PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

คำสั่ง Ping ใช้ทดสอบความเร็วในการเชื่อมต่อระหว่างคอมของคุณกับแม่ข่ายปลายทางได้ บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการใช้คำสั่ง Ping ในคอมทุกระบบให้คุณเอง

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

Windows, Mac OS X และ Linux

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. คอมทุกระบบจะมีหน้าต่างสำหรับพิมพ์คำสั่งต่างๆ รวมถึงคำสั่ง Ping อยู่แล้ว ส่วนวิธีใช้งานคำสั่ง Ping นั้น ก็คล้ายกันหมดในทุกระบบ
    • ถ้าคุณใช้ Windows ให้เปิด Command Prompt โดยคลิกปุ่ม Start แล้วพิมพ์ cmd ในช่องค้นหา ถ้าเป็น Windows 8 จะพิมพ์ “cmd” ได้ตั้งแต่อยู่หน้า Start สุดท้ายให้กด Enter เพื่อเปิด Command Prompt
    • ถ้าคุณใช้ Mac OS X ให้เปิด Terminal จากนั้นเปิดโฟลเดอร์ Applications แล้วเปิดโฟลเดอร์ Utilities สุดท้ายเลือก Terminal
    • ถ้าคุณใช้ Linux ให้เปิดหน้าต่าง Telnet/Terminal ปกติจะอยู่ในโฟลเดอร์ Accessories ของโฟลเดอร์ Applications อีกที
      • ถ้าคุณใช้ Ubuntu ให้กดคีย์ลัด Ctrl + Alt + T เพื่อเปิด terminal ได้เลย
  2. โดยพิมพ์ ping hostname หรือ ping IP address
    • ปกติ hostname ก็คือ address ของเว็บ ให้คุณแทนที่ hostname ด้วยเว็บหรือเซิร์ฟเวอร์ที่คุณจะ ping เช่น ถ้าจะ ping หน้าเว็บหลักของ wikiHow ก็ให้พิมพ์ ping www.wikihow.com
    • IP address ก็คือตำแหน่งในเครือข่ายของคอมที่ใช้ ไม่ว่าจะ local หรือออนไลน์ก็ตาม ถ้าคุณรู้ IP address ที่จะ ping ให้พิมพ์แทนที่ IP address เลย เช่น ถ้าจะ ping IP address 192.168.1.1 ก็ให้พิมพ์ ping 192.168.1.1
    • แต่ถ้าจะ ping คอมของคุณเอง ก็พิมพ์ ping 127.0.0.1
  3. ผลที่ได้จะอยู่ล่างหน้าต่าง command สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม ให้เลื่อนลงไปอ่าน "อ่านผลที่ได้จากคำสั่ง Ping"
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

Network Utility ของ Mac OS X

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. เปิดโฟลเดอร์ Applications แล้วเลือก Utilities จากนั้นมองหา Network Utility
  2. แล้วระบุ hostname หรือ IP Address
    • ปกติ hostname ก็คือ address ของเว็บ เช่น ถ้าจะ ping หน้าเว็บหลักของ wikiHow ก็ให้พิมพ์ ping www.wikihow.com ลงไป
    • IP address ก็คือตำแหน่งในเครือข่ายของคอมที่ใช้ ไม่ว่าจะ local หรือออนไลน์ก็ตาม เช่น ถ้าจะ ping IP address 192.168.1.1 ให้พิมพ์ 192.168.1.1 ในช่องได้เลย
  3. แค่ 4 - 6 pings ก็เห็นผลแล้ว เสร็จแล้วให้คลิก Ping แล้วจะเห็นผลที่ได้ที่ด้านล่างของหน้าต่าง [1]
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

อ่านผลที่ได้จากคำสั่ง Ping

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. บรรทัดแรกจะบอกว่าคำสั่งนี้ใช้ทำอะไร จะเป็นการทวน address ที่ใส่ไป และบอกว่าส่งข้อมูลไปมากแค่ไหน เช่น

    Pinging www.wikihow.com [173.203.142.5] with 32 bites of data:
  2. ถ้าใช้คำสั่ง Ping สำเร็จ จะเห็นบรรทัดต่างๆ ที่แสดงเวลาที่ใช้ กว่าเว็บปลายทางจะตอบสนอง TTL คือจำนวนครั้งในการ hops ที่เกิดระหว่างขั้นตอนการส่ง packet ยิ่งเลขตรงนี้ต่ำ ก็คือ packet ผ่านเราเตอร์มากขึ้นเท่านั้น [2] Time คือระยะเวลาที่ใช้ในการเชื่อมต่อ หน่วยเป็นมิลลิวินาที

    Reply from 173.203.142.5: bytes=32 time=102ms TTL=48
    Reply from 173.203.142.5: bytes=32 time=105ms TTL=48
    Reply from 173.203.142.5: bytes=32 time=105ms TTL=48
    Reply from 173.203.142.5: bytes=32 time=108ms TTL=48
    • ถ้าจะหยุดคำสั่ง Ping อาจต้องกด Ctrl + C ซะก่อน
  3. พอใช้คำสั่งเสร็จสิ้นแล้ว จะมีสรุปข้อมูลให้อ่าน Lost packets คือการเชื่อมต่อไปยัง address นั้นไม่น่าไว้วางใจ ข้อมูลอาจจะสูญหายระหว่างทางได้ นอกจากนี้สรุปข้อมูลยังแสดงระยะเวลาโดยเฉลี่ยของการเชื่อมต่อด้วย

    Ping statistics for 173.203.142.5:
    Packets: Sent = 4, Received = 4, Lost = 0 (0% loss),
    Approximate round trip times in milli-seconds:
    Minimum = 102ms, Maximum = 108ms, Average = 105ms
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

แก้ปัญหาที่พบบ่อย

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. หนึ่งในข้อความ error ที่พบบ่อยคือ

    Ping request could not find host www.wikihow.com. Please check the name and try again. แปลว่าคุณสะกด hostname ผิดนั่นเอง
    • ลองพิมพ์ใหม่ให้ถูก เช็คตัวสะกดให้ดีๆ ถ้ายังไม่ได้ผล ให้ลองใช้ hostname หรือเว็บอื่นที่ดังๆ เช่น พวก search engine หรือเว็บข่าว ถ้ายังเจอ error “Unknown host” อีก แสดงว่าเป็นที่ address ของเซิร์ฟเวอร์ domain name นั้นเอง
    • ลอง Ping ด้วย IP address ของ host แทนชื่อเว็บ (เช่น 173.203.142.5) ถ้าได้ผล แสดงว่า address ของเซิร์ฟเวอร์ domain name ผิด หรือเว็บล่ม/ปิดปรับปรุงอยู่
  2. อีกข้อความ error ที่พบบ่อยคือ

    sendto: No route to host แปลว่า address ของ gateway นั้นไม่ถูกต้อง หรือคอมของคุณไม่ได้ต่อเน็ต
    • Ping 127.0.0.1: คือคอมของคุณเอง ถ้าใส่แล้วยังไม่ได้ผล แสดงว่า TCP/IP ขัดข้อง และ network adapter ของคุณต้องปรับแต่งใหม่ [3]
    • เช็คสัญญาณ Wi-Fi หรือการเชื่อมต่อจากคอมไปเราเตอร์ โดยเฉพาะถ้าก่อนหน้านี้ยังดีๆ อยู่
    • พอร์ท network ของคอมส่วนใหญ่ จะมีไฟติดว่าเชื่อมต่อแล้ว และไฟกะพริบเวลาส่งข้อมูล ปกติคำสั่ง ping จะส่งข้อมูล 1 packet ต่อวินาที เลยทำให้ไฟที่ว่ากะพริบ
    • เช็คว่าเราเตอร์ไฟติดดีไหม (ไม่ใช่ไฟบอกข้อผิดพลาด) รวมถึงไฟที่บอกสัญญาณว่าคอมต่อเน็ตแล้ว ถ้าไฟบอกว่ามีข้อผิดพลาด ให้ไล่ตามสายจากคอมไปเราเตอร์ ว่าเสียบสนิทดีไหม ถ้ามีปัญหาจริงๆ ให้ติดต่อช่างของค่ายอินเทอร์เน็ตที่คุณใช้
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ตอนไหนที่ควรใช้คำสั่ง ping? ก็เหมือนการวิเคราะห์หาสาเหตุต่างๆ ของคอม คุณควรใช้คำสั่ง ping เพื่อให้รู้ว่าการเชื่อมต่อและส่งข้อมูลตามปกติควรเป็นแบบไหน คุณ ping คอมโดยพิมพ์ "ping -c5 127.0.0.1" ได้ด้วย ตอนจะตั้งค่าคอมเป็นครั้งแรก จะเปลี่ยนเครือข่าย หรือถ้าท่องเว็บไม่ได้ ให้ใช้คำสั่ง ping มาเช็คคอม ของคุณ แล้วค่อยปรับแต่งต่อไป
  • ทำไมต้องใช้คำสั่ง ping? Ping (ตั้งชื่อตามกระบวนการ echolocation ของเรือดำน้ำ) ใช้ส่งข้อมูลแบบ packet ที่ย่อยที่สุด จากส่วน communication subsystem (TCP/IP) ของระบบปฏิบัติการ ไม่ต้องลงโปรแกรมอื่นเพิ่มเติม ไม่ต้องใช้ไฟล์ไหน และไม่ต้องปรับแต่งอะไร แทบไม่กระทบกับกิจกรรมอื่นที่คุณทำในคอมเลย ที่ต้องใช้คือตัวคอมเอง, gateways, เราเตอร์, firewalls, name servers แล้วก็เว็บปลายทาง ถ้าคุณใช้คำสั่ง ping สำเร็จ แต่เข้าเว็บปลายทางในเบราว์เซอร์หรือโปรแกรมอื่นไม่ได้ แสดงว่าไม่ได้เป็นที่คอมคุณ
  • ตัวเลือกที่จะใช้นั้นขึ้นอยู่กับจุดประสงค์การใช้งาน เช่น
    • -c Count คือหยุดเมื่อส่ง packets ครบจำนวน อีกวิธีหยุดคำสั่งคือพิมพ์ [ctrl]-C ตัวเลือกนี้เหมาะสำหรับสคริปต์ที่เอาไว้คอยเช็คลักษณะเครือข่าย
    • -t ping จนหยุด ([ctrl]-C)
    • -w Timeout มิลลิวินาที รอจนมีข้อความบอกว่าหมดเวลาหรือข้อมูลหายไป ให้ Ping โดยกำหนด timeout นานๆ หน่อย จะได้รู้ปัญหาแฝง ping -w 10000 ปกติจะมีประโยชน์เฉพาะตอนใช้เน็ตมือถือ สัญญาณดาวเทียม หรือเครือข่ายแบบ high latency
    • -n เฉพาะผลที่เป็นตัวเลข (Numeric output) ใช้เพื่อหลีกเลี่ยงการติดต่อ nameserver
    • -p Pattern คือชุดเลขฐานสิบหกต่อท้าย packet ถ้าสงสัยว่ามีปัญหาด้านข้อมูล ตรงนี้จะช่วยอะไรไม่ค่อยได้เท่าไหร่
    • -R ให้ใช้ตัวเลือก Record Route ของ IP เพื่อดูว่าคำสั่ง ping ส่ง packets ไปเส้นทางไหน เว็บปลายทางอาจไม่แสดงข้อมูลตรงนี้
    • -r Bypass ข้าม routing tables ให้ใช้เวลาสงสัยว่า routing มีปัญหา แล้วคำสั่ง ping ไม่สามารถหาเส้นทางไปยังเว็บปลายทาง แต่จะได้ผลเฉพาะเว็บที่เข้าถึงได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านเราเตอร์
    • -s ขนาด Packet ใช้เปลี่ยนขนาด packets และเช็ค packets ที่มีขนาดใหญ่มากที่ต้องกระจายเป็นส่วนย่อย
    • -V ผล Verbose ใช้แสดง ICMP packets เพิ่มเติมที่บอกข้อมูลโดยละเอียด
    • -f Flood ใช้ส่ง packets โดยเร็วที่สุด เพื่อทดสอบแบบ stress test ว่าเครือข่ายทำงานได้สูงสุดเท่าไหร่ ไม่ควรใช้บ่อย
    • -l Preload ใช้ส่ง preload packets โดยเร็วที่สุด จากนั้นก็กลับมาส่งข้อมูลในความเร็วปกติ เหมาะสำหรับเช็คว่าเราเตอร์รับมือกับ packets ได้มากแค่ไหน เพื่อวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดเฉพาะตอนหน้าต่าง TCP มีขนาดใหญ่
    • -? Help ใช้แสดงรายชื่อตัวเลือกทั้งหมดของคำสั่ง Ping รวมถึง syntax ที่จำเป็น
โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 177,369 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา