ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ถ้าหากคุณลืมทาครีมกันแดดหลังจากที่ใช้เวลานอกบ้านท่ามกลางแดดเป็นเวลานาน คุณก็อาจจะมีรอยผิวสีแทนบนแขน หน้าและลำคอ รอยผิวสีแทนเหล่านี้ไม่เป็นที่ต้องการและจะอยู่กับคุณจนหมดฤดูร้อนทำให้คุณไม่สามารถใส่เสื้อผ้าที่จะปกปิดรอยผิวสีแทนเหล่านี้ได้ ถึงแม้ว่าคุณอาจจะต้องใช้เวลา 1-2 สัปดาห์เพื่อกำจัดรอยผิวสีแทนเหล่านี้แต่คุณสามารถทำสีผิวให้เรียบเนียนเพื่อบอกลารอยผิวสีแทนที่ไม่น่าดู

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

การเกลี่ยผิวสีแทน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การขัดผิวคือขั้นตอนของการลอกเซลล์ผิวที่ตายแล้วบนผิวชั้นนอกออกซึ่งช่วยกำจัดรอยผิวสีแทนได้เร็วขึ้น เมื่อคุณขัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก ผิวสีแทนของคุณจะสว่างขึ้นและสีผิวธรรมชาติของคุณจะกลับคืนมา [1]
    • คุณอาจจะต้องขัดผิวหลายครั้งก่อนที่คุณจะสังเกตเห็นความแตกต่างเพราะฉะนั้นคุณต้องใจเย็นๆ
  2. การขัดผิวนั้นง่ายและให้สารอาหารกับผิว คุณมีวิธีการขัดผิวมากมายให้เลือกโดยขึ้นอยู่กับปริมาณของผิวที่คุณต้องการขัด การใช้ใยบวบหรือผ้าขนหนูผืนเล็กและครีมทำความสะอาดคือวิธีเริ่มต้นที่ดี
    • ใยบวบจะให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเพราะเป็นวัสดุที่ค่อนข้างหยาบ อย่างไรก็ตามถ้าหากคุณมีผิวบอบบางหรือผิวถูกแดดเผาก็ไม่ควรใช้ใยบวบเพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองได้ การใช้ใยบวบคือคุณต้องขัดผิวอย่างนุ่มนวลเป็นวงกลม 1-2 นาทีและทำขั้นตอนนี้วันละครั้งระหว่างการอาบน้ำหรือแช่อ่าง
    • ครีมทำความสะอาดและผ้าขนหนูผืนเล็กคือวิธีที่ดีที่สุดสำหรับผิวบอบบางแต่จะใช้เวลานานกว่าจะได้ผล การใช้คือคุณต้องนำสบู่ชโลมผ้าขนหนูผืนเล็กและค่อยๆ ขัดผิวเป็นวงกลม 3-5 นาทีและทำขั้นตอนนี้วันละครั้งระหว่างการอาบน้ำหรือแช่อ่าง
  3. แช่น้ำนมเพื่อเร่งการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก. การแช่น้ำนมคือการขัดผิวตามธรรมชาติโดยทำให้ผิวชั้นนอกนุ่มและวิธีนี้ยังช่วยเติมความชุ่มชื้นกลับสู่เซลล์ผิว หลังจากที่ผิวนุ่มแล้วเซลล์ผิวที่ตายแล้วก็จะหลุดออกได้ง่าย [2]
    • แช่น้ำนมและน้ำอย่างน้อย 5-7 นาที [3]
    • เซลล์ผิวที่มีสีแทนถูกทำลายแล้วและกำลังจะหลุดออกเพราะฉะนั้นการแช่อ่างจะช่วยเร่งให้มันหลุดออกเร็วขึ้น [4]
  4. ใช้น้ำมะนาวและน้ำตาลเพื่อกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว. กรดในน้ำมะนาวสามารถช่วยกัดกร่อนเซลล์ผิวที่ตายแล้วในขณะที่ลักษณะของน้ำตาลจะทำหน้าที่ขัดผิว หั่นมะนาวเป็น 2 ซีกและบีบน้ำเพื่อผสมกับน้ำตาล [5] ทาส่วนผสมบนผ้าขนหนูผืนเล็กหรือปลายนิ้วและถูบนผิวเป็นวงกลม
    • หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดอย่างน้อย 1 ชั่วโมงหลังจากการทำวิธีนี้ไม่เช่นนั้นคุณจะมีผิวสีแทนกว่าเดิม
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

การปกปิดรอยผิวสีแทน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ทาผลิตภัณฑ์ทำผิวสีแทนด้วยตัวเองบนบริเวณผิวที่ไม่เป็นสีแทน. ทางเลือกนี้ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพกว่าการทำให้ผิวสีแทนด้วยรังสียูวี เมื่อคุณเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำผิวสีแทนด้วยตัวเองก็ควรเลือกด้วยสีที่อ่อนกว่าซึ่งมีมอยส์เจอร์ไรเซอร์เพื่อเกลี่ยรอยผิวสีแทน คุณอาจจะต้องการเลือกผลิตภัณฑ์ทำผิวสีแทนด้วยตัวเองที่มีสีเดียวกับรอยผิวสีแทนที่คุณมีแต่วิธีนั้นไม่ใช่วิธีที่ฉลาด ถ้าหากคุณเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีผิวสีแทนเข้มเพื่อทาบริเวณที่ผิวไม่เป็นสีแทน ผิวของคุณจะเป็นสีส้มเลอะเทอะและมีริ้วรอยบริเวณข้อเท้าและเท้าซึ่งเป็นบริเวณที่ทำให้ผิวสีแทนได้ยาก [6]
    • ผลิตภัณฑ์ทำผิวสีแทนที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นเกลี่ยและกลืนเข้ากับผิวได้ง่าย
    • ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแทนใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์จึงเห็นผลแต่จะเป็นธรรมชาติมากที่สุด
  2. ช่างสเปรย์ผิวสีแทนมืออาชีพใช้แปรงพ่นสีเพื่อค่อยๆ ลงสีแทนให้กลืนกับสีผิวและทำให้ผิวบริเวณที่คุณต้องการมีสีแทนในบรรยากาศที่กึ่งเป็นส่วนตัว ผิวสีแทนแบบนี้อยู่ได้ประมาณ 2 สัปดาห์และจะจางลงเช่นเดียวกับผิวสีแทนธรรมชาติ [7]
    • การสเปรย์ผิวให้เป็นสีแทนโดยมืออาชีพมีราคาสูง คุณควรพิจารณาถึงราคาก่อนที่จะเขารับบริการ
    • วิธีนี้เป็นทางเลือกที่ดีถ้าหากคุณรู้สึกไม่มั่นใจกับการทำผิวให้เป็นสีแทนด้วยตัวเอง
  3. การใช้เตียงอบผิวสีแทนเป็นวิธีที่สะดวกและเป็นส่วนตัว เตียงอบผิวสีแทนจะทำให้คุณมีสีผิวที่เท่ากันทั่วทั้งตัวถึงแม้ว่าสีผิวของคุณไม่สม่ำเสมอก็ตาม บริเวณที่มีผิวขาวซีดจะได้ผลจากการใช้เตียงอบผิวด้วยรังสียูวีมากที่สุดและคุณจะมีสีผิวสม่ำเสมอหลังจากใช้บริการ 2-3 ครั้ง [8]
    • ในเตียงอบผิวคุณสามารถควบคุมบริเวณของผิวที่ต้องได้รับรังสียูวีและเวลาที่ใช้ในการอบ วิธีนี้จะทำให้คุณมีสีผิวสม่ำเสมอกันได้อย่างแม่นยำ
    • ระมัดระวังผิวที่ถูกทำลายจากการใช้เตียงอบผิว เตียงอบผิวปล่อยรังสียูวีเช่นเดียวกับดวงอาทิตย์และอาจทำให้ผิวเสียและเป็นมะเร็งผิวหนังได้
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

การป้องกันรอยผิวสีแทน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. รอยผิวสีแทนที่ไม่สวยเกิดจากการสัมผัสแสงแดดเป็นเวลานานโดยการสวมเสื้อผ้าลักษณะเดิม คุณสามารถทําให้ผิวสัมผัสแสงแดดในบริเวณที่แตกต่างกันโดยการสวมเสื้อผ้าลักษณะต่างๆ เพื่อช่วยให้มีสีผิวสม่ำเสมอ สลับสับเปลี่ยนระหว่างเสื้อแขนกุดและเสื้อยืดเพื่อหลีกเลี่ยงรอยผิวสีแทนบริเวณแขนและลำคอ คุณยังสามารถสวมเสื้อแขนยาวหลวมๆ หรือกางเกงเพื่อปกป้องผิวจากแสงแดด
  2. หลีกเลี่ยงการอยู่ท่ามกลางแสงแดดเมื่อรังสียูวีแรงที่สุด. แสงอาทิตย์แรงที่สุดตั้งแต่ 10 โมงเช้าถึงบ่าย 2 ตามเวลาปกติ ถ้าหากคุณอยู่กลางแจ้งระหว่างช่วงเวลานี้ก็ควรอยู่ในร่มให้มากที่สุด ถ้าหากคุณไม่สามารถอยู่ในที่ร่มได้ก็ควรปกป้องผิวด้วยเสื้อผ้าหรือครีมกันแดด [9]
  3. วิธีที่ดีที่สุดในการปกป้องผิวและป้องกันรอยผิวสีแทนเมื่อคุณอยู่นอกบ้านท่ามกลางแสงแดดคือการทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 หรือสูงกว่า ถึงแม้ว่าคุณได้เห็นผลลัพธ์ของแสงแดดบนผิวแล้วก็ควรทาครีมกันแดดต่อไปเพื่อไม่ให้รอยผิวสีแทนคล้ำกว่าเดิม
    • ครีมกันแดดใช้เวลา 30 นาทีเพื่อซึมเข้าสู่ผิวและเริ่มปกป้องคุณจากรังสียูวีของดวงอาทิตย์ [10]
    • ถ้าหากคุณรู้ว่าคุณจะอยู่ท่ามกลางแสงแดดตลอดวันก็ควรทาครีมกันแดดบริเวณที่สัมผัสแสงแดดทุกชั่วโมงเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดรอยผิวสีแทน
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ทาว่านหางจระเข้บนผิวที่ถูกแดดเผาไหม้เพื่อช่วยให้ผิวฟื้นฟูเร็วขึ้น
  • ดื่มน้ำมากๆ และทำให้ร่างกายอิ่มน้ำเพราะวิธีนี้จะช่วยฟื้นฟูเนื้อเยื่อผิว
  • ทาครีมกันแดดทุกครั้งเมื่อต้องออกกลางแจ้ง
  • ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์บนผิวเป็นประจำเพื่อให้ผิวชุ่มชื้น
  • ปรับค่า SPF ของครีมกันแดดเพื่อให้เหมาะสมกับสีผิว
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 1,480 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา