PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

มันค่อนข้างน่าตกใจที่เมื่ออ้าปากแปรงฟันตอนเช้าและพบว่าลิ้นเป็นฝ้าขาว ที่ลิ้นเป็นฝ้าขาวเกิดขึ้นเพราะปุ่มบนลิ้นบวมและกักเซลล์ที่ตายแล้ว แบคทีเรีย และเศษสิ่งสกปรกอื่นๆ แม้ว่าการมีลิ้นเป็นฝ้าสีขาวจะดูสกปรก แต่โดยปกติแล้วมันไม่ได้เป็นเรื่องร้ายแรงอะไรและจะหายไปเอง มีขั้นตอนง่ายๆ สองสามอย่างในบทความนี้ที่จะช่วยทำให้คุณขจัดมันออกไปให้เร็วขึ้น และจะช่วยตรวจเช็คว่าลิ้นที่เป็นฝ้าขาวนั้นเป็นสิ่งบ่งบอกถึงบางอย่างที่ร้ายแรงหรือไม่ [1]

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ต้องรับการรักษา

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. โทรศัพท์หาแพทย์หรือทันตแพทย์ถ้าคุณมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วยซึ่งอาจจะเป็นสิ่งบ่งบอกว่ามีอาการร้ายแรง. อาการที่ควรตรวจดูมีดังต่อไปนี้ [2]
    • ปวดลิ้น
    • ภาวะขาดน้ำ
    • เป็นไข้
    • ลิ้นเป็นฝ้าขาวไม่หายไปหลังจากผ่านไปหลายอาทิตย์แล้ว
  2. รู้ความแตกต่างระหว่างลิ้นขาวและลิ้นลายแผนที่ (Geographic tongue). โดยทั่วไปแล้วอาการทั้งคู่ไม่ใช่เรื่องร้ายแรง [3]
    • ลิ้นลายแผนที่จะมีอาการคือคุณจะเจ็บลิ้นและลิ้นจะเป็นพื้นที่เรียบๆ เป็นปื้นๆ ราวกับว่าบริเวณที่เป็นปุ่มลิ้นฝ่อแบนราบลง
    • อาหารที่มีรสจัด (เผ็ด เค็ม เป็นกรด) อาจจะทำให้เจ็บ
  3. ระบุอาการเชื้อราในช่องปาก.อาการนี้เกิดจากการติดเชื้อราซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ลิ้นเป็นฝ้าขาว หลายคนจะเป็นหลังจากทานยา Antibiotics (ยาแก้อักเสบฆ่าเชื้อแบคทีเรีย) ซึ่งทำให้แบคทีเรียในช่องปากเสียสมดุล แต่อาการนี้รักษาให้หายง่าย [4]
    • คุณอาจจะรู้สึกแสบร้อนที่ลิ้นและที่มุมปากจะลอกป็นแผ่นและรู้สึกเจ็บ
    • อาการเชื้อราในช่องปากสามารถรักษาให้หายได้ด้วยยาฆ่าเชื้อราทั้งแบบที่เป็นยาบ้วนหรือยาเม็ด ขอให้แน่ใจว่าได้ใช้ยาที่แพทย์จ่ายให้จบครบ
    • ทานอาหารเสริมโพรไบโอติคส์หรือทานโยเกิร์ตที่มีโพรไบโอติคส์ก็จะช่วยฟื้นฟูสมดุลของแบคทีเรียในช่องปาก
    • ใช้เครื่องเทศที่มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อรา เช่น กระเทียม ออริกาโน อบเชย ต้นเสจ และกานพลู
    • หลีกเลี่ยงอาหารที่มียีสต์ เช่น ผลิตภัณฑ์จากนมนอกเหนือจากโยเกิร์ต แอลกอฮอล์และน้ำตาล ทานอาหารที่มีประโยชน์เยอะๆ เช่น ถั่ว โฮลเกรน และอาหารที่มีวิตามินซีสูง
  4. เรียนรู้เกี่ยวกับอาการร้ายแรงอื่นๆ ที่ทำให้ลิ้นเป็นฝ้าขาว แต่อย่าเพิ่งตื่นตระหนก. กรณีส่วนใหญ่ที่ทำให้ลิ้นเป็นฝ้าขาวนั้นไม่เป็นอันตรายและจะหายไปเอง อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณคิดว่าอาจจะมีบางสิ่งที่ร้ายแรง ให้ไปพบแพทย์ สาเหตุที่เป็นไปได้นั้นมีหลากหลายมากเกินกว่าที่จะวินิจฉัยด้วยตนเองได้อย่างถูกต้อง [5] [6]
    • มะเร็งในช่องปาก (Leukoplakia) จะมีอาการเป็นแผ่นปื้นสีขาว ซึ่งเป็นผลมาจากการผลิตเซลล์และโปรตีนมากเกินไป โดยปกติแล้วปื้นสีขาวที่ลิ้นจะไม่เป็นอันตราย แต่ควรไปให้แพทย์ตรวจเพื่อที่จะได้แน่ใจว่ามันไม่ใช่มะเร็ง
    • โรคไลเคนพลานัสในช่องปาก (Oral lichen planus) เกิดจากการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายไวเกินไป ซึ่งอาจจะมีอาการเจ็บและแสบร้อน
    • โรคซิฟิลิส (Syphilis) เป็นโรคติดต่อทางเพศ โดยจะทำให้มีปื้นสีขาวเคลือบบนลิ้นขณะที่อาการของโรคเป็นมากขึ้น ถ้าคุณคิดว่ามีอาการที่น่าจะเป็นโรคนี้ ให้ไปพบแพทย์เพราะโรคซิฟิลิสจะต้องใช้ยาปฏิชีวนะในการรักษา
    • มะเร็งที่ปากหรือที่ลิ้น
    • ติดเชื้อ HIV หรือเป็นโรคเอดส์
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

เปลี่ยนไลฟ์สไตล์

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. การขาดน้ำและปากแห้งจะทำให้ลิ้นมีฝ้าขาว ถ้าร่างกายชุ่มชื้นอิ่มน้ำอยู่เสมอก็จะเป็นการป้องกันไม่ให้ลิ้นเป็นฝ้าขาว
    • ปริมาณน้ำที่คุณควรดื่มต่อวันขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัว ระดับกิจกรรมที่ทำ และสภาพอากาศในพื้นที่ที่คุณอาศัย ขอให้แน่ใจว่าได้ดื่มน้ำบ่อยๆ และเป็นประจำ เมื่อคุณรู้สึกกระหายน้ำ นั่นแปลว่าร่างกายของคุณขาดน้ำ
    • ตรวจสอบสัญญาณของภาวะขาดน้ำ เช่น ปัสสาวะไม่บ่อย ปัสสาวะสีเข้ม อ่อนเพลีย หรือปวดหัว
  2. การสูบบุหรี่มีผลให้ปุ่มลิ้นอักเสบ ซึ่งสิ่งสกปรกและเซลล์ที่ตายแล้วจะเข้าไปเกาะได้ง่าย ซึ่งมันก็จะเป็นที่ที่เหมาะสมสำหรับการเติบโตของแบคทีเรีย
    • การสูบบุหรี่มีสารเคมีที่ไม่ดีกับเนื้อเยื่อในช่องปากของคุณ
  3. การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปจะทำให้ปุ่มบนลิ้นของคุณอักเสบ
    • การดื่มแอลกอฮอล์ยังทำให้คุณมีแนวโน้มที่จะขาดน้ำอีกด้วย ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ลิ้นเป็นฝ้าขาว
  4. นี่จะเป็นการลดจำนวนแบคทีเรียในช่องปาก
    • แปรงฟันและลิ้นทันทีหลังมื้ออาหาร
    • แปรงฟันและลิ้นก่อนเข้านอน
    • ใช้น้ำยาบ้วนปากฆ่าเชื้อโรค
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

กำจัดฝ้าสีขาวบนลิ้น

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. นี่จะเป็นการขจัดเศษสิ่งสกปรก เซลล์ที่ตายแล้ว แบคทีเรียที่ติดอยู่ระหว่างปุ่มลิ้นและแนวลิ้น ให้หลุดออกไป
    • คุณจะแปรงลิ้นโดยใช้ยาสีฟันหรือจะไม่ใช้ก็ได้ แต่การใช้ยาสีฟันจะช่วยทำให้ลมหายใจหอมสดชื่นขึ้น
    • อย่าแปรงแรงเกินไปจนทำให้ลิ้นระคายเคือง อย่าทำให้มันเจ็บ!
  2. แปรงสีฟันบางด้ามมีแปรงขูดลิ้นที่บริเวณด้านหลังของแปรง
    • ขูดลิ้นจากด้านในมาด้านนอก ขูดอย่างละเอียดและขูดเบาๆ อย่าขูดลึกจนเกินไปจนคุณรู้สึกคลื่นไส้
    • ถ้ารู้สึกเจ็บ คุณอาจจะกดที่ขูดลิ้นหนักเกินไป คุณไม่ควรทำให้มีแผลเปิดที่ลิ้น ซึ่งมันจะเสี่ยงต่อการติดเชื้ออีก
  3. นี่จะเป็นการล้างเศษสิ่งสกปรก แบคทีเรีย และเซลล์ที่ตายแล้วออกไป
    • ปากที่แห้งสามารถทำให้เป็นฝ้าขาวที่ลิ้นได้ ใช้ที่ขูดลิ้นเพื่อขจัดฝ้าขาวออกไป
  4. ใช้น้ำยาบ้วนปากสูตรเข้มข้นหรือน้ำเกลือบ้วนปากเพื่อฆ่าเชื้อในช่องปาก. แม้ว่าบ่อยๆ แล้วพวกมันมีรสชาติที่ไม่ดีเลย แต่ทั้งน้ำยาบ้วนปากและน้ำเกลือจะฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่กำลังเติบโต
    • ในการทำน้ำเกลือเอง ให้ละลายเกลือ 1/4 –1/2 ช้อนชาลงในถ้วยที่มีน้ำอุ่น [7]
    • สำหรับผลลัพธ์ที่ดีที่สุด อมน้ำยาบ้วนปากหรือน้ำเกลือไว้และกลั้วไปมาเป็นเวลา 2 นาที น้ำยาที่เข้มข้นจะทำให้รู้สึกแสบร้อนเล็กน้อย
    • เงยศีรษะไปด้านหลังและกลั้วปากประมาณ 1 นาที จากนั้นให้บ้วนออกมาและอย่ากลืนมันเข้าไป นี่จะเป็นการฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ลึกในคอ ซึ่งเป็นที่ที่คุณไม่สามารถใช้แปรงสีฟันหรือที่ขูดลิ้นได้
    • คุณสามารถขอน้ำยาบ้วนปากที่ต้องใช้ใบจ่ายยาได้จากทันตแพทย์ถ้าจำเป็น
  5. แม้ว่าวิธีนี้จะไม่ได้ผ่านการทดลองทางวิทยาศาสตร์ แต่ก็เชื่อกันว่ามันสามารถช่วยได้
    • ผสมน้ำมะนาวและขมิ้นให้ข้น จากนั้นใช้แปรงสีฟันแต้มมันมาถูบนลิ้น ขมิ้นมีคุณสมบัติฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ส่วนน้ำมะนาวจะช่วยทำให้ผิวหนังที่ตายแล้วหายไปรวมถึงฆ่าเชื้อแบคทีเรียด้วย
    • ลองผสมผงฟูและน้ำมะนาวให้ข้นและนำมาถูบนลิ้น ผงฟูจะช่วยขัดลิ้น
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 108,653 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา