PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

คราบเลือดนั้นยากที่จะกำจัดออกเมื่อมันติดอยู่สักครั้งหนึ่งแล้ว การกำจัดมันก่อนที่จะซักหรืออบแห้งจะเป็นการดีที่สุด แต่ก็ยังมีวิธีที่จะกำจัดคราบเลือดที่แห้งติดกับเสื้อผ้าและผ้าลินินได้เช่นกัน เป็นวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยกำจัดคราบเลือดออกไปได้เลย! ไม่ว่าจะต้องการกำจัดมันออกจากยีนส์ตัวโปรดหรือกระโปรงผ้าไหมสุดสวยก็ตาม วิกิฮาวเตรียมวิธีไว้ให้คุณเรียบร้อยแล้ว

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

การกำจัดเลือดใหม่

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. Watermark wikiHow to กำจัดคราบเปื้อนเลือด
    เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการกำจัดเลือดสดๆ และจะได้ผลดีถ้าหากว่ารีบล้างออกในทันที [1] หากคุณทำเปื้อนบนพรม ฟูก หรือเฟอร์นิเจอร์หนักๆ ที่ไม่สามารถนำมาแช่น้ำได้ ให้ใช้ผ้าสะอาดหรือฟองน้ำซับที่คราบเลือดแทน ห้ามใช้น้ำร้อนเด็ดขาด มันเป็นสาเหตุที่จะทำให้คราบเลือดฝังเข้าไปในผ้าแน่นกว่าเดิม
  2. Watermark wikiHow to กำจัดคราบเปื้อนเลือด
    วิธีนี้เหมาะกับการกำจัดเลือดสดเท่านั้น ก่อนที่จะตัดสินใจใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ให้จำไว้ว่ามันอาจฟอกสีหรือทำให้ผ้าบางชนิดอ่อนตัวลงได้ และอาจกลายเป็นคราบใหม่ที่จะติดบนผ้าของคุณ ฉะนั้นให้ใช้อย่างระมัดระวังและให้แน่ใจว่าได้ลองหยดน้ำยาไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ลงบนจุดเล็กๆ ที่ไม่เป็นที่สังเกตบนรอยเปื้อน ไฮโดนเจนเปอร์ออกไซด์สามารถกำจัดรอยเลือดจากพื้นผิวที่เป็นรูพรุนได้อย่างปลอดภัยและได้ผล
    • เทไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ลงบนคราบเลือด เจือจางกับน้ำเปล่าในอัตราส่วน 50% ก่อน ถ้าหากว่ากำลังจะกำจัดคราบบนผ้าที่ละเอียดอ่อน พยายามอย่าให้ฟองกระจายไปบริเวณอื่นที่ไม่ได้มีคราบเลือดติดอยู่
    • เติมไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ลงไปอีกหลายๆ ครั้ง เพื่อที่ปฏิกิริยาทางเคมีจะได้ช้าลงและโฟมจะได้คงที่และไม่เพิ่มขึ้น
    • เช็ดโฟมออกด้วยผ้า แล้วเทไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ลงไปอีกจนกว่าคราบเลือดจะหายไป หรือจางลงมาก
    • ล้างผ้าด้วยน้ำเย็นและซักด้วยสบู่หรือผงซักฟอกตามปกติ
    • คุณสามารถแช่ผ้าทั้งหมดไว้ในชามที่มีไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์อยู่ได้เช่นกัน ปล่อยทิ้งไว้ 15 ถึง 20 นาที จากนั้นนำผ้าขึ้นมาจากไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น
  3. Watermark wikiHow to กำจัดคราบเปื้อนเลือด
    ใช้เกลือและน้ำเปล่าสำหรับผ้าที่มีความละเอียดอ่อน. [2] รีบทำเข้าล่ะ ยิ่งกำจัดคราบเปื้อนด้วยเกลือผสมกับน้ำได้เร็วเท่าไร ก็จะยิ่งมีเวลาให้คราบติดกับผ้าน้อยลงเท่านั้น การใช้ส่วนผสมของเกลือและน้ำเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการกำจัดคราบเปื้อนเลือดออกจากสิ่งที่ไม่สามารถนำไปซักได้ อย่างเช่น ฟูกที่นอน
    • ล้างคราบเลือดออกด้วยน้ำ”เย็น” ปริมาณมาก หากที่บ้านคุณมีน้ำก๊อก ให้นำผ้าที่เปื้อนคราบไปไว้ใต้ก๊อกและปล่อยให้น้ำเย็นไหลจากก๊อกผ่านลงมาบนคราบเปื้อนนั้น คุณสามารถล้างคราบเลือดจำนวนมากได้จากวิธีนี้ หากว่าคราบเปื้อนนั้นอยู่บนพรมหรือส่วนหนึ่งของเฟอร์นิเจอร์หนักๆ ให้ผสมน้ำกับน้ำแข็งในชามหรือถังแล้วใช้ผ้าเช็ดจานหรือฟองน้ำชุบเช็ดบริเวณที่มีคราบเปื้อน
    • ขยี้ผ้าเข้าด้วยกันใต้น้ำเพื่อกำจัดคราบที่หลงเหลืออยู่ หากว่าคุณสามารถกำจัดคราบเปื้อนได้ภายใน 10 ถึง 15 นาทีที่เกิดรอยเปื้อนขึ้น คุณจะสามารถกำจัดมันออกได้ทั้งหมดเลย อย่างไรก็ตาม หากว่าคุณยังเห็นรอยของเลือดที่ยังหลงเหลืออยู่ ให้หยิบเกลือมาเตรียมไว้ได้เลย
    • ผสมน้ำปริมาณเล็กน้อยกับเกลือเพื่อทำส่วนผสมที่เนื้อคล้ายครีมขึ้นมา จากนั้นนำไปโปะที่บริเวณคราบเปื้อน ฉะนั้นปริมาณส่วนผสมของน้ำและเกลือที่คุณต้องการนั้นจะขึ้นอยู่กับขนาดของคราบเปื้อนนั่นเอง
    • ถูส่วนผสมของน้ำและเกลือบริเวณรอยคราบเปื้อน เนื้อสัมผัสที่เป็นเม็ดเล็กๆ ของเกลือและคุณสมบัติที่ดูดซับให้น้ำแห้งได้ของเกลือนั้นจะกำจัดรอยคราบเลือดที่หลงเหลืออยู่และดึงมันออกจากเนื้อใยผ้าได้
    • ล้างเกลือออกด้วยน้ำเย็นอีก ตรวจสอบดูว่าคราบเปื้อนเลือดหายไปแล้วหรือยัง
    • เมื่อคราบเปื้อนเลือดหายไปแล้ว หรือในกรณีที่คุณไม่สามารถซักมันออกได้อีกต่อไป ให้นำผ้าไปซักในเครื่องซักผ้าด้วยผงซักฟอกตามปกติ
    • หากสิ่งของที่เปื้อนคราบเลือดไม่สามารถนำไปซักล้างได้ ให้ใช้น้ำเย็นจำนวนมากล้างเลือดและเกลือออก
  4. Watermark wikiHow to กำจัดคราบเปื้อนเลือด
    ลองใช้สบู่ล้างคราบเลือดออก หากว่าคุณใช้ห้องน้ำสาธารณะในการล้างคราบเลือดออก. บางครั้งคุณอาจไม่มีไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์หรือเกลือเตรียมพร้อมอยู่ในมือ วิธีนี้คล้ายกับวิธีที่ใช้เกลือ แต่แทนที่จะใช้เกลือ ให้ถูสบู่หรือแชมพูโดยตรงบริเวณรอยคราบเปื้อน หากว่าคุณใช้วิธีนี้กับพรม ฟูกที่นอน หรือเฟอร์นิเจอร์ เป็นเรื่องสำคัญที่คุณจะต้องไม่ใช้สบู่มากเกินไป เพราะจะเป็นการยากในการล้างมันออก
    • แช่บริเวณที่เปื้อนคราบเลือดในน้ำเย็น
    • ถูสบู่หรือแชมพูปริมาณพอดีลงบนคราบเปื้อนโดยตรง
    • ขัดถูแรงๆ ใช้กำปั้นโดยให้ฝ่ามือหันเข้าหากัน
    • จะทำให้ฟองเกิดขึ้นได้ดี ใส่น้ำเพิ่มได้หากต้องการ
    • ล้างออกด้วยน้ำเย็นและทำซ้ำจนกว่ารอยคราบเลือดและฟองจะหมดไป ห้ามใช้น้ำร้อนเด็ดขาด น้ำร้อนจะทำให้คราบเกาะกับผ้าแน่นขึ้น
  5. Watermark wikiHow to กำจัดคราบเปื้อนเลือด
    ลองใช้แอมโมเนียสำหรับคราบเปื้อนที่ซักไม่ออก. ผสมแอมโมเนีย 1 ช้อนโต๊ะกับน้ำเย็นครึ่งถ้วย แล้วเทลงไปบนคราบเปื้อนเลือด เมื่อคราบหายไปแล้ว ให้ล้างด้วยน้ำเย็นเพิ่มอีก หลีกเลี่ยงการใช้แอมโมเนียกับผ้าลินิน ผ้าไหม หรือผ้าขนสัตว์
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

การกำจัดเลือดที่แห้งแล้ว

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. Watermark wikiHow to กำจัดคราบเปื้อนเลือด
    วิธีนี้เหมาะกับการใช้บนผ้าที่สามารถซักในเครื่องซักผ้า หรือซักมือได้ หากคุณใช้มันบนพรม พรมเช็ดเท้า หรือเฟอร์นิเจอร์ จะเสี่ยงกับกลิ่นของยาสีฟันที่จะติดซึมเข้าไปในเส้นใยผ้าได้
    • บีบยาสีฟันลงบนบริเวณที่มีคราบเปื้อนเลือดติดอยู่
    • รอให้ยาสีฟันแห้ง
    • ล้างยาสีฟันออกด้วยน้ำเย็น
    • ซักบริเวณที่มีคราบเลือดด้วยสบู่ และล้างให้สะอาดด้วยน้ำเย็น ทำซ้ำหากจำเป็น
  2. Watermark wikiHow to กำจัดคราบเปื้อนเลือด
    ทั้งเลือดและเนื้อต่างก็เป็นวัตถุดิบจากธรรมชาติ ที่สามารถละลายมันด้วยปฏิกิริยาจากเอนไซม์: โปรตีเอส, เซลลูโลส และไลเปสได้ ผงหมักเนื้อไม่ปรุงรสที่ขายตามร้านค้าจะใช้ได้ผลเมื่อโรยไปบริเวณคราบเลือดที่แห้งกรัง ปกติผงซักผ้าหรือแคปซูลซักผ้าก็มักจะมีเอนไซม์เหล่านี้อยู่แล้ว
    • วิธีนี้ใช้ได้ดีในการทำความสะอาดผ้าที่มีความทนทาน อย่างเช่น ยีนส์ แต่ไม่เหมาะกับผ้าที่บอบบาง หลีกเลี่ยงการใช้เอนไซม์เหล่านี้กับผ้าลินิน ผ้าไหม หรือผ้าขนสัตว์ เพราะผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะละลายโปรตีน และอาจไปทำลายผ้าไหม ผ้าลินิน และผ้าขนสัตว์ที่ทำจากโปรตีนได้
    • เติมน้ำเย็น 1 ถ้วยลงในชามใบเล็ก
    • จุ่มผ้าส่วนที่เปื้อนเลือดลงไปในชาม
    • โรยผลิตภัณฑ์ที่มีเอนไซม์ 1 ช้อนชาลงไปบนคราบเปื้อนเปียกๆ โดยตรง
    • ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 1 วัน ทุกๆ ไม่กี่ชั่วโมง ให้คอยถูให้เอนไซม์ซึมเข้าไปในคราบเปื้อน
    • ซักผ้าตามปกติ
  3. Watermark wikiHow to กำจัดคราบเปื้อนเลือด
    ใช้น้ำลายทำความสะอาดเนื้อผ้าที่ละเอียดอ่อน. การใช้น้ำลายก็เป็นวิธีที่ได้ผลในการกำจัดคราบเลือดเช่นกัน เพราะเอนไซม์ในน้ำลายที่ช่วยย่อยอาหาร ก็สามารถละลายโปรตีนในเลือดได้ และโปรตีนเหล่านั้นแหละที่ทำให้ยากที่จะล้างเลือดออกไป จำไว้ว่าวิธีนี้เหมาะกับคราบเปื้อนเลือดเล็กๆ
    • รวบรวมน้ำลายในปาก
    • พ่นใส่บริเวณที่มีคราบเลือดเกาะอยู่
    • ถูคราบเลือดออก
    • แช่ผ้าในน้ำเย็น
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

การกำจัดคราบเปื้อนเลือดจากพื้นผิวเฉพาะสิ่ง

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. Watermark wikiHow to กำจัดคราบเปื้อนเลือด
    สิ่งที่เอาไว้เคลือบเงาไม้เนื้อแข็ง อย่างเช่น แว็กซ์ ยูรีเทน และโพลียูรีเทน ต่างปกป้องพื้นไม้เนื้อแข็งจากความชื้น การสึกหรอ และคราบเปื้อนส่วนใหญ่ ส่วนมากแล้ว เลือดสามารถถูกเช็ดออกด้วยผ้าขี้ริ้วกับน้ำเปล่าหรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดบ้านทั่วไปได้
  2. Watermark wikiHow to กำจัดคราบเปื้อนเลือด
    ซาตินเป็นผ้าชนิดที่บอบบาง และควรดูแลให้ดี การใช้วิธีกำจัดออกอย่างอ่อนโยนอย่างเกลือกับน้ำเย็นมักจะได้ผล โดยเฉพาะถ้าหากว่าเลือดยังสดใหม่อยู่
  3. Watermark wikiHow to กำจัดคราบเปื้อนเลือด
    ฟูกไม่สามารถนำไปซักได้ ฉะนั้นควรแน่ใจว่าได้ใช้น้ำยาทำความสะอาดอะไรก็ตามในปริมาณน้อย การใช้ส่วนผสมที่ทำเป็นเนื้อครีนเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการกำจัดคราบเปื้อนเลือด เพราะคุณคงไม่อยากให้ความชื้นซึมซับเข้าไปในฟูกของคุณมากหรอก
  4. Watermark wikiHow to กำจัดคราบเปื้อนเลือด
    มีหลากหลายวิธีที่ใช้กำจัดคราบเลือดออกจากพรม โดยแนะนำวิธีที่"อ่อนโยนที่สุด" (วิธีใช้น้ำ) ก่อน จากนั้นค่อยใช้วิธีที่"เข้มข้นขึ้น"ในการกำจัดคราบเลือดที่กำจัดออกได้ยาก
  5. Watermark wikiHow to กำจัดคราบเปื้อนเลือด
    คอนกรีตนั้นมีรูพรุนให้น้ำซึมลงไปได้ ฉะนั้นเลือดจึงมีแนวโน้มที่จะซึมลึกลงไป ทำให้ยากต่อการกำจัด วิธีการกำจัดที่พิเศษ อย่างการใช้สารเคมี จะเป็นวิธีที่ส่งผลในการกำจัดเลือดจากคอนกรีตได้
  6. Watermark wikiHow to กำจัดคราบเปื้อนเลือด
    การใช้น้ำเย็นเป็นวิธีที่ได้ผลในการกำจัดรอยเลือดสดๆ จากยีนส์ได้ ขณะที่คราบเลือดที่แห้งสามารถกำจัดออกได้โดยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่หาได้ทั่วไปในบ้าน อย่างเช่น เกลือ แอมโมเนีย และเบกกิ้งโซดา
  7. Watermark wikiHow to กำจัดคราบเปื้อนเลือด
    ใช้แค่วิธีกำจัดที่อ่อนโยนอย่างเกลือ น้ำลาย และน้ำยาล้างจาน เมื่อต้องการกำจัดคราบเปื้อนเลือดออกจากผ้าไหมที่ซักได้ หลีกเลี่ยงการใช้แอมโมเนีย หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของสารเคมีที่สามารถทำความเสียหายให้กับเนื้อผ้าได้
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ยิ่งรีบกำจัดคราบเลือดเร็วเท่าไร ก็จะยิ่งมีโอกาสในการจำกัดออกไปได้มากเท่านั้น
  • บรรดาสบู่เข้มข้นอย่างยี่ห้อ Dr. Bronner's Liquid Castile ใช้ได้ผลดีเลยล่ะ คุณสามารถใช้สบู่ถูพื้นไม้ยี่ห้อ Murphy's Oil Soap ก็ได้ โดยสิ่งที่สำคัญคือต้องเป็นสบู่จริงๆ “ไม่ใช่” สารซักฟอกพื้นฐานปิโตรเลียม (เช่น น้ำยาล้างจาน)
  • วิธีเดียวที่จะรู้ว่าคราบเลือดถูกกำจัดออกไปแล้ว คือการสังเกตผ้าที่มีรอยคราบเปื้อนว่าออกมาเป็นอย่างไรตอนแห้งแล้ว
  • นอกจากเปอร์ออกไซด์และสบู่แล้ว คุณสามารถใช้น้ำโซดาที่ไม่ใส่น้ำตาลไม่ใส่สี (คลับโซดา) ได้เช่นกัน โดยให้แช่ลงในคลับโซดาประมาณ 30 นาที หากคราบเปื้อนยังอยู่ มันจะกลายเป็นสีเหลืองอ่อน จากนั้นคุณค่อยกำจัดคราบเปื้อนออกด้วยน้ำยาขจัดคราบยี่ห้อต่างๆ ก็ได้
  • สำหรับคราบเปื้อนที่ยากต่อการกำจัดที่ติดอยู่บนเนื้อผ้าที่ทนทาน ให้แช่บริเวณคราบเปื้อนลงในน้ำยาทำความสะอาดพรมก่อนที่จะส่งลงเครื่องซัก จากนั้นก็ให้ซักด้วยผงซักฟอกกับน้ำเย็น มันจะช่วยกำจัดรอยคราบเปื้อนที่ดูติดแน่นออกไปได้ ยิ่งทำวิธีนี้เร็วเท่าไรก็ยิ่งดี (ทำก่อนคราบแห้งจะดีที่สุด) อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณไม่สามารถหาน้ำยาทำความสะอาดพรมมาได้ในทันที คุณสามารถใช้น้ำเย็นทำให้คราบเปื้อนเลือดชุ่มน้ำไปก่อนก็ได้
  • เปอร์ออกไซด์ได้ผลกับทุกอย่างที่มีคราบเปื้อนเลือดติดอยู่ ยกเว้นเตียงนอน
  • สำหรับพื้นผิวที่แข็งและไม่เป็นรูพรุน มันจะได้ประสิทธิภาพกว่าในการจุ่มรอยเปื้อนเลือดลงไปในส่วนผสมสารฟอกขาว 10% จากนั้นก็เช็ดออก วิธีนี้จะฆ่าเชื้อและทำความสะอาดในเวลาเดียวกัน
  • ประสิทธิภาพการย่อยของเอนไซม์นั้นหาเปรียบไม่ได้ รายการโทรทัศน์ในประเทศอังกฤษ เคยพิสูจน์ให้เห็นอยู่ครั้งหนึ่งว่าแคปซูลทำความสะอาดจานละลายกีบเท้าหมูให้กลายเป็นของเหลวและกระดูกได้ภายในไม่กี่สัปดาห์!
โฆษณา

คำเตือน

  • ห้ามผสมแอมโมเนียเข้ากับคลอรีนเด็ดขาด เพราะมันอาจก่อให้เกิดควันที่มีอันตรายได้
  • ห้ามใช้น้ำอุ่นหรือน้ำร้อนเด็ดขาด คราบเลือดจะติดแน่นกว่าเดิม เพราะน้ำร้อนจะไปทำให้โปรตีนในเลือดแข็งตัวติดกับเส้นใยผ้า หากคุณอยากซักผ้าในน้ำอุ่น ให้ล้างคราบเปื้อนเลือดในน้ำเย็นให้หมดก่อน
  • ระวังการสัมผัสเลือดอยู่เสมอ การสัมผัสเลือดจากใครบางคนที่ไม่ใช่ตัวคุณเองนั้นมีความเสี่ยงในการเกิดโรคที่ติดต่อกันทางเลือดได้ เช่น การติดเชื้อเอชไอวี ไวรัสตับอักเสบบี และไวรัสตับอักเสบซี หลีกเลี่ยงการสัมผัสเลือดของผู้อื่นด้วยมือเปล่า และล้างมือให้สะอาดเสมอด้วยน้ำสบู่ร้อน หลังจากที่สัมผัสเลือดแล้ว
  • ห้ามสูดดมแอมโมเนียเข้าไปเด็ดขาด เพราะอาจก่อให้เกิดอันตรายได้
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • น้ำเย็น
  • ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์
  • เกลือ
  • ยาสีฟัน
  • ผงหมักเนื้อ
  • สบู่
  • แอมโมเนีย
  • น้ำลาย

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 11,564 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา