ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ถ้าทิ้งผ้าเปียกชื้นไว้นานเกินไป ก็จะเกิดกลิ่นอับไม่พึงประสงค์ได้เพราะเชื้อรานั่นเอง อย่างเชื้อราในเครื่องซักผ้าก็เช่นกัน บางทีกลิ่นติดมาถึงผ้าที่ซักแล้ว ทั้งที่อบผ้าหรือตากผ้าทันทีหลังซัก วันนี้คุณมาถูกที่แล้ว เพราะบทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำ 2 - 3 วิธีง่ายๆ ในการขจัดกลิ่นอับชื้น ให้ผ้าหอมสะอาด

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ขจัดกลิ่นอับชื้นในเครื่องซักผ้า

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ) แทนน้ำยาซักผ้า . น้ำส้มสายชูกลั่นขาวธรรมดานี่แหละปลอดภัย เป็นวัตถุดิบจากธรรมชาติ ใช้ขจัดกลิ่นเหม็นและอับชื้นในเครื่องซักผ้าได้ รวมถึงกำจัดแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุของกลิ่น ที่สำคัญคือน้ำส้มสายชูช่วยชะล้างน้ำยาซักผ้าที่สะสมแห้งกรังในเครื่อง ที่อาจกักเก็บกลิ่นไว้ [1]
    • จะผสมน้ำยาซักผ้าครึ่งหนึ่งจากที่ใช้ปกติ ไปกับน้ำส้มสายชูด้วยก็ได้ ขอแค่อย่าเป็นสบู่ที่ทำจากวัตถุดิบธรรมชาติ [2]
    • น้ำส้มสายชูจะทำให้ไขมันในสบู่สูตรธรรมชาติแตกตัว สบู่ประเภทนี้ก็เช่น castile soap หรือสบู่ที่ทำจากน้ำมันมะกอก ทำให้ผสมกันไปก็ใช้ประโยชน์ไม่ได้ [3]
  2. ) ถ้ายังมีกลิ่นอับ . ทั้งน้ำส้มสายชูกับเบคกิ้งโซดากำจัดเชื้อราได้ แต่กำจัดแบคทีเรียต้นตอของกลิ่น คนละสายพันธุ์กัน ถ้าซักผ้าด้วยน้ำส้มสายชูแล้วผ้ายังมีกลิ่นอับชื้น ให้เติมเบคกิ้งโซดา 1/2 ถ้วยตวง (120 มล.) ในเครื่องซักผ้า แล้วซักอีกรอบด้วยน้ำร้อนที่สุด [4]
    • ช่วงล้างน้ำยา (rinse cycle) แนะนำให้เติมน้ำส้มสายชูเล็กน้อย หลังซักผ้าด้วยเบคกิ้งโซดาไปแล้ว
  3. ให้ใช้น้ำยาฟอกขาวสูตรออกซิเจน (oxygen bleach) หรือผงบอแรกซ์แทน ถ้าอยากใช้น้ำยาสำเร็จรูป. น้ำยาซักผ้าทั่วไป อาจจะขจัดเชื้อราและกลิ่นอับชื้นไม่ได้ ถ้าอยากได้น้ำยาสำเร็จรูปแรงๆ ก็ให้ใช้น้ำยาฟอกขาวสูตรออกซิเจน หรือละลายผงบอแรกซ์ในน้ำร้อน แล้วเทใส่เครื่องซักผ้า [5]
    • ใช้น้ำยาฟอกขาวสูตรออกซิเจนแทนน้ำยาซักผ้าธรรมดาได้เลย แต่ผงบอแรกซ์ต้องใช้ร่วมกับน้ำยาซักผ้า
    เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ

    Bridgett Price

    ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำความสะอาดและเป็นเจ้าของ Maideasy
    บริดเจ็ทเป็นเจ้าของร่วมของ Maid Easy บริษัทให้บริการทำความสะอาดบ้านพักอาศัยในฟีนิกซ์ อริโซนา เธอนำพาบริษัทเคิบโตอย่างต่อเนื่องและจัดวางระบบการทำความสะอาดแบบต่อเนื่องทุกวัน
    Bridgett Price
    ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำความสะอาดและเป็นเจ้าของ Maideasy

    อาจจะใช้น้ำยาฟอกขาวสูตรออกซิเจนขจัดกลิ่นก่อนซักก็ได้ ถ้าเสื้อผ้าของคุณเหม็นอับเหมือนมีรา แสดงว่าแช่น้ำไว้นานเกินไป แบบนี้ให้แช่ผ้าในน้ำยาฟอกขาวสูตรออกซิเจน เช่น OxyClean แล้วซักเครื่องอีกรอบ ด้วยน้ำยาซักผ้าตามปกติ หรือน้ำยาซักผ้าแบบแคปซูล

  4. ใช้น้ำยาขจัดกลิ่นสูตรเอนไซม์ ถ้าเสื้อผ้าเหม็นอับจากเหงื่อหมักหมม. ถ้าเผลอหมกชุดออกกำลังกายชื้นเหงื่อไว้ในกระเป๋าฟิตเนส ทั้งกลิ่นอับและกลิ่นเหงื่อจะติดผ้าทนนาน ให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีเอนไซม์ไว้ขจัดกลิ่น เทใส่เครื่องซักผ้าได้เลย [6]
    • น้ำยาซักผ้าที่ขายกันทั่วไปบางตัว จะมีเอนไซม์ขจัดกลิ่น หรือซื้อ laundry booster เป็นขวดๆ ที่เอาไว้ใส่ให้ผ้ายิ่งหอม เพิ่มเติมจากน้ำยาซักผ้าปกติ
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ลองใช้วิธีอื่นๆ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. พอซักผ้าในเครื่องเสร็จแล้ว ให้ตากผ้ากลางแจ้งที่ราวหรือเชือก แล้วเอาไม้หนีบหนีบไว้ ตากแดดผึ่งลมไว้จนแห้งสนิท แสงแดดจะช่วยฆ่าแบคทีเรียบางชนิด อันเป็นสาเหตุของกลิ่นไม่พึงประสงค์ตามเสื้อผ้า ถ้าตากผ้ากลางแจ้ง จะช่วยขจัดกลิ่นได้ดี [7]
    • วิธีนี้เหมาะกับเสื้อผ้าทุกแบบ ทั้งที่ทำจากเส้นใยธรรมชาติ เช่น ผ้าคอตตอน (ผ้าฝ้าย) ผ้าขนสัตว์ และผ้าใยสังเคราะห์อย่างผ้ายืด หรือไนลอน
    • แต่ข้อเสียคือถ้าตากแดดนานเกินไป แดดจะเลียจนผ้าสีซีดได้
  2. อุณหภูมิเย็นจัดแบบติดลบ ช่วยฆ่าแบคทีเรียก่อกลิ่นได้ ทำให้ผ้าเหม็นอับน้อยลง ยังไงลองเอาผ้าใส่ถุงซิปล็อค แล้วแช่ช่องฟรีซไว้ข้ามคืน [8]
    • ถึงจะเป็นวิธีผิดธรรมดาไปหน่อย แต่บอกเลยว่าคนชอบใส่ยีนส์ทั้งหลาย สามารถเอามาแช่แข็งนานๆ เพื่อกำจัดกลิ่นและยืดอายุการใช้งานของยีนส์ได้เลย
  3. ฉีดพ่นน้ำส้มสายชูกลั่นขาวหรือวอดก้าใส่ผ้าที่เหม็น แล้วตากให้แห้ง. ทั้งน้ำส้มสายชูกลั่นขาวและวอดก้าใช้กำจัดแบคทีเรียที่ทำให้เกิดกลิ่นอับชื้นได้ แถมพอระเหยไป กลิ่นก็หายไปด้วย ทำให้ฉีดพ่นที่เสื้อผ้าได้โดยตรง ให้เทน้ำส้มสายชูหรือวอดก้าใส่ขวดสเปรย์ แล้วฉีดพ่นเสื้อผ้าให้ชุ่ม จากนั้นผึ่งลมให้กลิ่นหอมสดชื่น [9]
    • ถ้ารีบใช้ ให้เอาผ้าใส่เครื่องอบผ้าแทนการผึ่งลมจนแห้ง
  4. Activated charcoal หรือถ่านกัมมันต์ เป็นเหมือนตัวกรองให้ทั้งน้ำและอากาศสะอาดได้ บางคนก็ใช้ดูดพิษ หรือเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์เสริมความงาม ให้เอาถ่านกัมมันต์ใส่ถุงซิปล็อคหลายๆ เม็ด แล้วใส่เสื้อผ้าเหม็นอับเข้าไป ทิ้งไว้อย่างน้อย 1 คืน แต่ถ้าเป็นกลิ่นติดทนนาน อาจจะต้องทิ้งไว้นานเป็นอาทิตย์ [10]
    • คุณหาซื้อถ่านกัมมันต์ได้ตามร้านขายยา ร้านขายของใช้สัตว์เลี้ยง และร้านขายวิตามินและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ป้องกันไม่ให้เชื้อราและกลิ่นอับกลับมา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ไม่ว่าจะผ้าเช็ดตัวหลังอาบน้ำ หรือชุดออกกำลังกายหลังไปฟิตเนส ห้ามกองไว้ตามพื้นหรือใส่ตะกร้าผ้ารอซัก ให้ตากที่ขอบตะกร้า หรือแขวนผึ่งไว้ก่อน แล้วค่อยเอาไปซักเครื่อง [11]
    • ถ้าผ้าเกาะกันเป็นก้อน ยิ่งแห้งช้า รายิ่งขึ้นง่าย
  2. ถ้าใส่น้ำยาซักผ้ามากเกินไป จะฟองเยอะเกิดคราบตกค้างในเครื่องซักผ้าทั้งที่ซักไปแล้วหลายครั้ง คราบนี้เป็นแหล่งเพาะแบคทีเรียที่ทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ขนาดผ้าซักสะอาดแล้วก็ยังมีกลิ่นตุๆ ทุกครั้งที่ซักผ้า ให้ตวงน้ำยาซักผ้าตามคำแนะนำที่ฉลาก อย่าใส่เยอะเกินไป [12]
    • ที่ฉลากผลิตภัณฑ์จะมีคำแนะนำบอกไว้ ว่าควรใส่น้ำยาซักผ้ามากแค่ไหน แต่ถ้าไม่แน่ใจ ก็ให้ใส่น้อยกว่าที่คิด จะดีกว่า
  3. ถ้าซักชุดออกกำลังกาย อย่าใส่น้ำยาปรับผ้านุ่ม. น้ำยาปรับผ้านุ่ม ใช้แล้วก็ผ้านุ่มสมชื่อ แถมหอม แต่ถ้าใช้กับชุดออกกำลังกายที่เป็นผ้ายืด ใยสังเคราะห์ จะเกิดคราบตกค้างลื่นๆ ที่ซักแทบไม่ออกเลย ทำให้น้ำชะล้างสิ่งสกปรกไม่ได้ ผ้าก็จะเหม็นทั้งๆ ที่ซักแล้ว [13]
    • คราบน้ำยาปรับผ้านุ่มเป็นแหล่งเพาะแบคทีเรียด้วย พอๆ กับใช้น้ำยาซักผ้ามากไปเลย
  4. ถ้าทิ้งผ้าสะอาดซักแล้วไว้ในเครื่องซักผ้าแค่ 2 - 3 ชั่วโมง ก็เริ่มมีกลิ่นอับชื้นแล้ว หรือเร็วกว่านั้น ถ้าอากาศร้อนชื้นเป็นพิเศษ ให้รีบย้ายเข้าเครื่องอบผ้า หรือตากที่ราวทันทีหลังซักเสร็จ [14]
    • ถ้าเผลอทิ้งผ้าไว้ในเครื่องซักผ้านานเกินไปหลังซักเสร็จ แนะนำให้ซักอีกรอบโดยใส่น้ำส้มสายชู จะช่วยกำจัดกลิ่นอับชื้นก่อนอบผ้าได้
  5. อย่าเก็บเสื้อผ้าในห้องชื้นๆ เช่น ห้องน้ำ หรือห้องเก็บของ. ถ้าเก็บเสื้อผ้าในห้องมืดๆ ชื้นๆ อย่างห้องเก็บของ ห้องน้ำ ผ้าจะดูดความชื้นในบรรยากาศ เกิดราและกลิ่นอับได้ ให้เก็บเสื้อผ้าในลิ้นชักหรือตู้เสื้อผ้าที่อากาศถ่ายเทดี [15]
    • ถุงพลาสติกสำหรับใส่เสื้อผ้าซักแห้ง ก็เป็นตัวกักเก็บความชื้นชั้นดี จนเกิดราและกลิ่นอับชื้นได้ง่าย
    • ถ้าอากาศในห้องชื้นมาก ให้หาตัวดูดความชื้น อย่างซองซิลิกาเจล มาใส่ตามลิ้นชักหรือก้นตู้เสื้อผ้า หาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์งานฝีมือ อุปกรณ์กล้อง หรือร้านขายของใช้ในบ้าน
  6. ถึงเวลาล้างเครื่องซักผ้า ถ้าซักผ้าแล้วเหม็นอับกว่าเดิม. เครื่องซักผ้าบางเครื่อง โดยเฉพาะเครื่องซักผ้าฝาหน้า จะเกิดราและกลิ่นอับชื้นได้ง่าย จนติดไปถึงเสื้อผ้าที่ซักด้วย ถ้าคิดว่ากลิ่นอับเกิดจากเครื่องซักผ้า แนะนำให้เอาผ้าชุบน้ำร้อนผสมน้ำยาล้างจาน แล้วใช้เช็ดทำความสะอาดขอบยางรอบฝาเครื่อง รวมถึงถาดใส่น้ำยาซักผ้า จากนั้นเทน้ำยาฟอกขาว 1 ถ้วยตวง (240 มล.) กับเบคกิ้งโซดา 1 ถ้วยตวง (240 มล.) แล้วเดินเครื่องเหมือนซักผ้าตามปกติ หรือใช้โหมดทำความสะอาดเครื่อง [16]
    • จะใช้น้ำยาซักผ้าสูตรเอนไซม์ 1/2 ถ้วยตวง (120 มล.) ก็ได้ ถ้าอยากขจัดกลิ่นยิ่งไปกว่าเดิม
    • ถ้าไม่อยากให้ราขึ้นในเครื่องซักผ้า ให้รีบเอาผ้าเปียกออกจากเครื่องทันที แล้วเปิดหรือแง้มฝาเครื่องซักผ้าไว้หลังซักผ้าเสร็จ เครื่องจะได้แห้งสนิท
    โฆษณา

คำเตือน

  • ถ้าราขึ้นและเหม็นอับเป็นพิเศษ แนะนำให้ใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากกันสารพิษ ป้องกันการสูดดมสปอร์ของเชื้อราเข้าไป
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 8,316 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา