ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

น้ำส้มสายชูมีกรดน้ำส้มหรือกรดอะซิติก (acetic acid) ใช้กำจัดวัชพืชได้อย่างเห็นผลโดยไม่ต้องพึ่งสารเคมี หลายคนที่ทำสวนจัดสวนก็ชอบใช้กัน เพราะไม่อันตรายเท่ายาฆ่าหญ้า ให้คุณฉีดพ่นที่วัชพืชโดยตรง โดยใช้เครื่องพ่นยาหรือขวดสเปรย์ แต่ระวังอย่าให้โดนต้นไม้หรือพืชต่างๆ ที่ต้องการจะรักษาไว้ ถ้าเจอวัชพืชดื้อด้าน ก็ให้ซื้อน้ำส้มสายชูแรงๆ ที่ใช้กับพืชสวนโดยเฉพาะมา จากนั้นผสมน้ำยาล้างจาน หรือเติมเกลือ แล้วค่อยใช้ฉีดพ่นใส่วัชพืช

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

กำจัดวัชพืชด้วยน้ำส้มสายชู

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ให้เข้าซูเปอร์ไปซื้อน้ำส้มสายชูธรรมดามาสักขวด โดยทั่วไปจะมีกรดอะซิติกเข้มข้น 5% ทางที่ดีให้ซื้อขวดแบบ 1 แกลลอนมาเลย เว้นแต่ใครมีวัชพืชที่ต้องการกำจัดแค่นิดเดียว ถ้าต้องกำจัดวัชพืชจำนวนมาก ก็ต้องซื้อเยอะกว่า 1 แกลลอน แต่ปกติ 1 แกลลอนก็กำจัดวัชพืชได้กินวงกว้างพอตัว [1]
    • กรดของน้ำส้มสายชูนี่แหละคือสิ่งที่จะกำจัดวัชพืชให้คุณ แนะนำให้ใช้น้ำส้มสายชูกลั่นขาวจะดีที่สุด ที่สำคัญคือถูกดี แต่ใครงบเยอะ จะใช้น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลก็ไม่ว่ากัน
  2. 2
    ผสมน้ำส้มสายชูกับน้ำยาล้างจาน 2 ช้อนชา (ประมาณ 10 มิลลิลิตร). ถ้าผสมน้ำยาล้างจานเข้าไปหน่อย จะช่วยให้ฉีดพ่นแล้วน้ำส้มสายชูติดวัชพืชแน่นทนนาน แนะนำให้ใส่น้ำยาล้างจาน 2 ช้อนชา (ประมาณ 10 มล.) ต่อน้ำส้มสายชู 1 แกลลอน (ประมาณ 4 ลิตร) จากนั้นผสมให้เข้ากันในชามหรือถัง
  3. เลือกสเปรย์แบบอัดลมที่มีสายและหัวฉีดยาวๆ จะช่วยให้พ่นน้ำยากำจัดวัชพืชได้กินวงกว้าง สะดวกรวดเร็ว ให้เทน้ำส้มสายชูที่ผสมน้ำยาล้างจานแล้วใส่ที่พ่นยา หรือจะเทใส่มากเท่าที่ต้องการก็ได้ [2]
    • อีกทางเลือกคือเทน้ำยาที่ผสมแล้วใส่ขวดสเปรย์เปล่า จะซื้อขวดสเปรย์มาหรือใช้ขวดเก่าที่เคยบรรจุน้ำยาเช็ดกระจกหรือน้ำยาทำความสะอาดอื่นๆ ในบ้านก็ได้ แต่ต้องแน่ใจว่าล้างสะอาดดีแล้ว โดยเฉพาะถ้าน้ำยาเก่ายังหลงเหลือในขวด
    • ถ้าจะกำจัดวัชพืชแค่ไม่กี่ต้น หรือในพื้นที่แคบๆ ก็แค่เจาะ 4 - 5 รูที่ฝาขวดน้ำส้มสายชู แล้วใช้ราดกำจัดวัชพืชซะเลย
    • ถ้าใช้น้ำส้มสายชูสำหรับพืชสวน กรดจะเข้มข้นถึง 30% เลยทีเดียว ควรใช้น้ำเจือจางก่อน แต่ถ้าใช้น้ำส้มสายชูกลั่นขาวทั่วไป ก็ใช้ได้เลย ไม่ต้องเจือจาง
  4. กรดอะซิติกในน้ำส้มสายชูจะทำให้วัชพืชแห้งตาย เพราะงั้นถ้าฉีดพ่นน้ำส้มสายชูในวันที่วัชพืชต้องตากแดดแรงๆ ตรงๆ 2 - 3 ชั่วโมงขึ้นไป ก็เท่ากับเพิ่มพลังให้น้ำส้มสายชู แนะนำให้ฉีดพ่นช่วงเช้า วัชพืชจะได้โดนแดดเต็มๆ [3]
    • ถ้าอยู่ๆ ฝนก็ตกลงมาหลังฉีดพ่นกำจัดวัชพืชไปได้ไม่นาน ก็ต้องฉีดน้ำยาซ้ำรอบสองถึงจะเห็นผล
    • แต่ก็ไม่จำเป็นต้องแดดจัดเสมอไป ขอแค่อากาศร้อนพอ โดยเฉพาะ 20 - 30°C (ประมาณ 70°F) ขึ้นไป
  5. โดยใช้ที่พ่นยา ขวดสเปรย์ หรือขวดน้ำส้มสายชูที่เจาะรูแล้ว ให้วัชพืชชุ่มไปด้วยน้ำส้มสายชู ถ้าอยากให้เห็นผลดีต้องไม่ใช่แค่ที่ใบ แต่ชุ่มไปจนถึงรากเลย
    • จริงๆ ไม่จำเป็นต้องถึงกับชุ่มโชกจนน้ำส้มสายชูหยดติ๋งๆ แต่ควรฉีดพ่นให้เคลือบทั่วทั้งต้น
    • รอประมาณ 24 ชั่วโมงแล้วกลับมาติดตามผล ถ้าไม่ดีเท่าที่คิด ให้ฉีดพ่นซ้ำรอบที่ 2
  6. ระวังอย่าฉีดน้ำส้มสายชูไปโดนต้นไม้ที่จะเก็บไว้. น้ำส้มสายชูแรงพอจะทำให้ต้นไม้ดอกไม้ต่างๆ รอบข้างตายเกลี้ยง ไม่ใช่แค่วัชพืช เพราะงั้นต้องระวังให้มากตอนฉีดพ่นกำจัดวัชพืชที่ขึ้นแซมตามต้นไม้ดอกไม้ดีๆ การฉีดพ่นน้ำส้มสายชูบางครั้งเลยไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับฉีดพ่นกำจัดวัชพืชตามสวน แปลงดอกไม้ หรือในสนาม [4]
    • ปกติน้ำส้มสายชูที่ซึมลงดินจะไม่ทำให้พืชต่างๆ ตาย เว้นแต่โดนกิ่งก้านใบโดยตรง
  7. น้ำส้มสายชูกัดที่พ่นยาสึกกร่อนได้เลย ถ้าปล่อยทิ้งไว้นานๆ เพราะงั้นต้องรีบล้างให้สะอาดทุกครั้งหลังใช้งาน โดยเทน้ำยาที่เหลือทิ้ง แล้วเติมน้ำเข้าไปแทน อย่าลืมฉีดพ่นน้ำออกมาด้วย จะได้ล้างทั้งสายและหัวฉีด
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

กำจัดวัชพืชตายยาก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ไปตามร้านขายอุปกรณ์ทำสวนหรือเครื่องมือช่าง แล้วถามหาน้ำส้มสายชูเข้มข้นสำหรับใช้กับพืชสวนโดยเฉพาะ แต่เพราะแรงเป็นพิเศษ เลยยิ่งต้องระวังและป้องกันตัวเอง เช่น สวมถุงมือและหน้ากากป้องกันสารเคมี [5]
    • วัชพืชส่วนใหญ่แค่ใช้น้ำส้มสายชูทั่วไปก็ไม่น่ารอดแล้ว เพราะงั้นแนะนำให้ใช้น้ำส้มสายชูธรรมดาก่อน จะใช้น้ำส้มสายชูเข้มข้นสำหรับพืชสวนก็ต่อเมื่อใช้แบบธรรมดาแล้วไม่ได้ผลเท่านั้น
    • ระวังอย่าให้กระเด็นโดนตัวคุณ จะทำให้แสบร้อน กัดผิวได้ เพราะมีกรดอะซิติกเข้มข้นกว่าปกติ
  2. ผสมน้ำยาล้างจานในที่พ่นยาหรือขวดสเปรย์ ปริมาณที่แนะนำคือน้ำยาล้างจาน 1 ช้อนชา (5 มล.) ต่อน้ำส้มสายชู 1 ควอร์ต (ลิตร) น้ำยาล้างจานจะช่วยให้น้ำส้มสายชูเหนียวติดวัชพืช ไม่ไหลไปไหน [6]
    • ค่อยๆ ผสมน้ำยาล้างจานกับน้ำส้มสายชู ห้ามเขย่าขวดแรงหรือเยอะเกินไป ไม่งั้นน้ำยาล้างจานจะแตกฟอง ไม่ผสมเข้ากันกับน้ำส้มสายชู
    • ไม่จำเป็นต้องตวงน้ำยาล้างจานแบบเป๊ะๆ แค่บีบใส่ไปประมาณ 1 ช้อนชาต่อน้ำส้มสายชู 1 ควอร์ตก็พอ
  3. ใส่เกลือ 2 ถ้วยตวง (473 มิลลิลิตร) ในน้ำส้มสายชู 1 แกลลอน (4 ลิตร). ถึงเกลือไม่ได้ฆ่าวัชพืชโดยตรง แต่ก็ทำให้วัชพืชยิ่งแห้งเร็วกว่าการใช้น้ำส้มสายชูธรรมดา จะใส่เกลือตามน้ำยาล้างจานที่ผสมไปก่อนหน้าก็ได้ ให้ใช้เกลือทำอาหารแบบถูกๆ อย่าไปใช้เกลือหิน (rock salt), ดีเกลือฝรั่ง (Epsom salt) หรือ เกลือสมุทร [7]
    • เกลือจะค้างอยู่ในดินสักพัก ซึ่งอาจจะส่งผลต่อสวัสดิภาพของพืชอื่นๆ ในระยะยาวได้ เพราะงั้นถ้าจะกำจัดวัชพืชบริเวณที่คิดจะปลูกอะไรอีก ก็ไม่ควรผสมเกลือลงไปในน้ำยา
    • แต่กลับกัน ถ้าจะกำจัดวัชพืชบริเวณที่ไม่อยากให้อะไรงอกกลับขึ้นมาอีกแล้ว ก็ใส่เกลือไปได้เลย เพราะเห็นผลแน่นอน
    • สำคัญมากว่าต้องล้างทำความสะอาดที่พ่นยาหลังเติมเกลือลงไป เพราะอาจอุดตันส่วนต่างๆ หรือถึงขั้นสึกกร่อนได้เลย
    โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • น้ำส้มสายชูกลั่นขาว
  • เครื่องพ่นยา/ขวดสเปรย์
  • น้ำยาล้างจาน (ไม่จำเป็น)
  • เกลือ (ไม่จำเป็น)

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 43,465 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา