PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

การหางานใหม่อาจเป็นกระบวนการที่เครียด สุดทนและใช้เวลา เราทุกคนต้องการงานสมบูรณ์แบบที่จะทำให้เราพอใจและทำให้เรามั่นคงด้านการเงิน ถึงแม้ว่ามันไม่มีวิธีพิเศษในการการันตีว่าคุณจะได้ข้อเสนอจากนายจ้างมากมายแต่มีบางวิธีที่สามารถช่วยเพิ่มโอกาสของคุณได้อย่างแน่นอน

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

การหาตำแหน่งงานที่เกี่ยวข้อง

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ทุกวันนี้ผู้คนประกาศรับสมัครงานผ่านทางออนไลน์ ดูตามเว็บไซต์หางานต่างๆ บริษัทและหน่วยงานหลายแห่งประกาศรับสมัครงานบนเว็บไซต์ของพวกเขาโดยตรง มีหลายเว็บไซต์ที่รวบรวมประกาศรับสมัครงานหลากหลาย เว็บไซต์เหล่านี้อาจจะมีตำแหน่งมากมายแต่ไม่ใช่ตำแหน่งทั้งหมดที่เหมาะสมกับคุณ
    • ลองดูตามเว็บไซต์เหล่านี้ JobsDB LinkedIn และ Indeed
    • คุณต้องใส่ใจกับวันปิดรับสมัครและรายละเอียดที่บอกวิธีการสมัคร อย่าเสียเวลาสมัครงานถ้าหากเลยกำหนดวันปิดรับสมัครแล้ว
  2. 2
    ใช้บริษัทจัดหางานเพื่อหาตำแหน่งงานที่เฉพาะทาง. อีกหนึ่งทางเลือกคือการใช้บริษัทจัดหางานเพื่อช่วยให้คุณได้งาน พวกเขาสามารถหาตำแหน่งที่เปิดรับและแม้แต่นัดสัมภาษณ์งานให้คุณ คุณสามารถได้งานง่ายดายขึ้นมากเมื่อมีคนจัดการแทนคุณ
    • คุณไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินให้กับบริษัทจัดหางานเพื่อช่วยให้คุณได้งาน พวกเขาจะได้ค่าคอมจากบริษัทที่จ้างคุณ
  3. สมัครงานที่เหมาะสมกับทักษะและประสบการณ์ของคุณเท่านั้น. สิ่งนี้ไม่ได้แปลว่าคุณต้องเหมาะสมกับทุกด้านของตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัครแต่คุณคงไม่อยากเสียเวลาอันมีค่าเพื่อสมัครงานที่คุณไม่มีโอกาสจะได้ สมัครงานต่อเมื่อคุณเหมาะสมกับเนื้องานส่วนใหญ่ของตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร
    • ถ้าหากคุณต้องการได้งานอย่างรวดเร็ว คุณต้องสมัครอย่างแพร่หลาย สิ่งนี้ไม่ได้แปลว่าคุณควรสมัครงานที่คุณไม่มีคุณสมบัติเพียงพอแต่คุณต้องคิดนอกกรอบเมื่อพิจารณางานที่คุณเหมาะสม ทักษะที่เรามีสำหรับตำแหน่งงานใดงานหนึ่งสามารถแปลงไปเป็นทักษะหลากหลายสำหรับงานอื่นๆ ที่แตกต่างกัน
    • คุณสามารถสมัครงานที่อยู่นอกบริเวณที่คุณอยู่หรือมีเวลาในการทำงานที่แตกต่างจากที่คุณต้องการ ไม่มีงานใดสมบูรณ์แบบแต่การมีงานทำนั้นดีกว่าไม่มีงานทำ
  4. จัดลำดับความสำคัญให้กับการสมัครงานกับนายจ้างที่เปิดรับหลายตำแหน่ง. ถ้าหากคุณต้องการได้งานอย่างรวดเร็ว คุณอาจจะมีโอกาสมากกว่าถ้าหากคุณสมัครงานที่เปิดรับหลายตำแหน่ง สิ่งนี้ตีความได้ว่างานนั้นอาจจะไม่ใช่งานที่ดีที่สุดแต่มันแปลว่าคุณอาจจะได้งานอย่างรวดเร็ว
  5. ถ้าหากคุณต้องการได้งานอย่างรวดเร็ว คุณต้องกระตือรือร้นและแสดงให้ผู้ที่อาจจะเป็นนายจ้างของคุณในอนาคตเห็นว่าคุณจริงจังกับตำแหน่งงานและคุณคือคนที่เหมาะสมกับงานนี้
    • เวลาที่เหมาะสมสำหรับการเจรจากับผู้ที่อาจจะเป็นนายจ้างของคุณในอนาคตคือตอนที่คุณยื่นใบสมัครแต่คุณควรเจรจากับพวกเขาก่อนที่จะสมัครงานถ้าเป็นไปได้ ถามพวกเขาเกี่ยวกับงานและหน้าที่ที่เฉพาะเจาะจง แสดงให้เห็นว่าคุณมีความสนใจที่แท้จริงในการเป็นลูกจ้างที่มีพลังและกระตือรือร้น คุณต้องเตรียมคำถามไว้ล่วงหน้าเพื่อกำจัดความเงียบที่น่าอึดอัด
    • แต่งตัวเป็นมืออาชีพเมื่อพบเจอกับผู้ที่อาจจะเป็นนายจ้างของคุณ คุณต้องดูดีและเรียบร้อย
  6. ทุกวันนี้หลายคนได้งานผ่านทางเครือข่ายและความสัมพันธ์ส่วนตัว [1] คุณน่าจะได้งานถ้าหากมีใครบางคนในองค์กรผลักดันให้คุณได้รับงาน อย่ากลัวที่จะบอกคนในชีวิตให้รู้ว่าคุณกำลังมองหางาน บางทีอาจจะมีคนที่สามารถหาเส้นสายให้คุณได้งานที่สมบูรณ์ได้
    • มีเว็บไซต์มากมายที่ช่วยให้คุณจัดการกับเครือข่ายทางการงานอาชีพ เว็บไซต์เหล่านี้สามารถช่วยให้คุณสอบถามคนที่คุณรู้จักส่วนตัวเมื่อกำลังมองหางาน
  7. ถ้าหากคุณต้องการได้งานรวดเร็ว หน่วยงานรัฐบาล เช่น กรมการจัดหางานอาจจะเป็นที่พึ่งที่ดีที่สุดของคุณ ติดต่อหน่วยงานเพื่อสอบถามว่าพวกเขาจะสามารถช่วยเหลือคุณอย่างไรได้บ้าง มีโปรแกรมให้คำแนะนำเกี่ยวกับการหางานมากมายที่อาจจะตรงกับความต้องการของคุณ
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

สร้างเครื่องมือการสมัครงาน

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. เขียนเรซูเม่ . คุณต้องใช้สไตล์และตัวหนังสือที่เป็นมืออาชีพในการเรียบเรียงเอกสาร
    • วิธีที่ง่ายที่สุดคือการใช้โครงร่างของเรซูเม่ที่มาพร้อมกับโปรแกรมพิมพ์งานที่ทันสมัย วิธีนี้จะช่วยให้คุณใส่ข้อมูลและไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับปัญหาของรูปแบบเอกสาร อย่างไรก็ตาม คุณอาจจะต้องปรับแต่งโครงร่างเหล่านี้เพื่อให้เหมาะสมกับงานที่คุณกำลังสมัคร
    • เรซูเม่ต้องระบุประสบการณ์ที่เกี่ยวข้อง คุณต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ว่าประสบการณ์ใดที่เกี่ยวข้องกับงานที่คุณกำลังจะสมัครแต่คุณต้องใช้ความระมัดระวังในการระบุประสบการณ์ที่อาจจะดูไม่เกี่ยวข้อง คุณต้องทำให้มันดูเป็นกลาง
    • สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม คุณสามารถอ่านการ เขียนเรซูเม่
  2. จดหมายแนะนำตัวควรจะระบุหลายอย่างที่ทำให้คุณแตกต่างจากผู้สมัครคนอื่นและบรรยายคุณค่าส่วนตัวในฐานะลูกจ้างในอนาคต [2] ใช้ภาษาและรูปแบบที่เป็นมืออาชีพและเป็นทางการเมื่อคุณเขียนจดหมายแนะนำตัว
    • เริ่มเขียนจดหมายด้วยคำทักทายที่เป็นทางการ ในประกาศรับสมัครงานอาจจะระบุชื่อบุคคลที่คุณต้องส่งไปสมัครไปหา ถ้าไม่มีคุณสามารถเริ่มเขียนหัวจดหมายด้วยคำว่า "เรียนผู้ที่เกี่ยวข้อง" หรือชื่อของบริษัทหรือชื่อของแผนกบุคคล
    • เริ่มเนื้อหาของจดหมายด้วยประโยคที่บอกผู้อ่านว่าคุณเป็นใคร คุณกำลังสมัครตำแหน่งอะไรและทำไมคุณควรได้งานนี้ คำเริ่มต้นของจดหมายควรจะช่วยให้คุณดูโดดเด่นจากคนอื่นแต่อย่าพระอารมณ์ขันหรือกลเม็ดราคาถูก
    • สรุปจดหมายของคุณโดยการแสดงความสนใจในตำแหน่งงานนี้และทำไมคุณถึงคิดว่าคุณเหมาะสำหรับตำแหน่งนี้อีกครั้ง
    • คุณอาจจะต้องการใช้จดหมายแนะนำตัวฉบับเดียวกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณสมัครงานหลายตำแหน่งแต่อย่าลืมปรับเปลี่ยนจดหมายแนะนำตัวให้เหมาะสมกับแต่ละตำแหน่งที่คุณสมัคร เช่น ถ้าหากคุณกำลังมองหาตำแหน่งระดับผู้จัดการ คุณต้องทำเรซูเม่ให้เหมาะกับตำแหน่งนั้น อย่างไรก็ตาม ถ้าหากคุณมองหาอีกตำแหน่งซึ่งไม่ใช่ตำแหน่งระดับผู้จัดการแต่อยู่ ในสายงานเดียวกัน คุณสามารถเน้นประสบการณ์ภายใต้ตำแหน่งนั้นเช่นเดียวกับทักษะการจัดการของคุณ
  3. อ่านจดหมายแนะนำตัวและเรซูเม่ซ้ำไปซ้ำมาเพื่อหาข้อผิดพลาดหรือเนื้อหาที่ไม่อัพเดท คุณควรหาใครคนอื่นเพื่อแก้ไขมันเช่นกัน สายตาสดใหม่ของคนอื่นอาจจะสามารถพบข้อผิดพลาดที่คุณมองไม่เห็น
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

การเตรียมตัวสัมภาษณ์งาน

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ทบทวนเครื่องมือการสมัครและข้อมูลในประกาศรับสมัครงานอีกครั้ง. เมื่อคุณไปสัมภาษณ์งาน คุณต้องจดจำสิ่งที่คุณเขียนในใบสมัครและเนื้อหาของประกาศรับสมัครงานได้
    • คุณควรค้นคว้าหาข้อมูลเล็กน้อยเกี่ยวกับบริษัทที่คุณกำลังสมัครงาน รูปแบบธุรกิจของเขาคืออะไรและอะไรที่ทำให้บริษัทไม่เหมือนใคร? บริษัทมีเป้าหมายอย่างไร? คำถามเหล่านี้จะสามารถตอบได้ด้วยการค้นคว้าผ่านอินเตอร์เน็ตแต่ข้อมูลเหล่านี้สามารถแสดงความสนใจและความทุ่มเทของคุณถ้าหากคุณถูกถามระหว่างการสัมภาษณ์
    • รวบรวมความคิดและเขียนทุกด้านของบุคลิกภาพหรือประสบการณ์ในชีวิตที่คุณสามารถกล่าวถึงในการสัมภาษณ์งานได้ [3] คุณอาจจะไม่ได้ใส่สิ่งเหล่านี้ลงไปในเรซูเม่แต่เป็นข้อมูลสำคัญที่ต้องบอกให้นายจ้างได้รับรู้ เช่น คุณสมบัติส่วนตัวและจริยธรรมในการทำงาน
  2. การสัมภาษณ์งานมักจะมีคำถามมี 2 ประเภท คำถามทางเทคนิคและคำถามจากแผนกบุคคล คำถามทางเทคนิคช่วยประเมินว่าคุณรู้เกี่ยวกับงานที่คุณกำลังสมัครมากแค่ไหนและคำถามจากแผนกบุคคลช่วยประเมินว่าคุณสามารถทำงานเป็นทีมหรือเปล่า คุณจะต้องสามารถตอบคำถามทั้ง 2 แบบได้ด้วยความมั่นใจ
    • ตัวอย่างของคำถามจากแผนกบุคคลได้แก่: คุณมองเห็นตัวเองอยู่ที่ไหนในอีก 10 ปีข้างหน้า? คุณรับมือกับคำวิจารณ์ได้มากแค่ไหน? คุณสามารถทำงานเป็นทีมได้ดีแค่ไหน?
    • เมื่อถูกถามว่า “คุณต้องการทำเงินได้มากแค่ไหน?” คุณสามารถระบุเงินเดือนที่คุณได้รับในปัจจุบันหรือคุณสามารถพูดว่า “ดิฉันเปิดรับทุกข้อเสนอ” หรือถามว่า “เงินเดือนสำหรับตำแหน่งนี้ประมาณเท่าไหร่?” เมื่อถูกถามว่า “อะไรที่คุณไม่ชอบเกี่ยวกับงานปัจจุบัน?” ถ้าคุณให้คำตอบในแง่ลบถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องจริงก็ตาม มันจะทำให้คุณดูเป็นลูกจ้างที่คิดลบ เมื่อคุณถูกถามว่า “คุณมองเห็นตัวเองอยู่ที่ไหนในอีก 5 ปีข้างหน้า?” ถ้าคุณไม่ตอบด้วยตำแหน่งที่อยู่สูงจากชื่อตำแหน่งปัจจุบันของคุณ คุณจะดูเหมือนว่าคุณไม่สนใจในงานนี้จริงๆ
    • คุณยังสามารถฝึกฝนทักษะการสัมภาษณ์งานโดยจัดตั้งการสัมภาษณ์ปลอม ถ้าหากคุณสัมภาษณ์งานแต่ไม่ได้รับงานก็แปลว่าคุณยังไม่ได้อุ่นเครื่องกระบวนการสัมภาษณ์ คุณต้องสัมภาษณ์ 3-5 ครั้งเพื่อเป็นการอุ่นเครื่องและได้รับงาน
  3. ถึงแม้ว่าการแต่งกายอย่างเป็นทางการแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับงานและบริษัทที่คุณสมัครแต่คุณควรดูสะอาดและเรียบร้อยเมื่อไปสัมภาษณ์งานใดๆ ก็ตาม
    • นอกเหนือจากการแต่งกายให้ดูดีด้วยเสื้อผ้าที่สะอาดและเรียบร้อยแล้ว คุณยังต้องทำร่างกายให้สะอาดก่อนการสัมภาษณ์ ปัญหาเล็กน้อย เช่น กลิ่นตัวหรือผมยุ่งที่ถึงแม้จะไม่ใช่เรื่องใหญ่แต่สามารถทำลายสมาธิคนที่สัมภาษณ์คุณได้เป็นอย่างมาก เป้าหมายคือการทำให้บุคลิกภาพและประสบการณ์ของคุณโดดเด่น เพราะฉะนั้นอย่าทำให้คนที่สัมภาษณ์คุณเสียสมาธิด้วยเรื่องอื่น
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ทำสำเนาเรซูเม่ของคุณและพกปากกาและกระดาษเปล่าไปที่การสัมภาษณ์ มอบสำเนาของเรซูเม่ให้กับคนที่สัมภาษณ์คุณซึ่งดูไม่คุ้นเคยกับเนื้อหาของมัน หลังจากการสัมภาษณ์ เขียนคำถามที่คุณถูกถามและชื่อของคนที่สัมภาษณ์คุณ คุณสามารถอีเมลเขาในภายหลังเพื่อขอบคุณและใช้คำถามเหล่านั้นในการเตรียมตัวสำหรับการสัมภาษณ์งานครั้งต่อไป (ถ้าคุณมี)
  • มันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะรู้สึกเสียใจถ้าหากคุณไปสัมภาษณ์งานหลายครั้งแต่ไม่ได้งาน ใช้เวลา 1 วันเพื่อฟื้นตัวแต่สำหรับความทุกข์บอกแล้วเดินหน้าต่อไป คุณจะประสบความสำเร็จในการหางานได้ถ้าหากคุณพยายามและปรับปรุงทักษะของคุณต่อไป
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 13,747 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา