ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
การกระดิกหูก็เหมือนกับการห่อลิ้น คือเป็นความสามารถเฉพาะตัวที่หายาก เพราะคนเราก็วิวัฒนาการต่างกันไป ไม่ใช่ทุกคนจะทำได้ เพราะงั้นถ้าอยากหัดกระดิกหู ขั้นแรกคือต้องรู้ซะก่อนว่ากลไกมันเป็นยังไง พอเห็นภาพแล้ว ก็จะฝึกง่ายขึ้น แค่ขยับหน้าวอร์มอัพ แล้วเพ่งสมาธิไปที่กล้ามเนื้อแต่ละส่วนที่เกี่ยวข้อง
ขั้นตอน
-
อย่าหวังเกินจริง. กระดิกหูไม่ได้คงไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายของใคร แต่ถ้าใช่สำหรับคุณ ก็แนะนำให้ทำใจแต่เนิ่นๆ เพราะบางทีฝึกไปก็อาจกระดิกหูไม่ได้อยู่ดี ของแบบนี้อยู่ที่สรีระของแต่ละคน เพราะงั้นถ้าสุดท้ายแล้วไร้ผล ก็อย่าร้องไห้หนักมาก ถือว่าเกิดผิดตระกูลแล้วกัน! [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- กระดิกหูได้ถือว่าเป็น “vestigial” trait หรือสกิลดั้งเดิมแต่โบราณที่หลงเหลือมา เพราะสมัยก่อน บรรพบุรุษของเรากระดิกหูกันได้สบายๆ แต่สกิลนี้ใช้ทำมาหากินไม่ได้นี่สิ คนเลยไม่ค่อยใส่ใจ สุดท้ายลูกหลานเหลนโหลนอย่างเราเลยสูญเสียความสามารถตรงนี้ไป
- ตอนนี้ก็ยังถกเถียงกันอยู่ ว่าสมัยนี้มีคนมากน้อยแค่ไหนที่กระดิกหูได้ บางคนก็ว่าเป็นส่วนน้อย มีแค่ไม่กี่เปอร์เซ็นต์ แต่บางคนก็เชื่อว่าของแบบนี้สามารถเรียนรู้กันได้ ถ้าฝึกฝนมากพอ
-
กล้ามเนื้อที่จำเป็น. ถ้าอยากเข้าใจศาสตร์การกระดิกหูอย่างลึกซึ้ง ก็ต้องรู้จักกล้ามเนื้อสำคัญ 3 แบบด้วยกัน คือ auricularis anterior, posterior และ superior อย่าเพิ่งกุมขมับว่าไม่ใช่ภาษาคน แค่รู้ไว้ว่ากล้ามเนื้อแต่ละแบบใช้ทำอะไรบ้างก็พอแล้ว [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- auricularis anterior ใช้กระดิกหูทั้งขึ้นข้างบนและไปข้างหน้า
- auricularis posterior ใช้กระดิกหูไปด้านหลัง
- auricularis superiors ใช้ยกหูขึ้นอย่างเดียว
-
ทำสีหน้าแบบอื่นก่อน. บางคนก็ว่าถ้าคุม กล้ามเนื้อบางส่วนบนใบหน้า ได้แล้ว จะทำให้กระดิกหูง่ายขึ้นเยอะเลย เพราะงั้นถ้าคุณแสดงสีหน้าแบบอื่นได้ง่ายกว่า ให้ลองทำก่อนแล้วค่อยต่อยอด พอคุมกล้ามเนื้อกลุ่มเล็กๆ ได้แล้ว ก็ค่อยขยับไปกระดิกหู สีหน้าต่างๆ ก็เช่น [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ยักคิ้วข้างเดียว
- กลอกตาหรือทำตาเหล่ทีละข้าง
- ทำจมูกบาน
- บังคับให้รูม่านตาขยายหรือหดเล็กลง ได้
โฆษณา
-
ขยับกล้ามเนื้ออื่นเพื่อหากล้ามเนื้อหู. กล้ามเนื้อแต่ละส่วนในหน้าจะส่งผลถึงกันทุกครั้งที่หดหรือคลาย ลองขยับดูจะได้รู้สึกว่าหูกระดิกไปทางไหนบ้างเวลาทำสีหน้าต่างๆ แล้วพยายามแยกกล้ามเนื้อแถวหูให้ได้
- ถ้าจะให้เห็นภาพ ก็ลองยกมือขึ้นแล้วกำหมัดแน่น จะรู้สึกเลยว่ากล้ามเนื้อท่อนแขนตึงเกร็งทั้งๆ ที่ไม่ได้ไปยุ่งอะไร
-
กลอกตาซ้าย-ขวา. เพราะส่งผลต่อกล้ามเนื้อหูโดยตรงมากที่สุด ไม่เชื่อลองเหลือบตาซ้าย-ขวาแบบไม่หันหน้าหรือคอตามสิ ระหว่างนั้นจับความรู้สึกที่หูไว้ จะรู้สึกเลยว่าหูข้างหนึ่งหรือสองข้างตึงไปด้านหลัง [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- หน้าตาอาจจะดูประหลาดชอบกล แต่อย่าได้แคร์ ลองกลอกตาไปมาอย่างบ้าคลั่งดู เหลือบมันไปทุกทิศทาง บน ล่าง ซ้าย ขวา จะขยับยังไงก็ได้เท่าที่นึกออก จะรู้สึกว่าหูกระดิกไปข้างหน้า บางทีก็ข้างหลัง
-
ยักคิ้วขึ้น-ลง. ถ้ายักคิ้วข้างเดียวเป็นก็เอาเลย แต่ถ้าไม่ได้ก็ยักมันทั้งสองข้าง จากนั้นหน้านิ่วคิ้วขมวดเหมือนไปโกรธใครมา สลับไปมาช้า-เร็วหลายๆ ระดับ จับความรู้สึกที่หูไว้ ว่ากล้ามเนื้อแถวนั้นตอบสนองยังไง [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ยิ้มเลย. เอาให้กว้างเหมือนโจ๊กเกอร์ โชว์ฟันสวยๆ หน่อย ยกปั้นแก้มขึ้นด้วย แน่นอนว่ายังต้องจับความรู้สึกที่หูไว้ จะได้แยกกล้ามเนื้อหูออก [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
-
ขยับมันทั้ง 3 กล้ามเนื้อ. อย่าเพิ่งคิดฝึกแยกทีละกล้ามเนื้อจนเชี่ยวชาญ เอาให้ขยับได้สักจุดก่อน พอวอร์มหน้าแล้ว แถมจับทางได้ว่ากล้ามเนื้อหูอยู่ประมาณไหน ให้ลองเกร็งกล้ามเนื้อหูดู ยกขึ้น ขยับไปข้างหน้า และข้างหลัง สลับกันไป [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ถ้าไม่ไหว ให้เน้นทีละกล้ามเนื้อก่อน. ถ้าควบคุม 3 กล้ามเนื้อได้ในทันทีก็สุดยอดเลย! แต่ถ้ากล้ามเนื้อเดียวยังไม่รอด ให้เน้นไปทีละจุดก่อน เกร็งแล้วคลายแต่ละจุดไป เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของทั้งกล้ามเนื้อนั้นและบริเวณใกล้เคียง
-
ขยับขยายไปจุดใกล้เคียง. พอควบคุมกล้ามเนื้อส่วนแรกได้คล่อง ก็ให้ขยับไปจุดอื่นที่จับทางได้ ตอนแรกให้ฝึกแยกก่อน แล้วค่อยสลับไปมาระหว่าง 2 กลุ่ม พอจับความรู้สึกและควบคุมได้ทั้ง 2 จุดอย่างเป็นธรรมชาติแล้ว ให้ขยับไปฝึกกล้ามเนื้อที่ 3 แล้วทำซ้ำ
-
ใช้ภาพช่วย. ถ้าไม่เห็นภาพว่ากำลังทำอะไรอยู่ แค่ความรู้สึกคงไม่พอ ให้ไปฝึกหน้ากระจก เท่านี้ก็เห็นชัดเจนทุกท่วงท่า จะใส่แว่นหรือแว่นกันแดดด้วยก็ได้ จะเห็นชัดขึ้นเวลาแว่นขยับไปพร้อมกับหู
-
ฝึก ฝึก และฝึกเท่านั้น. อย่างที่บอกว่าในชีวิตคนเราจะกระดิกหูกันสักกี่ครั้ง เพราะงั้นถ้าฝึกแบบเอาเป็นเอาตายก็หูล้าแน่นอน แต่ก็อย่าเลิกฝึก ถึงจะกระดิกไม่ค่อยได้หรือไม่กระดิกเลยก็เถอะ ของแบบนี้ต้องใช้เวลาสร้างเสริมความแข็งแรง อดใจรอหน่อย [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.livescience.com/33809-wiggle-ears.html
- ↑ http://www.livescience.com/33809-wiggle-ears.html
- ↑ http://www.livescience.com/33809-wiggle-ears.html
- ↑ http://www.abc.net.au/science/news/health/HealthRepublish_1647353.htm
- ↑ https://www.youtube.com/watch?v=sYqBNlYVfwg
- ↑ https://www.youtube.com/watch?v=sYqBNlYVfwg
- ↑ https://www.youtube.com/watch?v=sYqBNlYVfwg
- ↑ https://www.youtube.com/watch?v=sYqBNlYVfwg
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 13,746 ครั้ง
โฆษณา