ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
งูบางชนิดล่าเหยื่อโดยการพ่นพิษออกมาทางเขี้ยวของมัน พิษของงูบางชนิดนั้นเป็นอันตรายต่อมนุษย์ ยังผลให้เรามักคิดว่ามันเป็น "สิ่งมีพิษ" (ถึงแม้ว่าในเชิงวิชาการแล้วจะเรียกพิษนี้ว่า venom ไม่ใช่ poison) เวลาที่เราเดินทางไกลหรือไปตั้งแคมป์ในป่านั้น หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีโอกาสเจอพวกมัน ดังนั้นก่อนจะบุกตลุยสู่ธรรมชาติ จำเป็นที่คุณจะต้องรู้วิธีแยกแยะความแตกต่างระหว่างงูพิษกับงูที่ไม่มีพิษ
ขั้นตอน
-
ดูที่หัว. งูพิษส่วนใหญ่จะมีหัวเป็นรูปสามเหลี่ยม แม้จะไม่ใช่ทั้งหมด นี่เป็นกฎเบื้องต้นที่ดี แต่อย่าลืมว่ามันมีข้อยกเว้น [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
สังเกตสี. งูพิษบางชนิดอย่างงูปะการังจะมีสีสดฉูดฉาด
-
หลายๆ คนพยายามจะตัดสินว่างูตัวนี้มีพิษหรือไม่โดยการจ้องตามัน. นี่มันไร้ประโยชน์ เพราะข้อมูลที่คุณจะได้จากการสังเกตตรงจุดนี้นั้นบอกคุณได้แค่เพียงเวลาไหนที่งูมันจะตื่นตัว งูชนิดที่เป็นสัตว์ออกหากินกลางคืน จึงมักจะมีรูม่านตาแนวขวาง ส่วนงูที่ออกหากินตอนกลางวันก็จะมีรูม่านตากลม งูพิษที่ร้ายแรงที่สุดในโลกบางพันธุ์ก็มีรูม่านตากลม แต่งูพิษที่โด่งดังอย่างงูหางกระดิ่งก็จะมีรูม่านตาแนวขวาง [2] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ PubMed Central ไปที่แหล่งข้อมูล
-
ดูที่ร่องระหว่างตากับจมูกของงู. งูพิษปกติจะมีร่องจับความร้อนอยู่บริเวณนั้นเพื่อค้นหาเหยื่อที่มีเลือดอุ่น งูไร้พิษจะไม่มีร่องดังว่า
-
ดูว่ามันมีเสียงสั่นหรือเปล่า. งูที่มีเสียงสั่นตรงหางต้องเป็นงูหางกระดิ่งซึ่งเป็นงูพิษ งูหางกะดิ่งแคระฟลอริดานั้นจะมีกระดิ่งตรงหางเป็นท่อนเดียว จึงมักไม่ค่อยทำเสียงสั่นดังเตือนให้รู้ตัว [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
สังเกตเกล็ดใต้ท้องตรงปลายหาง. งูพิษส่วนใหญ่จะมีเกล็ดบริเวณนั้นเพียงแถวเดียวในขณะที่งูไม่มีพิษจะมีสองแถว
-
ตรวจดูใต้หางถ้าสามารถทำได้. ด้านใต้หาง (หลังรูทวาร) ของงูพิษนั้นจะดูเหมือนส่วนท้องที่เหลือทั้งหมด ถ้างูมีลายสลับ (อย่างเป็นรูปข้าวหลามตัดหรือรูปทรงเพชร) มันก็ไม่มีพิษ อย่างไรก็ดี นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะตรวจสอบ เว้นแต่งูนั้นตายแล้ว
-
ดูงูน้ำว่าย. มีแต่งูน้ำที่มีพิษจึงจะว่ายน้ำโดยมองเห็นทั้งลำตัวในน้ำ
-
ตรวจดูรอยกัดในกรณีที่ถูกงูกัด. หากมีรอยทิ่มใกล้กันสองรูบ่งชี้ได้ว่างูนั้นมีเขี้ยวและมีพิษ ในทางตรงข้าม รอยกัดแบบเละแสดงว่างูไม่มีเขี้ยว ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะตัวของงูไม่มีพิษ แต่มีข้อยกเว้นตรงรอยกัดของงูปะการัง แต่นี่ก็ยังถือเป็นกฎสำคัญข้อแรกได้อยู่ [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
เคล็ดลับ
- อย่าฆ่างูที่ไม่ได้ทำร้ายคุณ เพราะงูนั้นกินหนูกับสัตว์รบกวนอื่นๆ พวกมันช่วยควบคุมจำนวนประชากรของสัตว์เหล่านั้นที่อาจเป็นพาหะนำโรคสู่คน [7] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ PubMed Central ไปที่แหล่งข้อมูล
- หากคุณวางแผนจะจับงู วิธีที่ปลอดภัยคือการวางกับดักงู [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ค้นหาในอินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับงูพิษทุกชนิดที่อาศัยในย่านที่คุณอยู่เพื่อจะได้มองออกว่ามันมีหน้าตาอย่างไร จะช่วยคุณแยกแยะได้เวลาที่ได้เห็น
- เวลาไม่แน่ใจว่างูตัวนั้นมีพิษหรือไม่ สันนิษฐานไว้ก่อนว่ามันมีพิษแล้วเลี่ยงเสีย!
- อย่าย่ำไปบนพุ่มหญ้าถ้าคุณไม่แน่ใจว่ามีงูซ่อนอยู่ที่นั่นหรือไม่
- ถ้าต้องอยู่ใกล้กับงูเห่าชนิดพ่นพิษได้ ให้แน่ใจว่าได้ซักผ้าทุกชิ้น เลนส์กล้องถ่ายรูป หรืออื่นๆ หลังจากเลิกอยู่ใกล้มัน และให้สวมแว่นกันแดดด้วย [9] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ PubMed Central ไปที่แหล่งข้อมูล
- หากคุณถูกงูไม่มีพิษกัด ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่เป็นอะไรแบบ 100% เพราะงูไม่มีพิษเป็นพาหะนำโรคและแผลถูกกัดอาจอักเสบติดเชื้อได้ [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- หากคุณถูกงูพิษกัด ให้แน่ใจว่าได้จดจำลักษณะของมันได้ถูกต้อง! วิธีที่ดีที่สุดคือถ่ายรูปมันจากระยะปลอดภัยด้วยกล้องในโทรศัพท์มือถือ การสามารถระบุชนิดของงูได้ถูกต้องจะช่วยชีวิตคุณได้เวลาที่แพทย์ต้องเลือกเซรุ่มแก้พิษงู
โฆษณา
คำเตือน
- แผลรอยกัดจากงูไม่มีพิษก็อาจอักเสบขึ้นได้ ให้ไปหาแพทย์เสมอและระบุชนิดของงูที่กัดอย่างถูกต้องด้วย
- หากคุณไม่ไปพบแพทย์ในทันทีหลังถูกงูพิษกัด มันอาจร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
- อย่าพยายามคิดจับงูใดๆ ถ้ามั่นใจว่างูตัวนั้นไร้พิษและยืนกรานจะจับให้ได้ ให้ทำด้วยท่าทางไม่ไปคุกคามมัน ไม้เกี่ยวงูเป็นอุปกรณ์ที่ดีเวลาต้องใช้เพื่อความปลอดภัย
- อย่าคิดจับงูที่ส่งเสียงฟ่อ สั่นหางกระดิ่ง แผ่แม่เบี้ย หรือพ่นพิษ เพราะนั่นคือคำเตือนของพวกมันว่าอย่าเข้าไปยุ่งไม่งั้นโดนกัดแน่ [11] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://tpwd.texas.gov/education/resources/texas-junior-naturalists/snakes-alive
- ↑ https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/20629855
- ↑ https://www.azgfd.com/PortalImages/files/wildlife/livingwith/LWVR.pdf
- ↑ https://www.wemjournal.org/article/S1080-6032(95)71049-3/pdf
- ↑ https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3144867/
- ↑ https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/20629855
- ↑ https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4891849/
- ↑ https://www.dnr.state.mn.us/livingwith_wildlife/snakes/removing.html
- ↑ https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4123280/
โฆษณา