ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

แม้ว่าการกำจัดริ้วรอยให้หายเป็นปลิดทิ้งเลยนั้นจะเป็นไปไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นริ้วลอยลึก แต่คุณก็สามารถทำให้มันดูจางลงได้แน่ๆ การรักษาวิถีชีวิตที่ดีต่อสุขภาพและใช้ผลิตภัณฑ์ลบเลือนริ้วรอยที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้ริ้วรอยและการก่อตัวของริ้วรอยลึกบนใบหน้าดูจางลงมากเลยทีเดียว

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

ปฏิบัติตามขั้นตอนการดูแลผิวที่ดี

ดาวน์โหลดบทความ
  1. งานวิจัยบอกว่าสาเหตุของริ้วรอยอันดับ 1 คือแสงแดด ทาครีมกันแดดที่ปกป้องทั้ง UVA และ UBA และมี SPF อย่างน้อย 30 แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเกิน SPF 50 [1]
    • ถึงจะไม่มีแดดก็ต้องทาครีมกันแดดอยู่ดี ถึงผิวจะคล้ำก็ไม่ได้แปลว่าผิวคุณได้รับการปกป้องจากดวงอาทิตย์ เพราะฉะนั้นทาครีมกันแดดอยู่เสมอ! [2]
    • การทาครีมกันแดดไม่เพียงแต่ป้องกันริ้วรอยเท่านั้น แต่ยังลดความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งผิวหนังด้วย [3]
    • ทาครีมกันแดดบ่อยๆ อย่างน้อยทุก 2 ชั่วโมง [4]
  2. ล้างหน้า ทุกวัน. แพทย์แนะนำว่าควรล้างหน้าวันละ 2 ครั้งและอย่ามากกว่านั้น เพราะการล้างหน้าบ่อยเกินไปอาจชำระล้างน้ำมันธรรมชาติและความชุ่มชื้นของผิว ทำให้ริ้วรอยดูลึกขึ้นและอาจทำให้เกิดริ้วรอยใหม่ [5]
    • ถึงผิวคุณจะมันก็อย่าล้างหน้ามากกว่า 2 ครั้งต่อวัน เพราะจะทำให้ผิวระคายเคืองและถ้าคุณเป็นสิว สิวก็จะยิ่งเห่อ
    • ผิวที่มีอายุ (ผิวของคนที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป) สามารถลดเลือดริ้วรอยได้ด้วยการล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าทุกคืน และล้างน้ำเย็นในตอนเช้า [6]
  3. การใช้โทนเนอร์หลังล้างหน้าช่วยให้ค่า pH ของผิวสมดุลและดูสุขภาพดีกว่าเดิม แต่ต้องไม่ใช้โทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เพราะอาจทำให้ผิวแห้งได้
  4. ใช้มอยซ์เจอไรเซอร์คุณภาพดีสำหรับการลบเลือนริ้วรอยโดยเฉพาะ. มอยซ์เจอไรเซอร์หลายตัวมีส่วนผสมที่มีคุณสมบัติต่อสู้และป้องกันริ้วรอย ทามอยซ์เจอไรเซอร์ที่ใบหน้าวันละ 2 ครั้งหลังล้างหน้าในตอนเช้าและตอนเย็น
    • มีหลักฐานไม่มากนักที่บอกว่า ครีมกลางวันกับครีมกลางคืนนั้นไม่เหมือนกัน แต่ส่วนผสมบางอย่างในมอยซ์เจอไรเซอร์ก็อาจไม่มีประสิทธิภาพได้ถ้าเจอแสงแดด เช่น เรตินอลที่เป็นส่วนผสมที่ต่อสู้กับริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากๆ นั้นถ้าโดนแสงแดดก็จะไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ [7]
  5. ผิวรอบดวงตานั้นไม่เหมือนกับผิวบริเวณอื่นๆ บนใบหน้า ผิวบริเวณนี้จะบางและบอบบางกว่า เกิดริ้วรอยและหย่อนคล้อยได้เร็วกว่า ด้วยเหตุนี้การใช้ครีมทารอบดวงตาเพิ่มเติมจากมอยซ์เจอไรเซอร์สำหรับผิวหน้าก็ถือว่าคุ้มค่า
    • มองหาครีมรอบดวงตาที่มีคอลลาเจน วิตามินซี เป็ปไทด์ และ/หรือเรตินอล [8]
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

เลือกผลิตภัณฑ์ลบเลือนริ้วรอยให้ถูกต้อง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพบางคนอ้างว่า เรตินอยด์เป็นวิธีลบเลือนริ้วรอยและสัญญาณแห่งวัยที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าได้ผลมากที่สุด ช่วงแรกตัวยาที่มีเรตินอยด์จะทำให้เกิดรอยแดงและลอก แต่เมื่อผิวหายลอกแล้ว ริ้วรอยก็จะดีขึ้น คุณสามารถหาซื้อครีมเรตินอยด์ได้จากแพทย์ผิวหนังตามคลินิกต่างๆ
    • ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหลายยี่ห้อจำหน่ายครีมที่มีส่วนผสมของเรตินอล ซึ่งเป็นกรดเรตินอยด์รูปแบบหนึ่งที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองน้อยกว่า ครีมเหล่านี้หาซื้อได้ทั่วไปโดยไม่ต้องซื้อจากแพทย์ผิวหนัง แต่ละแบบก็มีคุณภาพแตกต่างกันออกไป เพราะฉะนั้นคุณควรรู้ว่าต้องมองหาส่วนผสมอะไรบ้าง
    • ประสิทธิภาพของเรตินอลจะลดลงเมื่อโดนแสงแดดและอากาศ เพราะฉะนั้นเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีบรรจุภัณฑ์ที่ป้องกันแสงแดดและอากาศได้ มองหายี่ห้อที่มีส่วนผสมของเรตินอลในรูปแบบของแคปซูลใช้ครั้งเดียว บรรจุอยู่ในขวดแก้วทึบแสงพร้อมกับมีหัวปั๊ม หรือเป็นบรรจุภัณฑ์อะลูมิเนียม [9]
  2. ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีส่วนผสมของไอดีบีโนน (Idebenone). ไอดีบีโนนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลัง งานวิจัยล่าสุดพบว่า หลังจากใช้ภายนอกไปได้ 6 สัปดาห์ ไอดีบีโนนสามารถลดรอยย่นและริ้วรอยบนใบหน้าได้ 29% [10]
  3. ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีส่วนผสมของกรด Alpha-Hydroxy. กรด Alpha-Hydroxy จะไม่ระคายเคืองผิวมากเท่ากับเรตินอยด์ แต่ก็ไม่ให้ผลลัพธ์ที่ดีเท่าเช่นเดียวกัน ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวชนิดนี้จะค่อยๆ ลดเลือนริ้วรอยอย่างช้าๆ เท่านั้น [11]
  4. ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ. ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีส่วนผสมของวิตามินเอ ซี อีและเบต้าแคโรทีนจะช่วยลดเลือดริ้วรอยได้อย่างอ่อนโยน [12]
  5. ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวมีมากมายทั้งแบบที่ให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ทำให้และแบบซื้อมาทำเอง [13] แต่จำไว้ว่ายิ่งผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวได้ลึกเท่าไหร่ ก็จะยิ่งมีโอกาสทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวยังอาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นและอาจทำให้สีผิวเปลี่ยนได้ [14]
  6. ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวจากกรดไกลโคลิก (Glycolic) สามารถผลัดเซลล์ผิวตื้นๆ และทำให้ริ้วรอยบางๆ ดูจางลงได้อย่างช้าๆ.
    • ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวที่มีส่วมผสมอย่างกรดซาลิไซลิก (salicylic) และกรดไทรคลอโรอะซิติก (trichloroacetic) สามารถผลัดเซลล์ผิวได้ลึกกว่าผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวจากกรดไกลโคลิก จึงสามารถลบเลือนริ้วรอยบางๆ ได้ดีกว่า
  7. เลเซอร์กระตุ้นการผลิตคอลลาเจน ทำให้ผิวดูเอิบอิ่มมากยิ่งขึ้น ถ้าริ้วรอยของคุณลึกเป็นพิเศษและคุณก็ไม่เจออะไรที่ช่วยได้ ลองปรึกษาแพทย์ว่าควรทำเลเซอร์หรือไม่
  8. ถ้าคุณลองทำทุกอย่างแล้วแต่ก็ยังลดหรือลบเลือนริ้วรอยไม่ได้เสียที ให้ปรึกษาแพทย์หรือแพทย์ผิวหนัง ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์สามารถช่วยเลือกวิธีการกำจัดริ้วรอยที่เหมาะกับคุณได้ เช่น การใช้ยา การรักษาด้วยขั้นตอนทางการแพทย์ หรือครีมตามแพทย์สั่ง
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต

ดาวน์โหลดบทความ
  1. งานวิจัยหลายสิบชิ้นบอกว่าแสงแดดเป็นสาเหตุของริ้วรอยอันดับ 1 งานวิจัยชิ้นหนึ่งถึงกับบอกว่า การได้รับแสงแดดนั้นมีผลต่อการเกิดริ้วรอยมากกว่ากรรมพันธุ์เสียอีก [15] เพราะฉะนั้นอยู่ที่ร่มๆ ไว้ดีที่สุด!
    • ถ้าคุณต้องออกไปอยู่กลางแดด คุณต้องปกป้องผิวด้วยการใส่แว่นกันแดด สวมหมวก และทาครีมกันแดดที่มีค่า SFP 30 เป็นอย่างน้อย
    • โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดช่วง 10 โมงเช้า – บ่าย 3 โมง เพราะเป็นช่วงรังสีแรงที่สุด [16]
  2. ถ้าคุณสูบบุหรี่ เหตุผลข้อหนึ่งที่ควรเลิกก็คือ งานวิจัยหลายชิ้นยืนยันว่า การสูบบุหรี่ทำให้ผิวแก่ก่อนวัย โดยเบื้องต้นคือบุหรี่จะปล่อยเอนไซม์ชนิดหนึ่งที่ไปทำลายคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการรักษาผิวพรรณให้ดูเด็ก [17]
  3. การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปจะไปทำลายหลอดเลือดในผิวหนัง และยังทำลายตับที่อาจทำให้เกิดริ้วรอยด้วย [18]
  4. เวลาที่ร่างกายของคุณขาดน้ำ ริ้วรอยจะดูลึกขึ้น การรักษาร่างกายไม่ให้ขาดน้ำจะช่วยให้ผิวของคุณดูสุขภาพดี ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าคุณควรดื่มน้ำเท่าไหร่ ก็ให้นำน้ำหนักตัว (กิโลกรัม) หารด้วย 34 นั่นคือจำนวนลิตรของน้ำที่คุณควรดื่มในแต่ละวัน
    • ผู้หญิงน้ำหนัก 75 กิโลกรัมควรดื่มน้ำ 2.2 ลิตรต่อวัน
    • ถ้าคุณออกกำลังกายหรืออยู่ในที่ๆ มีอากาศร้อน (เช่น ถ้าคุณเหงื่อออกเยอะ) คุณก็ต้องดื่มน้ำเพิ่มอีก
    • อีกหนึ่งวิธีที่บอกได้จริงว่าคุณดื่มน้ำเพียงพอหรือเปล่าก็คือ การสังเกตปัสสาวะของตัวเอง ถ้ามันเป็นสีเหลืองสดหรือมีกลิ่นแรง แปลว่าคุณน่าจะดื่มน้ำไม่เพียงพอ
  5. รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพและต้านการอักเสบ. แพทย์บางคนเชื่อมโยงการอักเสบกับคุณภาพผิวหนังที่ไม่ดี (รวมทั้งริ้วรอยด้วย) และโรคต่างๆ เช่น โรคมะเร็งและโรคหัวใจ [19] รับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยผักและผลไม้ ถั่วดิบ ธัญพืชเต็มเมล็ด และโปรตีนไม่ติดมัน [20]
    • หลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารแปรรูป
  6. สารต้านอนุมูลอิสระเช่นวิตามิน อี ซี เอ และบีนั้นจำเป็นต่อการรักษาผิวพรรณให้มีสุขภาพดี คุณต้องรับประทานผักผลไม้สดวันละ 5 – 7 หน่วยบริโภคเพื่อให้แน่ใจว่าได้รับสารต้านอนุมูลอิสระอย่างเพียงพอ [21]
    • ผักผลไม้ที่แนะนำหากคุณไม่แน่ใจว่าจะเริ่มจากตรงไหนดี : มะเขือเทศ พืชตระกูลส้ม ผักใบเขียว และแคร์รอต [22]
    • นอกจากการรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินซีแล้ว วิตามินซียังสามารถนำมาใช้ทาเฉพาะที่เพื่อช่วยลดเลือนริ้วรอยได้อีกด้วย รูปแบบของวิตามินซีทาเฉพาะที่ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดก็คือวิตามินซีในรูปของ L-ascorbic acid เพราะฉะนั้นลองมองหาส่วนผสมนี้ในครีมทาหน้า
  7. งานวิจัยบางชิ้นเชื่อมโยงวิตามินเคกับการเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว [23] ให้ร่างกายได้รับวิตามินเคมากๆ ด้วยการรับประทานผักใบเขียว เช่น คะน้า ปวยเล้ง และบร็อกโคลี
  8. เวลาที่เรานอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ร่างกายของเราจะผลิตคอร์ติซอลมากเกินไป ซึ่งจะไปทำลายเซลล์ผิว ถ้าเรานอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ ร่างกายก็จะผลิตโกรทฮอร์โมน (HGH) ที่ช่วยให้ผิวของคุณดูหนาขึ้นและยืดหยุ่นมากขึ้น [24]
    • ผู้ใหญ่ต้องการการนอนเฉลี่ยวันละ 7 – 9 ชั่วโมง ส่วนวัยรุ่นต้องการการนอนวันละ 8.5 – 9.5 ชั่วโมง [25]
    • เวลานอนถ้าเป็นไปได้ให้นอนหงาย การนอนหงายจะช่วยป้องกันริ้วรอยที่อาจเกิดบนแก้มและคางถ้าคุณนอนตะแคง และริ้วรอยที่อาจเกิดบนหน้าผากหากคุณนอนคว่ำ [26]
  9. คอร์ติซอลที่ทำลายเซลล์ผิวและกระตุ้นการก่อตัวของริ้วรอยเป็นฮอร์โมนความเครียดที่สำคัญที่สุด [27] นอกจากนี้การแสดงออกถึงความเครียดทางกายยังทำให้เกิดริ้วรอยลึกบนในหน้าได้อีกด้วย เช่น รอยย่นรอบริมฝีปากและหน้าผาก ริ้วรอยระหว่างคิ้ว ลองเทคนิคลดความเครียดต่อไปนี้ :
    • นั่งสมาธิวันละ 2 – 3 นาที นั่งหลังตรงบนเก้าอี้หรือนั่งขัดสมาธิบนพื้น หลับตาแล้วกำหนดจิตไปที่การท่องคำพูดเชิงบวก เช่น “ฉันรู้สึกสงบ” หรือ “หายใจเข้ารับความรัก หายใจออกปล่อยความกลัว” วางมือข้างหนึ่งไว้บนหน้าท้องเบาๆ เพื่อเตือนตัวเองให้หายใจลึกๆ เข้าไปข้างใน [28]
    • ฝึกหายใจลึกๆ นั่งหลังตรงหลับตาและวางมือข้างหนึ่งไว้บนท้อง ค่อยๆ หายใจเข้าทางจมูกช้าๆ นึกภาพว่าตัวเองกำลังเป่าลูกโป่งอยู่ลึกๆ ข้างในท้อง ค่อยๆ หายใจออกทางปาก กำหนดจิตที่ไปความรู้สึกของร่างกายว่าเป็นอย่างไรขณะที่ลมหายใจกำลังออกจากตัวคุณไป [29]
    • ทำอะไรดีๆ ให้ตัวเอง จุดเทียนและลงไปแช่อ่างน้ำอุ่นดีๆ พร้อมกับผสมน้ำมันลาเวนเดอร์ที่ช่วยคลายเครียดลงไป ออกไปเดินเล่นช้าๆ กำหนดจิตและดื่มด่ำไปกับทัศนียภาพรอบตัวคุณ ดูคลิปสัตว์น่ารักๆ สัก 10 นาที อะไรก็ได้ที่ทำให้คุณรู้สึกดี ทำเลย!
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • แต่งหน้าเพื่อช่วยลดเลือนริ้วรอย ทามอยซ์เจอไรเซอร์ ใช้ไพรเมอร์เนื้อซิลิโคนก่อนลงรองพื้น จากนั้นลงรองพื้นบางเบาแต่ชุ่มชื้น ปัดแป้งฝุ่นผสมแร่ธาตุให้ทั่วใบหน้า จากนั้นให้แต่งหน้าส่วนที่เหลือให้เป็นธรรมชาติ ไฮไลต์ดวงตาและทาลิปสติกที่ป้องกันการเลอะที่จะไม่ตกร่องรอบริมฝีปาก [30]
  • หลายคนบอกว่าปลอกหมอนผ้าไหมและผ้าซาตินช่วยลดเลือนและป้องกันริ้วรอยได้ แต่ก็แทบไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มายืนยันเลย
  • ถ้าคุณจะเลือกทำวิธีเดียวเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดริ้วรอย ให้ทาครีมกันแดด
  • การเพิ่มน้ำหนักนิดหน่อยก็ช่วยให้ดูอวบอิ่มและช่วยให้ริ้วรอยดูจางลง ทำให้คุณดูเด็กขึ้น [31] [32] วิธีนี้ได้ผลดีเป็นพิเศษกับผู้ที่อายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องเพิ่มน้ำหนัก แต่เป็นสิ่งที่คุณควรคำนึงถึงเมื่อคิดจะลดน้ำหนักมากกว่า
โฆษณา

คำเตือน

  • ระมัดระวังเวลาเลือกซื้อครีมกันแดด เพราะบางตัวมีส่วนผสมที่อาจเป็นอันตรายได้ หลีกเลี่ยงครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของ Retinyl Palmitate Oxybenzone และอนุภาคนาโน เช่น สังกะสีออกไซด์และไทเทเนียมไดออกไซด์ [33] [34]
  • จำไว้ว่าแม้ว่าการเลี่ยงแสงแดดอาจดีต่อผิวภายนอก แต่ก็อาจลดการดูดซึมวิตามินดีด้วย วิตามินดีสำคัญต่อการมีกระดูกที่แข็งแรงและยังช่วยให้คุณอารมณ์ดีขึ้นด้วย แหล่งวิตามินดีอื่นๆ ได้แก่ ปลา น้ำมันตับปลา ไข่แดง และผลิตภัณฑ์นมและธัญพืชเสริมสุขภาพ นอกจากนี้คุณยังสามารถรับประทานวิตามินดีเสริมได้ด้วย [35]
  • เว็บไซต์ที่แนะนำวิธีการดูแลใบหน้าด้วยตัวเองที่บ้านหลายเว็บไซต์แนะนำให้นำน้ำมะนาวและน้ำผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงอื่นๆ มาทาบนใบหน้า ซึ่งจริงๆ แล้วการทำแบบนี้นั้นเป็นอันตรายมากกว่าจะได้ผลดี เพราะจะทำให้ผิวแห้งและทำให้ผิวไหม้จากแสงแดดได้ง่ายขึ้น [36]


โฆษณา
  1. http://www.webmd.com/beauty/wrinkles/23-ways-to-reduce-wrinkles?page=3
  2. http://www.webmd.com/beauty/wrinkles/wrinkles
  3. http://www.webmd.com/beauty/wrinkles/wrinkles
  4. http://www.webmd.com/beauty/wrinkles/wrinkles
  5. http://www.webmd.com/beauty/wrinkles/wrinkles
  6. http://www.webmd.com/beauty/wrinkles/23-ways-to-reduce-wrinkles
  7. http://www.webmd.com/beauty/aging/its-not-your-mothers-skin-or-is-it?page=1
  8. http://www.webmd.com/beauty/wrinkles/23-ways-to-reduce-wrinkles
  9. http://www.nbcnews.com/id/33385839/ns/health-skin_and_beauty/t/twin-study-reveals-secrets-looking-younger/#.Vg1bg3i4ndQ
  10. http://www.medicinenet.com/script/main/art.asp?articlekey=54286
  11. http://www.webmd.com/beauty/wrinkles/23-ways-to-reduce-wrinkles?page=2
  12. http://www.webmd.com/beauty/aging/its-not-your-mothers-skin-or-is-it?page=2
  13. http://www.webmd.com/beauty/aging/its-not-your-mothers-skin-or-is-it?page=2
  14. http://www.nutraingredients.com/Research/Vitamin-K-shows-potential-in-the-fight-against-wrinkles
  15. http://www.webmd.com/beauty/wrinkles/23-ways-to-reduce-wrinkles
  16. http://www.webmd.com/sleep-disorders/guide/sleep-requirements
  17. http://www.webmd.com/beauty/wrinkles/23-ways-to-reduce-wrinkles?page=2
  18. http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/stress-management/in-depth/stress/art-20046037
  19. http://www.webmd.com/balance/guide/blissing-out-10-relaxation-techniques-reduce-stress-spot
  20. http://www.webmd.com/balance/guide/blissing-out-10-relaxation-techniques-reduce-stress-spot
  21. http://www.webmd.com/beauty/skin-glow-13/hide-wrinkles?page=2
  22. http://www.nbcnews.com/id/33385839/ns/health-skin_and_beauty/t/twin-study-reveals-secrets-looking-younger/#.Vg1bg3i4ndQ
  23. http://www.nydailynews.com/life-style/health/study-thin-age-face-article-1.361419
  24. http://www.webmd.com/beauty/sun/sunscreen-safety-labels-ingredients?page=2
  25. http://www.webmd.com/beauty/sun/sunscreen-safety-labels-ingredients?page=1
  26. http://www.webmd.com/diet/guide/vitamin-d-deficiency
  27. http://www.xovain.com/skin/4-diy-beauty-ingredients-to-avoid

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 1,710 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา