ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
นครวาติกันเป็นรัฐเอกราชที่มีขนาดพื้นที่เล็กที่สุดในโลก บริเวณที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของกรุงโรมถูกประกาศอิสรภาพในปี 1929 นครวาติกันเป็นสถานที่ตั้งหลักของคริสตจักรโรมันคาทอลิกและมีพลเมืองอาศัยไม่ 1,000 คน ภายในกำแพงของนครแห่งนี้คุณจะได้พบกับงานศิลปะ วัตถุบูชาทางศาสนา และศิลปวัตถุทรงคุณค่านับไม่ถ้วน หากคุณต้องการจะไปเยือนนครวาติกันและเข้าเยี่ยมชมภายใน อย่างโบสถ์น้อยซิสทีนหรือมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ คุณจำต้องวางแผนล่วงหน้า พิพิธภัณฑ์วาติกันนั้นต้องเสียค่าเข้าชมและการเดินชมภายในนครนั้นจะดูสับสนสำหรับคนที่เพิ่งเคยไปหนแรกอย่างแน่นอน เรียนรู้ว่าจะไปเยี่ยมชมนครวาติกันอย่างไร
ขั้นตอน
-
วางแผนการเดินทางหากต้องการจะเห็นพระสันตะปาปา. นี่จะต้องวางแผนล่วงหน้าเพราะพระองค์จะทรงออกมาพบกับประชาชนในวันพุธและวันอาทิตย์ ถ้าต้องการจะได้รับพรจากองค์พระสันตะปาปาในวันอาทิตย์ คุณจะต้องไปถึงแต่เนิ่นๆ ก่อนเที่ยงเพื่อหาตำแหน่งดีๆ ในการมองเห็นท่านท่ามกลางผู้คนที่อยู่แน่นจัตุรัส
- คุณสามารถขอบัตรเพื่อเข้าพบพระองค์ในระหว่างการออกพบปะประชาชนประจำวันพุธได้ถ้าคุณไปที่นั่นในช่วงระหว่างเดือนกันยายนถึงเดือนมิถุนายน ให้ไปที่ vatican.va เพื่อกรอกแบบฟอร์มและส่งโทรสารกลับไปยังหมายเลขที่อยู่บนแบบฟอร์มนั้น
-
หาดูว่ากิจกรรมในวาติกันใดที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายและกิจกรรมใดที่ต้องจ่ายค่าเข้าชม. พิพิธภัณฑ์วาติกันกับโบสถ์น้อยซิสทีนนั้นมีค่าเข้าชมรวมกันประมาณ 15 ยูโร ($19, 12ปอนด์, 580 บาท) และโดมของวิหารเซนต์ปีเตอร์อีกราวประมาณ 6 ยูโร ($6.4, 4.8 ปอนด์, 200 บาท) ส่วนวิหารเซนต์ปีเตอร์กับจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์นั้นให้เข้าชมได้ฟรี
- บัตรเข้าชมพิพิธภัณฑ์วาติกันกับโบสถ์น้อยซิสทีนนั้นเป็นบัตรแบบรวม คุณไม่สามารถซื้อบัตรแยกเข้าชมเฉพาะที่ใดที่เดียว
-
จองบัตรล่วงหน้าเพื่อเข้าชมพิพิธภัณฑ์วาติกันกับโบสถ์น้อยซิสทีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณแวะมาในช่วงวันหยุดทางศาสนาหรือระหว่างช่วงหน้าร้อน. คุณจะประหยัดเวลาต่อแถวด้านหน้าได้มาก อย่างไรก็ตาม คุณไม่สามารถจองบัตรแบบมีส่วนลดหรือบัตรสำหรับนักเรียนนักศึกษาล่วงหน้าได้ เว้นแต่คุณจะมากับกลุ่มทัวร์ที่ดำเนินการส่วนนี้ให้คุณ
- ไปที่ biglietteriamusei.vatican.va/musei/tickets/do?weblang=en&do เพื่อจองบัตรเข้าชมเหล่านี้
-
จองมัคคุเทศน์นำเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์วาติกันกับส่วนอื่นๆ ของนครวาติกัน. อิตาลีมีกฎเคร่งครัดว่ามีเพียงมัคคุเทศน์ที่มีใบอนุญาตเท่านั้นจึงจะสามารถนำเที่ยวสถานที่เหล่านี้ได้ ดังนั้นจึงให้แน่ใจว่าได้ขอดูใบอนุญาตของพวกเขา ภายในกำแพงนครวาติกันนั้นมั่งคั่งด้วยงานศิลปะกับข้อมูลความรู้จนมันเป็นหนึ่งในสถานที่ซึ่งการเยี่ยมชมจะคุ้มค่ายิ่งขึ้นถ้ามีการว่าจ้างมัคคุเทศน์คอยนำเที่ยวให้ข้อมูล
- ไปที่ mv.vatican.va/3_EN/pages/z-Info/MV_Info_Servizi_Visite.html เพื่อดูรายละเอียดทัวร์ที่คุณเลือกได้ นี่เป็นลิงก์ไปยังด้านล่างของหน้าที่ซึ่งคุณสามารถจองทัวร์ทั้งแบบส่วนตัวและแบบกลุ่ม
-
แต่งตัวให้เหมาะสม. วาติกันมีกฎระเบียบการแต่งกายของตนเอง ให้แน่ใจว่าชุดที่ใส่ปกปิดไหล่และหัวเข่า ถึงแม้บางคนจะสวมกางเกงขายาวกับเสื้อแขนยาวเป็นการแสดงความเคารพก็ตาม
- ทั้งผู้ชายและผู้หญิงจะถูกปฏิเสธหากไม่สวมชุดที่ปิดบังไหล่กับหัวเข่า นั่นหมายถึง ชุดเสื้อแขนกุด ชุดอาบแดดและกางเกงขาสั้นจะถูกห้าม สุภาพสตรีสามารถประยุกต์การแต่งกายโดยใช้ผ้าคลุมไหล่หรือสวมกางเกงยืดแนบเนื้อได้
- อิตาลีและนครวาติกันจะร้อนมากในช่วงหน้าร้อนและฝนอาจตกในช่วงหน้าหนาว ให้ติดเสื้อผ้าที่บางเบาซึ่งจะแห้งได้ไว นี่จะช่วยได้เวลาต้องเจอฝนในระหว่างเยี่ยมชม
- สวมรองเท้าที่ใส่เดินถนัด หลายคนต้องตระเวนเดินในนครวาติกันตลอดทั้งวัน ให้เตรียมรองเท้าที่ย่ำบนพื้นแข็งได้ถนัด
-
สะพายกระเป๋าใบเล็ก. กระเป๋าใบใหญ่ เป้และร่มทั้งหมดจะต้องถูกฝากไว้ก่อนเข้าไปในพิพิธภัณฑ์วาติกัน นี่จะเป็นเรื่องยุ่งถ้าคุณอยากไปไหนมาไหนภายในเขตวาติกันอย่างอิสระ ดังนั้นทิ้งข้าวของหลักๆ ของคุณไว้ที่โรงแรมจะดีกว่า
-
เตรียมรับมือพวกมิจฉาชีพ. ช่วงหลังมานี้ อัตราการเกิดขโมยสูงที่สุดเกิดขึ้นที่หน้ารูปปั้น Pieta ของไมเคิล แองเจโลในวิหารเซนต์ปีเตอร์ ให้เอากระเป๋าใบเล็กอยู่ด้านหน้าของตนเองและใช้มือกุมไว้เสมอ
- อย่าสวมใส่เครื่องประดับชิ้นใหญ่หรือพกเงินสดเป็นฟ่อนล่อตามิจฉาชีพ กระเป๋าสตางค์ผู้ชายในกระเป๋าหลังของกางเกงนั้นล่อใจขโมยมาก ให้ซื้อกระเป๋าใส่เงินแบบคาดเอวและยัดไว้ในเสื้อถ้าต้องการความปลอดภัยเพิ่ม
โฆษณา
-
ใช้รถไฟใต้ดินมาลงที่นครวาติกัน. คุณต้องเดินอีกเล็กน้อยถ้าเลือกวิธีนี้ วาติกันนั้นตั้งอยู่ระหว่างสถานีรถไฟใต้ดิน Ottaviano กับสถานี Cipro
- ถ้าคุณจะมุ่งตรงไปยังพิพิธภัณฑ์วาติกัน สถานี Cipro จะเดินใกล้กว่า แต่ถ้าจะมุ่งหน้าไปมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ เดินจากสถานี Ottaviano จะใกล้กว่า
-
ซื้อแผนที่รถเมล์จากร้าน. มีเส้นทางรถประจำทางประมาณเกือบ 10 สายที่พาไปใกล้นครวาติกัน จะเลือกสายไหนขึ้นอยู่กับว่าจะขึ้นมาจากส่วนไหนของกรุงโรม
-
ไปถึงทางเข้าทิศเหนือเพื่อไปยังพิพิธภัณฑ์วาติกัน. ไปทางเข้าทิศตะวันออกถ้าจะเข้ามหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ เพราะนครวาติกันมีกำแพงล้อมรอบ จึงต้องใช้เวลา 30 นาทีในการเดินระหว่างทางเข้าทั้งสองทางนี้
- หาแผนที่กรุงโรมเพื่อความแน่ใจว่าคุณไปถูกทาง
โฆษณา
-
เผื่อเวลาสำหรับการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์วาติกัน. ถึงแม้คนส่วนใหญ่จะรู้จักแต่โบสถ์น้อยซิสทีน แต่ยังมีอะไรให้ชมอีกมากระหว่างเส้นทางผ่านพิพิธภัณฑ์ไปยังโบสถ์น้อยซิสทีน
- เข้าห้องสุขาก่อนเข้าพิพิธภัณฑ์ ภายในนั้นไม่ได้มีห้องสุขามากนัก
- สะพายกล้องไปถ่ายรูปข้างในพิพิธภัณฑ์ด้วย คุณไม่ได้รับอนุญาตให้ถ่ายรูปภายในโบสถ์น้อยซิสทีน แต่สามารถถ่ายในพิพิธภัณฑ์โดยส่วนใหญ่ได้ จะมีป้ายบอกว่าจุดไหนที่สามารถใช้แฟลชได้
- ใช้เวลามากหน่อยตรง Pinacoteca. จะอยู่ตรงทางขวาหลังจากที่คุณใช้ลิฟต์ทางเข้ามา หลายคนมองข้ามบริเวณนี้ เพราะมันอยู่ตรงข้ามกับโบสถ์น้อยซิสทีน แต่คนอิตาลีเองมองว่าคลังภาพสะสมของราฟาเอล, ดาวินชี่ และคาราวาจโจของที่นั่นเป็นสมบัติของชาติเลยทีเดียว
-
นำน้ำติดตัวหรือซื้อจากตู้กด. นักท่องเที่ยวในหน้าร้อนจะกระหายน้ำอย่างเร็ว และทางวาติกันก็มีส่วนขายอาหารและเครื่องดื่มไม่มากเท่าที่อื่นๆ ในอิตาลี เตรียมตัวพกน้ำมาให้พอดี จะได้เที่ยวชมอย่างสบายกายนานกว่า
-
ออกจากพิพิธภัณฑ์วาติกันแล้วเดินลงบันไดวน. นี่เป็นบันไดวนที่มีชื่อเสียงซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมาแวะชมและถ่ายรูปด้วย
- คุณยังอาจลองใช้ประตู "ลับ" เพื่อตรงไปยังวิหารเซนต์ปีเตอร์ หากคุณเดินออกมาทางประตูขวาเวลาออกจากพิพิธภัณฑ์ ก็จะมุ่งหน้าตรงมาทางนี้ คุณอาจหันกลับเพราะปกติมันจะถูกจับจองไว้สำหรับนักท่องเที่ยวแบบกลุ่ม แต่ถ้าใช้เส้นทางนี้ก็จะพลาดบันไดวน
โฆษณา
-
เดินอ้อมไปยังประตูทางเข้าทิศตะวันออกเพื่อเข้าไปในวิหารเซนต์ปีเตอร์. คุณควรจะแวะชมดังต่อไปนี้:
- เยี่ยมชม Grottoes. นี่คือสถานที่ฝังพระศพของกษัตริย์กับสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ก่อนๆ คุณต้องต่อคิวใกล้ประตูทางเข้าเพื่อลงไปยังชั้นใต้ดินของวิหารเพื่อเยี่ยมชม
- ชมปฏิมากรรม Pieta ของไมเคิล แองเจโล. ประติมากรรมรูปพระแม่มารีกำลังอุ้มพระเยซูนั้นเป็นงานทรงคุณค่าที่ทุกคนหลงรัก งานจะถูกจัดแสดงหลังแผ่นกระจกกันกระสุนและมักจะมีผู้เข้าชมเนืองแน่น คุณจำเป็นต้องรอจนคนออกไปบ้างถึงจะมองเห็นได้ถนัดตา โดยเฉพาะช่วงหน้าร้อนที่นักท่องเที่ยวคับคั่ง
- คุณสามารถลงชื่อสำหรับเยี่ยมชมมหาวิหารได้ฟรีที่ศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยววาติกัน
-
จ่ายเงินค่าปีนขึ้นไปยัง Cupola. ทางด้านขวาของประตูทางเข้ามหาวิหารและผ่านประตูศักดิ์สิทธิ์ คุณสามารถปีนบันได 320 ขั้นไปยังชั้นบนสุดได้ในราคา 6 ยูโร (240 บาท) หรือจะจ่ายเงิน 7 ยูโร (280 บาท) เพื่อขึ้นลิฟต์ก็ได้
- การขึ้นไปยังชั้นบนสุดของมหาวิหารจะให้คุณได้ชมทัศนียภาพของกรุงโรม สำหรับผู้ที่มีร่างกายแข็งแรง การปีนบันไดขึ้นไปถือว่าคุ้มกับแรงกายที่ใช้
โฆษณา
เคล็ดลับ
- ลองเดินหรือใช้รถไฟใต้ดินออกมาหาอาหารกลางวันนอกวาติกัน ร้านที่อยู่ใกล้ประตูทางเข้าล้วนมีราคาแพงโดยที่คุณภาพอาหารไม่เทียบเท่า คุณจะหาร้านอร่อยกว่านั้นถ้ามุ่งไปทางถนน Via Germanico ไปยัง Via Marcantonio Colonna
- ลองคิดจะใช้บริการไปรษณีย์ในนครวาติกัน ที่ทำการไปรษณีย์เหล่านี้มีชื่อเสียงและผู้รับก็ชื่นชอบที่จะได้รับโปสการ์ดมาจากรัฐอิสระเล็กจิ๋วแห่งนี้ จำไว้ว่าแสตมป์ของวาติกันใช้ไม่ได้ในกรุงโรม
โฆษณา
สิ่งของที่ใช้
- แผนที่รถไฟใต้ดิน
- แผนที่รถประจำทาง
- บัตรเข้าชมพิพิธภัณฑ์วาติกัน
- มัคคุเทศน์
- แผนที่กรุงโรม
- ค่าขึ้นไปยัง Cupola ทั้งทางบันไดหรือลิฟต์
- กระเป๋าใบเล็ก
- กล้องถ่ายรูป
- กางเกงขายาว
- เสื้อแขนยาว
- ตั๋วรถประจำทางหรือรถไฟใต้ดิน
- รองเท้าที่เดินถนัด
- ขวดน้ำ
- กระเป๋าสตางค์ขนาดเล็ก
- กระเป๋าสตางค์แบบคาดเอว
ข้อมูลอ้างอิง
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 3,928 ครั้ง
โฆษณา
