ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

เป็นเรื่องยากที่จะกระชับแค่บางส่วนของร่างกาย เพราะเวลาคุณ ลดน้ำหนัก คุณต้องลดมันทั้งตัว ไม่ใช่แค่อก เอว หรือ ต้นขาด้านใน เพราะงั้นเจาะลดเฉพาะ ต้นขา ก็ทำได้ยากอยู่แล้ว วิธีที่ดีที่สุดคือทั้งออกกำลังกายและควบคุมอาหารไปในเวลาเดียวกัน บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำคุณเอง

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

ปรับเปลี่ยนอาหารการกิน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. อย่างที่บอกว่ากระชับเฉพาะส่วนนั้นทำได้ยาก ต้องเผาผลาญไขมันของทั้งร่างกาย ถึงจะกระชับต้นขาเห็นผล ถ้าคุณน้ำหนักเกินไปมาก ให้เริ่มจากลดแคลอรี่ที่กินเข้าไปในแต่ละวันประมาณ 250 - 500 แคลอรี่
    • ตัดส่วนเกินออกไปวันละ 500 แคลอรี่ จะทำให้น้ำหนักคุณลดลงได้ถึง 0.5 กิโลกรัมต่ออาทิตย์ (3,500 แคลอรี่ลดได้ 0.5 กิโลกรัม) นี่ยังไม่รวมแคลอรี่ที่จะเผาผลาญหรือเบิร์นออกตอนคุณออกกำลังกายอีกนะ
  2. สถาบันโภชนาการและการกำหนดอาหาร (The Academy of Nutrition and Dietetics (AND)) ของสหรัฐอเมริกาแนะนำว่าผู้ใหญ่ไม่ควรบริโภคไขมันเกิน 20 - 35% ของแคลอรี่ที่ได้รับในแต่ละวัน ไขมัน 1 กรัมมี 9 แคลอรี่ เพราะฉะนั้นถ้าคุณได้รับ 2,000 แคลอรี่ต่อวัน ควรบริโภคไขมันไม่เกิน 44 - 78 กรัม
    • กินอาหารแบบ DASH (อาหารลดคอเลสเตอรอล) คือบริโภคไขมันได้ไม่เกิน 27% ของแคลอรี่รวมในแต่ละวัน (กินไขมันได้ 60 กรัม ถ้า 1 วันคุณกิน 2,000 แคลอรี่) พยายามเลือกไขมันดี (ไม่อิ่มตัว) และงดไขมันอิ่มตัว อาหารอุดมไขมันดีก็เช่น น้ำมันพืช อย่างน้ำมันมะกอก และน้ำมันคาโนลา ถั่ว เมล็ดพืช และอะโวคาโด
  3. ปริมาณไฟเบอร์หรือกากใยที่ควรบริโภคต่อวันคือ 21 - 38 กรัมต่อวัน อาหารไฟเบอร์สูงนี่แหละช่วยคุณลดน้ำหนักได้เร็ว เพราะไขมันและแคลอรี่ต่ำ แถมเต็มไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย อาหารที่แนะนำก็เช่น ผักผลไม้ ธัญพืชโฮลเกรน แล้วก็ถั่วต่างๆ ไฟเบอร์กินแล้วอิ่มนาน ไม่หิวบ่อย พอกินเยอะๆ เลยทำให้ลดน้ำหนัก (รวมถึงไขมันส่วนเกิน) ได้เร็ว
    • เวลากินอาหารไฟเบอร์สูงต้องเคี้ยวนานๆ เลยมีเวลาให้ร่างกายรู้สึกอิ่ม ถ้ากินเร็วไป ร่างกายจะยังไม่ทันรู้ตัวว่าอิ่มแล้ว เลยยิ่งกินเยอะ นอกจากนี้อาหารไฟเบอร์สูงยังไม่ค่อย "กักตุนพลังงาน" คือแคลอรี่ต่ำในปริมาณที่เท่ากันกับอาหารอื่นๆ [1]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

ออกกำลังกายกระชับต้นขา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เป็นท่าที่กระชับทั้งต้นขา บั้นท้าย และสะโพกในเวลาเดียวกัน วิธีออกกำลังกายด้วยท่าสควอทก็คือ
    • ยืนแยกขาเท่าไหล่ ทิ้งน้ำหนักทรงตัวให้มั่นคง เปิดปลายเท้านิดหน่อย จะทิ้งแขนข้างตัว หันฝ่ามือเข้า หรือยกแขนประสานไว้ที่ท้ายทอยก็ได้ แต่อย่ายกไหล่
    • ยืดหลังตรง แล้วย่อตัว (squat ลงไป) เหมือนจะนั่งเก้าอี้ โดยทิ้งไหล่ไปทางสะโพก ถ่ายน้ำหนักไปที่ส้นเท้า เกร็งหน้าท้องเพื่อทรงตัว
    • เข่าอย่าเกินระนาบเท้าออกมาข้างหน้า ให้ต้นขาขนานไปกับพื้นแล้วค้างไว้ ถ้าส้นเท้าเปิดขึ้นมา ให้กลับไปที่จุดเริ่มต้น หายใจออก แล้วดันเท้ากลับมายืนตัวตรง
    • ท่าสควอทแบบอื่นๆ ก็เช่น wall-sit (หลังแนบกำแพง ทำท่าสควอทค้างไว้) หรือใช้ลูกบอลโยคะ [2]
  2. นี่แหละที่ทำให้ต้นขานักบัลเล่ต์เฟิร์มซะ! แบบนี้ต้องลอง
    • ยืนแยกขากว้างกว่าไหล่นิดหน่อย และเปิดปลายเท้า
    • ยืดแขนไปด้านหน้า จะได้ยืนหลังตรง ทรงตัวง่าย จากนั้นย่อตัวทำท่าสควอท อย่าลืมว่าห้ามย่อเข่าออกไปเกินนิ้วเท้า!
    • ค่อยๆ กลับมายืนท่าเดิม เกร็งก้น ยืดหลังตรง จากนั้นทำซ้ำแต่แรกประมาณ 1 นาที [3]
  3. จะกระชับต้นขาได้ ต้องบริหารหลายๆ แบบ แต่นี่คือท่าที่เห็นผลที่สุด
    • ยืนเท้าชิด ตัวตรง เกร็งหน้าท้อง
    • ยกเท้าขวาลอยไว้ โดยที่หลังตรง ทรงตัวไว้ให้ดีๆ จากนั้นค่อยๆ ก้าวไปข้างหน้า วางเท้าบนพื้นโดยลงส้นเท้าก่อน
    • ค่อยๆ ย่อขาขวาให้ขาซ้ายเหยียดตรง ถ่ายน้ำหนักไปที่เท้าด้านหน้า ย่อตัวไว้จนต้นขาขวากับน่องซ้ายขนานไปกับพื้น ทรงตัวไว้ดีๆ
    • กลับไปยืนท่าเดิม โดยดันตัวจากขาด้านหน้า จากนั้นสลับขา ทำซ้ำแต่ต้นประมาณข้างละ 30 วินาที หรือเท่าที่คุณจะทำไหว [4]
  4. เป็นท่ายอดนิยมเวลาคุณออกกำลังกายแบบพิลาทิส ซึ่งช่วยกระชับสัดส่วนน่าดู
    • นอนราบไปกับพื้นที่ไม่แข็งเกินไป เช่น เสื่อโยคะหรือพิลาทิส เก็บแขนไว้ข้างตัว คว่ำฝ่ามือ
    • ยกเท้าขวาชี้ฟ้า จากนั้นวาดขาเป็นวงกลมออกข้างนอก
    • สะโพกต้องราบไปกับพื้นตลอด หายใจเข้าเวลาวาดขาเป็นวงกลมตามเข็มนาฬิกา พอทำครบ 5 ครั้ง ให้สลับไปวนทวนเข็มนาฬิกา
    • ทำซ้ำ 4 เซ็ต สลับขาไปมา [5]
  5. ถึงจะบริหารกระชับต้นขาแล้ว แต่ก็อย่างที่บอก ว่าต้องเบิร์นและกระชับทั้งตัวถึงจะเห็นผล เจาะเฉพาะจุดไม่ได้ เพราะงั้นให้เบิร์น (เผาผลาญไขมัน) โดยออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ แต่ถ้าทั้งเล่นเวท (ฝึกความทนทาน) และคาร์ดิโอ จะเผาผลาญได้ดีที่สุด [6]
    • ถ้าอยากให้เห็นผลเร็วๆ ต้อง interval training เป็นการออกคาร์ดิโอหนักและเร็วสลับกับเบาและผ่อนคลายเป็นรอบๆ ไป บอกเลยว่าเบิร์นแคลอรี่ได้ มหาศาล เป็นการออกกำลังกายที่หนักแต่จบเร็วทันใจ! [7]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ก่อนจะปรับเปลี่ยนอาหารและการออกกำลังกายควรปรึกษาคุณหมอประจำตัว เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพร่างกายของคุณ
  • อย่าเพิ่งถอดใจ ถ้าออกกำลังกายไปอาทิตย์เดียวแล้วยังไม่เห็นผลเท่าไหร่ บอกเลยว่าต้อง 3 อาทิตย์ขึ้นไป ร่างกายของคุณถึงจะเริ่มเปลี่ยนแปลง
  • อย่าหักโหมแต่แรก ค่อยๆ ออกไป แค่ชวนเพื่อนไปเดินเล่นหรือวิ่งกันตอนเย็นก็ดีกว่าอยู่เฉยๆ
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 2,510 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา