนรูปฟันเฟือง มุมขวาบนของหน้าต่าง Internet Explorer คลิกแล้วเมนูจะขยายลงมา
-
คลิก Internet options . ที่เป็นตัวเลือกทางด้านบนของเมนูที่ขยายลงมา เพื่อเปิดหน้าต่าง Internet Options
- กว่าจะคลิก Internet options ในเมนูที่ขยายลงมาได้ อาจต้องรอ 2 - 3 วินาที
-
คลิก tab Privacy . ที่เป็นตัวเลือกทางด้านบนของหน้าต่าง Internet Options
-
คลิก Advanced . ทางขวาสุดของหัวข้อ "Settings" ในหน้าต่าง เพื่อเปิดหน้าต่าง pop-up Settings
-
ติ๊กช่อง "Accept" ให้หมด. ช่องที่ว่าจะอยู่ในหัวข้อ "First-party Cookies" และ "Third-party Cookies" ตามลำดับ
- ถ้าช่องที่ว่าติ๊กไว้แล้ว ก็ไม่ต้องทำขั้นตอนนี้
-
ติ๊กช่อง "Always allow session cookies". แถวๆ กลางหน้าต่าง
- ถ้าช่องที่ว่าติ๊กไว้แล้ว ก็ไม่ต้องทำขั้นตอนนี้
-
คลิก OK . ทางด้านล่างของหน้าต่าง เพื่อยืนยันค่าใหม่ แล้วปิดหน้าต่าง
-
คลิก Apply แล้วคลิก OK . ทั้ง 2 ตัวเลือกจะอยู่ด้านล่างของหน้าต่าง Internet Options คลิกแล้วเท่ากับใช้ค่าใหม่กับ Internet Explorer และปิดหน้าต่าง Internet Options เท่านี้ Internet Explorer ก็เปิดใช้คุกกี้เรียบร้อย
- ถ้าไม่ได้เปลี่ยนอะไรในหน้าต่าง pop-up Settings ก็ไม่ต้องคลิก Apply
โฆษณา
-
เปิด Safari. คลิกไอคอนของ Safari ที่เป็นรูปเข็มทิศสีฟ้า ปกติอยู่ใน Dock ของ Mac
-
คลิก Safari . ที่เป็นเมนูมุมซ้ายบนของหน้าจอ แล้วเมนูจะขยายลงมา
-
คลิก Preferences… . ในเมนู Safari ที่ขยายลงมา เพื่อเปิดหน้าต่าง Preferences
-
คลิก tab Privacy . ที่เป็นไอคอนรูปมือ ทางด้านบนของหน้าต่าง Preferences
-
เอาติ๊กออกจากช่อง "Block all cookies". ปกติจะอยู่ในหัวข้อ "Cookies and website data" ทางด้านบนของหน้าต่าง พอเอาติ๊กออกแล้ว Safari ก็จะใช้คุกกี้ได้
- ถ้าช่องนี้ไม่ได้ติ๊กไว้ ก็แสดงว่า Safari ไม่ได้บล็อกคุกกี้อยู่
โฆษณา
-
เปิด Settings ใน iPhone. แตะไอคอน Settings ที่เป็นฟันเฟืองบนพื้นเทา
- ถ้าใช้ Android จะไม่มี Safari
-
เลื่อนลงไปแตะ Safari . จะอยู่ลงไปประมาณ 1/3 ของหน้า Settings แตะแล้วเมนู settings ของ Safari จะโผล่มา
-
เลื่อนลงไปที่หัวข้อ "PRIVACY & SECURITY". หัวข้อนี้อยู่แถวๆ กลางเมนู Safari
-
แตะสวิตช์ "Block All Cookies" สีเขียว . ทางขวาของหน้าจอ พอสวิตช์เป็นสีขาว แปลว่าเปิดใช้คุกกี้ในเบราว์เซอร์ Safari ของ iPhone เรียบร้อย
- ถ้าสวิตช์เป็นสีขาวอยู่แล้ว แสดงว่าเปิดใช้คุกกี้ในเบราว์เซอร์เรียบร้อย
โฆษณา
เคล็ดลับ
- ถ้าเปิดใช้คุกกี้ไว้แต่เว็บยังขึ้นว่าให้เปิดคุกกี้ก่อน ให้ลอง ล้าง cache ของเบราว์เซอร์ และ ล้างคุกกี้ในเบราว์เซอร์ ก่อน
- คุกกี้มี 2 ประเภทหลักๆ ด้วยกัน คือ first-party cookies คือคุกกี้ที่เบราว์เซอร์ดาวน์โหลดมาเพื่อจดจำ preferences กับ third-party cookies ที่ให้เว็บอื่นที่คุณไม่ได้เข้า เช็คข้อมูลการท่องเว็บของคุณได้
โฆษณา
คำเตือน
- คุกกี้สำคัญต่อการโหลดบางอย่างในหน้าเว็บขึ้นมา เพราะงั้นทางที่ดีไม่ควรปิดคุกกี้ของเบราว์เซอร์ [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา